Cooking is my passion...Baking is my adventure...
Group Blog
 
All blogs
 

wedding cake...

วันนี้มาทำเค้กแต่งงานกันค่ะ...





เริ่มจากส่วนประกอบทั้ง 5 :
1. Plain Chiffon
2. French Buttercream
3. Spackle Paste
4. Sugarpaste or Rolled Fondant
5. Gumpaste

ส่วนประกอบที่ 1 : Plain Chiffon
สูตรนี้สำหรับถาดขนาด 9" x 2" และ 6" x 2" เพราะจะทำเค้ก 2 ชั้น...
ส่วนผสม :
Wet ingredients :
- น้ำเปล่า 4 ออนซ์
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำมันพืช 2 ออนซ์
- วนิลา 1 ช้อนชา
-----------------------------------------------------
Dry ingredients :
- แป้งเค็ก 8 ออนซ์
- น้ำตาล 5 ออนซ์
- ผงฟู 2 ช้อนชา
-----------------------------------------------------
Cold meringue :
- ไข่ขาว 4 ฟอง
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาล 3 อนนซ์
-----------------------------------------------------

เริ่มจาก Cold meringue ก่อน...โดยผสมเกลือลงไปในไข่ขาว พักไว้ 10 นาที...


จากนั้นนำไปตีด้วยเครื่องใช้ความเร็วต่ำ...ตีจนขึ้นฟอง ค่อย ๆ ทยอยใส่น้ำตาลลงไป อย่าใส่ทีเดียว เพราะจะทำให้ไข่ขาวไม่ขึ้นฟูเท่าที่ควร...
ตีให้ได้ medium peak คือ จุ่มตะกร้อลงในครีมแล้วตั้งหงายขึ้น ครีมจะตั้งยอดแล้วพับงอลง แต่ไม่แตะที่ตะกร้อ


ระหวางที่เครื่องทำงาน ก็มาร่อน dry ingredients เข้าด้วยกันทั้งหมด 4 ครั้ง...


จากนั้นมาผสม wet ingredients เข้าด้วยกัน แล้วตีด้วยตะกร้อมือ...นำ dry ingredients เทลงไป คนให้เข้ากัน...


แบ่ง 1/3 cold meringue ใส่ลงไปใน batter...จากนั้นค่อย ๆ fold ให้เข้ากัน


ตัก cold meringue ที่เหลือทั้งหมดลงไป แล้วตะล่อมด้วยพายยาง


เทใส่ถาดขนาด 9 นิ้ว และ 6 นิ้ว...อบที่ไฟ 360F 40 นาที....เสร็จแล้วก็จะได้แบบนี้ค่ะ


ส่วนประกอบที่ 2 : French Buttercream
ส่วนผสม :
Cook Sugar :
น้ำเปล่า 4 ออนซ์
น้ำตาล 1 ปอนด์
corn syrup 4 ช้อนชา
------------------------------------------------
Cold Sabayon :
ไข่แดง 7 ออนซ์
น้ำตาล 2.5 ออนซ์
------------------------------------------------
บัทเทอร์ 2 ปอนด์
วนิลา 1 ช้อนชา
------------------------------------------------

วิธีทำเริ่มจากตีไข่กับน้ำตาลด้วยเครื่อง ใช้ความเร็วสูงจนกว่าเนื้อไข่จะเปลี่ยนสีเป็นสีครีม...
หมายเหตุ ควรนำบัทเทอร์ไปตีด้วยเครื่องให้เนียนก่อนที่จะมาตีไข่กับน้ำตาล ตีบัทเทอร์เสร็จแล้ว ตักใส่ชามพักไว้


ระหว่างที่เครื่องตีไข่อยู่ ก็ไปทำ Cook Sugar... โดยผสมน้ำและน้ำตาล ต้นจนเดือด แล้วใส่ corn syrup ลงไป ต้มจนถึง 232 F or thread stage...


