|
ถวายคืนพระราชอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ : คิดให้ดีก่อนเทใจ
กระแส ถวายคืนพระราชอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ หรือที่เรียกว่า การปฏิรูปการเมืองรอบสองนั้น ช่างเป็นคำตอบที่เหมาะสมลงตัวยิ่งสำหรับ จุดหมาย ในกระบวนการ ไล่ทักษิณเพื่อแผ่นดินไทย ที่ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งพยายามต่อสู้ปลุกปั้นขึ้น
ทั้งนี้เนื่องจากที่แล้วมา เป้าหมาย ของการออกมาไล่นายกนั้นเป็นไปด้วยความไม่ชัดเจน และนำไปสู่คำถามที่ใครๆก็ตอบยาก คือ ถ้านายกลาออก ยิงตัวตาย หรือหนีออกนอกประเทศ แล้วจะให้ใครเป็นนายก แล้วจะทำอย่างไรต่อไปกับประเทศไทย?
ผมเชื่ออย่างยิ่ง ว่า ถ้าใครสักคนถือไมค์ไปที่สวนลุมในวันศุกร์ แล้วไปถามว่า หากทักษิณลาออก คุณอยากเห็นใครเป็นนายก เชื่อว่าคำตอบส่วนใหญ่จะเป็นการอึกๆอักๆ ไม่รู้จะออกไหนดี เพราะการไล่นายกหลังการเลือกตั้งใหญ่ไม่ถึงปีนั้นมันเร็วไปจนกระทั่งทางฝ่ายค้านเองก็ยังไม่สามารถปั้นตัวแข่งขึ้นมาได้ทันในขณะนี้
ดังนั้นการชูธง ถวายคืนพระราชอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จึงเป็นการเสนอทางออกที่ชาญฉลาด เพราะนอกจากจะฟังดูดีสมเป็นข้าแผ่นดินนักจงรักภักดีแล้ว ยังสามารถ ซื้อเวลา ที่จะตอบคำถามไปได้อีกว่าการเมืองหลังจากทักษิณจะเป็นไปในทางใด เพราะต้องรอทั้งกระบวนการถวายคืนพระราชอำนาจ แก้รัฐธรรมนูญเก่าเพื่อการดังกล่าว ยกเลิกรัฐธรรมนูญเก่า ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เตรียมการเลือกตั้ง ฯลฯ ไม่ต่ำกว่าสองปีแหละครับ ถึงได้เห็นหน้านายกใหม่ หรือรูปแบบการเมืองใหม่
แต่แนวทางนี้มันฟังดูดีและซื้อเวลาได้ดีอย่างที่ว่า ประกอบกับมี นักกฎหมายมหาชน บางกลุ่ม ที่เชื่อว่าเป็น บิดา แห่งกฎหมายมหาชนผู้สมควรยิ่งในการชี้นำทิศทางของรัฐธรรมนูญประเทศ มุ่งจะขายไอเดียการ ร่างรัฐธรรมนูญโดยอภิชนาชน (Elite) ของตัวเองอยู่แล้ว เรื่องนี้เลยกลายเป็นการจับมือกันแทคทีมที่เข้าท่าและต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ เหมือนเหยินน้อยกับเอโต้แห่งบาเซโลน่า คนนึงได้ธงไว้ตอบคนเวลาไล่ทักษิณ อีกคนได้ขายไอเดีย ไม่เพลียใจ ผมอยากให้เราตั้งสติกันนิดหนึ่งก่อนเทใจไปกับข้อเสนอดังกล่าว ที่ฟังดูดี แต่มันจะคุ้มแล้วหรือ ? กับการที่เราจะ ทิ้ง รัฐธรรมนูญ (ที่ครึ่งหนึ่งเราเคยเชื่อกันว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเท่าที่มหาชนจะพึงร่างกันได้) รัฐธรรมนูญที่มาโดยวิธีประชาธิปไตยมากที่สุดครั้งหนึ่ง และเราใช้กันมาแปดปีแล้ว ไปสู่ รัฐธรรมนูญที่เชื่อว่าดีกว่า แต่ยังมองไม่เห็น เพราะมีเพียง ข้อเสนอและกรอบ จากนักวิชาการกลุ่มหนึ่ง ซึ่งไอ้ที่เห็นจะเป็นรูปธรรมหน่อย ก็คือวิธีการร่าง ซึ่งมุ่งเน้น ปราชญ์ หรือเฉพาะกลุ่มคนผู้มีปัญญาในสังคมเป็นผู้กำหนด ประชาชนคนไทยมีสิทธิเพียง เอา หรือ ไม่เอา รัฐธรรมนูญแสนวิเศษที่ปราญช์ท่านร่างขึ้นมา ?
