คนเราเกิดมาพร้อมกับความไม่รู้ แล้วทำยังไง?? ให้รู้..ในสิ่งที่ควรรู้...
 
ไม่เชื่อ..ไม่รู้..ไม่เห็น..แปลว่า..ไม่มี ใช่ไหม?

มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คนไม่รู้ ไม่เห็นแล้วก็เชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นไม่มี อย่างในทางศาสนาพุทธเราก็มีคนหลายคนในปัจจุบันนี้ที่ไม่เชื่อเรื่องกรรม ไม่เชื่อ เรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องการทำงานของกรรม เพราะว่าไม่รู้ไม่เห็น หลายๆ คนก็มักจะอ้างว่า พิสูจน์ไม่ได้บ้างล่ะ ไม่เชื่อบ้างล่ะ ไม่เป็นวิทยาศาสตร์บ้างล่ะ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเข้ามาศึกษาอย่างจริงๆ จังๆ ได้แต่อ้างไปตามความเชื่อของตัวเอง และนำไปสู่บทสรุปของตัวเองว่า ไม่เชื่อ....ไม่มีหรอก

หลายคนเลยเถิดไปขนาดที่ว่า เมื่อไม่เชื่อว่ามี ก็แสดงว่าไม่ต้องรับผล..

จริงหรือเปล่า???

ถ้าลองหันมาพิจารณาคำสอนในศาสนาพุทธเราว่าสอนว่าไง ซึ่งทางพระท่านบอกว่ากฎแห่งกรรมเป็นกฎเกณฑ์ธรรมชาติ เป็นความจริงทางธรรมชาิติ มีเหตุมีผลรองรับ เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่เป็นธรรมชาติทั่วไปบนโลกนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเราเริ่มต้นจากคำสอนตรงนี้ แล้วมาวิเคราะห์ปรับเข้ากับกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติอื่นๆ เช่น

กฎเรื่องแรงโน้มถ่วง

ความจริงก็คือ ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องกฎแรงโน้มถ่วง ยังไงซะมันก็ยังให้ผลกับคุณ คุณรู้ว่า วัตถุย่อมตกลงจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำหรือพื้นดิน ทั้งนี้ทั้งนั้น จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม จะรู้หรือไม่รู้ก็ตามว่ากฎการทำงานของแรงโน้มถ่วงโลกเป็นเช่นไร กฎเกณฑ์นี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น

ไม่ใช่คุณบอกว่าฉันไม่เชื่อเรื่องกฎแรงโน้มถ่วง เพราะฉะนั้นฉันต้องบินได้ เพราะว่าตัวฉันไม่ขึ้นกับกฎแรงโน้มถ่วง มันไม่มีตัวตน เพราะฉันไม่เชื่อว่ามันมี (งั้นก็ลองไปโดดตึกดู ว่าบินได้จริงไหม)

ไม่ใช่ว่าเกิดส่วนใดของโลก จะประเทศร่ำรวย ยากจน จะมีการศึกษา ไม่มีการศึกษา จะอยู่ขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ แล้วจะมาอ้างว่า ที่อื่นเค้าเชื่อแบบนั้น เค้าสอนแบบนั้น แต่ที่ๆ ฉันอยู่ ไม่มีการสอนเรื่องแรงโน้มถ่วงนี้ เพราะฉะนั้นฉันไม่เชื่อ แล้วสิ่งนั้นจะไม่ส่งผลต่อฉัน ความจริงก็คือ คุณไม่เชื่อได้ เป็นสิทธิ์ของคุณ แต่คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม ยังไงแรงโน้มถ่วงของโลกก็ยังทำงานอยู่เป็นปกติ โดยไม่สนใจว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ

ลองดูเรื่องน้ำกันหน่อย

ทางวิทยาศาสตร์บอกว่า น้ำมีองค์ประกอบคือ H2O คือ ไฮโดรเจนสองส่วน ออกซิเย่นหนึ่งส่วน รวมกันจะได้น้ำ นักวิทยาสตร์มีวิธีพิสูจน์ มีเครื่องมือพิสูจน์ได้ด้วย

แต่ ถ้าคุณบอกไม่เชื่อว่าน้ำประกอบไปด้วย H2O เพราะฉะนั้นน้ำก็คือน้ำ ไม่มีอะไรซ่อนอยู่ ไม่สามารถแยกออกมาได้เป็นไฮโดรเจนกะออกซิเย่น การบอกกล่าวเช่นนี้ การกล่าวอ้างเช่นนี้จะถูกต้องหรือ?

