สุดฟ้าสิ้นรอยทราย . . . ตอนที่ 12 สุดฟ้าสิ้นรอยทราย . . . ตอนที่ 12
ดวงตาสีทรายลืมตาขึ้นอีกครั้งหลังจากหลับไปด้วยฤทธิ์ยาที่ ใครคนบางคนจับเธอไว้แน่นเพียงเพื่อกรอกยาใส่ปาก ความร้อนผ่าวในร่างกายรู้สึกเหมือนจะบรรเทาลงไปมากแต่อาการเพลียยังคงมีอยู่ทำให้ร่างบางไร้เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นนั่ง หญิงวัยกลางคนที่นั่งนิ่งอยู่ริมห้องมาตั้งแต่เมื่อไหรเมอดูอาไม่สามารถทราบได้แต่ทันทีที่รู้สึกตัว...คนแรกที่เธอเห็นก็คือผู้หญิงคนนั้น และเมื่ออีกฝ่ายเห็นความเคลื่อนไหวของคนที่นอนอยู่บนเตียงหญิงวัยกลางคนๆนั้นก็รีบลุกขึ้นมาหาเธอทันที
นางถูก หัวหน้านางกำนัลตามตัวทันทีที่กลับเข้าวังเพื่อให้ไปดูแลเด็กคนหนึ่งที่ฟาโรห์นำมาจากข้างนอกวัง หญิงสาววัยกลางคนรู้ได้ทันทีว่า เด็กคนนั้นเป็นใครทั้งที่ยังไม่เห็นตัว...และเธอก็มาทันพอดีที่เห็นพวกนางกำนัลเริ่มลงมือลอกคราบเด็กน้อยที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงพระพี่เลี้ยง รีบร้องเสียงหลงห้ามปรามทันที...ก่อนแก้ตัวว่าให้พวกนางกำนัลในห้องทั้งหมดให้ออกไปช่วยต้อนรับเหล่ราชอะคันตุกะที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองราชาภิเษกของฟาโรห์องค์ใหม่ เหล่านางกำนัลที่ถูกไล่ออกจากห้องมองหน้ากันอย่างงุนงง...แต่ก็ทำตามคำสั่งของพระพี่เลี้ยงแต่โดยดี... ด้วยรู้ดีว่าโอกาสที่ได้ต้อนรับราชอาคันตุกะที่มาจากต่างแดนเหล่านั้นมีไม่มาก..หากโชคดีพวกนางอาจจะได้ของกำนัลหรือรางวัลที่เหล่าผู้มาเยือนหยิบยื่นให้ และถ้าเป็นที่ถูกตาต้องใจ...บางทีพวกเธอจะได้สบาย หลุดพ้นการเป็นข้ารับใช้เสียที เมื่อเหล่านางกำนัลออกไปหมด...เหลือเพียงพระพี่เลี้ยงอยู่ในห้องกับคนที่นอนนิ่งไม่ได้สตินางถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใจ...ก่อนจะหันไปมองเด็กน้อยที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง เกือบไปแล้วไหมล่ะเจ้าคะ นายน้อย...ซายาไม่อยากให้ใครรู้ว่าเด็กน้อยที่นอนอยู่บนเตียงเป็นผู้หญิงด้วยรู้ดีว่าองค์ฟาโรห์ของตนนั้นโปรดปรานหญิงงามเพียงใด และถ้ารู้ว่านายน้อยของเธอเป็นหญิงสถานที่เดียวที่นายน้อยจะได้ไปอยู่ก็คือ ฮาเร็ม และจะไม่ได้กลับไปยังดินแดนแห่งทะเลทรายอีกต่อไป นายน้อย...ฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ ?? ที่นี่ที่ไหน ?? เด็กสาวมองรอบข้างอย่างงงงวย...ทุกอย่างตรงหน้าดูไม่คุ้นตาเลยแม้แต่น้อย เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง...เมดูอาพยายามทบทวนความทรงจำก่อนที่ตนจะหมดสติไปแต่เหมือนกับภาพนั้นเลือนลางจนต่อกันไม่ติด วังหลวงของฟาโรห์โอซาเมซิสเจ้าค่ะ... คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เมดูอาลุกพรวดด้วยความตกใจความทรงจำที่เลือนลางแจ่มชัดขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าตนเองเข้ามาอยู่ในอุ้งมือของศัตรูแล้ว ต้องไปจากที่นี่... ให้ไวที่สุด ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่ภาพที่ปรากฏภายในดวงตาสีทรายกลับรู้สึกถึงทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้ากำลังหมุนรอบตัวไปมา...จนทำให้เธอแทบจะทรงตัวไว้ไม่อยู่ ร่างบางที่นั่งโงนเงนไปมาจนถูกคนที่อยู่ข้างกายประคองให้นอนลงอีกครั้ง...โดยที่ร่างกายของเธอก็ไม่สามารถขัดขืนได้ นายน้อยยังป่วยอยู่... อย่าพึ่รีบลุกสิเจ้าคะ เมดูอาหันไปมองหน้าอีกฝ่าย ผู้หญิงคนนี้เรียกเธอว่านายน้อยมาสองครั้ง...คำว่านายน้อยนั้นเป็นคำที่คนในเผ่าใช้เรียกแทนตัวของเธอยามอยู่ในกองคาราวานไม่น่าจะมีใครเรียกเธอแบบนี้ได้ในดินแดนของศัตรู เว้นแต่ว่า... พระพี่เลี้ยงยิ้มให้กับคนที่นอนอยู่บนเตียงราวกับจะรู้ว่าเด็กสาวสงสัยในสิ่งใดอยู่...และเธอก็คิดว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะเฉลยความจริงให้ทราบโดยไม่ต้องพูดให้มากความถึงตอนนี้จะไม่มีใครอยู่ในห้อง แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าอาจจะมี ใครกำลังแอบฟังอยู่ก็ได้... ดวงตาสีทรายเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นนางคนนั้นถลกคอเสื้อข้างหนึ่งเพื่อที่จะโชว์บางสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในชุดนางกำนัลตรงไหล่ข้างขวาปรากฏรอยแผลเป็นนูนมีรูปร่างคล้ายพีระมิดที่คว่ำลงอยู่ภายใต้วงกลมแห่งอักขระภาพที่แปลเป็นความหมายได้ว่า... ผู้กวาดล้างราชวงค์ที่16 แห่งอียิปต์ตอนกลางคือ
ฟาโรห์อาโมส คนที่มีตราประทับแบบนี้ได้มีเพียงเชลยทาสชาวฮิคโซสเท่านั้นเพื่อเป็นการบอกพวกฮิคโซสที่ครั้งหนึ่งเคยครอบครองอียิปต์ว่าอย่าได้เผยอมาครอบครองอียิปต์อีกครา ปีระมิดคว่ำ...ตราทาสของชาวฮิคโซส พระพี่เลี้ยงขององค์ฟาโรห์ใข้นิ้วชี้ปิดปากอีกฝ่ายไม่ให้พูดดวงตาที่กวาดไปรอบๆ ทั้งที่ในห้องไม่มีใครอยู่ทำให้เมดูอาเข้าใจความหมาย...ประโยคต่อมาเด็กสาวจึงเบาเสียงลงให้ได้ยินเพียงสองคน เจ้า...คือญาติของราชิดงั้นฤๅ เรื่องราวถูกประติดประต่อได้ทันทีทาสชาวฮิคโซสที่อยู่ในวังแถมเป็นนางกำนัลเป็นใครไปไม่ได้...นอกจากคนที่เธอต้องการพบ และเธอคงจะได้พบ...ถ้าไม่ถูกพาตัวเข้ามาในวังเสียก่อน เจ้าค่ะซายาเป็นพี่สาวคนละแม่ของราชิด...คนที่นายน้อยสงจดหมายให้ออกไปเจอกันนอกวัง นางกำนัลดึงคอเสื้อกลับขึ้นมาตามเดิมเมื่อเห็นว่าเมดูอาเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้เร็วกว่าที่คิดทำให้ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายแต่นางก็ยังสังเกตว่าดวงตาสีทรายยังคงมีแววสงสัยบางอย่างที่ยังต้องการคำตอบ นายน้อยคงจะสงสัยใช่ไหมเจ้าคะว่า...ซายารู้ได้ยังไงว่านายน้อยเป็นใคร เด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงพยักหน้า... เมื่ออาการวิงเวียนศีรษะเริ่มดีขึ้นเจ้าตัวพยายามจะทรงตัวลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง คราวนี้ซายาไม่ได้ห้ามปรามนางพยุงตัวอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆพลางสังเกตสีหน้าของนายน้อยที่บัดนี้ซีดและเย็นชื้นไปด้วยเหงื่อ เอาเป็นว่านายน้อยอ่านจดหมายฉบับนี้ ก็จักทราบคำตอบทั้งหมดเองนะเจ้าคะ กระดาษหยาบกระด้างที่ทำมาจากเยื่อปาปิรุสถูกดึงมาจากด้านในเข็มขัดของหญิงวัยกลางคนเมดูอารับมันไปคลี่ก่อนจะไล่สายตาอ่านตัวอักษรของชาวฮิคโซสที่เขียนข้อความไว้ในนั้น เมอา...น้องรัก พี่ฝากกระดาษนี้มากับญาติของราชิดเพื่อให้น้องได้รู้ว่าพี่ได้พบกับคนที่เจ้าต้องการเจอแล้วและพี่ก็ได้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับตัวเจ้าให้นางได้รู้นางรับปากว่าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดีในขณะที่ยังอยู่ในดินแดนอียิปต์ ส่วนพี่จำเป็นต้องรีบเดินทางกลับไปที่เผ่าของเราเพื่อไปแจ้งข่าวให้ท่านอาเมททราบ ไม่ต้องเป็นห่วง...พี่จะรีบหาทางพาตัวเจ้ากลับมาโดยไวที่สุดอดทนก่อนนะเมอา...เจ้าต้องทำทุกอย่างเพื่อให้มีชีวิตรอดรอวันที่พวกเราจะมาพาเจ้ากลับไป เมฟู ดวงตาสีทรายมีแววครุ่นคิดเมื่ออ่านจดหมายนั้นจบ...เมดูอารู้ดีว่าจะไม่มีวันรอให้พรรคพวกเข้ามาช่วยเหลือเธอเพียงคนเดียวมันเสี่ยงเกินไปหากคนในเผ่าโดนจับได้...เมื่อนั้นความลับก็จะไม่เป็นความลับอีกต่อไปโอซาเมซิสอาจจะรู้ว่าเธอเป็นใคร และถ้ารู้...มีหรืออีกฝ่ายจะปล่อยลูกหลานของศัตรูให้ลอยนวลไปง่ายๆเธอต้องเป็นฝ่ายออกไปจากที่นี่เอง...แต่ก่อนที่จะออกไปจากที่นี่อยากน้อยต้องได้ความลับของศัตรูมาอยู่ในมือให้ได้ เธอไม่คิดมาก่อนว่าจะเข้ามาอยู่ในมือของศัตรูได้ง่ายดายและรวดเร็วเช่นนี้แต่เมื่อได้เข้ามาแล้วก็ไม่อยากจะเสียโอกาสอันดีนี้ไป...อย่างน้อยเธอต้องได้อะไรบางอย่างติดมือกลับออกำไปด้วย ซายา...เจ้ามีทางที่จะติดต่อราชิดได้ใช่ไหม? ก็...พอมีเจ้าค่ะ แต่ว่า...อาจจะช้านิดหน่อยซายาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าป่านนี้กองคาราวานจะอยู่ที่ไหนว่าแต่นายน้อยจะทำอะไรหรือเจ้าคะ หญิงในชุดนางกำนัลมองคนที่นั่งอยู่บนเตียงอย่างสงสัยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำยังไงต่อไป... เธอเองก็รู้ดีพอๆ กับที่ชาวฮิคโซสคนอื่นรู้ เด็กน้อยแห่งคำพยากรณ์...