ค่าความสามารถนักเตะ [ FM2012 ]
บทความเรื่องนี้ต้องการจะแสดงอธิบายค่าความสามารถของนักเตะในเกม FM เนื้อหา 70 % นำมาจากแหล่งอ้างอิง //www.footballmanager.com (เนื้อภายในบทความนี้จะถูกอธิบายเพิ่มเติมจากต้นฉบับ และบวกกับความ คิดเห็นของนักเล่นเกม FM ด้วย) ถามว่าทำไมเราต้องเข้าใจเกี่ยวกับค่าความสามารถของนักเตะ นี่ล่ะครับที่สำคัญมากมันเป็นพื้นฐานที่นำเราไปสู่การสร้างและออกแบบ Tactic และ การกำหนดบทบาทและหน้าที่ให้กับนักเตะ ผมเองก็เคยนั่งนึกอยู่เหมือนกันว่า ถ้าเรารู้แล้ว เราจะทำอย่างไร เราต้องใช้ จิตนาการไปด้วยครับ เพื่อทำให้มองเห็นภาพรูปแบบการเคลื่อนที่และอิริยาบถต่างๆที่มาจากค่าความสามารถทั้ง 3 ค่าซึ่งได้ถูกสะท้อน มาเป็นตัวเลข เพราะการที่เราจะวาง Tactic จากการเริ่มเข้าไปคุมทีมแรกๆ ในบางครั้งเราไม่สามารถนำนักเตะที่เก่งๆ มาร่วมทีมได้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้นักเตะที่มีอยู่เดิม ดั้งนั้น มันเป็นความท้าทายของเราที่ต้องดึงศักยภาพของนักเตะแต่ละแบบออกมาใช้เพื่อสร้างโอกาส และประโยชน์ให้กับทีมมากที่สุด เช่น ในกรณีที่นักเตะมีทักษะดีมากแต่ขาดความคิดที่จะนำไปใช้ก็มีเยอะ หรืออาจจะมีสภาพร่างกายดีเยี่ยม แต่กลับมีทักษะในการเล่นฟุตบอลต่ำ แน่นอนครับว่า นักเตะทุกคนต้องมีจุดแข็งและจุดอ่อนกันทุกคน อยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไร >>> การเลือกชื้อนักเตะ <<< นักเตะนั่นมีหลายแบบหลายสไตล์ มีทั้งซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก ระดับทวีป ระดับชาติ และระดับท้องถิ่น แต่นะคนมีความยากง่ายในการซื้อที่ แตกต่างกันออกไป มันขึ้นอยู่กับชื่อเสียงและความสามารถ เนื่องด้วยมีตัวเลือกมากมาย การที่เราจะนำนักเตะเข้ามาสู่ทีมจึงเป็นเรื่องที่ควร ใส่ใจหรือกลั่นกรองให้ดีๆ ชื่อเสียงของนักเตะเป็นเรื่องควรพิจารณาในการเลือกซื้อเช่นกัน การนำนักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังเข้ามาสู่ทีมจะเป็น ประโยชน์ในด้านการตลาดอย่างมาก และบางครั้งก็ควรนำนักเตะที่มีประโยชน์ต่อการวาง Tactic ของเรามาสู่ทีมด้วยเช่นกัน การเลือกชื้อ นักเตะตามนโยบายของแต่ละทีมไม่เหมือนกัน ทีมใหญ่ๆ ก็ควรต้องการนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์เพื่อเพิ่มฐานแฟนบอลและขายสินค้าให้ได้มากขึ้น และดาวรุ่งที่ได้รับการถูกคาดหมายว่าจะก้าวมาเป็นนักเตะชั้นนำมาปลุกปั้นเพื่อให้เป็นนักเตะที่มีชื่อเสีย งต่อไป ส่วนทีมกลางๆ และล่างๆ คงต้องนำนักเตะที่มีประโยชน์ต่อ Tactic มาก่อน ในช่วงแรก