บทที่ 2 "ลูกคนขายเนื้อ"
ฉันเป็นลูกคนขายเนื้อ
ครอบครัวเราอาศัยอยู่ในอำเภอที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้
บ้านเราเป็นห้องแถวไม้ชั้นเดียว 4 ห้องติดกัน เป็นที่พักของครอบครัว 2 ห้อง แบ่งให้คนเช่า 2 ห้อง ห้องหัวมุมผู้เช่าเปิดเป็นร้านกาแฟ
ทุกวันนี้ก็ยังเป็นร้านกาแฟ
บ้านเราอยู่ติดถนนราดยางสายเล็กๆ ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 500 เมตร
หน้าบ้านเป็นโรงบ่มยางพาราสำหรับส่งออก หลังโรงบ่มยางเป็นคลองธรรมชาติซึ่งมีต้นน้ำมาจากป่าดิบบนภูเขาใกล้ชายแดน
ชื่อ คลองอู่ตะเภา
น้ำในลำคลองมีสีเหมือนน้ำชาใส่นม ไหลคดเคี้ยวเหมือนงูใหญ่ผ่านบ้านเรา ผ่านบ้านตายาย และไหลไปอีกไกลจนถึงทะเลสาบ
บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังแรกในชีวิต เป็นบ้านเกิด
ใช่ว่าจะเป็นแต่คำที่หมายถึงบ้านเกิดเมืองนอนเท่านั้น
แต่เป็นบ้านที่ฉันคลอดออกมาจากท้องแม่ด้วยฝีมือหมอตำแย
เหมือนพี่ชายคนโตและพี่สาวคนรอง
ฉันไม่รู้ว่าคนส่วนใหญ่จดจำเรื่องราววัยเด็กย้อนหลังไปได้นานแค่ไหน
ส่วนฉันจำเรื่องของตัวเองที่บ้านหลังนี้ได้ไม่มากนัก เท่าที่พอจะจำได้ก็เช่น
วิ่งไปหาแม่ เวลาแม่ลงจากรถสามล้อถึงกลับจากขายเนื้อที่ตลาดตอนเย็นๆ กอดคอแม่ลงอาบน้ำในคลองและเมื่อได้กลิ่นสบู่ยี่ห้อเก่าแก่ยี่ห้อหนึ่ง
ก็จะคิดถึงวันเวลานั้นทุกครั้ง
พ่อชอบเรียกฉันว่ามนุษย์ตีนไก่ เพราะฉันไม่ชอบใส่รองเท้าเวลาวิ่งเล่น
ก็ที่ว่างข้างๆสวนยางบ้านอาคนรองมีหญ้าเขียวๆขึ้นเต็ม
ฉันคงสบายเท้าและสนุกดีที่ได้วิ่งบนหญ้านุ่มๆ และครั้งหนึ่งก็เจ็บตัวเพราะเหยียบเศษแก้วจนเลือดอาบเท้าแล้วไม่กล้าบอกใคร
ยายเล่าว่าเห็นฉันหายไปนานเลยตามหา และพบว่านั่งหน้าซีดแอบอยู่หลังบ้าน
ไม่ร้องสักแอะ
จำได้ว่าฉันมีผมทรงน้ำพุ
ทรงน้ำพุที่ว่าเป็นทรงผมยอดนิยมของเด็กหญิงตัวเล็กๆที่ผมยาวไม่พอจะมัดหรือ
ถักเปียได้
้ วิธีทำก็ง่ายมาก แค่รวบผมตรงกลางศีรษะมารัดไว้ด้วยหนังยาง
แล้วปล่อยให้บานแฉ่งบนกระหม่อม
วันไหนไม่มีใครทำให้ก็หัวฟูฟ่อง เพราะฉันเป็นเด็กผมดก และหยิกหยักศก
จึงมักโดนล้อว่าเป็นเด็กหัวโต แม่เล่าว่าฉันยอมใครเสียที่ไหนเล่า
ล้อมาก็ว่ากลับ
หัวโตซิดี มันสมองเยอะๆจะได้ฉลาด ไม่โง่เหมือน...
จุด จุด จุด คือชื่อคนที่พูดล้อ เล่นแรงนะนี่ ใครๆก็ว่าฉันเป็นเด็กปากจัด เขาว่าฉันขี้หงุดหงิด ขี้โมโห แต่พวกผู้ใหญ่นี่ก็แปลกดี ทั้งๆที่รู้ ก็ยังชอบมายั่วมาล้อให้โกรธ
จำได้ว่าไปโรงเรียนในชุดกระโปรงเอี๊ยมสีน้ำเงินทับเสื้อขาวพร้อมกับพี่น้ำอ้อย
อ้อ... สมมุติให้พี่สาวฉันชื่อพี่น้ำอ้อย แม่เล่าว่าพี่เค้าชอบชื่อนี้มาก
แต่ไม่มีใครเรียก (อิ..อิ ขำ)
คุณเรียกฉันว่า หนูอ้น ก็ได้ ฉันก็ชอบชื่อนี้มาก แต่ไม่มีใครรู้
ความจริงอายุฉันยังไม่ครบเกณฑ์การเข้าเรียนชั้นประถม 1 ที่กำหนดไว้ที่ 7 ขวบ ชั้นอนุบาลสำหรับเด็กเล็กก็ยังไม่มี ตอนนั้นฉันเพิ่ง 5 ขวบกว่าๆ พอเห็นพี่ไปโรงเรียนก็ร้องไห้งอแงจะตามไปด้วย
แม่เลยไปฝากไว้กับคุณครูให้ช่วยรับไว้อีกคน เรียนๆเล่นๆ ไม่ได้ขึ้นชั้นก็ไม่
เป็นไร
แต่สุดท้ายฉันก็อ่านออกเขียนได้ สอบไล่ขึ้นชั้นประถม 2 ได้เหมือนคนอื่นๆ
เพียงแต่ว่าชั้นประถม 2 ของพี่น้ำอ้อยและฉัน
เราต้องแยกกันเรียนคนละทิศคนละทาง แม้แต่บ้านก็ต้องแยกกันอยู่คนละหลัง
เกิดอะไรขึ้น?
ตามมาซิคะ แล้วฉันจะพาไป
Create Date : 09 มกราคม 2551 |
Last Update : 9 มกราคม 2551 20:37:56 น. |
|
1 comments
|
Counter : 295 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แมงปอ (tonbo2k ) วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:13:32:45 น. |
|
|
|
| |
|
|