ได้ถือกำเนิดแล้วผู้ที่จะนำพวกเขาสู่อิสรภาพและได้กลับคืนบ้าน...ตอนนี้อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว แต่การที่ชาวฮิคโซสจะได้คืนบ้านที่เคยเป็นอียิปต์ตอนกลางนั้นมีทางเดียวคือต้องรบกับพวกอียิปต์ตอนบนเพื่อชิงเอาดินแดนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของเธอกลับคืนมา ซายาไม่อยากเห็นการฆ่าฟันไม่อยากให้ใครต้องล้มตายอีก... ไม่ว่าจะเป็นพวกของเธอ นายน้อยหรือแม้แต่ฟาโรห์โอซาเมซิสที่เธอเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากให้ทั้งสองฝ่ายสามารถหาทางออกที่สันติและมีความสุข แต่ซายารู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้...การที่จะได้โดยไม่ต้องสูญเสียนั้นเธอมองไม่เห็นทางเลย ส่งข่าวให้ราชิดรู้ที ไม่ต้องให้ใครมารับ...เมื่อถึงเวลาข้าจักออกไปเอง ความตั้งในที่จะรีบออกจากวังหลวงไปให้เร็วที่สุดแปรเปลี่ยนเมื่อเด็กสาวคิดได้ว่านี่อาจจะเป็นหนทางเดียวที่เธอสามารถจะหาจุดอ่อนของศัตรูได้ไวที่สุด... ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าวังแต่เหมือนเทพเจ้าเซตดลบันดาลให้งานของเมดูอาสำเร็จผลอย่างรวดเร็ว...แล้วใยเธอจักต้องปฏิเสธ ดวงตาสีทรายมองคนตรงหน้าหากความคิดนั้นล่องลอยไปถึงคนที่เป็นหัวหน้าเผ่าฮิคโซสถ้าพ่อรู้ข่าวว่าเธออยู่ในมือของศัตรูคงจะคิดแบบเดียวกันกับเมดูอาแน่นอน...เธอมั่นใจ แต่คนที่เด็กสาวเป็นห่วงที่สุดก็คือเมฟู...เขาคงจะไม่ยอมอยู่เฉยตามคำสั่งของพ่อแต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเธอต้องให้พ่อควบคุมเมฟูไม่ให้มาทำให้แผนการนี้พัง จุดอ่อนของโอซาเมซิส...เธอต้องหาให้เจอ !! เด็กสาวก้มลงมองตัวเองที่อยู่ในเครื่องแต่งกายชุดเดิมก่อนที่จะหมดสติพลางนึกกังวลบางอย่างขึ้นมา...ถ้าหากโอซาเมซิสรู้ว่าเธอเป็นหญิงเรื่องมันคงแย่กว่านี้แน่ๆ ดีไม่ดีตานั่นอาจจะพาเธอเข้า ฮาเร็มส่วนพระองค์ก็เป็นได้และเมื่อนั้นความหวังที่จะได้ก้าวเท้าออกไปนอกวังเป็นอันจบสิ้น ซายา... ข้าอยากให้ซายาช่วยข้าอีกเรื่องหนึ่งเด็กสาวมองหน้าของหญิงวัยกลางคนด้วยสายตาอ้อนวอน ในขณะที่อีกฝ่ายมองเจ้าของดวงตาสีทรายด้วยความแปลกใจเจ้าต้องปิดเป็นความลับ...อย่าให้ใครล่วงรู้เด็ดขาดว่าข้าเป็นหญิง ใคร...คนที่เมดูอาหมายถึงนั้น ซายาเองก็พอจะรู้ว่าเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...ฟาโรห์โอซาเมซิส นายน้อยไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ซายารับรองว่าจักไม่บอกใครเด็ดขาดว่านายน้อยเป็นหญิง คำตอบของพระพี่เลี้ยงทำให้ดวงตาสีทรายมีรอยยิ้มจนคนที่มองอยู่ถึงกับตาค้างราวกับถูกสะกดสงสัยนางคงต้องบอกนายน้อยแล้วว่าอย่าเผลอทำตาแบบนี้ให้องค์ฟาโรห์เห็นเป็นอันขาด...ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะไม่ได้ออกไปจากที่นี่ง่ายๆแน่นอนถึงแม้จะอยู่ในสภาพของผู้ชายก็ตาม แล้ว...นายน้อยจะให้ซายาเรียกนายน้อยว่ายังไงดีเจ้าคะ ขืนเรียก นายน้อย ต่อไปแบบนี้...มีหวังฟาโรห์โอซาเมซิสสงสัยแน่นอนว่านายน้อยเป็นใครกันแน่ เด็กสาวเห็นด้วยกับคำพูดนั้น มือเล็กเท้าคางใช้ความคิด...ถ้าบอกชื่อจริงไป ตานั่นอาจจะตามสืบได้ แต่ถ้าใช้ชื่ออื่นไปเลยเมดูอาอาจจะเผลอตัวทำให้อีกฝ่ายจับได้ว่าเธอใช้ชื่อปลอมทางที่ดีที่สุดต้องใช้ที่เธอคุ้นเคยและต้องไม่มีใครรู้ นอกจาก... ใช่...นอกจากคนที่สนิทกันจะใช้เรียกขานซึ่งก็มีแต่ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านป้า พี่เมฟูและราชิดเท่านั้นที่เรียกชื่อเธอแบบนี้ เอาเป็นว่าเจ้าเรียกข้าว่า เมอา ก็แล้วกัน ซายาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย...ชื่อนี้ไม่บ่งบอกว่าเป็นหญิงหรือชาย เหมาะที่นายน้อยจะใช้ที่สุด โอเอซิสที่อยู่ไม่ไกลจากอียิปต์ตอนบนที่นั่นคือที่ตั้งของกองคาราวานแห่งเผ่าฮิคโซสเมเทเทปสั่งให้หยุดเดินทางเพื่อรอเมดูอาและเมฟูที่จะกลับมาจากอียิปต์ตอนบนภายในวันนี้ผู้คนในเผ่าต่างพากันเตรียมอาหารเย็นเมื่อแสงแห่งเทพเจ้าราเริ่มเสด็จไปทางทิศตะวันตก ไนล่าที่กำลังเตรียมอาหารเพื่อรอรับการกลับมาบุตรีฮัมเพลงพื้นเมืองในลำคอบ่งบอกถึงความสุขที่กำลังจะเดินทางมาในเย็นนี้ ท่านพี่น่าจะกลับมาพร้อมลูกนะ หญิงสาวต่อว่าอย่างไม่จริงจังนักเมื่อเห็นอีกฝ่ายควบม้ากลับมายังกองคาราวานเพียงลำพังไม่มีร่างของบุตรีและหลานชายตามมาด้วยอย่างที่คิด เมดูอาจักไปพบกับญาติราชิดก่อนกลับ เมเทเทปไม่ได้บอกคู่ชีวิตของตนให้ทราบว่าเมดูอากำลังป่วยด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะวิตกเกินเหตุแต่เจ้าตัวเองกลับมีความกังวลลึกๆ อยู่ในจิตใจหลังจากเดินทางออกมาจากตัวเมืองยิ่งห่างจากเมดูอาความกังวลนี้เหมือนจะใหญ่ขึ้นเป็นเงาตามตัว ลางสังหรณ์บางอย่างบอกเขาว่า...เขาเองก็น่าจะกลับมาพร้อมกับลูกดวงตาสีทรายที่แดงก่ำไปด้วยพิษไข้ทำให้เขาไม่อาจจะสลัดความวิตกนั้นทิ้งลงไปได้เลย แต่... วันนี้เมดูอาบอกแล้วว่าจะกลับคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก เมเทเทปบอกตัวเองก่อนที่จะตัดใจเดินไปทางกระโจมของราชิดที่อยู่อีกฟากของกองคาราวาน...นับตั้งแต่เสียลูกเมียไปราชิดก็เหมือนจะปิดใจและปิดกั้นตัวเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครราวกับจะลงโทษตัวเอง มีเพียงเมดูอาเท่านั้นที่ราชิดยอมเปิดใจให้...