Group Blog
 
All Blogs
 

เตือนภัย! ผู้ที่ชอบกินของดอง

คุณๆ ทั้งหลายที่ชอบทานพวก ส้มตำปูดอง ปลาร้าดอง ยำปูเค็ม ผักดอง ผลไม้ดอง หน่อไม้ดอง ฯลฯ ที่ดองๆ ทั้งหลายควรระมัดระวังในการทานของพวกนี้ เพราะถ้าทานเข้าไปในปริมาณมาก หรือทานเป็นประจำ ระวังจะมีอาการดังต่อไปนี้

      1. ปวดท้องน้อย จะปวดเวลาที่เราใกล้จะมีประจำ เดือนมากหรือช่วงมีประจำเดือน 1-2 วันแรกปวดมากผิดปกติ (คือถึงกินยาแก้ปวดก็ไม่หาย หรือทุเลาแค่นิดหน่อย)
      2. มีตกขาวเยอะมากกว่าปกติ
      คุณดูเวลาที่คุณทานพวกของดองเสร็จแล้ว สักพักร่างกายของคุณจะขับตกขาวสีขุ่นๆ ขาวหรือขุ่นเหลือง-เขียว เยอะและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาด้วย
      3. คันยิบๆ ตลอดที่จุดซ่อนเร้น

เวลาที่มีตกขาวออกมาเยอะ (เนื่องจากตกขาวของคุณเกิดอาการอักเสบ) ถ้าหากว่าคุณมีอาการเริ่มต้นดังต่อไปนี้ แนะนำว่าควรไปตรวจที่แผนกสูติฯ ตามโรงพยาบาลต่างๆ ทันที (ตรวจภายใน อุลตร้าซาวน์ ตรวจมะเร็งปากมดลูก ตกขาว ช็อกโกแลตซีสต์) ถ้าอายุน้อยๆ ควรตรวจตั้งแต่แรกจะดีมาก (ถ้าบางคนไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนก็บอกหมอได้) เพื่อป้องกันสุขภาพของคุณๆไว้ก่อน แต่ทางที่ดีคุณควรจะงดทานของดองไปตลอด หรือหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยง แล้วสุขภาพของคุณจะดีขึ้นมากๆเลยค่ะ คุณจะไม่ปวดท้องน้อยเนื่องจากอาการอักเสบของมดลูกอีกเลย เพราะอาการดังกล่าวอาจจะก่อให้เกิดโรคที่คุณผู้หญิงทั้งหลายไม่รู้ก็ได้

ที่มา : ผู้หญิงนะคะดอทคอม




 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 16 พฤษภาคม 2553 14:59:04 น.
Counter : 323 Pageviews.  

"เปลือกองุ่นแดง" ต้านเซลล์มะเร็งตับอ่อน

ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ แห่งสหรัฐฯ ค้นพบสาร ประกอบในเปลือกขององุ่นแดงและเหล้าไวน์แดง มีสรรพคุณบังคับให้เซลล์มะเร็งตับอ่อนหยุดทำงาน และตายลงในที่สุด
สาร ประกอบมีชื่อว่า “เรสเวราทรอล” เป็นสารปฏิชีวนะของพืชอย่างหนึ่ง ยังพบอยู่ในถั่วและผลไม้อื่นๆ เช่น ถั่วลิสง ผลรัสเบอรี่ และผลบลูเบอรี่ แต่มีอยู่ในเปลือกลูกองุ่นแดง รวมทั้งในเหล้าไวน์แดงมากที่สุด

นักวิจัยของศูนย์ได้พบในการศึกษาใช้สารเรสเวราทรอลลำพัง หรือประกอบกับการฉายรังสีรักษาคนไข้ว่า สารนั้นได้ไปทำลายศูนย์พลังของเซลล์มะเร็ง จนไม่อาจทำงานต่อไปได้ แต่ก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่าสารเรสเวราทรอลจากเหล้าไวน์แดง จะมีผลกับเนื้อร้ายที่อยู่ในร่างกายคน แบบเดียวกับที่ทำกับเซลล์มะเร็งในจานทดลอง ในห้องปฏิบัติการหรือไม่

ดร.ปอล โอคูเนียฟ หัวหน้าคณะผู้ทำการศึกษากล่าวว่า ผลการวิจัยส่อว่าสารประกอบนี้มีท่าในอนาคตว่า จะมีส่วนอย่างสำคัญ ในการรักษาโรคมะเร็งต่อไป”

ที่มา :




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 11 พฤษภาคม 2553 16:44:02 น.
Counter : 294 Pageviews.  