การเข้าใจเกี่ยวกับค่าความสามารถยังเป็นตัวช่วยให้เราเลือกซื้อนักเตะเข้าทีมมาเพื่อด้วยการไตร่ตรองเพื่อ ดึงเอาศักยภาพที่ต้องการมาใช้ บางครั้งเราก็อาจได้นักเตะโนเนมมาใช้แต่มีประโยชน์มาก ค่าความสามารถของนักเตะในเกมแบ่งออกเป็น 3 ค่าดังนี้ 1. ค่าความสามารถทางของศักยภาพร่างกาย Physical Attributes 2. ค่าความสามารถทางด้านความคิดในการเล่นฟุตบอล Mental Attributes 3. ค่าความสามารถทางด้านทักษะในการเล่นฟุตบอล Technical Attributes และค่าความสามารถผู้รักษาประตู Goalkeeping ************************************************************************************************ 1. Physical ส่วนใหญ่ ค่าความสามารถทางด้านร่างกายของนักเตะจะดีกว่าค่าอื่นๆ เพราะเป็นนักกีฬาอาชีพ ค่านี้เป็นแสดงถึงขีดจำกัดของร่างกาย ที่ต้องใช้ในการแข่งและฝึกซ้อม ถ้านักเตะมีสมรรถนะร่างกายที่ดี ก็ส่งผลให้เขาสามารถใช้จุดแข็งตรงนี้ชิงความได้เปรียบได้ Acceleration : นักเตะออกตัววิ่งระยะสั้นจากจุดที่ยืนเริ่มต้น หรือสปีดต้นของนักเตะ ซึ่งนักเตะคนนั้นจะสามารถเพิ่มความเร็วจนขึ้นไปถึงท็อปสปีด Pace ซึ่งสองค่านี้จะไม่ค่อยแตกต่างกันมาก ถ้านักเตะมี Acceleration สูงจะสามารถออกตัววิ่งหนีตัวประกบหรือวิ่งผ่านคู่แข่งได้สบายขึ้น ถ้านักเตะมีค่านี้ต่ำ ก็จะมีโอกาสจะถูกวิ่งตามทันได้ในระยะสั้น Agility : นักเตะสามารถเคลื่อนไหวร่างกายให้รวดเร็วหรือความคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็น การเริ่มวิ่ง การหยุด และเคลื่อนที่ต่างๆ ที่ต้องใช้ร่างกาย ซึ่งมันจะมีความเกี่ยวดองกับ ค่า Pace ,Acceleration และ Balance พวกค่าเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นกลไกการเคลื่อนที่ของ นักเตะแต่ละคน โดยเฉพาะเมื่อนักเตะได้วิ่งไปกับบอล Balance : นักเตะจะทรงตัวในขณะที่อยู่กับบอลหรือไม่อยู่ กรณีแรก คือ การทรงตัวเคลื่อนที่กับบอล ด้วยการกระชากบอลผ่านคู่แข่ง เลี้ยงหลบ หยุดบอล กรณีที่สอง คือ การทรงตัวเคลื่อนที่ปราศจากบอล วิ่งไล่เบียดแย่งบอลไปกับคู่แข่ง การกลับตัวและการกระโดด นักเตะที่มี Balance สูงจะล้มหรือเสียหลักยากมาก แต่ถ้ามีค่านี้ต่ำจะทำให้มีโอกาสเสียหลักล้มได้เมื่อเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งหรือเวลา โดนกดดันในการเลี้ยงบอล สุดท้ายก็ทำให้บอลหลุดเท้าทำบอลเสียได้บ่อยขึ้น Jumping : นักเตะสามารถกระโดดจากพื้นดินหรือเรียกว่าสปริงตัว เป็นค่าความสามารถในการเล่นลูกกลางอากาศของนักเตะ ซึ่งแน่นอนครับสำหรับนักเตะที่สูง 190 cm จะมีโอกาสสูงกว่านักเตะที่สูงแค่ 170 cm ในการเล่นลูกกลางอากาศ แต่ถ้านักเตะที่เตี้ยแต่กระโดดได้สูงกว่า ก็อาจทำให้สูสีกันได้ครับ Natural Fitness : นักเตะจะมีความพร้อมของร่างกายนักเตะในสภาวะปกติทั่วไป นักเตะที่มีค่านี้สูงจะมีเรียกความฟิต หรือความพร้อมของร่างกายได้ดี เพื่อให้ใช้ในการฝึกหรือแข่ง นักเตะที่มีค่านี้ต่ำจะทำให้เหนื่อยและอ่อนแอ ฟื้นตัวยาก และก็จะมีความเสี่ยงต่อการเจ็บ จากการซ้อมและการแข่ง Pace : นักเตะมีความเร็วเมื่อออกวิ่งมาได้ระยะหนึ่งจนถึงจุดสูงสุด Pace คือความเร็วที่เรียกว่าท็อปสปีดที่ต้องใช้ Natural Fitness และ Stamina เพื่อจะทำให้รู้ว่านักเตะสามารถวิ่งด้วยความเร็วท็อปสปีดได้นานเท่าไร และนักเตะที่วิ่งไปกับบอลจะทำให้ให้มีความเร็วลดลงเล็กน้อย ซึ่งแตกต่างจากตอนที่ไม่มีบอลอยู่ Stamina : นักเตะมีความอดทนต่อกระทำสิ่งต่างที่ต้องใช้ร่างกาย (ปอดใหญ่) เช่น การซ้อมหรือการแข่ง ยิ่งมีค่านี้สูงก็จะ ยิ่งทำให้นักเตะสามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้นานขึ้น ซึ่งมันจะมีความเกี่ยวดองกับ ค่า Natural Fitness Strength : นักเตะมีความแข็งแกร่งของร่างกาย ตรงนี้หมายถึงมีกล้ามเนื้อ ถ้าค่านี้สูงนั้นหมายถึงนักเตะจะใช้ข้อได้เปรียบ ของร่างกายเข้าเผชิญหน้ากับคู่แข่งทันที ซึ่งถือเป็นประโยชน์สำหรับเขามากถ้าเจอคู่แข่งที่มีความแข็งแกร่งน้อยกว่าเมื่อต้องปะทะกันตลอดทั้งเกม ค่านี้จะเป็นการป้องกันตัวเองจากการเข้ามา Tackling ที่หนักๆ อีกด้วย **************************************************************************************************** 2. Metal ค่าความสามารถทางความคิด ค่าเหล่านี้จะถูกฝั่งไว้ในจิตใจของนักเตะ ซึ่งจะเป็นตัวสั่งการทำงานของร่างกายเพราะนักเตะจะคิดก่อนแล้วจึงทำ ดังนั้น ค่านี้จึงจำเป็นมากสำหรับนักเตะที่จะก้าวมาเป็นนักเตะที่มีเก่ง ค่านี้จะเป็นตัวที่ทำให้นักเตะผลักดันสโมสรให้เดินทางไปข้างหน้าเพื่อสู่ความสำเร็จ Aggression : นักเตะต้องจะเล่นในลักษณะดุดัน ซึ่งบางครั้งมันเหลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้วิธีสกปรกหรือไม่ยุติธรรมบ้าง จึงต้องมีลักษณะเข้าปะทะแบบถึงลูกถึงคน และมุ่งจะเอาชนะคู่แข่ง มันเป็นเรื่องปกติที่เราจะเห็นนักเตะที่มีค่านี้สูงๆ จะแสดงพฤติกรรมเช่นนี้บ่อยๆ และบางทีก็ทำให้โดนใบเหลืองหรือใบแดง ส่วนนักเตะที่มีค่านี้น้อย จะพยายามหลีกเลี่ยงจากสถานการณ์แบบนี้และเลือกเล่นในบริเวณที่ตัวเองคิดว่าสบายใจ Anticipation : การคาดการณ์ล่วงหน้าของนักเตะ นักเตะที่มีค่านี้สูงจะสามารถอ่านการเคลื่อนที่ของบอลและเพื่อนหรือแม้แต่คู่แข่งได้ดีและเร็วกว่าคนอื่น ในกรณี