ผมขอเตือนความจำบางอย่างไว้สองสามข้อดังนี้
เราต้องไม่ลืมว่า การเปลี่ยนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เราไม่ได้เสียเฉพาะรัฐธรรมนูญไป แต่เราจะต้องทิ้งกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญเดิมไปด้วย และแม้กฎหมายบางฉบับไม่ใช่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญโดยสภาพ แต่มันได้ถูกร่างมาโดยมีพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เช่น กฎหมายก่อตั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญบางองค์กร กฎหมายที่อนุวัติการตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายพวกนี้ก็อาจะจะต้องยกร่างใหม่ หรือแก้ใหม่ หากรัฐธรรมนูญใหม่มีหลักการที่เปลี่ยนแปลงในเรื่องดังกล่าวจากจากรัฐธรรมนูญปัจจุบัน
นอกจากนี้ แนวบรรทัดฐานต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญนี้ ไม่ว่าจะเป็นแนวบรรทัดฐานของศาลรัฐธรรมนูญก็ดี แนวการดำเนินการขององค์กรรัฐสภาหรือฝ่ายบริหารก็ดี เป็นอันต้องทิ้งไปหมด
การเลิกรัฐธรรมนูญเก่า และจัดให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ เรามีงานที่ต้องทำมากมาย และมี ต้นทุน กว่าแค่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญนั้น
และเราต้องไม่ลืมว่า กฎหมายนั้นเป็นศาสตร์ทางสังคม ที่ไม่เหมือนวิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่สังคมศาสตร์อื่นๆ ที่อาจทดลองได้ในห้องทดลอง หรือทำโมเดล ตั้งสมการทดสอบ หรือจัดการทดลองกลุ่มเล็กได้ (แบบเศรษฐศาสตร์)
แต่การทดลองทางกฎหมาย มีทางเดียวไม่มีทางเลือก คือการนำกฎหมายนั้นใช้บังคับในสภาพจริง แล้วเก็บข้อมูล ข้อดี ข้อเสีย ช่องว่าง ข้อผิดพลาด ข้อที่เหมือนจะดีแต่ปฏิบัติไม่ได้ ข้อบกพร่องที่คาดไม่ถึง และนำไปสู่การตีความ อธิบาย การอุดช่องว่าง การวางบรรทัดฐานเกี่ยวกับกฎหมายนั้น รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายนั้นเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย
ขอเรียนว่าไม่มีระบบกฎหมายใดในโลกที่สมบูรณ์ทันทีเมื่อยกร่างประกาศใช้ กฎหมายทุกระบบจะต้องผ่านประสบการณ์ในการใช้ และการแก้ไข ตีความ อุดช่องว่าง ยิ่งนาน ยิ่งสมบูรณ์
ดังนั้น มันคุ้มแล้วหรือ กับการที่จะ ทิ้ง รัฐธรรมนูญที่เราได้ทดลองในระบบสังคมไทยและประเทศไทยมาเกือบสิบปี ทิ้งไปง่ายๆ ทั้งๆที่เรามี ผลการทดลอง อยู่แล้วเต็มมือ เรารู้ช่องว่างของรัฐธรรมนูญนี้ว่ามีตรงไหน เรารู้ว่ามีข้อความตรงไหนที่กำกวมต้องตีความ เรารู้ว่าจุดใดในรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้แต่ทำไม่ได้ หรือก่อภาระและต้นทุนแก่ประเทศเกินสมควร และเรามีบรรทัดทางรัฐธรรมนูญจากศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรตามรัฐธรรมนูญมากมาย (ดีบ้าง ห่วยบ้าง ไม่เป็นไร อันดีเราเก็บ อันห่วยเราแก้)
แต่กับรัฐธรรมนูญใหม่ เราต้องทิ้งผลการทดลองเหล่านี้ไปแล้วเริ่มใหม่ทั้งหมด... กับเนื้อความของรัฐธรรมนูญที่เราไม่เห็น และยังไม่เห็นในอนาคตอันใกล้ และถึงเห็นแล้วก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่า มันจะสงผลดี หรือก่อปัญหาใดๆในระบบการเมืองบ้างหรือไม่ เพราะมันไม่ได้ทดลองใช้งานในสภาพการใช้งานจริง ในสังคมที่ไม่เหมือนใครอย่างประเทศไทย
หากไม่พอใจรัฐธรรมนูญใหม่นี้จะทำอย่างไร ? และประเทศไทยเราจะเข้าสู่กระบวนการทดลองทางรัฐธรรมนูญนี้ต่อไปอีกกี่ครั้ง ?
