Group Blog
 
All blogs
 

พาเที่ยวเกาะนางยวน สวรรค์บนดิน ตอนจบ

ผ่านมา 9 ตอนสำหรับการพาเที่ยวเกาะนางยวน ตอนนี้ตอนจบแล้ว
ก็จะเป็นการสรุปการดินทางไปเที่ยวครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่เริ่มต้นจองเพคเก็จเลยละกัน


จองเพคเก็จห้องพัก
ไปแบบเพคเก็จจะคุ้มค่ามากกว่าไปแบบแยกจ่ายเป็นอย่างๆ
ลมพระยาจะมีเอเย่นซี่หลายราย หรือจะจองกับลมพระยาเอง เวลาจองเพคเก็จดูให้ละเอียดว่าเริ่มเดินทางที่ไหน เพราะมีบางเพคเก็จไม่รวมค่ารถจาก กรุงเทพฯ-ชุมพร
ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อยไม่น่าจะต่ำกว่า 2 เดือน (มั้ง) เพราะตอนเราจองล่วงหน้าเดือนกว่าๆ ห้องยังเต็ม
เวลาจองห้องพัก ต้องดูว่ามีใครไปบ้าง จะได้เลือกพักโซนที่เหมาะสม (โซนเขาสูงเหนื่อยจริงๆ)
ถ้าไม่ชอบความเงียบสงบ พักเกาะเต่าน่าจะดีกว่า เพราะเกาะนางยวนจะไม่มีกิจกรรมอะไร นอกจากดำน้ำรอบเกาะ และพายเรือ

อุปกรณ์นอกเหนือจากปกติที่น่าจะมี
รองเท้าที่ทะมัดทะแมงนิดนึง เพราะทรายบนเกาะเดินลำบาก และเป็นทรายปนซากปะการัง เดินลำบากและเดินเท้าเปล่าไม่ได้
ไฟฉาย (บางโซนจำเป็น) เพราะไฟที่มีอาจไม่สว่างพอ
กระติกน้ำแบบสะพาย เวลาเดินเที่ยวบนเกาะหรือขึ้นไปบนจุดชมวิวจะกระหายน้ำมาก และน้ำที่ร้านอาหารแพงมาก แป๊บซี่ขวดเล็ก 40 บาท
ขนมขบเคี้ยวหรือเครื่องดื่มต่างๆ บนเกาะไม่มีร้านค้า มีขายที่ร้านอาหารและแพงมาก
บนเกาะห้ามนำขวดพลาสติกและกระป๋องฯลฯ ถ้าเป็นเครื่องดื่มขวดแก้วน่าจะดีกว่า (ถ้าเป็นพลาสติกควรรับผิดชอบนำมาทิ้งบนฝั่งด้วย)
ยาที่ใช้ทาป้องกันและบรรเทาอาการแมลงกัดต่อย แมลงเยอะมาก(สำหรับบางโซน)
VCD หรือ DVD บนเกาะไม่มีสัญญาณโทรทัศน์(แต่โทรศัพท์มือถือใช้ได้) และไม่มีกิจกรรมอะไรตอนกลางคืน ทางเกาะมีบริการให้ยืมแต่หนังไม่ค่อยใหม่เท่าไหร่

การเดินทาง
ควรไปถึง ลมพระยาตรอกข้าวสารก่อนเวลาสักนิด เพื่อเช็คเอกสาร รับตั๋ว และเดินไปขึ้นรถข้างวัดบวร
รถออกสามทุ่ม กว่าจะถึงก็ประมาณตีสี่ นอนหลับพักผ่อนบนรถให้เต็มที่ รถจะแวะเข้าห้องน้ำประมาณ 3 ครั้ง ใส่เสื้อผ้าสบายๆ น่าจะดี

