Group Blog
All Blog
|
หลวงปู่เทศ ๕ มี.ค ๕๔ กับการให้ทานที่มี อนิสงค์มาก พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ -พระไตรปิฎกเล่มที่14 หน้าที่ 399 ไฉนจะนุ่งห่มได้เล่า ก็ท่านพระยาเป็นที่รักที่พึงใจของพวกเรา พวกเราจะ ช่วยท่านพระยาผู้น่ารักน่าพึงใจ โดยอาการที่ไม่น่าพึงใจอย่างไรได้. ท่านพระยา-ปายาสิกล่าวว่า พ่ออุตตระ ถ้าอย่างนั้น เจ้าจงจัดโภชนะ อย่างที่ข้าบริโภคจงจัดผ้าผ่อนอย่างที่ข้านุ่งห่ม. อุตตรมาณพ รับคำของ พระยาปายาสิแล้วจัดโภชนะอย่างที่ท่านพระยาปายาสิบริโภคจัดผ้าผ่อน อย่างที่ท่านพระยาปายาสินุ่งห่ม. ครั้งนั้น พระยาปายาสิ ให้ทานโดยไม่ เคารพ ให้ทานไม่ใช่ให้ด้วยมือของตนเอง ให้ทานโดยไม่นอบน้อม ให้ทานแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ครั้นตายแล้ว ก็เข้าถึง ความเป็นสหายของเหล่า เทพชั้นจาตุมหาราช มีเสรีสกวิมานอันว่างเปล่า. ส่วนอุตตรมาณพผู้จัดการ ในทานของพระยาปายาสินั้น ให้ทานโดยเคารพให้ทานด้วยมือของตนเอง ให้ทานโดยนอบน้อมให้ทานไม่ใช่ทิ้ง ๆขว้างๆ ครั้นตายแล้วก็เข้าถึงสุคติโลก สวรรค์ เป็นสหายของเหล่าเทพชั้นดาวดึงส์. เรื่องพระควัมปติเถระ - เทพบุตรปายาสิ [๓๓๐] สมัยนั้น ท่านพระควัมปติ ไปพักกลางวัน ณ เสรีสกวิมาน อันว่างเปล่าเนือง ๆ. ครั้งนั้น ปายาสิเทพบุตร เข้าไปหาท่านพระควัมปติ กราบแล้วยืน ณ ที่สมควรส่วนข้างหนึ่ง. ท่านพระควัมปติจึงถามปายาสิ เทพบุตรว่า ผู้มีอายุ ท่านเป็นใคร. ปายาสิเทพบุตร ตอบว่า ท่านเจ้า ข้า ข้าพเจ้าคือพระยาปายาสิ. ถามว่า ผู้มีอายุ ท่านที่ได้มีความเห็นอย่าง นี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ โลกอื่นไม่มี สัตว์ผุดเกิดไม่มี ผลวิบากของกรรมที่สัตว์ ทำดีทำชั่วไม่มีดังนี้นะหรือ. ตอบว่า จริงเจ้าข้า แต่ข้าพเจ้าถูกพระผู้เป็น เจ้ากุมารกัสสปเปลื้องเสียจากความเห็นอันชั่วนั้นแล้ว. ถามว่า ผู้มีอายุ ท่านอุตตรมาณพผู้จัดการในทานของท่านแล้ว เขาไปเกิดเสียที่ไหน. ตอบ ว่า ท่านเจ้าข้า พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 400 อุตตรมาณพผู้จัดการทานของข้าพเจ้าให้ทานโดยเคารพ ให้ทานด้วยมือ ของ-ตนเอง ให้ทานโดยนอบน้อม ให้ทานโดยไม่ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ครั้นตาย แล้วก็เข้า ถึงสุคติโลกสวรรค์ เป็นสหายของเหล่าเทพชั้นดาวดึงส์ ท่านเจ้าข้า ส่วน ข้าพเจ้าให้ทานโดยไม่เคารพ ให้ทานโดยมิใช่โดยมือของตนเองให้ทานโดย ไม่นอบน้อม ให้ทานทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ครั้นตายแล้ว เข้าถึงความเป็นสหายของ เหล่าเทพชั้นจาตุเสรีสกวิมานอันว่างเปล่า ท่านพระควัมปติ เจ้าข้าถ้าอย่างนั้น พระคุณเจ้ากลับมนุษยโลกแล้วโปรดบอกกล่าวคนทั้งหลายอย่างนี้ว่าพวก ท่านจงให้ทานโดยเคารพ จงให้ทานโดยมือของตนเอง จงให้ทานโดย นอบน้อมจงให้ทานอย่าทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ พระยาปายาสิให้ทานโดยไม่เคารพให้ ทานไม่ใช้ ด้วยมือของตนเอง ให้ทานโดยไม่นอบน้อม ให้ทานทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ตายแล้ว ก็เข้าถึง ความเป็นสหายของเหล่าเทพชั้นจาตุมหาราช มีเสรีสกวิมานอันว่าง เปล่าส่วนอุตตรมาณพผู้จัดการทานของพระยาปายาสินั้น ให้ทานโดยเคารพ ให้ทานด้วยมือของตนเอง ให้ทานโดยนอบน้อม ให้ทานไม่ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ตายแล้วก็เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เป็นสหายของเหล่าเทพชั้นดาวดึงส์. ครั้ง นั้น ท่านควัมปติกลับมนุษยโลกแล้วก็บอกกล่าวแก่คนทั้งหลาย อย่างที่ปา ยาสิเทพบุตรส่งเสียทุกประการแล.จบปายาสิราชัญญสูตร ที่ ๑๐ สาธุจ่ะ สวัสดียามค่ำๆๆนะจ่ะ อิอิ ซ: D
โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 29 เมษายน 2554 เวลา:18:59:59 น.