และที่อยากจะบอกให้ไม่ลืม คือรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ ก็มาจาก ต้นตำรับแนวคิด ของนักวิชาการชั้นบรมครูท่านดังกล่าวนั่นเอง ที่เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง Constitutionalism: ทางออกของประเทศไทย ไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยข้อเสนอหลักของบรมครูท่านนั้น คือข้อเรียกร้องให้สร้าง รัฐบาลที่เข้มแข็ง แก้ไขความอ่อนแอของรัฐบาลระบบเก่าที่เรียกว่ารัฐบาลผสม (coalition government) ที่มีพรรคการเมืองหลายพรรคมาร่วมให้การสนับสนุนทำให้รัฐบาลผสมขาดนโยบายหลักของรัฐบาลที่ชัดเจนและแน่นอนเพราะรัฐบาลผสมจำเป็นรอมชอมในเรื่องของนโยบายและผลประโยชน์ทางการเมืองกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ความจำเป็นดังกล่าวไม่เพียงแต่จะทำให้นโยบายของรัฐบาลขาดความเป็นเอกภาพและชัดเจนเท่านั้น แต่ยังทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลไม่มีความแน่นอน... ที่เหลือโปรดหาอ่านเอาได้จากห้องสมุดกฎหมายใกล้บ้านท่าน
ในตอนนั้น แนวความคิดของบรมครูท่านนั้นได้รับการยอมรับอย่างมากในแวดวงวิชาการกฎหมายมหาชน นักศึกษากฎหมายมหาชนทุกคนต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ และเล่มอื่นๆของท่าน ส.ส.ร. ในสมัยนั้นได้นำแนวความคิดของท่านไปใช้ในการร่างรัฐธรรมนูญปัจจุบัน (ปี ๒๕๔๐) จนกระทั่งปรากฏแนวทางการร่างไว้ในคำปรารภของรัฐธรรมนูญจนถึงทุกวันนี้
เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันร่างและประกาศใช้เสร็จใหม่ๆ นักกฎหมายในแวดวงของท่านบรมครู ต่างออกมาแซ่ซ้องสรรเสริญว่าท่านนี่แหละที่เป็น บิดา ผู้ทรงคุณยิ่งต่อการปฏิรูปการเมืองไทย
แต่ในวันนี้ เราได้ผลการทดลองออกมาแล้วว่า แนวทางการสร้างรัฐบาลที่เข้มแข็งของท่านนั้น ก่อให้เกิด อสูร ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ขึ้น ตั้งแต่นั้นมา ขบวนการทวงบุญคุณประเทศก็เงียบเป็นเป่าสาก ไม่มีใครกล้าพูดถึง ต้นตำรับแนวคิด ที่ทดลองกันจนเป็นอสูรร้ายออกมาได้นี่กันอีกเลย
และผมขอแจ้งว่า ท่านบรมครู และนักวิชาการกลุ่มเดิมนั่นแหละครับ ที่เป็นผู้เสนอให้ ถวายคืนพระราชอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ (โดยอภิชนาชน)
ผมได้แต่เกาศีรษะ ว่า ปู่ๆ น้าๆ เขาจะทดลองทางนิติศาสตร์กับประเทศผมไปอีกเท่าไร ... ถ้าผมไม่เป็นอะไรตายไปในเร็ววัน ผม และคนรุ่นผมนี่แหละที่จะต้องเป็น หนู ทดลองให้ท่าน
ผมไม่ได้บอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ดีแล้ว เลิศแล้ว ไม่ควรแก้ไข ผมมองว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านการทดลองมาแปดปี พบข้อเสียจำนวนมาก พอๆกับข้อดี และเป็นเวลาอันสมควรที่เราจะแก้ไขกันได้แล้ว
แต่นั่นหมายถึงการแก้ไขในจุดบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นจุดๆ และพัฒนาในจุดอื่นๆด้วย บนพื้นฐานของรัฐธรรมนูญเดิม ที่เคยผ่านการทดลองมาแล้วอย่างโชกโชนในสภาพการเมืองไทย เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่แก้ปัญหาของประเทศมากขึ้น
