กรึ๊บกรึ๋ย.............................. บรึ๋ยส์
Group Blog
 
All blogs
 
::::: 25 ส.ค. 47 :::::






คัดลอกจาก

+++ กาทู้... เสียหมา น้ำตาตก ... +++ 25 ส.ค. 47
//topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/E2979525/E2979525.html



อิอิ...
วันนี้ขอเล่าอะไรให้ฟัง(อ่าน) ยาวหน่อยนะคะ

หลายๆคนคงทราบแล้วว่าชื่อของแม่หนูนวลมีที่มาจากไอ้สี่ขาลูกรัก...

หนูนวลเป็นสาวโพธาราม
เจ้าของเขาว่าแม่เป็นมิเนเจอร์ฯ แต่ตัวพ่อนั้นมิปรากฏกายให้เห็น...
คาดว่าเป็นหมานินจา ที่แอบแฝงมาในยามวิกาล... อิอิ

ที่เขาว่ากันว่าคนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่งก็คงไม่ผิดนัก...
ไม่เชื่อลองไปดูหน้าหนูนวลที่เคยเอามาอวดสิคะ... สวยจะตายไป... เน๊อะ

วันที่เราพบหน้ากันครั้งแรก คือ 8 มีนา'45
ตอนนั้นไอ้ลูกหมานี่ตัวบางเฉียบ หน้ายาวแหลม หูใหญ่
แต่ตั้งกางเด่นเป็นสง่าอยู่บนหัวเล็กๆ
และมีขนสีนวลๆอ่อนๆ สั้นแต่ไม่เกรียน และนุ่มละมุนมือ

เมื่อพิจารณาดูใกล้ๆ ก็พบว่าคุณเธอเดาะใส่ถุงเท้าสีขาวทั้งสี่ข้าง
มีหางดอกสีขาว และแต้มยาวๆสีขาวกลางหน้าผาก
และชื่อนวลนั้นก็ได้มาจากสีขนนั่นเอง...

คืนแรกที่เรานอนด้วยกัน
เจ้าตัวน้อยนี่พยายามตะกายออกจากตะกร้า
มุดเข้ามาซุกในผ้าห่มผืนเดียวกับเรา พ่อและแม่หนูนวล...

เป็นเวลานานนับเดือนที่เราต้องคอยจับมันออกจากที่นอนไปใส่ตะกร้า...

แต่อย่างที่คนเลี้ยงหมาทุกคนทราบดี
ผลสุดท้ายเจ้าหมาตัวดีเป็นฝ่ายชนะ

หนูนวลเป็นหมาที่นิสัยเหมือนหมา...
ชอบคลุกคลีกับคน และในระยะหลังๆจะช่วยต้อนรับลูกค้าที่มาเที่ยวอยู่เสมอ...
ครั้งแรกที่หนูนวลพบหน้าใครก็ตาม มักต้อนรับด้วยเสียงเห่าทุ้มต่ำ
จนใครๆนึกว่าคุณเธอเป็นตัวผู้
แต่หลังจากถูกดุพอเป็นพิธี เจ้าตัวดีจะเข้ามาพลิกคว่ำพลิกหงาย ประจบประแจงคนแปลกหน้า...
ใครเรียกหาเป็นโผล่หน้าไปเมียงมองทันที
และอาจจะจัดอยู่ในประเภทหมาว่าง่าย กับคนอื่น... ยกเว้นเจ้าของ

ช่วงขวบปีแรกของนวล ได้เดินทางไปกลับกรุงเทพฯ-สามร้อยยอดแทบทุกอาทิตย์
มันจึงชินกับการนั่งชูคอบนตักที่เบาะข้างคนขับ
และนอนคอพับอยู่เบาะหลังเมื่อเริ่มเลี้ยวเข้าสู่แยกวังมะนาว...


มีอยู่คราว... ราวค่ำวันอาทิตย์ ในช่วงเดินทางกลับกรุงเทพฯ
หนูนวลนอนหลับปุ๋ยอยู่เบาะหลังเช่นเคย
และแทบไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ
ก๊าซไข่เน่ามหาประลัยลอยกรุ่นจากเบาะหลัง ท่วมท้นมาถึงเบาะหน้า
ระลอกแล้วระลอกเล่า...
ฝนเม็ดหนาหนักภายนอก ทำให้ไม่สามารถยื่นจมูกไปสูดอื่นใดได้แม้แต่น้อย

โอ... ลูกเอ๋ย... เจ้าช่างทำพ่อกับแม่ได้ลงคอ...


**********

เมื่อหนูนวลเริ่มหอม มีหนุ่มมาตอมให้หึ่ง...
แม่หนูนวลเริ่มมองหาวิธีป้องกัน
ก็แหม... วัยรุ่นสมัยนี้ ไว้ใจได้ที่ไหนกัน

เจ้ากางเกงอนามัย คืออุปกรณ์ช่วยเหลือที่ดีทีเดียว
สีชมพูแปร๋น กับระบายจีบฟูฟ่องดูไม่ค่อยเข้ากับหมาหน้าแหลมเท่าใดนัก
แหม... ถ้าเปลี่ยนเป็นหนูปอมหรือพูเดิ้ล คงจะรับกับกางเกงที่ว่านี้...

แต่เจ้ากรรม วันนั้นที่ไซท์งาน... ด้วยความกลัวว่าลูกจะท้องไม่มีพ่อ
แม่หนูนวลเลยปล่อยไอ้ลูกหมาไปวิ่งเล่นอย่างสบายใจเฉิบ ทั้งกางเกงสีชมพูฟูฟ่อง
ลืมนึกไปว่าคุณเธอจะฉี่จะอึอย่างไร
จนเมื่อบ่ายคล้อยนั่นแล้ว จึงเรียกให้มันกลับมาใกล้ตัว
หนูนวลมาถึงก็กระโดดให้อุ้มปั๊บ... ตามประสาหมาสุดเลิฟ

... อย่างที่คิดนั่นแหละค่ะ
หอมรัญจวนเต็มอ้อมแขนกันทั้งแม่ทั้งลูก
เป็นอันว่าวันนั้นหมดสบู่ไปเกือบหนึ่งก้อน เพราะมันฝังแน่นเกินกว่าที่เห็น



สมัยเด็กๆ หนูนวลเป็นหมาไว้หุ่น อกตึงเอวคอด แต่ดูแข็งแรงอยู่ในที

จนสาวแรกผ่านไปและหายหอมแล้ว
แม่หนูนวลก็จัดแจงหอบหิ้วไปขึ้นเขียงที่โรงพยาบาลสัตว์เกษตร ที่พึ่งพิงเสมอมาตั้งแต่หมาก่อนๆ
หมอและเจ้าหน้าที่ใจดีทุกคน ชอบพูดคุยกับหมามากกว่าเจ้าของไข้... อิอิ
เจ้าน้อยหน่า มะนาว มะเฟือง มะไฟ ถั่วเหลือง ไอติม และถ้วยฟู ล้วนเคยมาเที่ยวที่นี่แล้วทั้งนั้น
บางตัวมาตั้งแต่ตรงนี้ยังเป็นอาคารเก่าๆเล็กๆแต่อบอุ่น
ส่วนหนูนวล มาครั้งแรกที่ตึกใหม่นี้เลย

คิวนัดที่ทำไว้ล่วงหน้า ทำให้ไม่เสียเวลารอนาน
หนูนวลได้ขึ้นเขียงสมใจนึกของแม่มันในช่วงสาย
ระหว่างรอผ่าตัดอยู่นั้น เจ้าของไข้บางรายดูกระวนกระวายใจ บ้างก็พูดคุยซักถามกันให้อุ่นใจ
คนที่พาสัตว์เลี้ยงมาทำหมันอย่างแม่หนูนวล ดูค่อนข้างผ่อนคลายกันแทบทุกคน เพราะรู้ดีว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

วันนั้นบังเอิญโชคดี ได้พี่คนขับรถเขียวเหลืองใจดี พามาส่งอย่างนุ่มนวลถึงบ้าน
แม่หนูนวลชอบใจนักที่มักจะเจอคนขับใจดี จอดอยู่ในจุดที่เจ้าของไข้มักพาสัตว์เลี้ยงมายืนรอ
คุณยามที่นั่นยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่
เห็นใครหอบหิ้วพะรุงพะรังลงมาจากหน้าตึก
ก็จะกุลีกุจอออกไปโบกรถให้มาจอดใกล้ๆ จนแทบจะเกยอยู่ตรงหน้า...


และแล้ว... ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น
หนูนวลก็เปี๋ยนไป๋...

อกที่ตึงอยู่แล้วก็ยิ่งหนั่นนูนจนแทบปริ เอวคอดสวยเริ่มย้วยแต่แข็งปั๋ง
เนื้อน่องฟีบๆหายไป กลายเป็นมัดตึงเป่ง

หนูนวลในยามนี้ดูมั่นใจ เต็มไปด้วยพละกำลัง...
ยิ่งกระแสนักยกน้ำหนักหญิงมาแรงอย่างนี้
หากมี Animolimpic เมื่อไหร่ พี่ป้าน้าของหนูนวล คงได้มาร่วมฉลองชัยกันแน่ๆ

สิ่งพิสูจน์กำลังกายของหนูนวลอย่างหนึ่ง ที่เล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อ...

...คือเมื่อราวต้นเดือนพฤศจิกา'46 หลังจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ในแถบนี้เริ่มลดระดับลงจนเกือบเป็นปกติ
ที่บ้านแม่หนูนวลก็เริ่มถมกลบถนนที่ขุดไว้เป็นทางระบายน้ำชั่วคราว

หนูนวลและพี่ย่นก็ออกมาสนุกกับเค้าด้วย...
ในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่กับจอบและพลั่ว
กระบะ D4D สีบรอนซ์คันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วต่ำอย่างเกรงใจคนทำงานริมถนน

พี่ย่นนำหน้าหนูนวล วิ่งไล่กวดด้วยความคะนอง
หนูนวลเห็นดังนั้นไม่รอช้า ปาดหน้ารถด้วยความเขลา
กันชนหน้ากระแทกปังแบบเบาๆ แต่หนูนวลกลับหลุดเข้าไปใต้ท้อง
ขณะนั้นคนขับเหยียบห้ามล้อไว้หนึ่งครั้ง ก่อนจะค่อยๆออกรถเพราะเข้าใจว่าหนูนวลไปพ้นวิถีรถแล้ว

ด้วยความตกใจ ไอ้หมานวลจึงวิ่งออกมาหมายจะให้พ้นท้องรถ
แต่ด้วยจังหวะรถและความกลัวจับใจของหมา
ทำให้มันเลือกโผล่ออกมาระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง

ด้วยตาสี่คู่ และเสียงดังเหมือนรถหล่นจากหลังเต่าดังตึบ
ทำให้ทุกคนมั่นใจว่าฝังแน่ๆ...
แต่มันก็รอดมาได้ พร้อมรอยเย็บเล็กๆ จำนวนสามเข็ม ที่ขาหน้าข้างขวา
และยังทิ้งรอยแผลเป็นมาถึงทุกวันนี้...

ตั้งแต่รอดชีวิตคราวนั้น... หนูนวลได้ชื่อใหม่ว่าอีเหนียว

อีเหนียวมีอาการฝ่อรถราขวักไขว่อยู่แค่ไม่กี่เดือน
เมื่อแผลใจหายสนิท กิจกรรมไล่กวดรถก็กลับคืนมาเหมือนเก่า
จนทุกคนทำใจไว้ว่า ไม่วันใดก็วันหนึ่ง...
เราคงได้แซะมันออกจากถนนเป็นแน่แท้


สิ่งที่แม่หนูนวลเป็นห่วงที่สุด หากนวลจากพวกเราไปในวันใดวันหนึ่ง คือพ่อหนูนวล
เพราะนี่คือหมาตัวแรกในชีวิตที่ได้เลี้ยงและอุ้มชูมาตั้งแต่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
แต่สำหรับแม่หนูนวล การเสียน้ำตาให้หมาดีๆ เป็นเรื่องปกติของชีวิตมาตั้งแต่จำความได้


อยากจะบอกว่า... คืนนี้แม่หนูนวลต้องนอนคนเดียวค่ะ

ไม่มีไอ้จอมซนให้ทะเลาะด้วยอีกต่อไปแล้ว.....
ไม่มีหมาขี้เล่นมาคอยแย่งงับรองเท้าเวลาแม่หนูนวลเดินไปมา...
ไม่มีไอ้ปากเหม็นมาเลียหน้าเลียตาตอนเช้า...
ไม่มีอีกแล้ว...


ตอนนี้หนูนวลหลับสบายแล้วค่ะ... และคงจะไม่มีวันตื่นมาให้แม่หนูนวลเห็นหน้าอีก...


ตอนนี้เหลือแต่พี่ย่น... ตัวใหญ่ใจดีที่มักจะนอนเฝ้าอยู่หน้าห้องเสมอ
พี่ย่นจะไม่ลุกไปไหนจนกว่าแม่หนูนวลจะเปิดประตูห้องออกมาทักทาย

แต่ไม่รู้ว่าวันสองวันนี้ พี่ย่นจะยังอยู่เป็นเพื่อนแม่หนูนวลต่อไปหรือเปล่า


เมื่อช่วงสามทุ่ม พี่ย่นมายืนกระวนกระวายใจอยู่ที่หน้าประตูกระจก
แม่หนูนวลนึกว่าพี่ย่นคิดถึงหนูนวลที่เพิ่งหลับยาวไปเมื่อเย็น
เลยเปิดประตูไปทักทาย... แต่พอเห็นพี่ย่นทำท่าขย้อน พร้อมกับกล้ามเนื้อขาหลังกระตุกสั่นอย่างแรง
จึงรีบกรอกไข่ดิบล้างท้องเป็นการด่วน

สิ่งที่ขย้อนออกมาคือกระดูกไก่สองสามชิ้น
ไก่มรณะนี้เป็นผลงานของเพื่อนบ้านตัวแสบ...ที่พาลทุกกระบวนท่า...
เพราะรู้ว่าแม่หนูนวลรักหมายิ่งนัก...


ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตสองขาหลังตรงที่มีจิตใจหยาบกระด้าง ยังหลงเหลือรอดไว้เป็นสายพันธุ์แสบ

แค้นเคืองกับคน ก็น่าจะมาประลองกันอีกซักรอบ

ไม่ใช่ขี้แพ้ชวนตี ทำตัวลอบกัดเยี่ยงต่ำหยาบช้า...

คนพาลสันดานโฉดนั้นเคยเจอมาก็มาก

แต่ไม่เคยพบถ่อยทรามอย่างนี้มาก่อน...



เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีเสียงลอยลมอย่างเจาะจงมาเข้าหูว่าจะจัดการหมาที่เข้าไปถ่ายมูลไว้ให้สิ้นซาก
แม่หนูนวลตอบไปว่า ของที่บ้านนั้นถูกฝึกสอนมาให้ไปจัดการธุระในทุ่งฝั่งตรงข้าม
และไม่เคยก่อปัญหาให้ใครในย่านนี้ ด้วยล้วนมีหมาในครอบครองกันทั้งสิ้น ต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกันตามประสา
และที่ทางแถวนี้ออกกว้างขวาง สวนมะพร้าวและทุ่งท่าอีกมากมายมีให้หมาถ่ายมูล

แม้จะระมัดระวังและออกเตือนเพื่อนบ้านอื่นๆ
ก็ไม่วาย...

แต่ช่างมันเถิดค่ะ...
คนพรรค์นั้นน่ะ ไม่ควรค่าให้ใส่ใจ แม่หนูนวลตีค่าเป็นศูนย์...
คนพาล... มักมีเรื่องร้อนมาให้เสมอ
หากยิ่งร้อนกลับไป จะกลายเป็นดึงให้ตัวเราต่ำเทียมเขา...

แม่หนูนวลเชื่อว่าสิ่งใดที่กระทำไว้ ย่อมคืนสนองแต่ตัวตนของผู้นั้น

สงสารแต่นวลค่ะ... ตัวเกร็งและกระตุกอยู่พักใหญ่ๆ
แม่หนูนวลกับน้าเทืองช่วยกันกรอกไข่ไปมากทีเดียว... แต่มันสายเกินไป
ตัวของนวลร้อนระอุเหมือนไฟทีเดียว...
มีแต่เมือกเหนียวที่ขย้อนออกมาได้เท่านั้น

น้าเทืองว่าเป็นแลนเนต... นิยมใช้กันมาก เพราะหาซื้อง่าย ไม่มีกลิ่นให้ชวนสงสัย

ตอนนี้แขนของแม่หนูนวลตรงส่วนที่นวลขย้อนใส่ ยังแสบอยู่เลยค่ะ
แค่เราโดนผิวนิดๆยังแสบร้อนขนาดนี้
แล้วเจ้าหนูนวลจะเจ็บขนาดไหนก็ไม่รู้....


----------------27 ส.ค. 47---------------

แหะ แหะ ... วันนี้ค่อยยังชั่วแล้วค่ะ

เมื่อวานไร้สติสุดๆ... สาวๆที่บ้านต้องคอยเตือนว่าลืมนู่นลืมนี่ อันนี้ทำหรือยัง... อะไรประมาณนี้อะค่ะ

พอตกเย็นพ่อหนูนวลกับยายหนูนวลมาถึง ก็พยายามไม่เจอหน้ากัน ทักกันแป๊บนึงแล้วก็แยกกันไปอยู่คนละส่วนของบ้าน
ทำงาน ทำงาน วุ่นวาย วุ่นวาย จนซักสี่ทุ่ม... เก็บของเรียบร้อย คุณลูกค้าแยกย้ายไปเข้านอนกันหมด ก็เลยมานั่งคุยกัน...จนน้ำตาท่วมบ้าน

เริ่มตั้งแต่หนูนวลพ้นสายตาไปไม่นาน แล้วพี่ย่นคาบถุงไก่ทอดคลุกยาออกมาให้น้าเทืองเห็น จึงได้ออกหาถุงไก่คลุกยาที่เหลือ
จนนำไปสู่หนูนวล... ที่กำลังนอนตัวเกร็งอยู่
น้าเทืองรีบแบกเค้าออกมาจากบ้านคนใจร้าย...
แม่หนูนวลรับช่วงต่อ จนเข้ามาเขตบ้านเรา...

แว่บแรกที่เห็นหนูนวล... คิดเอาไว้ในใจว่าคงไม่ได้วิ่งเล่นกับหนูนวลอีกแล้ว
แต่ก็พยายามเรียกชื่อหนูนวลตลอดเวลาที่พยายามกู้ชีวิตของเค้า
แม่หนูนวลบอกให้เค้าแข็งใจไว้ค่ะ... บอกให้สู้จนถึงที่สุด...

อย่างน้อย แม่หนูนวลก็ดีใจที่ได้อยู่เป็นเพื่อนเค้าจนวินาทีสุดท้ายแห่งชีวิต...




วันนี้หายต่อมน้ำตาแตกไปแล้วค่ะ...
แต่มองไปทางไหนก็ยังเห็นหนูนวลอยู่เลย...
ตรงโน้นก็ที่นอน... ตรงนี้ก็ที่เกลือกกลิ้ง...
คิดแต่เพียงว่าเค้าอยู่กับเราอย่างมีความสุขที่สุดได้แค่นี้
และขอเก็บภาพความทรงจำทั้งหลายไว้เป็นสิ่งหล่อเลี้ยงใจให้เบิกบานดีกว่า... เน๊อะ...



ขอบคุณทุกคนค่ะ
ขอบคุณ น้องไก่ ที่หลงเข้ามาน้ำตาตกเป็นอันดับแรก
ขอบคุณโอเล่สำหรับกำลังใจกลางดึก
ขอบคุณพี่ใช่ หนูอิน คุณ ตป. คุณ Lovable
ขอบคุณคุณตุ้มสำหรับเรื่องราวความผูกพันวัยเยาว์ รวมทั้งคุณตุ๊กกับบอย เจ้าแก้วฯ คุณAmante คุณฝัน
ขอบคุณแม่พี่อู๋ คุณผู้หญิงในแดดอุ่น คุณเศร้าครับ คุณนู๋นา คุณโสม ป๊อกพีศูนย์ S.F.H น้องนมก. คุณผมผ่านมาครับ คุณโย คุณLittle KaPom คุณ3ดา
ขอบคุณคุณก้อยสำหรับวิธีคั่วพริกกับเกลือ (อิอิ)
ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านเรื่องของหนูนวล...

แม่หนูนวลขอให้กุศลจิตของทุกท่านที่มีต่อสัตว์เลี้ยง ช่วยน้อมนำและกล่อมเกลาจิตใจมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม ให้มีจิตเมตตาสงสารชีวิตอื่นที่ร่วมทางกับเราใลกใบนี้...
อย่าได้คิดเบียดเบียนให้ตกเป็นกรรมอันจะผูกพันสืบเนื่องกันไปไม่รู้จบสิ้น

และขออโหสิกรรมในกับผู้หยุดลมหายใจหนูนวล เพื่อเป็นกุศลติดตัวแก่หนูนวลสืบไป...


ขอน้ำตาตกสั่งลาอีกทีเถอะค่ะ T.T อะฮือ...



-------------- 15 สิงหาคม 2550 -------------


ถึงวันนี้...แกยังอยู่ในใจฉันตลอดมานะไอ้หมานวล

และคิดว่า... คงอยู่ตลอดไป

จมูกดำๆชื้นๆ ขนนุ่มๆละมุนมือ

...ไม่เคยลืม จริงๆ





Create Date : 15 สิงหาคม 2550
Last Update : 15 สิงหาคม 2550 18:39:16 น. 3 comments
Counter : 359 Pageviews.

 
เห็นแม่หนูนวล หรือ มนน. บ่อยๆที่ห้องบีพีค่ะ หนิงเป็นประเภทไม่ตั้งกระทู้ ไม่โพส เป็นพวกอีแอบ แม่หนูนวลอาจจะไม่รู้จัก แหะ แหะ

ขอแสดงความเสียใจสุดซึ้งนะคะ ขอให้หนูนวลไปวิ่งเล่นบนสวรรค์ชั้นฟ้า ไม้ต้องเจ็บต้องปวดอีกต่อไป
ใครเลยจะรู้ ว่าสัตว์นั้นเลี้ยงไว้ยังมีประโยชน์กว่าคนบางประเภท เช่นคนที่ทำหนูนวลนั่นแหละค่ะ เวรกรรมคงตามทันไม่ช้าก็เร็ว

หนิงเคยมีน้องเหมียวจากไปเพราะอุบัติเหตุรถชน เสียใจอยู่นาน จนถึงวันนี้ก็ยังคิดถึงอยู่ เลี้ยงเค้ามา ก็รักเค้าไม่ต่างจากลูก หรือคนสนิทในครอบครัว ... ก็อยู่ด้วยกันนี่นา ...

ขอเป็นกำลังใจให้แม่หนูนวล ผ่านนาทีนี้ไปได้เร็วๆนะคะ


โดย: NSY วันที่: 15 สิงหาคม 2550 เวลา:20:20:38 น.  

 

ขอบคุณจ้า... คุณ NSY ที่แวะมาให้กำลังใจ







โดย: แม่หนูนวล วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:2:44:17 น.  

 
วันนี้เข้ามาอ่านเรื่องของหนูนวลแล้ว น้ำตาริน

แล้วก็ฟุ้งซ่านต่อไปว่าถ้าที่บ้านทั้ง 5 ตัวต้องจากไป

จะทำใจอย่างไร เพราะที่ผ่านมาก็เสียน้ำตาไปมากมาย

และคิดว่าจะไม่เลี้ยงอีก แต่เห็นเขาตัวผอม ๆ วิ่งหาของกิน

ก็อดใจไม่ได้ ไม่เห็นจะดีเสียกว่า ต้องเอามาเลี้ยง

แล้วก็เสียใจซ้ำซากอยู่อย่างนี้

ขอให้หนูนวลไปสู่ที่สนุกสนาน และเป็นกำลังใจให้แม่หนูนวลค่ะ


โดย: คุณป้ามหาภัย (jindawong ) วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:15:05:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แม่หนูนวล
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




::: ฮี่ฮี่ฮี่ :::
Friends' blogs
[Add แม่หนูนวล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.