ที่นักเตะไม่มีบอล ค่านี้จะทำงานได้ดีกับค่า Off the Ball เพื่อทำให้นักเตะสามารถแสดงการเคลื่อนที่ที่จะเป็นประโยชน์ต่อทีมมากขึ้น Bravery : นักเตะแสดงความกล้าที่จะเล่น ความหมั่นใจที่จะเผชิญหน้าและกล้าที่จะเสี่ยงกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายของนักเตะ นักเตะที่มีความกล้าสูงจะ ไม่กลัวเล่นตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายแม้จะเจอกับคู่แข่งที่เข้าปะทะหนักก็ตาม บางครั้งความกล้านี้ก็อาจเสี่ยงให้นักเตะเจ็บมากขึ้น แต่ถ้าค่านี้น้อย นักเตะจะหลีกเลี่ยงและเลือกพื้นที่ที่ปลอดภัย ทำให้ไม่ทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายได้ Composure : นักเตะจะแสดงความแน่วแน่ของจิตใจในการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่กดดันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นักเตะแนวรุกที่ต้องสร้างโอกาสการทำประตูให้มากขึ้น ภายใต้สถานการณ์ที่กดดัน หรือนักเตะแนวรับเมื่อต้องเจอแรงกดดันจากการตกเป็นฝ่ายตั้งรับ นักเตะที่มีค่านี้สูงจะสามารถความควบคุมสติตัวเองให้แล้ว สามารถทำสิ่งที่ฉลาดๆ ให้เป็นประโยชน์กับทีมได้ Concentration : นักเตะใช้สมาธิในการเล่นฟุตบอล โดยนักเตะจะมุ่งความสนใจไปที่การเล่นฟุตบอลอย่างเดียว นักเตะที่มีค่า Concentration สูง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่สำคัญ หรือช่างท้ายเกม ซึ่งจะช่วยให้เขาเล่นด้วยสมาธิตลอดทั้งเกม ส่วนนักเตะที่มีค่านี้ต่ำ จะขาดการเล่นที่มีเป้าหมายไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร ลืม.. อาจจะทำผิดพลาดในช่วงเวลาที่สำคัญภายในเกมได้ Creativity : นักเตะจะแสดงสร้างสรรค์ของตัวเองออกมา ถ้านักเตะมีค่านี้สูงจะทำให้เขาสามารถมองเห็นโอกาสต่างๆ ที่จะเป็นไปได้มากขึ้นและเร็วกว่าคนอื่น แต่เฉพาะความคิด เท่านี้ยังไม่เพียงพอ นักเตะจำเป็นต้องใช้ค่าความสามารถทางด้านทักษะต่างๆที่เชี่ยวชาญด้วยเพื่อที่จะสร้างโอกาสนี้ให้สำเร็จ Decision : นักเตะใช้การตัดสินใจของตัวเอง เพื่อตัดสินทางเลือกต่างๆ มันขึ้นอยู่กับว่าโอกาสที่นักเตะเลือกถูกต้องมากแค่ไหน ค่านี้ถือเป็นค่าสำคัญกับทุกตำแหน่งและบทบาท โดยเฉพาะกองหลังและกองกลางเพราะเป็นตำแหน่งที่ที่มีโอกาสสัมผัสบอลมากที่สุดและมีตัวเลือกในการส่งบอลจำนว นมาก Determination : นักเตะจะแสดงความมุ่งมั่นและทุ่มเทของตัวเองออกมา นักเตะที่มีค่านี้สูง จะมุ่งมั่นต่อการทำหน้าที่ให้สำเร็จและทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ ค่านี้จะสอดคล้องกับค่า Bravery