จากนั้น นำ Cook Sugar มาผสมลงไปใน Cold Sabayon ค่อย ๆ เติมทีละนิด ระวังกระเด็นด้วย เพราะ Cook Sugar ร้อนมาก หากหยดถูกชามอาจกระเด็นมาใส่ได้...


ใส่บัทเทอร์ที่พักไว้ในชามตามลงไป...ใช้ความเร็วต่ำ ตีจนเข้ากันดี ใส่วนิลาลงไป ตีอีกสักพัก ก็พอ...
หมายเหตุ ก่อนใส่บัทเทอร์ลงไป ให้นำชามใส่น้ำแข็งไปรองใต้ชาม mixer เพื่อให้ Cold Sabayon เย็นตัวลงมาถึง 70F ก่อน จึงค่อยใส่บัทเทอร์ลงไปผสม


ต่อไปก็เป็นขั้นตอนเลเย่อร์เค้ก ทาแยมและบัทเทอร์ครีม...ให้ทำเหมือนสูตร Princess Cake โดยพรมด้วย cake syrup ก่อน จากนั้นทาแอพพริคอทแยม และตามด้วย French Buttercream ที่ทำเสร็จข้างบน...
หมายเหตุ ให้ดูขั้นตอนจากสูตร Princess Cake

จากนั้นมาทำ Spackle Paste สำหรับปาดคลุมตัวเค้ก

ส่วนผสม
- French Buttercream 12 ออนซ์
- Cake crumbs 20 ออนซ์
- แอพพริคอทแยม 4 ออนซ์

นำทุกอย่างมาผสมกัน แล้วตีด้วยเครื่องโดยใช้ความเร็วต่ำ ใช้ paddle...ตีจนเข้ากันดีแล้ว ให้นำมาปาดรอบตัวเค้กแบบนี้


ต่อไปมาทำ Sugarpaste สำหรับคลุมตัวเค้ก...

ส่วนผสม (สำหรับทำเค้ก 2 ชั้น)
Gelatin powder 3 ช้อนชา
น้ำเย็น 6 ออนซ์
Powdered sugar 6 ปอนด์
Shortening 1/3 ถ้วย
Corn syrup 1 1/2 ถ้วย
Glycerine 3 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวนิลา 1 ช้อนโต๊ะ
Rose water 3/4 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ละลายผงเจลาตินในน้ำเย็น
2. เทน้ำตาลลงในชาม mixer
3. อุ่น shortening, corn syrup, glycerine แล้วนำผงเจลาตินที่ละลายแล้วผสมลงไป คนให้ละลาย
4. เทส่วนผสมที่ละลายดีแล้วลงในชาม mixer ที่มีน้ำตาลรออยู่ ตีส่วนผสมให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำ ใช้ paddle เข้ากันดีแล้ว เติมกลิ่นวนิลาลงไป เสร็จ

จากนั้น นำ Sugarpaste มาคลุมตัวเค้ก...ขั้นตอนเหมือนการคลุมตัวเค้กด้วย marzipan









มาถึงขั้นตอน decoration....ให้ทำดอกกุหลาบจาก gumpaste วิธีทำดูจาก Princess Cake...


ดอกไม้เรียบร้อยแล้ว...ก็หมดห่วง เหลือแต่ตกแต่งบนตัวเค้ก...อันนี้แล้วแต่ความถนัดนะ...
หมายเหตุ ใช้ Royal Icing ในการตกแต่งบนตัวเค้ก


ตกแต่งได้ที่แล้ว ก็เตรียมประกบเค้กเป็น 2 ชั้น...วิธีทำให้ใช้หลอดเป็นฐาน โดยปักลงไปบนตัวเค้กชั้นแรก แล้วนำเค้กชั้นที่สองมาวางลงไป...ใช้ Royal Icing เชื่อมแทนกาว

ส่วนผสม Royal Icing..
- powdered sugar 1 lb
- egg whites 3.5 oz.
- cream of tartar 1/4 ts.
ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วตีด้วยความเร็วต่ำจนได้ medium peak (ใช้ paddle)

ดอกไม้ที่ตกแต่งบนเค้กเรียกว่า brush embroidery...ต้องใช้ภู่กันช่วยในการทำ


วางเค้กชั้นที่สองลงไป...