ความจริงในเรื่องน้ำก็คือ คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็เรื่องของคุณ แต่ความจริงก็คือความจริง ถ้าเอาเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์มาแยกองค์ประกอบของน้ำกี่ครั้งๆ คุณก็จะได้ ไฮโดรเจนสองส่วนกะออกซิเย่นหนึ่งส่วน ไม่ใช่ว่าคุณไม่เชื่อ แล้วมันจะต้องเป็นไปตามนั้น

ที่นี้ย้อนกลับมาเรื่องกรรม เรื่องกฎแห่งกรรม ที่หลายคนมักจะอ้างว่าไม่เชื่อ เพราะว่าไม่รู้ไม่เห็น พิสูจน์ไม่ได้

ความจริงแล้ว พิสูจน์ได้ครับ เครื่องมือพิสูจน์ก็ยังคงมีอยู่ วิธีพิสูจน์ก็ยังคงมีอยู่ แต่พวกปิดหูปิดตาตัวเอง แล้วไม่เข้ามาพิสูจน์ ก็ย่อมไม่มีวันได้รู้ได้เห็นด้วยตนเอง

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา และไม่ได้สอนให้เชื่อกันงมงาย หรือศรัทธาแบบไม่ลืมหูลืมตา สิ่งที่ควรรู้ไว้ก็คือ พระพุทธเจ้าท่านเผยแผ่ธรรมะ โดยที่ท่านไม่ได้ง้อ หรือโน้มน้าวชักจูงให้มาเชื่อ ให้มาเดินตามหลังท่านต้อยๆ

แต่...ท่านท้า ให้พิสูจน์ คำสอนของท่าน เพราะคำสอนของท่านเป็นเรื่องจริง เป็นความจริง เป็นกฎเกณฑ์ธรรมชาิติ จะพูดกี่ครั้ง จะพิสูจน์กี่ครั้งก็ได้ผลเหมือนเดิม ท่านจึงท้าให้พิสูจน์ด้วยตัวเอง หากยังสงสัยอยู่ก็เข้ามาพิสูจน์

มีคนเชื่อท่านแล้วเข้าไปพิสูจน์มาแล้วมากมาย แล้วก็ยืนยันคำสอนของท่านก็มากมาย เพียงแค่ศึกษาให้ถูกต้องถูกทาง และฝึกสติให้ถูกต้องตามคำสอนของท่าน โดยที่ยังไม่ต้องถึงกับบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน ก็สามารถมีความสุขได้อย่างมากมาย และใช้ชีวิตที่เหลือบนโลกได้อย่างมีความสุขมากขึ้น ไม่ทุกข์ร้อน ไม่ถูกไฟจากกิเลสสามตัว (โลภะ โทสะ โมหะ) หลอกล่อและเผาผลาญจิตใจให้เร่าร้อน มีคนปฏิบัติตามแล้วได้ผลมากมาย มีครูบาอาจารย์มากมายที่กล่าวยืนยันตรงกัน

เรื่องแปลก แต่จริงก็คือ ถึงขนาดนี้แล้ว ก็ยังมีคนที่ยังคงยืนยันว่า ไม่เชื่อ ไม่มีหรอกเรื่องกฎแห่งกรรม

หากคนที่กล่าวเช่นนี้ ได้ลองเข้ามาพิสูจน์แล้ว สามารถลบล้างคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ ก็จะไม่น่าสงสัย แต่หากว่ายังไม่ได้เข้ามาศึกษา เข้ามาพิสูจน์ เพียงแต่เชื่อว่าไม่มี เพราะว่าเป็นความเห็น เป็นความเชื่อส่วนตัว อย่างนี้ถือว่าอันตรายมากๆ น่ากลัวมากๆ ทางพระเราเรียกว่า ประมาท