|
shada
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] พระไตรปิฏก เป็นตาที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นหูที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นจมูกที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นลิ้นที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นกายที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นใจที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นครู-อาจารย์ที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นพ่อ-แม่ที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นมิตรและเข็มทิศที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นแผนที่และป้ายบอกทางที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นแสงสว่างส่องทางสู่นิพพานที่วิเศษยิ่ง ธรรมวินัยอันพระตถาคตเจ้าประกาศแล้วเปิดเผย ไม่กำบังจึงรุ่งเรือง (เล่ม ๑๐ หน้า ๔๖๕_ปกน้ำเงิน) บัญญัติของพระพุทธเจ้า จากพระไตรปิฎกชุด 91 เล่ม ของมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 3 (ปกสีแดง หน้า 887 ปกสีน้ำเงิน หน้า 940) พระบัญญัติ อนึ่ง ภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่ง ทอง-เงิน หรือยินดี ทอง-เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ก็ดี เป็นนิสสัคคียปาจิตตีย์(นิสสัคคียปาจิตตีย์ 1 ตัว ต้องตกโรรุวนรก 1 ชั่วอายุ คือ 4,000 ปีของนรกขุมนี้ เท่ากับ 840,960,000 ล้านปีมนุษย์) พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.ให้ไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535 เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภาดังต่อไปนี้ มาตรา 15 ตรี มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ ...(4)รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา **หยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา(โยมควรเรียนรู้) ทำบุญแล้วเป็นบาป ตกนรกทั้งพระและโยม 1.ตักบาตรด้วยเงินและทอง 2.ตักบาตรด้วยสิ่งของที่ต้องห้าม ข้าวสารอาหารแห้ง-ดิบ 3.ทำบุญกับพระทุศีล(ผิดศีลธรรมและไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย)รับเงิน รับทอง มีบัญชีเงินฝากธนาคารเป็นของตนเอง มีบัตรเอทีเอ็ม มีบัตรเครดิต 4.ฯลฯ จากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปลไทยฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย 91 เล่ม **ชาวพุทธทั้งหลาย ขอให้อธิษฐานเพื่อถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนี้ "ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงบันดาลบุญของข้าพระพุทธเจ้าให้เข้าไปรวมเป็นพระราชกุศลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พลังบุญทั้งหลาย ที่พระองค์ได้ทรงกระทำต่อพสกนิกรและราชอาณาจักร ขอบุญนั้นทั้งหมด จงเป็นพลังขับดันโรคภัยทั้งหลายที่กำลังเกิดในพระวรกายของพระองค์ให้อันตรธานไป" จากหลักฐานเทียบเคียงของการใช้สัจอธิษฐาน ในพระไตรปิฎก 91 เล่ม ฉบับมหามกฎราชวิทยาลัย เล่ม 74 หน้า 447-479 ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาตรา 1, 3, 341, 342 และ 343 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักสงฆ์ป่าสามแยก ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ (www.samyaek.com) ผู้มีปัญญาทั้งหลาย ขอจงพิจารณาเอาเถิด เพราะไม่บังคับให้ใครมาเชื่อหรือทำตาม เพียงแต่นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเปิดเผย เพื่อให้ชาวพุทธปฏิบัติได้ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ยินดีในบุญกับทุกท่านที่รวมใจกันเปิดเผยพระธรรมวินัยให้รุ่งเรือง ค่ะ ชฎา มีโครงการ จะเปิด บ้านพักตากอากาศ ติดถนน ติดทะเล ไม่ไกลจาก ท่าเรือ ท้องศาลา บรรยากาศ เหงียบ สงบ เป็นธรรมชาติ ให้เช่าที่เกาะพงัน "สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด" |