หนึ่งสมอง กับ สองมือ บวกความมั่นใจ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้

bowlfat
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add bowlfat's blog to your web]
Links
 

 
Naresuan Games





พักนี้หายหน้าไปจมปลักอยู่กับ Hi5 เลยไม่ได้เขียนอะไรเพิ่มเติมใน blog มานานโข ขอรวบรัด(อิกละ) บันทึกถึงผลการแข่งขันโบว์ลิ่งในการแข่งกีฬา สกอ.(กีฬาระหว่างสถาบันการศึกษาซึงก็คือมหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศไทยนี่แหละ ซึ่งปี2551นี้ ม.นเรศวรเค้าเป็นเจ้าภาพ จึงเรียกว่า นเรศวรเกมส์) และ นี่คือสัญลักษณ์

คณะของเราเหล่านักกีฬาโบว์ลิ่งและโค้ช ก็ออกเดินทางไปพิษณุโลกตั้งแต่เช้าวันที่1 พ.ค 51 โดยรถบัสของมหาวิทยาลัย โดยร่วมเดินทางกับนักกีฬาฟุตบอลอีก10กว่าชีวิต
สรุปจำนวนนักกีฬาโบว์ลิ่งของมหิดลที่ร่วมเดินทางไปครั้งนี้ก็ 10 คนพอดิบพอดี ชาย 5 หญิง5 ส่วนตัวข้าพเจ้าเองได้รับการวางตัวให้ลงแข่ง 3 ประเภทเลยทีเดียว เรียกว่าเต็มอัตราศึก ใช้คุ้มกับเบี้ยเลี้ยง 150 บาทต่อวัน เพราะนักกีฬา1คนสามารถแข่งได้สูงสุดไม่เกิน 3 ประเภท คือ บุคคลเดี่ยว ทีมหญิง3คน และทีมหญิง5 คน

ไปถึงวันแรก ฝนก็ตกต้อนรับซะหนักเชียว ลมพัดยังกะพายุ จนเดินทางไปฝึกซ้อมตามกำหนดการที่วางไว้ไม่ได้ เนื่องจากติดฝนอยู่ตรงทางเดิน ขณะรอรถไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยนเรศวรนั่นเอง โอ้สมเด็จพระนเรศวร คณะเราไม่มีรถเป็นของตัวเอง ช่างเข็ญใจแท้ๆ แล้วเราจะไม่ต้องเซ็งจิตไปตลอด 7-8 วันที่เหลือหรอกรึเนี่ย ละเหี่ยใจอย่างสุดเศร้า


และแล้วโค้ชก็แจ้งให้ทราบว่า เราต้องกลับที่พักกันเองแล้วหาข้าวปลารับประทานตามอัธยาศัย จะต้องนัดเจอ1 ทุ่มตรงเพื่อประชุมนักกีฬาและพบปะผู้จัดการทีม ลอยแพกันตรงนั้นเลยค่า โชคดีที่เรายังเหลือบุญติดตัวอยู่บ้าง ที่ได้คบหากับด๊อกเตอร์แสนดีไว้1คน (ซึ่งก็มากพอ) ก็จัดการโทร.หาไม่รอช้าเพื่อขอให้น้องเค้ามารับไปหาอาหารใส่ท้องภายในเวลาอันจำกัด 5โมง-1 ทุ่มเนี่ยแหละ นอกจากตัวเองแล้ว ยังพาพี่น้องในคณะนักกีฬาโบว์ลิ่งให้รอดตายไปได้อีก2-3คน บุญแท้ๆเชียว และนอกเหนือจากปากท้องแล้ว ยังได้พากันไปสักการะพระองค์ดำ ณ.ลานสมเด็จฯ ในมหาวิทยาลัยให้เป็นมงคลแก่ตัวอีกด้วย นึกแล้วดีใจที่ได้สร้างสายสัมพันธ์ไว้เมื่อครั้งกระโน้น

วันที่2 หมู่คณะก็ออกเดินทางไปสนามแข่ง คือห้างโลตัสในตัวเมืองพิษณุโลก ซึ่งมีเลนโบว์ลิ่งอยู่แค่ 8 เลนเอง ประชากรแน่นขนัด ยัดเยียดอยู่ในนั้น หลังจากซ้อมด้วยสายตาอยู่ไม่นานนักก็ถูกเรียกลงแข่งเลย ผลนะเหรอ ทำได้ไม่ดีนัก แต่ยังดีที่ติด1ใน10 อันดับแรก ซึ่งก็ไม่มีผลอะไร มหิดลก็พลาดเหรียญบุคคลหญิงไปด้วยประการ นี้แล

วันที่3 ข้าพเจ้าก็มีรายการแข่งขันประเภททีมหญิง3คน ซึ่งโค้ชแจ้งให้ทราบว่า ตารางการแข่งของมหาวิทยาลัยเราประมาณบ่าย3โมงโน่นแนะ เพราะต้องแข่งเป็นรอบที่3 ก็ปล่อยให้มหาวิทยาลัยอื่นๆเค้าวาดลวดลายกันไปก่อน ชาวคณะเราก็เขาห้องอบรม(ขอกระซิบว่า นี่คือโค้ดของคำว่าเล่นป๊อกเด้ง) ก็ อบ -กันไปจนเกือบบ่ายโมง จึงได้ยกพลออกจากที่พัก ดูความใจเย็นของคณะเราซิ
พอไปถึงสนามแข่ง กินข้าวเสร็จก็ถุกเรียกลงสนามเลย เกมแรกก็เล่นกันไม่ค่อยออก แต่ไม่ถึงกับตกต่ำมากนัก เก็บสแปร์พินง่ายๆหลุดกันบ่อยๆ โค้ชเริ่มหันไปมองทางอื่น แล้ว เพราะผิดหวังในฟอร์มของเรา ผ่านมาเกม2 สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น เราต่างพยายามหาวิธีแก้ แทบจะต้องยกมือไหว้เจ้าที่ เพราะต่างก็งง กับฟอร์มตัวเอง ว่าหลุดไปได้ไงฟะ ลูกโบว์ลิ่งอยู่กับมือแท้ๆ พอโยนดันกระแทกขาตัวเองซะเป่ไป เสียทิศทาง บางทีก็เหลือพินใน แบบ split คือเก็บไม่ได้ โอ้พระพุทธ เราจะทำอย่างไรกันดีละเนี่ย เครียดเด้อคะ



เอาวะเหลือเกมสุดท้ายอีก1เกม ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว ทุกคนต่างอยากรีบๆเล่นให้จบไป เพราะยิ่งอยู่ในเลนด้วยคะแนนที่น่าเกลียดแบบนี้ สู้ออกไปนั่งดูอยู่ข้างๆดีกว่า พอคิดได้ดังนั้นก็เริ่มเล่นเกม3 อย่างไม่หวังอะไรแล้ว แน้....ดูโชคชะตา ชอบเล่นตลกกับเราซะจริงเชียว ข้าพเจ้าโยนเป็นคนแรก สไตรค์ ครับพี่น้อง พี่ตุ้มโยนถัดมาก็ สไตรค์ เจ้าเคี่ยมโยนคนสุดท้ายก็ สไตรค์ อีกคน เอาละซิ เราเริ่มมองหน้ากัน ขำๆแล้ว กองเชียร์ของคณะเราก็เริ่มมาแหย่เล่น เราทั้ง3คนก็เริ่มท้าทายกันเองว่าใครจะหลุดก่อนกัน เชื่อมั๊ย ทั้งเกม 10 เฟรม ข้าพเจ้าไม่หลุดเลย ถ้าไม่สไตรค์ ก็เก็บสแปร์ไว้ได้ จบเกมด้วยคะแนน 202 คะแนน พี่ตุ้มก็ เล่นได้ดี จบเกมด้วยคะแนน 170 กว่า ทีเด็ดคือเจ้าเคี่ยม มันลาก X ตั้งแต่เฟรม6 ไปจนถึง เฟรม 10 จบเกมด้วยคะแนน 219 คะแนน
เป็นการเล่นโบว์ลิ่ง 1 เกม ที่สนุกมาก เพราะเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เงียบมา2 เกม แล้วมามีชีวิตชีวาเอาเกมสุดท้ายทุกคนทั้งคนมหิดล และคนมหาวิทยาลัยอื่นๆต่างช่วยเชียร์จนกระหึ่ม และแล้วผลคะแนนก็สรุปว่า มหาวิทยาลัยมหิดลมีคะแนนรวมเป็นอันดับ 2 ได้รับเหรียญเงินค่า