8 นาทีกับโยคะบนที่นอน

การออกกำลังกาย นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแล้ว ยังทำให้เรามี สุขภาพ ดีอีกด้วย วันนี้เรามี เทคนิค วิธีการ ออกกำลังกาย เพื่อ สุขภาพ 8 นาที กับ โยคะ บนที่นอน มาฝากเพื่อนๆ กันด้วย



ปกติแล้วการออกกำลังกายก่อนนอนจะทำให้ร่างกายตื่นตัวและนอนไม่หลับ แต่ Exercise Issue ฉบับนี้ ขอประเดิมการกลับมาอีกครั้ง ด้วยโยคะ 5 ท่า เพื่อการนอนหลับสนิทแสนสบาย ทำง่ายในเวลาเพียง 8 นาที ที่สำคัญคือทำบนเตียงนอนก็ได้ ทำเสร็จก็หลับปุ๋ยไปได้เลยค่ะ

นาทีที่ 1-2 ด้วยการนอนยกขาขึ้นตั้งฉากกับพื้น ขยับตัวให้ขาและสะโพกแนบชิดกับผนัง หงายฝ่ามือขึ้น อยู่ในท่านี้จนรู้สึกว่าขาและแผ่นหลังเริ่มตึง

นาทีที่ 3 ด้วยการนั่งขัดสมาธิบนที่นอน วางมือขวาไว้บนหัวเข่าซ้าย หันหน้าและบิดลำตัวไปพร้อมๆ กับวาดมือซ้ายไปท้าวไว้ด้านหลังสะโพก แขนเหยียดตรง ทอดสายตามองข้ามหัวไหล่ หายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออก ทำสลับอีกข้าง

นาทีที่ 4 - 5 เริ่มต้นจากท่าศพ คือ นอนหงาย กางขาออกช่วงห่างประมาณความกว้างของไหล่ กางแขนออกจากลำตัวเล็กน้อย หงายฝ่ามือขึ้น ปล่อยตัวตามสบาย จากนั้นงอเข่าเข้ามาเล็กน้อยจนฝ่าเท้าประกบกันได้ หากรู้สึกเมื่อยขาให้นำหมอนมารองใต้เข่าทั้งสองข้าง

นาทีที่ 6-7 นั่งบนฝ่าเท้า ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ ค่อยๆ โน้มตัวลงจนหน้าผากจรดที่นอน ให้หน้าอกชิดกับหัวเข่ามากที่สุด แขนทั้งสองเหยียดตรง หายใจเข้าและออกช้าๆ



นาทีที่ 8นอน หงาย ปลายเท้าชิด งอเข่าทั้งสองข้างขึ้นให้ปลายเท้าไขว้เข้าหากัน เอามือกอดเข่าดึงให้เข้ามาชิดหน้าอกมากที่สุด พยายามเกร็งตัวขึ้น แล้วโยกตัวไปมาเพื่อนวดกระดูกสันหลัง ทำต่อเนื่องจนครบนาที จากนั้นนอนลงแล้วค่อยๆ กางแขนขาออกอยู่ในท่าศพ ผ่อนลมหายใจจนกระทั่งหลับไป


โยคะ 8 นาทีนี้ นอกจากจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายแล้ว การหายใจเข้าและออกเป็นจังหวะช้าๆ ยังช่วยขจัดความคิดฟุ้งซ่านและปรับ สภาพจิตใจให้เกิดสมดุล คุณจึงนอนหลับสนิทได้ทั้งตลอดคืนค่ะ

ที่มา : Health & Cuisine




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 11 พฤษภาคม 2553 16:31:12 น.
Counter : 217 Pageviews.  

กิน “วิตามิน C” เสริมดีหรือไม่?

ตอนเด็ก ๆ หลายคนชอบกินวิตามินซีชนิดเม็ด เพราะคุณพ่อคุณแม่หาซื้อมาประเคน นัยว่าป้องกันโรคลักปิดลักเปิด พอโตขึ้นหลายคนก็ยังกินอยู่ เพราะสะดวก หรือบางคนอาจจะไม่ชอบกินผลไม้

ดังนั้น เพื่อให้ผู้อ่านได้รับทราบข้อมูลในเรื่องนี้ X-RAY สุขภาพ จึงมาพูดคุยกับ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.สถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ

นพ.กฤษดา กล่าวว่า วิตามินซีชนิดเม็ดที่ขายกันอยู่มีทั้งวิตามินซีธรรมชาติ และสังเคราะห์ โดย ชนิดที่เป็นสารสัง เคราะห์ ประกอบด้วย กรดแอสคอบิก ผสมกับน้ำเชื่อมข้าวโพด หรือ คอร์นไซรัป มีการเติมสี แต่งกลิ่น แต่งรส ดังนั้นการกินวิตามินซีชนิดเม็ดจะได้ความหวานด้วย โดยเฉพาะที่เป็นชนิดแบบอมเล่น รสผลไม้ ทั้งหลาย