รอยยิ้มของเด็กน้อยเหมือนจะช่วยเยียวยาบาดแผลในจิตใจของราชิดให้ทุเลาลง...เมเทเทปรู้ดีว่าราชิดเห็นเด็กสาวเหมือนตัวแทนของลูกน้อยที่จากไป หากเมดูอาเกิดเป็นอะไรไป...ราชิดคงไม่มีกำลังใจเหลืออยู่ในโลกนี้ กระโจมของราชิดเปิดออกพอดีกับที่หัวหน้าเผ่าก้าวมาถึงราชิดมองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจที่วันนี้เมเทเทปมาหาตนถึงกระโจม นายท่านมีอะไรหรือเปล่า... ทำไมวันนี้ถึงมาหาข้าถึงนี่ ?? เมเทเทปพยักหน้าก่อนที่จะถามราชิดว่ากำลังจะออกไปไหนหรือเปล่าราชิดรีบส่ายหน้าก่อนจะบอกผู้เป็นนายว่าตนแค่จะไปอาบน้ำเท่านั้นเมเทเทปจึงบอกให้อีกฝ่ายรีบไปอาบน้ำก่อน...กลับมาแล้วเขามีเรื่องจะคุยด้วย ราชิดก้มหน้ารับคำแต่ยังไม่ทันได้ทำตามอย่างใจคิดเขาก็เห็นฝุ่นควันฟุ้งตลบมาจากทิศทางหนึ่งชายวัยกลางคนชี้ชวนให้เมเทเทปดู หัวหน้าเผ่าชาวฮิคโซสหันไปเห็นอาชาตัวหนึ่งควบมาอย่างรีบเร่งตรงมายังกองคาราวานก็นึกสงสัย...เมื่อภาพนั้นชัดขึ้นเขาก็พบว่าเป็นม้าของเมฟูและบนหลังของมันก็มีร่างของบุรุษหนุ่มนั่งอยู่ เมเทเทปมองหาอาชาสีหมอกที่น่าจะควบตามมาติดแต่จนแล้วจนรอดเขาก็เห็นเพียงอาชาเพียงตัวเดียวเท่านั้น...และการควบม้าแบบนั้นเมเทเทปรู้โดยทันทีว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้นกับเมดูอาแน่ๆ อาชาสีน้ำตาลไหม้ถูกสั่งให้หยุดแทบจะทันทีที่คนบนหลังม้าเห็นคนที่ต้องการพบเจอ เขาควบม้ามาตั้งแต่เที่ยงยังไม่ได้หยุดพักหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะต้องมาแจ้งข่าวให้เมเทเทปโดยไวเพื่อจะได้รีบไปช่วยเหลือเมดูอาที่ตอนนี้ตกอยู่ในมือของศัตรู เมเทเทปถามถึงบุตรีทันทีที่เมฟูลงจากหลังม้าสีหน้าของเมฟูดูไม่ดีเลยในยามนี้...แต่เขาพยายามนึกไปทางด้านดีเมดูอาคงจะไม่สบายมากจนเดินทางกลับไม่ได้...เมฟูเลยกลับมาแจ้งข่าวก่อนเพื่อไม่ให้เขาเป็นห่วง แต่พอทราบเรื่องจากปากของเมฟู ผู้เป็นบิดาของเด็กสาวถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่...ราชิดเองก็มีสีหน้าซีดเผือดไม่ต่างกัน เขาหันมามองหน้าเมเทเทปด้วยแววตาหวาดวิตก นายท่าน...รีบไปช่วยนายน้อยกันเถอะ เสียงของราชิดเรียกสติของเมเทเทปให้กลับคืนมาอีกครั้ง...ตอนนี้ลูกของเขากำลังตกอยู่ในอันตรายเขาต้องรีบไปช่วย แต่... ถ้าเขาเป็นเมดูอา ใช่...เมดูอากับเขามักจะคิดคล้ายกันถ้าเขาเป็นเมดูอาเขาคงจะไม่อยากให้ใครเข้าไปช่วย ตอนนี้ยังไม่มีใครในอียิปต์ตอนบนทราบว่าเมดูอาเป็นนายน้อยแห่งเผ่าฮิคโซสทุกคนรู้แต่เพียงว่าเด็กน้อยเป็นชาวเบดูอินธรรมดา แต่ถ้าหากเขาและคนของเขาเข้าไปช่วยลูกเมื่อนั้นฟาโรห์แห่งอียิปต์ตอนบนต้องทราบทันทีว่าเมดูอาเป็นใคร... คนธรรมดาสามัญคงไม่มีใครกล้าบุกวังหลวงเพื่อชิงตัว...