ตกแต่งเพิ่มอีกหน่อยให้ดูสวยงาม เป็นอันเสร็จค่ะ...




 

Create Date : 07 มิถุนายน 2550    
Last Update : 10 มีนาคม 2551 1:07:19 น.
Counter : 4939 Pageviews.  

princess cake...

Princess Cake มีต้นตำรับมาจากประเทศสวีเดน





มีส่วนประกอบ 5 อย่าง คือ
1. Almond Genoise
2. Cake Syrup
3. Raspberry Jam
4. Creme Legere
5. Marzipan

เริ่มทำเค็กก่อน...ส่วนผสม ดังนี้
- 6 eggs
- 8 oz. sugar
- 7.5 oz. cake flour
- 2 oz. almond powder
- 3 oz. butter, melted
- 1 ts vanilla

ผสมแป้งเค็กกับผงอัลมอนด์เข้าด้วยกันด้วยมือ...


จากนั้น ผสมไข่ น้ำตาล และเกลือ เข้าด้วยกัน แล้วนำไปตีด้วยตะกร้อมือบนเตาไฟ ตีจนกระทั่งส่วนผสมมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนถึง 125 F หรือใช้นิ้วจุ่มดู ถ้ารู้สึกอุ่น ๆ ก็พอ...



จากนั้นนำมาตีด้วยเครื่อง ใช้ความเร็วสูงสุด (ประมาณ 5 นาที)
ขั้นตอนนี้เรียกว่า Cold Sabayon คือการนำไข่ น้ำตาล และเกลือ ไปตีให้ขึ้นฟูจนได้ ribbin stage



ตักส่วนผสมที่ตีเสร็จแล้ว (Cold Sabayon) ใส่ชามใหญ่ แล้วโรยส่วนผสมของแป้งเค็กกับผงอัลมอนด์ลงไป...จากนั้นก็ fold ให้ส่วนผสมให้เข้ากัน

Note : การ fold ต้องทำอย่างนิ่มนวลด้วยพายยาง ไม่ควร over fold เพราะจะไล่อากาศออกไปหมด เดี๋ยวเค็กจะไม่ขยายตัวตามต้องการ...หากมองไม่เห็นแป้งแล้ว ให้หยุดทันที
วิธีการ fold ให้ช้อนจากข้างล่างขึ้นข้างบน พร้อมกับหมุนชามไปรอบ ๆ
จากนั้น ราดเนยละลายอุ่นกับวนิลาลงไป...แล้ว fold ต่ออีกรอบเดียว...


เทใส่ถาดขนาด 9"x2" อบที่อุณหภูมิตามนี้
Convection Oven 325 F
Roasting Oven 360 F

ใช้เวลาอบอย่างน้อย 40 นาที...เช็คดูด้วยการใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงในตัวเค็ก ถ้าไม่มีอะไรติดขึ้นมาถือว่าใช้ได้แล้ว หรืออีกวิธีคือ ใช้นิ้วกดเบา ๆ ที่ตัวเค็ก ถ้าเนื้อเค็กเด้งกลับขึ้นมา ถือว่าใช้ได้...


รอจนเค็กเย็นตัวลง จากนั้นก็ตัดเนื้อเค็กส่วนที่เกินด้านบนทิ้งไป แล้วให้คว่ำเค็กลงบนฐานสำหรับใช้เป็นที่แบ่งเลเย่อร์เค็ก
ใช้ไม้จิ้มฟันเป็นตัวช่วยกำหนดจุดที่จะตัดแบ่ง ต้องวัดความสูงด้วยไม้บรรทัดก่อนนะคะ สูงชั้นละ 1/2 นิ้วเท่านั้น