จะทำให้กล้าที่จะแสดงความมุ่งมั่นออกมา รวมไปทั้งในการฝึกซ้อมที่ต้องใช้ความมุ่งมั่นเพื่อทำให้ตัวเองพัฒนาขึ้นด้วยเช่นกัน Flair : นักจะแสดงไหวพริบในการเล่นฟุตบอล บางครั้งก็ทำสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นให้เห็น นักเตะที่มาพร้อมกับค่า flair สูง จะเป็นหนึ่งในแนวรุกสำคัญในทีม ซึ่งค่า Flair ต้องใช้ Creativity เพื่อมีเห็นโอกาสที่จะเกิดขึ้นมากมาย แล้วสามารถทำสิ่งนั้นด้วยความหลักแหลม Influence : นักเตะจะแสดงความสามารถในการเป็นผู้นำออกมาเพื่อนร่วมทีมเห็นเมื่ออยู่ในสนาม ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นทีม ในยามที่ทีมเริ่มท้อแท้หรือเสียความมั่นใจลง เขาคือคนหนึ่งที่คอยเพิ่มแรงผลักเพื่อนร่วมทีมให้ดีขึ้น การที่เราให้บทบาทกัปตันทีมแก่นักเตะที่มีค่านี้สูง จะทำให้เพื่อนรู้สึกเคารพและอยากที่จะเดินตามภายใต้ การนำทัพของกัปตันทีมคนนี้ Off the Ball : นักเตะพยายามเคลื่อนที่เพื่อสร้างโอกาสที่เป็นประโยชน์ต่อทีม ซึ่งจะช่วยทำทางให้เพื่อนสามารถจ่ายบอลได้ง่ายขึ้น ค่านี้จะต้องใช้ค่า Anticipation เพื่อคาดการณ์ ล่วงหน้าให้ดี นักเตะมีค่า Off the Ball สูง โดยเฉพาะนักเตะในแนวรุกสามารถเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ว่างหรือพื้นที่ในโซนที่มีโอกาสลุ้นประตูเพื่อรอรับบ อลจากเพื่อน Positioning : นักเตะจะรักษาและค้นหาตำแหน่งของตัวเอง นักเตะทำการประเมินตำแหน่งของตัวเองตามสถานการณ์ของเกม และถ้าเป็นนักเตะที่มีค่า Positioning สูง เลือกตำแหน่ง ที่ดีที่สุดกับบทบาทของตัวเอง และหาตำแหน่งที่ดีต่อประโยชน์ของทีมอีกด้วย ค่า Anticipation จะช่วยให้นักเตะสามารถเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทำให้นักเตะสามารถค้นหา ตำแหน่งที่ดีได้ ต่อมาค่า Positioning จะเป็นค่าที่ทำให้นักเตะอยู่ในตำแหน่งดังกล่าวได้จริง Teamwork : นักเตะพยายามจะเล่นให้เข้ากับ Tactic และพยายามทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมทีมรอบๆ ทีมที่มีนักเตะที่มี Teamwork สูงจะทำให้ทำงานได้ดีในการประสานงานกัน ไม่ว่าจะเป็นเกมรุกหรือเกมรับ Work Rate : นักเตะพยายามจะทำหน้าที่ให้มากขึ้นตามคำสั่ง ถ้าเป็นนักเตะที่มีค่า Work Rate สูง จะทำให้นักเตะมีต้องการทำหน้าที่ให้เต็มกำลัง ตั้งแต่ต้นจนจบเกมเลย แต่ความพยายามอย่างเดียวไม่เพียงพอ นักเตะก็ยังต้องการพละกำลังของร่างกาย Natural Fitness และ Stamina ด้วย *********************************************************************************************** 3. Technical ค่าความสามารถของทักษะในการเล่นฟุตบอล