แต่ถ้ามีคนกล้านั่นหมายความว่าเมดูอาย่อมไม่ใช่คนธรรมดา...อาจจะทำให้ฐานะที่แท้จริงถูกเปิดเผยในที่สุด และอาจจะทำให้เมดูอามีอันตรายมากกว่าเดิม เขาจะให้คนของเขาเข้าไปในวังหลวงไม่ได้...มันเสี่ยงเกินไปและมองไม่เห็นทางที่จะบุกกเข้ารังศัตรูเพื่อที่จะนำลูกออกมาโดยปลอดภัยไม่เจอ มีทางเดียวเท่านั้น...ต้องรอให้เมดูอาเป็นฝ่ายออกมาข้างนอกเอง ผู้เป็นใหญ่ในเผ่าฮิคโซสยกมือห้ามเมื่อราชิดและเมฟูจะไปเกณฑ์คนในเผ่าให้มารวมตัวกัน...ก่อนจะเรียกให้ทั้งสองคนเข้าไปคุยกันในกระโจมกันมิให้ผู้อื่นแตกตื่น...หากทราบว่าเมดูอาถูกศัตรูจับไป ในขณะที่ราชิดและเมฟูไม่เข้าใจว่าทำไมเมเทเทปถึงไม่รีบไปช่วยเมดูอาแต่เมื่อได้ฟังหัวหน้าเผ่าเล่าแล้วราชิดเข้าใจได้แทบจะทันที ในขณะที่เมฟูมีอาการฮึดฮัดไม่ยอมทำตามคำสั่งอีกฝ่าย ถ้าไม่มีใครไป... ข้าไปช่วยน้องคนเดียวก็ได้ เมฟูไม่ยอมให้เมดูอาตกไปอยู่ในอันตรายเป็นอันขาดต่อให้มีเพียงตัวคนเดียวเขาก็จะไปชิงเอาตัวน้องกลับคืนมา หยุดเดียวนี้นะเมฟู !!...นี่เจ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของอาแล้วหรือไร ?? แต่...ข้าเป็นห่วงน้อง เมอาเป็นลูกของอานะ...เมฟู อาเองก็เป็นห่วงไม่แพ้กัน แต่ เชื่ออาเถอะ...เมอาน่ะเอาตัวรอดได้ถ้าพวกเราบุกเข้าไปช่วย...เมอาจะไม่มีทางรอดอีกเลย คำพูดของเมเทเทปทำให้เมฟูจนหนทางความหวังเพียงหนึ่งเดียวถูดปิดลงไปแล้ว... ดวงตาขุ่นมัวลงตามอารมณ์ของตน...คำพูดของเมเทเทปถึงแม้จะจริงแต่เขาก็ไม่อยากจะยอมรับว่าเขาเข้าไปช่วยน้องไม่ได้เขาต้องรอ...รอ...และรอเท่านั้นเองฤๅ โธ่เว้ยยยยยยย !! ชายหนุ่มปัดผ้าปิดกระโจมออกอย่างแรง ก่อนจะพาร่างของตัวเองออกไปสงบสติอารมณ์ข้างนอก (โปรดติดตามตอนต่อไป) |
อมฤดา & ธัญณัฐฐ์
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] ผลงานและบทความทุกชิ้นที่ปรากฏใน Bloggang ของ boonchompu-tunnut ได้รับการคุ้มครองและสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15 และ 27) ไม่อนุญาตให้นำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด...ไปเผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดัดแปลง จำหน่าย ให้เช่า คัดลอก เลียนแบบ ทำสำเนา การทำให้ปรากฏต่อสาธารณชน ไม่ว่าในรูปลักษณะอย่างใดหรือวิธีใด...โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเด็ดขาด หากพบเห็นการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ผิดกฏหมายของข้าพเจ้า...จะขอดำเนินการทางกฏหมายทั้งทางแพ่งและอาญาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |