ทำเพื่อส่วนรวม ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตามกติกา
Group Blog
 
All Blogs
 

ใต้ถุน กุฎิ

เจ้าโหน่ง เป็นชายตุ้งติ้งมากเป็นน้องชายของเณร ซึ่งพักกุฎิใกล้กับของหลวงตาผม( ตอนเรียนประถมผมเป็น อารามบอยครับ) ช่วงเย็นๆวันหนึ่งก็วิ่งเล่นแถวลานวัด เจ้าโหน่งบอกโดนผีหลอก เพื่อนๆตอนนั้นที่วิ่งเล่นกันอยู่หลายคนก็กรูกันเข้ามาถามหลายสิ่งหลายอย่างกับสิ่งที่เจ้าโหน่งเห็นและเจอ เจ้าโหน่งก็บอกมีแต่เสียงแถวหัวนอน แต่ไม่เห็นตัว เพื่อนๆก็ยุดิ ยุให้ผมมานอนเป็นเพื่อนและดูว่ามีจริงหรือเปล่า ที่นอนของเจ้าโหน่งก็เป็นเตียง นอนกลางมุ้งนอนที่กุฏิคลัง แต่สิ่งที่ผมเคยเห็นและเคยดูมาก่อนก็คือ
ที่ใต้กุฎิ จะมีโลงศพเก่าๆอยู่ มีซากคล้ายหนอนแห้งๆ เป็นคลาบๆอยู่ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก สรุปก็คือคืนนั้นผมมานอนเป็นเพื่อน เพื่อความมั่นใจผมก็เปิดไฟนอนด้วย
หลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกปวดฉี่ ไม่รู้กี่โมงกี่ยาม ก็ลุกไปฉี่โดนไม่ได้เห็นมีอะไร กลับมานอนต่อ แต่ว่าเพิ่งตื่นก็ยังไม่ได้นอน นั่งอยู่ก่อนในมุ้งนั้นแหละเจ้าโหนงเอาแมวตัวไม่ใหญ่มากนักมานอนด้วย ผมก็เลยแหย่แมวเล่นสักหน่อย ไม่น่าจะถึงสองนาทีจากนั้นผมได้ยินเสียงสูงเสียงหนึ่ง " แกล๊บ" เล่นเอาตกใจเลย และยังจำความรู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นแรงมาก เพราะในบรรยากาศที่เงียบสนิทขนาดนั้น มีเสียงอะไรผิดปกติ ก็จะดังชัดเจนมาก
ล้มตัวนอนทันที เบียดเจ้าโหน่งโดยไม่รอช้า นิดเดียวที่หัวถึงหมอน ได้ยินเสียงเคาะข้างฝาตำแหน่งหัวนอนผม เสียงดังรัวๆ แล้วก็หยุด(ขณะที่พิมพ์นี่ขนแขนยัง stand-up เลย) ตั้งแขนและขาช่วยกันสะกิดเจ้าโหน่งโดยไม่ต้องสั่ง
ทำอย่างไรก็ไม่ตื่น ยังสงสัยว่าตอนนั้นทำไมไม่ร้องออกมา
เสียงเคาะก็ดังไม่หยุด ทางซ้ายมือผมก็เป็นหน้าต่างแบบทรงไทย แต่มีเหล็กตรงๆกั้นอยู่ กลัวมากเอามือปิดหน้าไว้ แต่ก็มีช่องเล็กระหว่างนิ้วไว้เพื่อให้มองเห็นอะไรบ้าง ลุ้นไปที่หน้าต่างที่เดียวเผื่อจะมีอะไรโผล่มาที่นั้น เพราะด้านนอกหน้าต่างมืดที่สุด ไม่เห็นอะไรแต่เป็นความรู้สึกที่กลัวมากในเวลานั้น เสียงดังที่หัวนอนก็ยังมีอยู่
แต่สุดท้ายเหมือนระฆังช่วย กุฎิหลวงตาเปิดไฟ เสียงเคาะที่หัวนอนหยุดไปด้วย ผมดีใจจนบอกไม่ถูก แต่ก็รู้เวลาแล้ว เพราะหลวงตาจะตื่นประมาณตีห้า ทีนี้เจ้าโหน่งก็ตื่นขึ้นมาด้วย เช้ามืดวันนั้นก่อนฟ้าจะสางไปไหนไปด้วยกัน
รอจนเดินบาตรกับหลวงตาเสร็จ ก็เล่าให้หลวงตาฟัง หลวงตาก็ได้แต่ยิ้มๆ และก็ปลอบ ไม่มีอะไรหรอก เขาอาจแค่มาหยอกเล่น ตั้งแต่นั้นมาผมไม่กล้าไปนอนเป็นเพื่อนเจ้าโหน่งอีกเลย ผมกลับไปนอนบ้าน แต่ช่วงเช้ามาช่วยพระ
บ้านผมอยู่ห่างวัดแค่50 เมตรเองแค่มีคลองกั้น
เลิกเป็นเด็กวัดก็ตอนไปเรียนมัธยม ตอนนั้นยังมี มศ๑ หนึ่งอยู่...... มานึกถึงตอนนี้ผมก็ตอบไม่ได้ว่าเสียงที่เกิดนั้นคือเสียงอะไรแน่...แค่ประสบการณ์