เป็นค่าความสามารถของนักฟุตบอลที่ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น การเล่นฟุตบอลกับเท้า หรือการเล่นลูกตั้งเตะ การเล่นลูกกลางอากาศหรือลูกโด่ง จึงถูกเรียกว่าเรียกว่าทักษะการเล่นบอล ค่าความสามารถนี้เป็นพื้นฐานของนักเตะอาชีพที่ต้องมีกันทุกคน แต่ละค่าก็เหมาะกับบทบาทต่างๆ ทั้งนักเตะตัวรุก ทั้งตัวรับ และตัวที่คอยสนับสนุน Corners : ทักษะในการเตะมุม เป็นอีกรูปแบบของการเล่นลูกตั้งเตะ นักเตะที่มีค่า Corner สูง จะสามารถวางบอลไปยังตำแหน่งที่สำคัญๆ จะถือเป็นเพิ่มโอกาสในการโจมตีอีกแบบ Crossing : ทักษะในการโยนบอลจากริมเส้นเข้าไปยังเขตโทษ นักเตะทีมีทักษะนี้สูง จะสามารถโยนบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ Dribbling : ทักษะการเลี้ยงบอล นี้คือความเชี่ยวชาญของการใช้เท้าเล่นบอล ประกอบกับ Pace ,Acceleration ,Agility และ Balance ทำให้นักเตะเลี้ยงบอลได้ดีขึ้น และถ้ามีค่า Dribbling สูงจะช่วยให้เขาเลี้ยงบอลได้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น Finishing : ทักษะของยิงบอลหรือจบสกอร์ นี้คือทักษะที่เหมาะกับแนวรุกที่ตัว โดยเฉพาะกองหน้า นักเตะมีค่า Finishing สูง จะยิงได้ตรงกรอบมากขึ้น First Touch : ทักษะในการจับบอลหรือรับบอล ลักษณะของนักเตะมีค่า First Touch สูงจะสามารถดักบอลได้ เก็บบอลได้ ทักษะนี้จะเหมาะสมกับทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะนักเตะที่รับหน้าที่คอยรับบอลจากเพื่อนบ่อยๆ Free Kick : ทักษะให้การเตะลูกฟรีคิก นักเตะมี่ค่า Free Kick สูง จะมีความเชี่ยวชาญในการเตะลูกฟรีคิก ทักษะถือเป็นอาวุธอันตรายที่จะตัดสินการเกมเล่นก็ว่าได้ การเตะลูกฟรีคิกมี 2 แบบ คือการยิงและการโยน การยิงลูกฟรีคิกได้ดีนั้นต้องใช้ทักษะอื่นด้วย Technique และ Decision Heading : ทักษะของการโหม่งบอล นักเตะที่ค่า Heading สูง กำหนดทิศทางของบอลที่โหม่งได้ดี แต่การที่จะโหม่งบอลได้แม่นยำนั้น ต้องใช้ ความสามารถด้านอื่นด้วย Anticipation และ Decision Long Shot : ทักษะของการยิงนอกเขตโทษหรือยิงไกล นักเตะที่มีค่า Long Shot สูง จะสามารถยิงบอลจากระยะไกล ลูกบอลที่ถูกยิงจะรุนแรงและ ตรงกรอบมากตามค่าความสามารถ Long Throw : ทักษะของการทุ่มไกล นักเตะที่มีค่า Long Throw สูง จะทุ่มบอลออกไปได้ไกลมากขึ้น ถือว่าเป็นทักษะที่อันตรายมาก โดยเฉพาะทีม ที่มีผู้เล่นสูงใหญ่หรือมีความสามารถในการเล่นลูกกลางอากาศ เมื่อได้ทุ่มในแดนคู่แข่ง มันคือการโจมตีอีกรูปแบบหนึ่ง ที่บางทีก็อาจสร้าง ปัญหาให้กับทีมที่มีเสียเปรียบการเล่นลูกกลางอากาศได้เช่นกัน Marking : ทักษะของการเข้าประกบตัว นี้คือทักษะที่ใช้ในเกมรับ ซึ่งเหมาะกับผู้เล่นในแนวรับทุกตำแหน่ง นักเตะที่มีค่า Marking สูง จะประกบตัวนักเตะคู่แข่งได้ดี แต่เป็นเพียงการประกบเพียงอย่างเดียว การจะประกบตัวให้ดีที่สุดคือการที่ไม่ให้คู่แข่งมีโอกาสได้บอลหรือทำให้คู่แข่งเสียเปรียบ ดังนั้นต้องมีความสามารถด้านอื่นเข้ามาช่วยด้วย คือ Strength ,Off the Ball และ Anticipation Passing : ทักษะของการส่งบอลให้เพื่อน นี้คือทักษะขั้นพื้นฐานของนักฟุตบอลเลยก็ว่าได้ การส่งบอลเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะนักเตะทุกคนต้องใช้ทักษะนี้ อยู่ที่จะใช้มากหรือน้อยเท่านั้นเอง การส่งบอลมีหลายรูปแบบขึ้นกับบทบาทของนักเตะที่ได้รับ นักเตะที่มีค่า Passing สูง จะสามารถส่งบอลหลาย ลักษณะทั้งไกลและใกล้ ควบคุมน้ำหนักการส่งได้ดี จึงมีโอกาสส่งได้สำเร็จ Penalty Taking : ทักษะของการยิงลูกโทษ นักเตะที่มีค่าทักษะนี้สูง จะมีความมั่นใจมากว่าจะสามารถยิงลูกโทษในระยะ 12 หลาได้สำเร็จ Tackling : ทักษะของการเข้าปะทะแย่งบอล เพราะการแย่งบอลต้องให้ทักษะ ไม่ว่าจะเป็นการเบียด การชน หรือแม้แต่การสไลด์เข้าแย่งบอลให้ได้ นักเตะ ที่มีค่า Tackling สูง จะสามารถแย่งบอลได้สำเร็จอยู่บ่อยๆ โดยไม่เสียฟาร์ว ทักษะนี้เหมาะสมกับแนวรับเป็นที่สุด Technique : ทักษะของการเล่นบอลด้วยเท้า นี้คือทักษะของนักเตะที่มีพรสวรรค์ ซึ่งมีความสามารถที่จะคอนโทรลลูกบอลได้ดี ไม่ว่าจะเป็นส่งหรือยิงแบบไซด์โค้ง นักเตะที่มีค่าทักษะนี้สูง มักจะโชว์ความสามารถด้วยการหลอกล่อคู่แข่ง ด้วยการส่งบอล ยิงบอล หรือเลี้ยงบอล จะถูกนำเอาทักษะด้านนี้มาเพิ่มประสิทธิภาพ ให้มากขึ้น สำหรับนักเตะที่มีค่านี้ต่ำ จะถูกหลีกเหลี่ยงการเล่นลักษณะนี้ลงไป *************************************************************************************************** Goal keeping Aerial Ability : ผู้รักษาประตูต้องใช้ทักษะในการรับบอลกลางอากาศ ถ้าค่านี้สูงก็แสดงว่า เป็นผู้รักษาประตูที่มีความเชี่ยวชาญในการรับลูกประเภทนี้ ยิ่งถ้าเป็นผู้รักษาประตู ที่มีความสูงมากๆ ก็จะยิ่งง่ายขึ้นไปอีก แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าตัวเตี้ยจะทำได้ไม่มีนะครับ Command of Area : ผู้รักษาประตูออกคำสั่งต่อเพื่อนร่วมทีมภายในเขตโทษ ซึ่งต้องใช้ร่วมมือกับแนวกองหลัง ผู้รักษาประตูจะใช้สัญชาตญาณของตัวเองในการออกคำสั่งในเขตโทษกับสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะในยามที่มีการ Crossing เข้ามาในเขตโทษ ซึ่งต้องใช้ Aerial Ability เข้าช่วยด้วย ถ้ามีค่านี้สูง ผู้จะสามารถรับมือการโจมที่จากการ Crossing เข้ามาเขตโทษได้แบบสบาย Communication : ผู้รักษาประตูใช้ทักษะในการสื่อสารกับแนวกองหลัง ค่านี้จะช่วยผู้รักษาประตูสามารถที่จะวางระบบให้เกมรับของทีมได้ เช่น คอยเตือนกองหลังยามหลุด ตำแหน่งหรือแม้แต่การปิดพื้นที่สำคัญๆ ถ้ามีค่านี้สูงจะทำให้ผู้รักษาประตูติดต่อกับแนวกองหลังได้ดีมาก ทำให้แนวรับมีความแน่นอนมากขึ้น Eccentricity : ผู้รักษาประตูแสดงทักษะที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน หรือทำสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ เช่น การเลี้ยงบอลออกจากประตู การล็อคหลบคู่แข่ง สิ่งนี้จะเห็นบ่อยๆ ถ้าผู้รักษาประตูมีค่านี้สูง Handing : ผู้รักษาประตูจะมีทักษะในการรับบอล บอลจะไม่หลุดมือ โดยเฉพาะมันจะเป็นประโยชน์เมื่อเจอกับสภาพอากาศที่ไม่ดีนัก Kicking : ผู้รักษาประตูมีทักษะเตะบอลออกไประยะไกล นี้คือทักษะที่ต้องใช้การผสมผสานระหว่าง passing และ technique ถ้ามีค่านี้สูงจะสามารถเตะบอลได้แม่นยามากขึ้น One on Ones : ผู้รักษาประตูต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งแบบ 1 ต่อ 1 ถ้ามีค่านี้สูงผู้รักษาประตูจะสามารถบีบบังคับพื้นที่ได้ดี ทำให้คู่แข่งเล่นยาก Reflexes : ผู้รักษาประตูจะใช้สัญชาตญาณต่อปฏิกิริยาในการที่ต้องป้องกันประตู ถ้ามีค่านี้สูง ผู้รักษาประตูจะมีปฏิกิริยาที่ไวต่อป้องกันประตูในลูกที่คาดไม่ถึง Rushing Out : ผู้รักษาประตูจะวิ่งออกมารตัดบอลหรือรับบอล ในจังหวะที่มีการจ่ายบอลทะลุช่องผ่านกองหลังมา จะเป็นประโยชน์ต่อเมื่อผู้รักษาประตูมี Acceleration และ Pace ด้วย Tendency to Punch : ผู้รักษาประตูจะเลือกว่าชกบอลหรือควรเก็บไว้ ถ้ามีค่านี้สูง นักเตะเลือกที่จะชกบอลออกไปทั้งที่มีโอกาสจับบอลได้ ค่านี้จะได้ผลเสียเมื่อเขามีค่า Jumping และ Command of Area ต่ำด้วย ในทางกลับกันการชกบอลอาจเป็นผลดีถ้าผู้รักษาประตูมีค่า Handing ต่ำ Throwing : ผู้รักษาประตูขว้างบอลออกไปเพื่อกระจายเกม ยิ่งถ้ามีค่านี้สูงจะมีไกลและความแม่นยำมากขึ้น Creidt : MR_G @ Cm-fmthai
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2554 12:40:24 น.
0 comments
Counter : 12796 Pageviews.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
คนหนึ่งคนที่รอความตาย อาจารย์ยงยุทธ อาจารย์เคยพูดไว้ว่า คนบนโลกนี้มี 2 ประเภท 1.คนที่ตายแล้ว 2.คนที่รอความตาย ผมยังอยู่ประเภท 2 กำลังรอความตาย แต่จะรอความตายอย่างไร? ติดตามผมมาเถอะครับ