ผมยินดีที่จะช่วยสนับสนุนข้อเสนอของฝ่ายใดก็ตาม ที่เรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันอย่างเป็นระบบ มีการวิจัยผลดีผลเสีย และนำเสนอแนวทางแก้ไข รวมทั้งอาจจะยกร่างแก้ไขเป็นตุ๊กตามาให้นักวิชาการ ผู้รู้ ประชาชนผู้สนใจถกกัน แก้กันว่า ข้อเสนอนั้นจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ เพียงไร และอาจจะก่อปัญหาใดๆเพิ่มหรือไม่
ดีกว่าการชี้นิ้วอย่างกราดเกรี้ยวว่ารัฐธรรมนูญนี้เลวทั้งฉบับ ล้มเหลวอย่างช่วยไม่ได้ สมควรเผาทิ้งแล้วเชิญปราชญ์ๆ มาร่างกันใหม่
ดีกว่าการชี้หน้าประชาชนว่า มึงโง่ก็อย่ามายุ่ง ให้เราคนฉลาดร่างกัน เดี๋ยวเสร็จแล้วค่อยมาดูว่าจะเอาหรือไม่เอา
ผมขอย้ำด้วยประโยคเดิมๆอีกครั้ง
แล้วจะทดลองเชิงนิติศาสตร์กันอีกกี่ที กับประเทศไทยของผม ?
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2548 |
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2548 9:58:20 น. |
|
17 comments
|
Counter : 760 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: มรกตนาคสวาท วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:22:48 น. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:38:26 น. |
|
|
|
โดย: Batgirl 2001 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:48:43 น. |
|
|
|
โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:52:24 น. |
|
|
|
โดย: สหายสิกขา IP: 203.150.208.66 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:14:04:51 น. |
|
|
|
โดย: จขบ. IP: 81.251.157.121 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:07:11 น. |
|
|
|
โดย: crazycloud IP: 61.90.250.73 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:20:19 น. |
|
|
|
โดย: POL_US วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:27:18 น. |
|
|
|
โดย: <a href="http://gelgloog.blogspot.com">gelgloog</a> IP: 221.128.109.47 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:19:42:55 น. |
|
|
|
โดย: LittleTiger IP: 58.8.244.91 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:15:50 น. |
|
|
|
โดย: ตุ้มเม้ง IP: 209.241.155.18 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2548 เวลา:2:04:01 น. |
|
|
|
โดย: บุญชิตฯ IP: 83.113.197.250 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:05:32 น. |
|
|
|
โดย: amyggie IP: 202.44.8.98 วันที่: 8 ธันวาคม 2548 เวลา:18:00:33 น. |
|
|
|
โดย: etat c'est moi IP: 202.28.103.16 วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:16:02:47 น. |
|
|
|
โดย: ปกป้อง IP: 202.28.62.245 วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:15:39:36 น. |
|
|
|
โดย: Plin, :-p วันที่: 17 มีนาคม 2549 เวลา:20:00:32 น. |
|
|
|
โดย: นะระยอง IP: 202.28.77.32 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:31:21 น. |
|
|
|
| |
|
|
Players |
|
|
|
|
อ่านแล้วคิดเหมือนเจ้าของบล็อกค่ะ
อีกนานแค่ไหน....