 

Create Date : 13 มิถุนายน 2550    
Last Update : 13 มิถุนายน 2550 13:14:34 น.
Counter : 252 Pageviews.  

ในป่าใกล้ชายแดนเขมร

มีครั้งหนึ่ง ไปลาดตระเวนกับทีมชายแดนไทยเขมร ที่โป่งน้ำร้อนตั้งแต่ซับตารี และสวนส้ม เป็นหัวหน้า ชป ก็ลาดตระเวนตามปกติเข้าไปไปสักพักใหญ่ เส้นทางที่เคยเดินประจำในทุกสัปดาห์ มีอยู่วันหนึ่งขณะเดินมีความรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกๆทั้งที่อากาศก็ร้อน
มีอยู่ช่วงหนึ่งเิดินผ่านแนวแนวไม่ใหญ่ เหมือนเดินผ่านม่านความเย็ยยังไงยังงั้น
ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ก็หันไปมองเพื่อนคนเดินต่อมา เห็นตาขวัญชัย รุ่นพี่ที่คร่ำหวอดกับกัญชา เดินผ่านเห็นแกยกไหล่สูงขึ้นเหมือนรู้สึกโดนความเย็น
หลายคนก็เช่นกัน แต่ไม่ได้พูดอะไรกัน เดินต่อมาสักสามสิบเมตรได้ หนาวเลย เจอเขมรแดงสามคนยืนดูหลุมศพอยู่ พวกเขมรแดงปกติก็ไม่ได้ยิงกับเราอยู่แล้ว อาจมีก็เฉพาะพวกแตกแถวเท่านั้น
ก็มองหน้าเขาและก็ก้มมองที่หลุมศพ ตอบได้เลยว่าใหม่ๆเลย มีอยู่คนหนึ่งพูดออกมาจับใจความได้ว่า ตายแล้ว พี่ผมตายแล้วเมื่อเช้า
ก็ยืนมองสักพัก แล้วชุดผมก็เดินต่อไป จากบริเวณนั้น ก็อีกนะแหละ
จากตรงนั้นสักระยะหนึ่ง อากาศเริ่มร้อนเหมือนปกติ ก็ลาดตระเวนต่อไปจนถึงคลองซึ่งเป็นเขตแดน ตอนนี้เริ่มรวมกลุ่มและพูดคุย
กับเพื่อนในชุด ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าเหมือนเดินผ่านอนาเขตอะไรสักอย่าง พอผ่านก็เป็นปกติ จะว่าไปก็คล้ายกับหนังที่หลายท่านเคยชม ที่บางคนเดินผ่านวิญญาณแล้วรู้สึกเหมือนว่ามีลมหรือบรรยากาศมันเปลี่ยนไป

เรื่องนี้ยังไม่เท่าไหร่เพราะไปกันหลายคน อีกอย่างพระเต็มคอเลยช่วงนั้น
มีอีกฐานหนึ่ง เป็นฐานที่ย้ายเข้าไปแทน คืนหนึ่งขณะเข้ายาม ก็ไม่ได้สนใจอะไร คืนนั้นหลังจากที่เพื่อนมาปลุกเพื่อเปลี่ยนผลัด
ก็แต่งตัวไปเข้าตามปกติ ฐานนี้อยู่ในป่า มีไม้สูงพวกต้นยางใหญ่มาก ไม้ไแดง ประดู่ และไผ่เป็นกอๆ สลับกันไป
คืนเดือนมืด มืดชนิดที่เรียกว่า เอามือมาจ่อตรงหน้าก็มองไม่เห็น เงียบสงัด ลมไม่ไหวติงนั่งอยู่บนเปล กับหลวงพ่อบนคอสามองค์ ก็เริ่มเอนนอนบนเปลโดยห้อยขาซ้ายขวากับพื้น มือก็จับM16 A1 ไว้ตลอด
ไม่แน่ใจผ่านไปนานแค่ไหน อยู่ๆ ก็เหมือนมีฝุ่นผงมาโปรยบนหน้าซะงั้น ก็ไม่รู้มาจากไหนเหมือนกัน รอบข้างเงียบกับเงียบ เดินเข้าบ้านไปคว้าสร้อยมาอีกเส้น มีพระมาเพิ่มอีกเก้าองค์ เพื่อความมั่นใจหน่อย เป็นอะไรที่ทรมานมากเลย กว่าจะได้เปลี่ยนผลัด
ช่วงส่งผลัดไม่บอกเพื่อนหรอกเกิดอะไรขึ้น
รุ่งเช้าเท่านั้นแหละหลังรวมแถวแล้วแยกมาตามชุดก็เลยเริ่มถามเพื่อนในชุด
แมร่งพูดเหมือนกันหมดเลย ต่างคนต่างปิด กลัวไม่มีใครเข้ายาม เพราะกลัว
พวกเวียตกงจะลอดเข้ามาปาดคอตอนหลับ อีกอย่าง พี่คำปัน แกบอกว่าเจอยิ่งกว่านี้อีก ยืนค่อมบ้านแกแล้วมองแกด้วย ตั้งแต่นั้นการจัดเวรยามตามชุด เข้าคู่ตลอดจนย้ายฐาน

มีอยู่วันหนึ่งเ้ข้าไปประจำที่ชุดควบคุม ก็คุยเรื่องพวกนี้กับเพื่อนกลุ่มใหม่
ก็มีเพื่อนกองร้อยอื่นเดินมาสมทบ จ่าแฟร้งเป็นนามที่เรียกแก
แกก็ยิ้มและเข้ามาแจม และก็บอกว่าค่อยคุยกันได้หน่อย ตอนกองร้อยแกอยู่
โดนไม่รู้จะโดนยังไง ที่แรกก็คิดว่าเมากัญชาแล้วเพี้ยนแต่แก็้โดนอยู่เรื่อย

ตอนนี้ไม่รู้เป็นไง ยังมีรุ่นน้องๆเจอกันอีกหรือเปล่าไม่รู้ หลังจากย้ายฐานไปอีกสองแห่งก็ลาออกแล้ว มาทำงานเอกชน

...ไม่เจอด้วยตัวเอง คงไม่รู้ความรู้สึกที่ี่แท้จริงของคนที่เจอ..




 

Create Date : 14 กันยายน 2549    
Last Update : 14 กันยายน 2549 22:38:47 น.
Counter : 300 Pageviews.  

ศาลพระภูมิ

สมัยเป็นวัยรุ่น ศาลพระภูมิที่บ้าน มีรูปปั้นเล็กๆชาย หญิง และรูปคนแก่ ตากะยาย ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายกับปกติที่ได้เคยเห็นอยู่
พี่ชายนะดิ วันหนึ่งมาบอกว่าถ่ายรูปศาลพระภูมิไม่ได้ ก็เลยลอง
โดยขึ้นฟิล์มหันกล้องไปที่ศาลพระภูมิและกดชัตเตอร์ กดไม่ลงจริงๆ
ลองทำซ้าหลายครั้งก็ไม่ลง ขนแขนเริ่มลุกแล้ว แต่ก็พยายามลองกดไปเรื่อยๆ
ก็กดไม่ลงอีก ลองขยับกล้องให้เลยไปทางซ้ายทีละน้อยและก็ลองกด
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า หลังจากที่ทิศทางกล้อง เลยตำแหน่งศาลพระภูมิไปหน่อย
สามารถกดชัตเตอร์ได้ ลองทำซ้าแบบเดิม ลองหันกล้องไปที่ศาลเหมือนเดิม กดซ้าไปซ้ามาก็ไม่ลง คราวนี้ขยับกล้องไป
ทางขวาทีละนิดแล้วก็กดชัตเตอร์ไปเรื่อยๆ ก็ไม่ลง แต่พอเลยตำแหน่งศาลไปนิดหน่อยก็สามารถกดชัตเตอร์ได้อีก
หลังจากวันนั้นมาก็ลองทำแบบนี้อยู่หลายครั้งผลก็เป็นแบบเดิม
และก็ไม่เคยลองอีกเลย บางครั้งบางอย่างวิทยาศาสตร์ก็อธิบายไม่ได้เหมือนกัน




 

Create Date : 03 กันยายน 2549    
Last Update : 3 กันยายน 2549 23:32:05 น.
Counter : 183 Pageviews.  


บลูเบิร์ด
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




รักเธอ ประเทศไทย

.นอกเหนือจากบิดา มารดา และครอบครัว
คุณ ตอบแทนสังคมและประเทศชาติหรือยัง.
. ดูแลสุขภาพกันบ้าง คนไทยต้องเครียด(โดยไม่จำเป็น)
Friends' blogs
[Add บลูเบิร์ด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.