จากนั้นต้องมาทำครีมที่จะใช้ระหว่างเลเย่อร์ชื่อว่า Creme Legere หรือ Creme Mousseline ครีมนี้มีส่วนประกอบมาจาก Pastry Cream ผสมกับ Heavy Cream

เริ่มต้นจาก Pastry Cream มีส่วนผสมดังนี้
- 1 3/4 cups milk
- 4 oz. sugar
----------------------------------
- 4 oz. sugar
- 2 oz. corn starch
- 2 oz. cake flour
- 1/4 cup milk
- 6 eggs
----------------------------------
- 4 oz. butter
- 1 tbs vanilla

ขั้นตอนนี้ไม่มีรูปภาพค่ะ...ให้ปฏิบัติ ดังนี้
1. นำนม 1 3/4 ถ้วย กับ น้ำตาล 4 oz. มาต้มให้เดือด แล้วพักไว้
2. ร่อนแป้งเค็ก น้ำตาล และ corn starch เข้าด้วยกัน 3 ครั้ง แล้วเติมนม 1/4 ถ้วยลงไป ค่อย ๆ เติม อย่าพรวดพราด เดี๋ยวแป้งจะเป็นไต คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ จากนั้นตอกไข่ 6 ฟองลงไป คนให้เข้ากันอีกที
3. นำส่วนผสมข้อ 2 ใส่ลงไปในข้อ 1 แล้วนำไปตั้งไฟปานกลาง คนด้วยพายยางเร็ว ๆ จนเข้ากันดี ให้ลดไฟลงมาเป็น medium low แล้วคนต่อจนได้ความเหนียวนุ่ม ให้ยกลงจากเตา
4. หั่นเนยเป็นท่อนเล็ก ๆ โรยลงไป ไม่ต้องคน รอให้ความร้อนในหม้อเป็นตัวละลายเนยเอง ครีมเย็นตัวลงสักพักให้ใส่วนิลาลงไป แล้วคนให้เข้ากัน พักไว้
5. นำ Pastry Cream ที่ได้ไปชั่ง ได้เท่าไหร่ให้หารด้วย 2 เพื่อเป็นตัวกำหนดว่า จะใช้ Heavy Cream เท่าไหร่ ยกตัวอย่าง ถ้า Pastry Cream หนัก 2 โล ก็ให้ใช้ Heavy Cream 1 โล

ขั้นตอนต่อไปก็ทำ Creme Legere กันเลย...โดยนำ Heavy Cream ไปตีด้วยความเร็วสูงสุด จนได้ soft peak (when the peak lays on the whisk) เช็คดูโดยการยกตะกร้อหงายขึ้น ถ้ายอดครีมพับลงบนตะกร้อ (ไม่ใช่พับลงมาแล้วลอดผ่านตะกร้อไปนะ) ถือว่าได้ soft peak

Noet :
medium peak หมายถึง ยอดครีมพับลงมาแต่ขดตัว ไม่แตะตัวตะกร้อ
stiff peak หมายถึง ยอดครีมตั้งตรง ไม่มีการพับลงมาเลย

หลังจากตี Heavy Cream ได้ที่แล้ว ก็นำมาผสมกับ Pastry Cream ที่พักไว้

ป.ล. ให้ตี Heavy Cream เพิ่มอีก 2 ถ้วย ให้ได้ stiff peak เพื่อใช้ปาดหน้าเค็ก (แยกตีจากข้างบน)



ทำ Cake Syrup ก่อนนะคะ
- 1 cup water
- 1/3 sugar
- 1 tbs orange liquid flavor
- 1 ts vanilla
ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันเป็นอันเสร็จ...