ดำน้ำ
สำรวจอุปกรณ์ที่รับมาอย่างดี ว่ามีอะไรขาดหักหรือชำรุดหรือไม่ ไม่อย่างนั้นเราจะต้องรับผิดชอบ
เวลาเลือกเสื้อชูชีพ เลือกขนาดให้พอเหมาะ มีสายรัดใต้ขาด้วยก็ดี
ถ้าจะมีดำน้ำวันต่อไปอีก เก็บแรงไว้วันรุ่งขึ้นบ้าง (จากประสบการณ์ส่วนตัว ดำน้ำวันแรกจนหมดแรง)
พี่ไกด์บนเรือจะคอยแนะนำเกี่ยวกับการดำน้ำ ว่าที่ไหนมีอะไร ตรงไหนสวยไม่สวย

ก่อนกลับอย่าลืมนำขวดหรือพลาสติกที่นำไปกลับมาทิ้งด้วย(ทางทีดีไม่เอาไปได้ก็ดี)
และอย่าลืมเก็บภาพสวยๆ มาให้ชมกันบ้าง อิอิ

ก่อนจะบ๊าย บายเกาะนางยวน มีภาพพาโนรามา มาฝาก
ขอบคุณรูปสวยๆ จากคุณ suksit หนึ่งในผู้ร่วมเดินทาง



คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่



คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่



คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่



คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่



ขอบคุณที่ติดตามชมนะคะ อย่าลืมมาเยี่ยมกันอีกนะ




 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2550 2:15:45 น.
Counter : 1360 Pageviews.  

พาเที่ยวเกาะนางยวน สวรรค์บนดิน ตอนที่ 9

วันสุดท้าย ต้องอำลาเกาะนางยวนแล้ว
เก็บภาพในส่วนที่ยังไม่ได้ถ่าย จากเกาะนางยวนถึงกรุงเทพ


ตั้งแต่มาไม่ได้ถ่ายภาพในห้องพักเลย
ตอนที่จองห้องพักเต็มเลยเลือกไม่ได้ บ้านที่พักค่อนข้างเก่า
เวลาเปิดปิดห้อง ต้องระวังนิดนึงเพราะยุงเยอะมาก
ถ้าพาครอบครัว เด็กๆ หรือผู้ใหญ่ไป พักโซน D น่าจะดีที่สุด




กระจกในห้องน้ำ มองออกไปก็เห็นทะเล
ไม่รู้ว่าตอนกลางคืนเวลาเปิดไฟ คนข้างนอกจะมองเห็นเราหรือปล่าว
เห็นหรือไม่เห็นไม่รู้ละ อาบน้ำมาแล้วตั้งสองคืน -_-"




ขอเดี่ยวสักภาพ อิอิ
ในวันกลับต้องหอบหิ้ว สัมภาระลงมาเอง
ถ้าเป็นกระเป๋าลากก็ลากลำบากนิด เพราะสะพานไม้เป็นแบบขวาง
แต่ก็น่าจะดีกว่า กระเป๋าแบบหิ้ว เพราะที่พักเราเดินไกลจริงๆ

ส่วนถุง 7 Eleven ที่เห็น คือขยะและขนมที่ทานไม่หมด ซื้อมาจาก ก.ท.ม.
ของขบเคี้ยวหรือเครื่องดื่มน่าจะหาติดไปด้วย เพราะบนเกาะแพงมาก
แป๊บซี่ขวดเล็กขวดละ 40 บาท ส่วนของอื่นๆ ไม่ต้องพูดถึง
และไม่มีของทานเล่นขายมาก เตรียมไปน่าจะดีที่สุด

บนเกาะห้ามใช้ขวดพลาสติกทั้งหลาย เราเก็บขยะเอามาทิ้งที่กรุงเทพฯ แน่ะ




บริเวณท้ายเกาะที่เราพัก จะเป็นที่จอดพักเรือ และหลบพายุ
เวลาเรือจอดก็จะพ่วงต่อกันไว้แบบที่เห็น เพราะไม่ต้องผูกติดกับสมอทุกลำ




ลานกว้าง ตรงกลางระหว่างเกาะสามเกาะ



บนเกาะนางยวนมีเรือคายัคให้เช่า ชั่วโมงละ 100 บาท
ส่วนใหญ่คนที่เช่า จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ




ป้ายบอกทาง



บ้านสองหลังนี้อยู่ติดหาด น่าพักมากๆ



ดอกไม้สวยๆ



ป้ายโฆษณา หน้าโรงเรียนสอนดำน้ำลึก



สะพานที่ทอดยาวออกไป บริเวณข้างร้านอาหาร



เมื่อไป check out ก็จะได้สติ๊กเกอร์ติดหน้าอกแบบนี้
สติ๊กเกอร์สีแดง จุดหมายปลายทางคือกรุงเทพฯ ซึ่งสีแดงมีสองแบบคือ
นั่งเรือจนถึงกรุงเทพฯ หรือนั่งเรือไปบนฝั่งชุมพร แล้วต่อรถกลับกรุงเทพฯ




วิวจากที่นั่งทานข้าวบริเวณร้านอาหาร



มาแล้ว เรือที่จะมารับเรากลับ



นี่คือป้อม ก่อนที่จะเข้าสู่เกาะ มีวงจรปิดด้วย
เตือนว่าห้ามใช้ตีนกบ เพราะจะทำลายปะการัง

แต่เราเห็นพวกที่เรียนดำน้ำลึก ก็ใช้ Fin กันทั้งนั้น
จะว่าดำลึกก็ไม่ใช่ เพราะดำน้ำอยู่ไม่ไกลจากเราเท่าไหร่เลย




มาแล้ว เรือของบริษัทลมพระยา(เจ้าเดียวที่มาเกาะนางยวน)
เรือที่กลับชื่อ แม่น้ำ




ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเดินทางกลับวันนี้
ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของ Long Weekend




เรือออกจากเกาะนางยวน มาส่งและรับผู้โดยสารที่เกาะเต่า
เรือจอดที่เกาะเต่าประมาณครึ่งชั่วโมง




ท่าเรือเกาะเต่าคึกคักและมีสีสันกว่าเกาะนางยวนมาก
แต่เราชอบเกาะนางยวนมากกว่า เพราะสงบเและเป็นธรรมชาติดี




ขึ้นไปสำรวจบนดาดฟ้า(ชั้น2) ของเรือกัน
มีที่นั่งด้านนอกรับลม ในตั๋วเรือไม่ได้ระบุเลขที่นั่ง ที่ไหนว่างก็นั่ง

เจ้านกเอียงตัวนี้ เดินสำรวจทั่วดาดฟ้า ไม่กลัวใครเลย




วิวรอบๆ ท่าเรือเกาะเต่า



ด้านบนมีห้องวีไอพีด้วย เพิ่มเงิน 50 บาท
ต่างกันตรงที่ข้างบนมีที่นั่งน้อย สงบ และเก้าอี้นั่งดูไฮโซกว่า




ถึงที่ท่าเรือแล้ว ก็เอาเอกสารไปยื่นเพื่อจะได้รู้ว่าขึ้นรถคันไหน
เหมือนว่าทางบริษัทไม่ข้อมูล ว่ามีใครบ้างที่ร่วมเดินทางและจะขึ้นรถคันไหน
ใครยื่นเอกสารก่อนก็แจกสติ๊กเกอร์ให้ พอได้แล้วน่าจะจัดให้ขึ้นรถได้
แต่ต้องรอนานประมาณกือบชั่วโมง ทั้งๆ ที่มีรถจอดรออยู่แล้ว
จะเดินไปขึ้นรถ คนขับรถก็ไม่รู้เรื่อง ให้รอ เหมือนขาดการประสานงานที่ดี
มีคนบางส่วนรู้สึกไม่พอใจในบริการ ส่วนเราก็เซ็งนิดหน่อย
เพราะอากาศร้อนมาก ที่นั่งพักก็มีน้อย คนส่วนใหญ่ต้องยืนรอ

แต่ไม่เป็นไร เดินเก็บภาพรอบๆ ไปพลางๆ




เรือประมง ที่จอดริมหาด



ป้ายห้ามกระโดดน้ำบนสะพาน ห้าม ตัวเล็กมาก
จริงๆ ให้หามกันไปกระโดดน้ำบนสะพาน




ไก่ สวยดี เดินไปเดินมาอยู่แถวนั้น เลยถ่ายซะ



สะพานทางเดินไปขึ้นเรือ



ได้ขึ้นรถแล้ว ค่อยยังชั่ว



ป้ายสามเหลี่ยม ที่ท่าเรือแจกให้ก่อนขึ้นรถ แยกสี แยกคัน
ดูรูปนี้ ให้ดูแค่ผ่านๆ อย่าคิดมาก




มีแขกผู้มาเยือน ติดรถมาตั้งแต่แวะทานข้าวกลางวัน
สงสารมัน เป็นต่อพลัดถิ่น นั่งแบบไม่มีความสุข กลัวมันต่อย




ถึง ก.ท.ม. ประมาณ 5 โมง รถจอดที่หลังวัดบวรฯ เหมือนเดิม
ระหว่างนั่งรถกลับ ก็เห็นนี่...สวยดี




ถ้ามีโอกาสก็อยากไปเที่ยวอีก ตอนต่อไปจะรวมภาพพาโนรามา
และก็รวมข้อแนะนำและก็สิ่งเล็กๆ น้อยๆ จากการไปเที่ยวครั้งนี้

ขอบคุณที่ติดตามชมนะคะ




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2550    
Last Update : 31 ตุลาคม 2550 0:42:08 น.
Counter : 2931 Pageviews.  

พาเที่ยวเกาะนางยวน สวรรค์บนดิน ตอนที่ 8

กลับมาจากดำน้ำรอบเกาะเต่า
ทีแรกคิดไว้ว่าจะเดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกดินบนจุดชมวิว แต่เหนื่อยมาก
เลยเดินถ่ายรูปข้างล่างดีกว่า


สันทรายที่เชื่อมทั้งสามเกาะเข้าด้วยกัน ถ่ายจากมุมบนเรือ



เรือที่พานักท่องเที่ยวมาดำน้ำ ที่เกาะนางยวน



นักท่องเที่ยวทะยอยออกจากเกาะ เนื่องจากใกล้หมดเวลาชมเกาะ



สะพานจากท่าเรือ



หมดเวลาชมเกาะ 17.00 น.



ซากปะการังบริเวณท่าเรือ



สะพานที่เดินรอบๆ เกาะ จะสูงต่ำไม่เท่ากัน
จะมีตัวอักษรให้ดูทางเป็นระยะ




มารักกันเถิด



โรงเรียนสอนดำน้ำ



วิวทางเดินไปที่พัก



หน้าระเบียงที่พัก



วิวท้ายกาะที่พัก



ทางขึ้นจากท้ายเกาะ
ถ้าเป็นคนที่มาเยี่ยมชมเกาะ จะไม่สามารถเดินมาในส่วนนี้ได้




มุมจากท้ายเกาะใหญ่อีกรูป



มองเกาะที่มีจุดชมวิวจากท้ายเกาะใหญ่



มุมกว้าง อีกสักภาพ



ฟ้าฝนไม่เป็นใจจริงๆ เหมือนฝนจะตก



ทางเดิน เริ่มเปิดไฟแล้ว



อาหารมื้อเย็นวันที่สอง แกงส้มทะเล



น้ำพริกอ่อง (อร่อยดี ที่สำคัญเติมได้)



ปลาทอดกระเทียม



ยำ ปลาหมึก+กุ้ง



ตอนทานข้าวเสร็จเดินกลับที่พัก ลมแรงมากๆ ฝนตกด้วย
เพิ่งรู้ว่าลมฝนบนเกาะ น่ากลัวเหมือนกัน แต่พอเข้าที่พักไม่โดนลมเลยเพราะเขาบัง
หมดไปอีกวัน สำหรับวันนี้ พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับแต่เช้า




 

Create Date : 29 ตุลาคม 2550    
Last Update : 29 ตุลาคม 2550 21:42:09 น.
Counter : 1272 Pageviews.  

พาเที่ยวเกาะนางยวน สวรรค์บนดิน ตอนที่ 7

ว่าจะโพสอีกสามตอน ให้จบค่ะ (9 ตอน) 200 รูปพอดี
ต่อจากตอนที่แล้ว หลังจากขึ้นเรือ จะพาไปดำน้ำและชมทัศนียภาพรอบๆ เกาะเต่ากันค่ะ
จำไม่ได้แล้วว่าไปอ่าวอะไรบ้าง ประมาณ 5 - 6 ที่แต่เราดำน้ำแค่สองที่ก็ลงต่อไม่ไหว
รู้สึกเหนื่อยมาก ไหนจะขึ้น-ลง ที่พัก ขึ้นจุดชมวิว และดำน้ำที่เกาะนางยวนวันแรก
ก็เลยดำได้แค่ 2 ที่ นอกนั้นขอถ่ายรูปและนั่งดูดีกว่า เพราะที่ดำมาสองที่ก็คล้ายๆ กัน


ก่อนไปมาดูแผนที่เกาะเต่า กันก่อนดีกว่า
ออกเดินทางจากเกาะนางยวน วนไปตามเข็มนาฬิกา



ภาพเกาะเต่าจาก thai-tour.com


ที่พักบนเกาะเต่า ตรงนี้ไม่มีหาดทรายเลย



ตรงนี้มีหาดทรายนิดหน่อย



หลังนี้เท่มาก สำหรับผู้ที่รักความสงบ(มาก)



ถึงแล้วที่ดำน้ำที่แรก ถ้าดูจากในแผนที่น่าจะเป็น อ่าวมะม่วง
ปะการังส่วนใหญ่จะเป็นปะการังเขากวาง มีดอกไม้ทะเลบ้าง แต่ไม่ค่อยมีสีสันเท่าไหร่
เสียดายไม่มีถุงกันน้ำ ไม่งั้นจะถ่ายปะการังและปลามาให้ดูด้วย




แวะดำน้ำครึ่งชั่วโมงก็ออกเดินทางต่อ



อยู่บนเรือก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ



อ่าวต่อมา อ่าวกล้วยเถื่อน
สองอ่าวแล้ว ชื่อเป็นผลไม้ทั้งนั้น
สังเกตว่ารอบๆ เกาะเต่าจะมีแต่หินแบบนี้




ปะการังไม่ค่อยสวย แต่ปลาเยอะมาก ดูได้จากในรูป



คงมีคนเอาอาหารไปให้มันซะเคยตัว
เวลามีเรือมาจอดมันจะว่ายมาที่เรือเหมือนจะรู้ว่าจะได้กิน
บางคนมีขนมปังติดมา คนไม่มีก็อยากให้มันมากินบ้าง
เลยโยนเปลือกสับปะรดให้มันกิน เป็นขยะเปล่าวๆ




หินอีกรูป แปลกใจว่ามันมาซ้อนกันแบบนี้ได้ยังไง



วิวรอบๆ เกาะเต่า
บนเรือมีอาหารว่าง เป็นแตงโมกับสับปะรดให้ทาน
และมีถังน้ำจืดเตรียมไว้สำหรับล้างตัว เวลาขึ้นมาจากน้ำด้วย




นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาเป็นเพคเก็จทัวร์
ถ้าอยากดำน้ำก็สามารถหาเช่าเรือออกไปดำน้ำได้
ถ้าสภาพอากาศดี เรือแบบที่เห็นก็คงไม่มีปัญหา




ที่พักอีกที่
วันนี้แดดออก และครึ้มสลับกันไป ทำให้ไม่ร้อนมาก




พี่คนนี้เหมือนเป็นไกด์บนเรือ
แนะนำเกาะเต่า การปฏิบัติตัวในการดำน้ำ
และก็จะมีเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งที่คอยให้ความช่วยเหลือ




ตรงนี้ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นอ่าวหินงาม จะมีช่วงที่ฉลามจะมา (ฉลามที่ไม่กินคน)
แต่ตอนที่เราไปโชคไม่ดี ยังไม่ถึงช่วงเดือนที่ฉลามจะมา เลยไม่ได้เห็น




สามสาวนี่ เท่มากๆ ชอบจริงๆ กางเกงสามสี



และนี่ก็อาหารกลางวัน ข้าวผัดแสนอร่อยกับไข่ดาว
เป็นข้าวผัดที่อร่อยจริงๆ(หรือหิวก็ไม่รู้) ทุกวันนี้ยังนึกถึงอยู่เลย




มันอร่อยจริงๆ นะ



กองหิน บริเวณอ่าวหินงาม



เรือประมง? แปลกดี
ส่วนเกาะที่เห็นอยู่ด้านหลังไกลๆ คือเกาะพงัน




Shark Island เกาะฉลาม ดูเผินๆ ก็เหมือนฉลามจริงๆ



ภาพมุมไกลอีกภาพ เกาะฉลาม ที่เห็นไกลๆ เกาะพงัน
ที่เห็นไกลที่สุดลางๆ (ไม่รู้จะเห็นกันไหม) ทางขวามือสุด คือเกาะสมุย




คนที่ดำน้ำไม่ไหว แต่อยากจะดูปะการัง
พี่เจ้าหน้าที่จะเอาเสื้อชูชีพผูกติดกันเป็นแพ ให้เกาะ
แล้วก็ว่ายแล้วก็ดึงแพไปยังจุดที่ต้องการดู เห็นแล้วเหนื่อยแทน
แต่แกอึดจริงๆ ลากคนไปตั้งหลายคน ไม่บ่นสักคำ




มาถึงบริเวณนี้ ที่มีสัญลักษณ์เกาะเต่า



ถ้าดูจากในแผนที่ หินนี้น่าจะเป็นหินอาแมะ



ธรรมชาติสร้างสรรค์จริงๆ มันซ้อนกันน่าจะลื่นหล่นลงมา แต่ก็ไม่หล่น
หินอาแมะ และหินตาโต๊ะ(ด้านซ้ายมือ)




บริเวณนี้จะมีจุดชมวิวของเกาะเต่า คือจุดชมวิวจอนห์นสุวรรณ
ด้านซ้ายมือ คือหินตาโต๊ะ




วันนี้แดดไม่เป็นใจ เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวท้องฟ้าครึ้ม
พอแดดออกก็ถ่ายให้คุ้ม




ด้านข้างของหินอาแมะอีกสักภาพ
เราว่าหินก้อนนี้น่าจะเป็นหินตาโต๊ะมากกว่า เพราะคล้ายหินตากว่าอีกก้อน
แต่ถ้ายึดตามแผนที่ หินนี้ก็เป็นหินอาแมะ




หินตาโต๊ะ มีลักษณะคล้ายหินตาที่อยู่บนเกาะสมุย
เขาว่ากันว่า หินตาโต๊ะเป็นที่เคารพของคนเดินเรือบนเกาะเต่ามาก
ถ้าจำสลับระหว่างหินตาโต๊ะกับหินอาแมะก็ขออภัยค่ะ(ดูตามแผนที่)




บ้านที่ปลูกบนเกาะ



ซูมเข้าไปดูใกล้ๆ



เรือของบริษัทซีทราน



ที่พักบนเกาะเต่า



กลับมาถึงเกาะนางยวน เย็นพอดี



เหนื่อยมากๆ ดำน้ำไปแค่สองที่ นอกนั้นนั่งดูคนอื่นๆ ดำน้ำ
เวลาเรือไปถึงจุดที่จะดำน้ำ เรือจะไม่ทิ้งสมอโดยตรง เพราะจะทำให้ปะการังเสียหาย
แต่ละจุดจะมีเชือกที่เป็นทุ่นลอยอยู่ คนเรือจะผูกเชือกนั้นที่โยงกับสมอใต้น้ำเพื่อดึงเรือไว้
ซึ่งเรือลำอื่นมา ก็จะมาผูกติดกับเรือที่มาก่อน จะได้ไม่ทำลายธรรมชาติ

ตอนต่อไป จะพาชมรอบๆ เกาะนางยวนต่อ


ติดตามต่อตอนที่ 8




 

Create Date : 24 ตุลาคม 2550    
Last Update : 24 ตุลาคม 2550 15:20:50 น.
Counter : 3354 Pageviews.  

พาเที่ยวเกาะนางยวน สวรรค์บนดิน ตอนที่ 6

วันที่สองแล้ว
วันนี้ตื่นแต่เช้า เพราะจะต้องออกไปดำน้ำรอบเกาะเต่า เรือออก 7.30 น.
ตื่นเช้ามาคันยิบๆ ไม่รู้เพราะที่นอนหรือตัวแมลง ที่นี่แมลงเยอะ ยุงก็เยอะ
อย่าได้เผลอเปิดประตูทิ้งไว้ ยุงตัวใหญ่มาก เพราะอยู่บนเขาที่มีต้นไม้เยอะ

วันนี้อากาศไม่ดีเลย เมื่อคืนมีฝนตก (จะได้ไปดำน้ำไหมเนี่ย =.=)
ระหว่างทางจะไปทานข้าวเช้า เดินถ่ายรูปไปด้วย ทางเดิมๆ วิวเดิมๆ
แต่ก็ไม่เบื่อที่จะถ่าย


อากาศยามเช้า เหมือนหมอกลงเลย



ชุ่มชื้น ไปหมด



น้ำฝนยังเกาะอยู่ที่ใบไม้



ต้นหูกวาง แปลกดี สังเกตว่าแดดเริ่มออกเล็กน้อย



บ้านพักเขาลูกที่มีจุดชมวิว



ชอบวิวตรงนี้ที่สุด



มันเหมือนเป็นจุดชมวิว หรืออะไรไม่รู้ของเขาลูกที่เราพัก
แต่ไม่ได้เดินไป เพราะดูน่ากลัวไงไม่รู้ กลัวมันพังลงมา
และก็ไม่เห็นมีใครขึ้นไปด้วย




พนักงานเก็บกวาด และเรียงเตียงผ้าใบ เตรียมพร้อม
ดูการเรียง เท่ดี โค้งไปตามหาด
ที่เห็นขวามือด้านหลัง เป็นร้านขายเครื่องดื่มติดหาด
ตอนเย็นๆ จะมีโต๊ะเล็กๆ และเสื่อมาปูริมหาด โรแมนติกดี




อีกสักมุม น้ำลดหินโผล่



อาหารมื้อเช้าของเรา



โคมบริเวณร้านอาหาร ดูสวยเก่าดี



วิวด้านบน วันนี้ท้องฟ้าช่างไม่เป็นใจเอาซะเลย



วิวด้านล่าง น้ำใสมาก ปลาเยอะมาก
มีคนโยนขนมปังให้ มากันเป็นฝูง เคยได้ยินว่าห้ามให้อาหารปลา
เพราะธรรมชาติจะเสียสมดุล (จริงๆ เราไม่ให้เพราะเรางง อิอิ)




ดูมุมไกลบ้าง



วิวรอบๆ วันนี้เราย้ายมานั่งด้านนี้
หลังร้านอาหาร ก็จะมีบ้านพักอีกส่วนหนึ่ง (ไม่ได้ถ่ายรูปมา วิวไม่สวย)
แต่ถ้าพักตรงนี้ก็สะดวกดี ใกล้ร้านอาหาร แต่คนพลุกพล่าน




ด้านนี้มองออกไปจะเห็นท่าเรือ



ทานเสร็จก็มานั่งรอเรือ บนสะพานที่ท่าเรือ
ปลาเยอะมาก หลายพันธุ์ ถ่ายแล้วแสงสะท้อนมองไม่ค่อยเห็น




จริงๆ ถ่ายวีดีโอด้วย แต่ไม่รู้จะเอามาลงได้ไหม
ปลาอีกภาพ เยอะมากๆ




ป้ายก่อนออกเดินทาง



เรือมาแล้ว เราจะไปดำน้ำกันด้วยเรือลำนี้แหละ



ก่อนอื่น รับอุปกรณ์ชูชีพก่อน
เขาให้ใส่ตลอดเวลาอยูบนเรือ เพื่อความปลอดภัย




เสื้อชูชีพจะมีหลายขนาดหลายไซส์ ต้องเลือกให้เหมาะกับตัวเอง
จริงๆ จะต้องมีนกหวีดด้วย แต่หายังไงก็ไม่มี เวลาเลือกสำหรับเรา
จะเลือกตัวที่มีสายรัดคร่อมขาด้านล่างด้วย เพราะเวลาดำน้ำจะได้กระชับ
เดี๋ยวตอนหน้าจะพาไปชมวิว รอบๆ เกาะเต่ากัน ไปหลายอ่าวเหมือนกัน