ถามว่าวิตามินซี ชนิดเม็ดให้คุณค่าเช่นเดียวกับผลไม้ที่มีวิตามินซีหรือไม่ ขอเรียนว่า ถ้าเป็นวิตามินซีธรรมชาติจะให้คุณค่าไม่ต่างจากผลไม้อุดมวิตามินซีทั่วไป แต่ถ้าเป็นวิตามินซีสังเคราะห์มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าอาจทำให้เกิด มะเร็งมากขึ้นในหนูทดลองและทำให้หลอดเลือดแข็งตีบในคนได้

โดยหลักในการเลือกซื้อวิตามินซีธรรมชาติไม่ให้ดูแค่คำว่า ธรรมชาติ หรือ Natural ข้างฉลากเท่านั้น หากแต่ต้องดูคำว่า ผลิตจากผักและผลไม้ในสภาวะที่เหมาะสม หรือ Made from fruits and vegetables below 70 degrees แทน

สำหรับความจำเป็นในการกินวิตามินซีชนิดเม็ด นพ.กฤษดา บอกว่า หากกินผักผลไม้ไม่ค่อยไหวก็อาจรับประทานได้บ้าง แต่ไม่ใช่ใช้แทน เพราะอย่างไรก็ดีวิตามินจะดูดซึมได้ดีต้องมีสารธรรมชาติบางชนิดในผลไม้นั้น ๆ ช่วยด้วย ดังนั้นสูตรสำเร็จสำหรับผู้รักที่จะกินวิตามินซีก็คือ กินอาหารเสริมบวกอาหารสดนั่นเอง

อาหารที่มีวิตามินซีมาก ได้แก่ ฝรั่งกลมสาลี่ มะขามเทศ มะขามป้อม มะละกอแขกดำ พุทรา แอปเปิ้ล และส้มโอขาวแตงกวา ซึ่งจะสังเกตได้ว่าความเปรี้ยวไม่ใช่ตัวบอกวิตามินซี เพราะจะเห็นว่าผลไม้เปรี้ยวจัดอย่างมะยมหรือลูกเสาวรสไม่ติดอันดับต้น ๆ เลย

นอกจากนี้อาหารธรรมชาติที่นึกไม่ถึงอีกชนิดที่มีวิตามินซีมาก คือ ปลาทะเลดิบ มีกรด แอสคอบิกมากเป็นพิเศษ จะเห็นได้ว่าชาวเอสกิโมนั้นแม้ไม่ค่อยได้บริโภคพืชผักผลไม้ ก็ยังไม่เป็นโรคขาดวิตามินซี

กลุ่มคนที่ควรรับประทานวิตามินซี คือ ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่เป็นโลหิตจางและผู้รับประทานมังสวิรัติ เพราะบุหรี่หนึ่งมวนจะผลาญวิตามินซีไปเท่ากับส้มเขียวหวานราว 1 ผลเลยทีเดียว ส่วนโลหิตจางบางชนิดกับคนกินมังสวิรัตินั้นมักขาดธาตุเหล็กจากเนื้อสัตว์จึง ต้องอาศัยวิตามินซีช่วยจับธาตุเหล็กให้มากขึ้นแทน รวมถึงผู้ที่เริ่มสูงวัยหรือผิวพรรณเริ่มเสื่อมไป วิตามินซีจะช่วยกวาดสนิมแก่ ช่วยเพิ่มคอลลาเจน ซึ่งเป็นเสมือนกระดูกของผิวให้คงรูปไม่เหี่ยวย่นเร็วเกินวัย วิตามินซียังช่วยเสริมภูมิให้กับผู้ป่วยภูมิแพ้เรื้อรัง ไอเรื้อรังหรือเป็นหวัดบ่อย นอกจากนี้ยังแก้เครียดด้วย เพราะเกี่ยวพันกับต่อมหมวกไตในการสร้างฮอร์โมนต้านเครียดและการอักเสบชื่อ ว่า คอติซอล


กินวิตามินซีมากไปมีผลเสียหรือไม่? นพ.กฤษ ดา กล่าวว่า มีแน่นอน การกินนับสิบ ๆ เม็ดหรือบ้างก็ใช้ฉีดเข้าเส้นกันโดยหวังว่าจะรักษามะเร็งและโรคร้ายอื่นได้ มีงานวิจัยที่แสดงว่าวิตามินซีปริมาณมากอาจทำให้เกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ได้ เพิ่มอัตราการเกิดมะเร็งในหนูทดลอง ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบแข็งในมนุษย์ ทำให้ขาดธาตุทองแดงและน้ำย่อยสำคัญในร่างกาย

ส่วนอาการเตือนในช่วง แรกที่กินมากไปทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ที่สังเกตได้ อาทิ คลื่นไส้ ถ้ากินมากถึงแก่อาเจียน แสบร้อนกระเพาะอาหาร จุกใต้ลิ้นปี่ ระคายทางเดินอาหาร ถ่ายเหลว ปัสสาวะสีเข้ม

อย่าง ไรก็ตาม ไม่ต้อง ตระหนกอกสั่นกับ วิตามินซีเป็นพิษ มาก เพราะว่ามันละลายน้ำได้ ถ้าได้เยอะเกินไปร่างกายจะขับออกทางปัสสาวะโดยอัตโนมัติ ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร จะแย่หน่อยก็ตรงเสียดายว่ามันจะกลายเป็นฉี่แพงไปหน่อยเท่านั้นเอง

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 11 พฤษภาคม 2553 16:10:33 น.
Counter : 282 Pageviews.  