มาประกอบตัวเค็กเลยค่ะ
1. วางเค็กชิ้นแรก พรมด้วย Cake Syrup ตามด้วยแรสเบอรี่แยม ตบท้ายด้วย Creme Legere
2. ทำซ้ำอีกรอบ


3. วางเค็กชิ้นสุดท้าย พรมด้วย Cake Syrup แต่ไม่ต้องทาแยม...ใช้ Heavy Cream ที่ตีจนได้ stiff peak เป็นตัว icing รอบเค็ก..ทำด้านบนให้นูนขึ้นเล็กน้อย

เสร็จแล้วนำเค็กไปแช่เย็นก่อน...แล้วมาทำ Marzipan ต่อ



ส่วนผสม Marzipan :
- 1 lb. almond paste
- 1 lb. powder sugar
- 3 oz. corn syrup

ขั้นตอน
1. ผสมอัลมอนด์ กับ corn syrup เข้าด้วยกัน นำไปตีด้วยเครื่อง ใช้ความร็วต่ำ (ใช้ paddle)
2. ใส่น้ำตาลลงไป โดยค่อย ๆ ใส่ทีละน้อยจนหมด ตีจนเนียนและเข้ากันดีก็พอ

มาดูขั้นตอนการผสมสีเพื่อให้มีลายหินอ่อน โดยใช้สีสองสีผสมกัน...
1. เริ่มจากนวด Marzipan กับ powder sugar จากนั้นคลี่ออกเล็กน้อย แล้วแต้มสีที่ผสมกันแล้วลงตามจุดต่าง ๆ ตามใจชอบ อย่ามาก เดี๋ยวจะเลอะเทอะ
2. พยายามนวดจากด้านนอกเข้าด้านใน เพื่อไม่ให้สีเลอะติดมือ นวดแบบนวดแป้งนี่ล่ะ กลับทุก ๆ 90 องศา นวดประมาณ 7-10 ครั้ง จนสีทะลุออกมาด้านล่างก็พอ


3. ใช้ rolling pin นวด Marzipan ให้กระจายออกดังรูป ให้ได้ขนาดที่สามารถคลุมเค็กทั้งก้อนได้ ความหนาประมาณ 1/4 นิ้ว
ป.ล. เวลานวดให้ใช้ powder sugar โรยที่พื้นและตัว Marzipan ด้วย จะได้ไม่ติดหนึบหนับ

นวดได้ที่แล้วก็นำมาคลุมลงบนตัวเค็กเลยค่ะ...ใช้ rolling pin ช่วย โดยการม้วนแผ่น Marzipan ไว้ แล้วค่อยนำไปคลายจากด้านหนึ่งของเค็กไปสู่อีกด้านหนึ่ง...
คลุมเสร็จให้กดเบา ๆ ด้านบนให้อยู่ตัว แล้วค่อย ๆ ไต่ไปตามด้านข้าง...ใช้นิ้วค่อย ๆ กดลงจากด้านบนลงด้านล่าง ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ทำจนรอบ..แน่ใจว่าติดแน่นแล้ว ก็ตัดขอบที่เกินทิ้งไป...


วิธีทำดอกกุหลาบด้วย marzipan
เริ่มจากปั้น marzipan เป็นเส้นยาว ๆ แล้วตัดแบ่งย่อยออกมาเป็น 6 ชิ้นเท่า ๆ กัน...นำ 2 ชิ้นแรกมารวมกัน แล้วปั้นเป็นกรวยแบบในรูป...ที่เหลือ 4 ชิ้น ให้ใช้ฝ่ามือทาบให้แบน
ป.ล. ใช้ powdered sugar โรยที่โต๊ะก่อนปั้น จะได้ไม่ติดหนึบหนับ


จากนั้นใช้ด้านล่างช้อนพลาสติกคลึงทั้ง 4 ชิ้นให้ปลายบานออกอย่างในรูป...


นำกลีบที่ได้มาคลึงในอุ้งมือ ให้มีส่วนเว้าตรงกลาง...


จากนั้นนำกลีบแรกมาม้วนเข้ากับกรวย...พยายามให้ปลายปิด เพราะกลีบแรกจะเป็นฐานของกุหลาบด้านใน...


เสร็จแล้วก็ประกอบกลีบที่ 2 เข้าไป...ตามด้วยกลีบที่ 3 ตามรูป...ใช้น้ำเป็นตัวช่วยในการประกบแต่ละกลีบ...


ทำดอกกุหลาบเสร็จแล้ว ก็นำไปตกแต่งบนตัวเค้ก...





 

Create Date : 06 มิถุนายน 2550    
Last Update : 10 มีนาคม 2551 1:07:44 น.
Counter : 2506 Pageviews.  

sachertorte...

ขอประเดิมสูตรแรกกับเค้กยอดนิยมของชาวบล็อกแก๊งค์...
สูตรนี้เป็นสูตรดั้งเดิมของออสเตรีย มีชื่อเป็นทางการว่า Sachertorte หรือ Sacher Cake...





เค้กนี้มีส่วนประกอบทั้งหมด 5 อย่าง
1. Sponge Cake
2. Kirsch Syrup
3. Apricot Jam
4. Filling
5. Icing

ส่วนประกอบที่ 1 : Sponge Cake เป็นเค้กช็อกโกแลตที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Chocolate Genoise
ส่วนผสม :
- 6 oz. cake flour
- 2 oz. cocoa powder
---------------------------
- 7 eggs
- 9 oz. sugar
- 1/4 ts. salt
---------------------------
- 3 oz. hot butter
- 1 ts. vanilla
---------------------------

วิธีทำ
1. ร่อนแป้งเค้กกับผงโกโก้ด้วยกัน 5 ครั้ง


2. นำไข่ น้ำตาล และเกลือ ผสมลงในมิกเซอร์ ใช้ตะกร้อมือตีให้เข้ากันบนเตา (ใช้ไฟอ่อน) ตีประมาณ 3-5 นาที จนกว่าจะได้ระดับอุณหภูมิที่ 125F ถ้าไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ ใช้นิ้วจุ่มลงไป ถ้ารู้สึกอุ่น ๆ ก็พอ


3. จากนั้นนำส่วนผสมไปตีด้วยความเร็วสูง จนกว่าจะเปลี่ยนเป็นสีครีม ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที


4. ผสมแป้งเค้กและผงโกโก้ลงไป การผสมแบ่งออกเป็น 3 ครั้ง ๆ ละเท่า ๆ กัน...แต่ละครั้งให้ใช้วิธีตะล่อมเบา ๆ ด้วยพายยาง
หมายเหตุ : เวลาตะล่อมแป้ง พยายามเก็บอากาศไว้ให้มากที่สุด เค้กจะได้ขยายตัวได้ในขณะที่อบ ถ้าตะล่อมมากเกินไป จะทำให้สูญเสียอากาศในตัว batter


5. ผสม warm butter กับกลิ่นวนิลาเข้าด้วยกัน แล้วพรมลงไปบน batter จากนั้นค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากันอีกหนึ่งรอบ เทใส่ถาดขนาด 9"x2" อบที่ 360F 40-50 นาที


อบเสร็จแล้ว เค้กควรขยายตัวเกินขอบถาดขึ้นมาตามรูป เพราะต้องปาดเอาด้านหน้าที่มีเนื้อกระด้างออก...


ส่วนประกอบที่ 2 : Kirsch Syrup คือ น้ำเชื่อมที่ใช้พรมเค้ก Kirsch เป็นบรั่นดีทำจากเชอรี่
ส่วนผสม :
- 1/4 cup kirsch brandy
- 1 cup water
- 1/3 cup sugar

วิธีทำ
1. นำบรั่นดีไปต้มให้เดือดจนกระทั่งปริมาณลดลงจนเหลือแค่ 2 ชต.
2. ผสมน้ำกับน้ำตาลเข้าด้วยกัน คนให้ละลาย จากนั้นใส่บรั่นดีผสมลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้

ส่วนประกอบที่ 3 : Apricot Jam ใช้แยมสำหรับทำเบเกอรี่ เนื้อจะแน่นกว่าแยมทั่วไป

ส่วนประกอบที่ 4 : Filling เป็น Chocolate Ganache
ส่วนผสม :
- 20 oz. chocolate couverture or dark chocolate
- 16 oz. heavy cream
- 1 tb. corn syrup
- 9 oz. butter



วิธีทำ
1. ต้ม heavy cream พอเดือด (ถ้าเห็นฟองผุดรอบ ๆ ก็พอ)
2. เทช็อกโกแลตทั้งหมดลงไป (ควรหั่นเป็นชิ้นย่อย ๆ จะได้ละลายเร็วง่ายขึ้น) ใช้ตระกร้อมือคนเร็ว ๆ ให้เข้ากันประมาณ 2-3 นาที
3. ใส่ corn syrup ตามลงไป แล้วคนให้เข้ากัน (corn syrup ทำให้ช็อกโกแลตแวววาว)
4. จากนั้นใส่บัตเตอร์ตามลงไป คนให้เข้ากันประมาณ 5 นาที
5. เทใส่ถาดแล้วนำแช่เย็น..เพื่อให้ช็อกโกแลตอยู่ตัวก่อนนำมาปาดระหว่างเลเย่อร์



ต่อไปก็นำเค้กมาเลเย่อร์เป็น 3 ชั้นเท่า ๆ กัน...นำ Chocolate Ganache ออกจากตู้เย็น



พรมเค้กแต่ละเลเย่อร์ด้วย Kirsch Syrup ตามด้วย Apricot Jam และ Chocolate Ganache...



จากนั้นปาดรอบตัวเค้กด้วย Chocolate Ganache ที่เหลือ..แล้วนำแช่ตู้เย็น 10 นาที



ระหว่างที่เค็กแช่เย็นอยู่ ก็มาทำ Icing

ส่วนประกอบที่ 5 : Icing คือ ช็อกโกแลตที่ใช้ราดตัวเค้ก เรียกว่า Chocolate Glaze
ส่วนผสม :
- 20 oz chocolate couverture or dark chocolate
- 16 oz. heavy cream
- 1 tbs corn syrup

วิธีทำ
1. ต้ม heavy cream พอเดือด แล้วใส่ช็อกโกแลตทั้งหมดลงไป จากนั้นให้ปิดฝาหม้อไว้ 5 นาที
2. เปิดฝาหม้อ แล้วใช้ตระกร้อมือคนช็อกฯ กับครีมให้เข้ากัน...คนให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ ค่อย ๆ คนหมุนไปตามเข็มนาฬิกา ให้ตระกร้อติดที่ก้นหม้อ ห้ามยกขึ้นมาเลย
หมายเหตุ ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ๆ ทำแบบนี้เพื่อไม่ให้ช็อกโกแลตที่จะใช้ราดหน้ามีฟองอากาศ อาจใช้เวลา 7-10 นาที จนกว่าช็อกฯ กับครีมจะเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จะมีสีเข้มขึ้น (ห้ามยกตระกร้อออกจากหม้อเด็ดขาด จนกว่าจะเสร็จทุกขั้นตอน)
3. ใส่ corn syrup ลงไป แล้วคนให้เข้ากันต่ออีกประมาณ 2-3 นาที
4. ยังไม่ให้เอาตระกร้อออกนะ ให้พักตระกร้อในหม้อ รอให้ช็อกฯ เย็นตัวลงสัก 1 นาที แล้วค่อย ๆ ยกตระกร้อออกมา



เสร็จแล้วนำเค้กออกจาตู้เย็น..ใช้กระดาษซับเหงื่อที่ออกจากตัวเค้กก่อนทำการราดด้วยช็อกโกแลต...



ราดได้เลยค่ะ...เทลงตรงกลางเค้ก



เสร็จแล้วก็แต่งหน้าตามใจชอบ...แต่ต้นตำรับต้องเขียนหน้าด้วยคำนี้ Sacher...




 

Create Date : 04 มิถุนายน 2550    
Last Update : 10 มีนาคม 2551 1:08:04 น.
Counter : 4432 Pageviews.  

1  2  

bonbini
Location :
CA United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




Friends' blogs
[Add bonbini's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.