ก่อนไปเกาะเต่า มารู้จักเกาะเต่ากันสักนิดดีกว่า

เกาะเต่าตำนานแห่งเกาะนรก

พ.ศ.2476 ประวัติศาสตร์ของเกาะเต่าถูกบันทึกไว้ว่าเกาะเต่าคือเกาะแห่งความ
โหดร้าย เพราะใช้เป็นที่คุมขังของนักโทษการเมืองครั้งเมื่อเกิดสงครามแปซิฟิก
ทางรัฐบาลกลัวว่าอังกฤษจะมาชิงตัวนักโทษการเมืองไปจากเกาะตะรุเตา
เพราะที่ตั้งเกาะตะรุเตาอยู่ชายแดนฝั่งมหาสมุทรอินเดียจึงย้ายนักโทษคดี
การเมือง จากเกาะตะรุเตามาที่เกาะเต่า นักโทษทุกคนจะถูกตีตรวน ส่งขึ้นรถไฟ

ช่วงเดือนแรกที่นักโทษการเมืองไปถึง ขาดแคลนแหล่งน้ำมากเพราะถังน้ำใหญ่
จุ 3,000 แกลลอนได้พังทลายลง พัศดีเพี้ยน อนุโรจน์ ผู้อำนวยการเกาะปฏิบัติ
ต่อนักโทษดี เพราะถือว่าเป็นนักโทษการเมือง จึงอนุญาตให้ไปตกปลาหาพืชผัก
มาป็นอาหารได้ แต่กักกันเฉพาะในตอนกลางคืน อีกไม่นานอธิบดีกรมราชทัณฑ์
ได้สั่งย้ายโดยเห็นว่าปล่อยปละละเลยนักโทษการเมืองมากไป พัศดีคนใหม่มาแทน
นักโทษกลุ่มนี้ถูกคุมขังตลอด ห้ามหาผัก ตกปลา ส่งผลให้นักโทษอดอยากและเป็นไข้
นักโทษการเมืองแทบทุกคนเป็นไข้จับสั่น ยิ่งไปกว่านั้นนักโทษการเมืองยังถูกเกณฑ์
ให้ไปทำงานในป่าเยี่ยงกรรมกร งานที่ทำคือ ถางป่า โค่นต้นไม้ ทำถนน ฯลฯ

มีการสันนิษฐานกันว่า อันที่จริงแล้วโทษของนักโทษการเมืองนั้น
ทางการตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่เมื่อได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษในวาระพิเศษ
เหลือโทษอีกเพียงสองปีเศษๆ หากพ้นโทษมีชีวิตรอดกลับไปได้ อาจเป็นเสี้ยนหนาม
รัฐบาลจึงหาเหตุให้ตายที่เกาะเต่าด้วยการทำงานหนัก ขณะที่เป็นไข้จับสั่น ยามีน้อย
อดอยากอาหาร แต่ละคนจบสิ้นชีวิตลงต่อหน้าเพื่อนนักโทษ

หลังจากนั้นนักโทษการเมืองได้รับการอภัยโทษ เนื่องจากมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่
จอมพลแปลก พิบูลสงคราม ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะแพ้คะแนนเสียง
ในรัฐสภาเรื่องการสร้าง เมืองหลวงที่เพชรบูรณ์
นาย ควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรัฐมนตรีแทน คณะรัฐมนตรีใหม่ได้มีมติให้กราบบังคมทูล
พระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษการเมือง ในคดีกบฏวรเดช พ.ศ.2476 และคดีกบฏ
พ.ศ.2481 ปลดปล่อยนักโทษการเมืองที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี เมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ.2487

ข้อมูลจาก oceansmile

ติดตามต่อตอนที่ 7




 

Create Date : 22 ตุลาคม 2550    
Last Update : 22 ตุลาคม 2550 7:40:32 น.
Counter : 1259 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

bombik
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add bombik's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.