เพราะว่า....
หากสิ่งที่คุณเชื่อว่าไม่มีกฎแห่งกรรม เป็นจริง อย่างมากคุณก็เสมอตัว
แต่หากว่าสิ่งที่คุณเชื่อมันผิดล่ะ?? คุณคงทำอะไรที่ไม่ดีไปมากมายโดยที่ไม่รู้ แล้วจะไปรับวิบากไม่ดีขนาดไหน มีแต่ขาดทุนและมีแนวโน้มว่าน่าจะลงต่ำมากกว่าขึ้นสูง

ทางพระท่านยืนยันมาตลอดว่า กฎแห่งกรรมเป็นกฎเกณฑ์ธรรมชาติ เป็นความจริงทางธรรมชาติ เพราะฉะนั้น เชื่อหรือไม่เชื่อ จึงไม่เกี่ยวกับ มีหรือไม่มี เพราะในเมื่อกฎแห่งกรรมเป็นธรรมชาิติ เป็นความจริง ยังไงก็ยังคงทำงานไปตามกฎเกณฑ์ของเค้า โดยที่ไม่สนใจว่าคนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ

ถึงตอนนี้....

ก็ไม่ได้บอกว่า ให้เชื่อ...แต่จะขอท้ามากกว่า....ถ้ายังไม่เชื่อ..ก็เชิญมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง

*************************
เรื่องกรรม กฎแห่งกรรม วิบากกรรม เป็น 1 ใน 4 ของอจินไตย ที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่า เถียงกันไปไม่มีวันจบ ไม่มีวันได้ข้อสรุป คือได้แต่คิด ได้แต่คุยกัน จะไม่มีวันได้ข้อสรุป แต่ถ้าอยากรู้จริงๆ ล่ะ ท่านก็บอกแนวทางให้ไว้ว่าจะพิสูจน์ยังไง ถึงจะประจักษ์แจ้งด้วยตนเอง

หากผู้สนใจในเรื่อง อจินไตยนี้ ขอแนะนำให้อ่าน บทที่ 1 ของหนังสือ เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน ของคุณดังตฤณ เพื่อความกระจ่างชัดมากขึ้น


Create Date : 16 เมษายน 2551
Last Update : 16 เมษายน 2551 4:14:28 น. 2 comments
Counter : 1066 Pageviews.  
 
 
 
 
ขออนุญาตแนะนำให้ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ลองหาหนังสือของพระมหา ว.วชิรเมธี เรื่องรู้ตามก่อนตายมาอ่านดู ในส่วนที่สองของหนังสือที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสนทนาธรรมระหว่างประเจ้าปายาสิกับพระกุมารกัสสปะ เรียกตามพระสูตรว่า ปายาสิสูตร เมื่ออ่านแล้วพอจะมีจิตใจโน้มเอียงไปในทางเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมแล้วจึงอ่านเสียดายคนตามไม่ได้อ่านของคุณดังตฤณต่อ
 
 

โดย: สุดรักษ์ IP: 125.25.173.70 วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:10:02:10 น.  

 
 
 
เขียนยาวปานนี้ ต้องตอบแทนความ
ตั้งใจหน่อย คิดว่าคุณกำลังสนทนา
กับพวกกลุ่มSkeptismแต่สิ่งที่ไม่ได้
อธิบายของคุณคือ ข้อวิเศษทางวิทย์
สามารถที่จะทดลองซ่ำเป็นที่ประจักษ
ได้ กรรมเป็นเรื่องเส้นแบ่งความเเชื่อกับ
ความจริง เพราะไม่สามารถสาวถึงต้นเหตุ
แห่งปัจจัยได้อย่างชัดเจน
ของอย่างนี้สนทิติฺโก เอหิปัสสิโก
โอปานยิโก ปฺจจตัง น้อ เชื่อไว้ไม่เสีย
หายแต่อย่างเอะอะก็โทษแต่กรรมท่าเดียว
พระพรหมคุณาภรณ์ได้กล่าวไว้..
 
 

โดย: chanpanakrit IP: 203.130.159.6 วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:10:29:39 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Bluefriday
 
Location :
Umea Sweden

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ปี 2522 ผมยังเด็กอยู่เลย ตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้วหว่า!!
[Add Bluefriday's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com