วิธีบรรเทาอาการปวดขาของสาวนักช็อปฯ

ผู้หญิงกับการช็อปปิ้ง เป็นอะไรที่แยกออกจากกันไม่ได้จริงๆ จะเห็นได้ว่าคุณสาวๆ จะมีความสุขจนลืมทุกอย่างไปเลยเมื่อได้ช็อปปิ้ง ยิ่งช่วงที่มีการลดราคากระหน่ำ หรือมิดไนต์เซลตาม ห้างสรรพสินค้าต่างๆ จนอาจลืมไปว่าร่างกายของเราจะต้องแบกรับน้ำหนักจากข้าวของที่พะรุงพะรังมาก มายแค่ไหน จนเป็นเหตุให้สาวนักช็อปหลายคนเกิดอาการเจ็บปวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกายตามมา

นายแพทย์เกรียง ไกร เบญจวงศ์เสถียร ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า ปัญหาของสาวๆ ที่รักการช็อปปิ้งที่พบมากก็คือ

ปวดกล้ามเนื้อ เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ และ หลังทำงานหนัก เกิดการหดเกร็ง เนื่องจากต้องแบกหรือถือถุงหนักๆ

ปวดข้อมือ ชาตามปลายนิ้ว เนื่องจากการคล้องกระเป๋า หรือถุงต่างๆ บริเวณแขนและข้อมือ ทำให้เส้นประสาท ถูกกดทับ อาจเกิดอาการชาตามปลายนิ้วต่างๆ ได้ บางคนอาจปวดร้าวเหมือนถูกไฟชอร์ตวิ่งอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นมากอาจทำให้มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้ออุ้งมือได้

เอ็นอักเสบ โดยอาจเป็นที่เอ็นบริเวณข้อหัวไหล่ เอ็นบริเวณ ข้อศอก ปลอกหุ้มเอ็นบริเวณนิ้วอักเสบ และถ้าหิ้วถุงหนักมากๆ อาจทำให้ปลอกหุ้มเอ็นบริเวณนิ้วอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดพังผืด เกิดภาวะนิ้วล็อก (Trigger finger) แต่ถ้าใครรู้ตัวว่ายังไม่สามารถลด ละ เลิก การช็อปปิ้งได้ ก็ควรหาวิธีป้องกันอาการเจ็บปวดเหล่านี้ด้วยตัวเองง่ายๆ คือ

- หลีกเลี่ยงการใช้กระเป๋าใบใหญ่มาก เพราะจะยิ่งเผลอตัวใส่ของมากเกินไป น้ำหนักก็จะมากตามไปด้วย เปลี่ยนมาเป็นกระเป๋าขนาดที่เหมาะสมกับรูปร่างของตัวเองจะดีกว่า

- ใช้บริการฝากของหรือใช้รถเข็นของที่ห้างสรรพสินค้าก็เป็นทางเลือกที่ดีต่อ สุขภาพ

- เลือกใส่รองเท้าสบายๆ ยามที่เดิน ช็อปปิ้ง

- บริหารข้อนิ้ว ข้อมือ ข้อศอก และไหล่ เพื่อป้องกันการเคล็ดหรือเอ็นอักเสบง่ายๆ เช่น ยืนชิดผนังแล้วใช้นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง ทาบและไต่ขึ้น – ลงบนผนัง 10 ครั้ง, หมุนข้อมือเป็นวงกลมซ้าย – ขวา 10 ครั้ง บริหารไหล่ หมุนแขนไปข้างหน้า – หลัง เป็นวงกลม ข้างละ 10 ครั้ง

- หากรู้สึกปวดกล้ามเนื้อมาก ใช้แผ่นประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดบวมใน 1 – 2 วันแรก หลังจากนั้นใช้แผ่นประคบร้อนพร้อมยืดกล้ามเนื้อเบาๆ หรือจะใช้ยานวด หรือรับประทานยาแก้ปวดบรรเทาด้วยก็ได้ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ



ที่มา : นสพ.สยามธุรกิจ





 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 11 พฤษภาคม 2553 15:51:55 น.
Counter : 254 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

DeWalt
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add DeWalt's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.