สร้างความฮือฮา มิใช่น้อย ดูซิเล่นเกมเดียว ได้เหรียญ เงิน รู้งี้น่าจะเล่นซัก 2 เกมนะ เผื่อจะได้เหรียญทอง เอ้า เริ่มละโมบ เดี๋ยวก็เริ่มเครียดเล่นไม่ได้อิกหรอก รู้จักพอซะหน่อยก็จะดี

นี่เป็นการถ่ายภาพร่วมกันของนักกีฬาทุกมหาวิทยาลัย ครึกครื้นมาก เพราะต่างก็แลกเสื้อกันวุ่นวายแล้ว ข้าพเจ้าก็กลายเป็นคนมหาวิทยาลัยนเรศวรไปตามที่ตั้งใจไว้ เพราะเสื้อเค้าสีสดดี ไปกันได้กับผิวผ่องของเรา อิอิ
ในที่สุดก็มีผลงานแล้ว ชาวคณะเราก็เริ่มยิ้มออก ไม่กลับมือเปล่าแล้ว ส่วนที่เหลืออีก3-4 รายการก็พยายามรีดฟอร์มกันต่อไป หวังไว้อย่างนั้น สิ่งที่เพิ่งค้นพบคือ ทุกมหาวิทยาลัยจะส่งนักกีฬาลงแข่งประเภทละ 2ทีม เพื่อกันท่า หรือเพื่อโอกาสที่มากกว่า ที่รู้เพราะก่อนมหิดลจะลงแข่ง ทีมหญิง 3คน ผลคะแนนมีดังนี้ รามทีมที่1 อันดับ1 เชียงใหม่ อันดับ 2 และ รามทีมที่2 เป็นอันดับ 3 พอมหิดลเข้าแทรกเป็นอันดับ2ได้ รามทีมที่ 2 เลยตกอันดับไป แต่ รามทีมที่1 ก็ยังคงได้เหรียญทอง เพราะคะแนนมากกว่า ดูซิเค้าเกือบได้ทั้ง 2 เหรียญแล้วเชียว แต่ มหิดลส่งนักกีฬาลงแข่งประเภทละทีมเดียวเท่านั้น เรามั่นใจคะ ว่าเราเก่ง(มั๊งคะ) สรุปคือไม่รู้เหตุผลโค้ชเค้า
ก็เป็นเหรียญเดียวเท่านั้นที่ทำได้ โค้ชไม่พานักกีฬาไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ แต่เราก็ยังไปคะ โดยให้น้องชายแสนดีมารับกลับที่พักตอนเที่ยงคืน ซึ่งเค้าก็มาคะ ก็บอกแล้วไงเค้าเป็นคนแสนดีนี่นา นี่ไงคะหน้าตาแสนหล่อของเค้า



ข้าพเจ้ากลับจากพิษณุโลกด้วยเสียงอันแหบแห้ง มีมิตรภาพที่น่าจดจำกับเพื่อนหลายคน นับว่าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับการไปหาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ก็คาดหวังว่าจะได้เล่นกีฬาที่ตนเองรักอีกต่อไป แต่ไม่หวังว่าปีหน้าจะได้ไปโคราชกับเค้าหรอกจ้า
(ปีหน้า ม.สุรนารีเป็นเจ้าภาพ)







Create Date : 30 พฤษภาคม 2551
Last Update : 30 มิถุนายน 2552 17:40:45 น. 0 comments
Counter : 652 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.