Group Blog
 
All Blogs
 

"อาหารเป็นพิษ"

อย่างที่รู้ๆกันว่า ในอาหารอุดมด้วยแบคทีเรีย และพยาธิมากมาย เพื่อไม่ให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของอาหารเป็นพิษ

ทำไมโรคภัยเกี่ยวกับอาหารจึงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น?

อย่างหนึ่งก็คือ เราสั่งอาหารและทานอาหารตามร้านอาหารนอกบ้านบ่อยขึ้น ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า อาหารที่ปรุงในปริมาณมากๆ นั้นคุณค่าของอาหารก็ลดลงด้วย รวมทั้งในสภาพบีวิตที่วุ่นวายนี้ เราก็เพิ่มความเสี่ยงให้ชีวิตมากขึ้น ด้วยการที่ไม่ยอมเสียเวลากับการถนอมอาหารหรือไม่ยอมอุ่นอาหารที่เหลือก่อน กิน รายงานเมื่อเร็วๆนี้ แจ้งให้ทราบว่า แมลงหรือหนอนที่เกิดในอาหารนั้นมีมากขึ้น แข็งแรงขึ้น และเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียชนิดใหม่ๆ รวมกับแบคทีเรียตัวร้านขาประจำเจ้าเก่า คือ แคมพลีแบคเตอร์ อีโคลี และแซลโมนิลลา หรือพยาธิชนิดอื่นๆ เช่น ตริคินิลลา

จะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารเป็นพิษต่อคุณ

อาหารเป็นเพิษนั้นจะแสดงอาการเมื่อไรก็ได้ จากช่วง 30 วินาทีหลังทานจนถึงสองสัปดาห์ การทานอาหารที่เสียแล้ว จึงยากต่อการวินิจฉัยโรคให้ถูกต้อง วิธีที่จะบอกได้ว่าคุณถูกเล่นงาน คือ อาจมีอาการปวดหัวและมีไข้ อาการคลื่นเหียนอาเจียน ท้องเสีย และอาจมีตะคริวที่ช่องท้อง แต่อาการเหล่านี้จะไม่เกิดควบคู่กับอาการไอหรือจาม ซึ่งเป็นอาการของไข้หวัด หรืออาการที่เกี่ยวเนื่องกับระหายใจ

อาหารถูกทำลาย

อาหารที่คุณซื้อทุกประเภทนั้นมีศักยกภาพในการแพร่เพาะเชื้อร้ายแรงได้ "แต่จะเป็นได้ก็ต่อเมื่ออาหารเหล่านั้นไม่ได้รับการเตรียม หรือการจัดปรุงที่ถูกวิธี และกลายมาเป็นมหันตภัยอย่างร้ายแร" ไม่ว่าจะเป็นคนแล่เนื้อ คนปรุงอาหาร หรือแม้แต่คนเสิร์ฟอาหาร ก็สามารถทำให้อาหารเสียได้ หากว่าเก็บอาหารดังกล่าวไว้ในตู้เย็นที่ไม่เย็นพอ หรือปรุงอาหารในความร้อนที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่การจับต้องอาหารด้วยมือหรือด้วยช้อนส้อมที่ไม่สะอาด

อาหารที่ทำให้คุณทุกข์ทรมานได้

- ไก่และอาหารจำพวกเนื้อ 20 เปอร์เซ็นต์ของไก่ เนื้อ และหมู ที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแซลโมนิลลา วิธีซึ่งอาจป้องกันได้ก็คือ เมื่อกินอาหารที่ร้านอาหาร คุณต้องสั่งให้แน่ใจว่าปรุงอาหารประเภทเนื้อให้สุก หรืออย่างน้อยต้องใช้ความร้อน 16 องศาฟาเรนไฮต์) ซึ่งจะสามารถฆ่าแบคทีเรียได้

- อาหารทะเล ไม่สดอย่าซื้อ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทปลาดิบๆ ยกเว้นว่าคุณไปกินภัตตาคารที่มีชื่อเสียงไว้ใจได้ นั้นก็รวมถึงอาหารทะเลประเภทหอยๆ

- น้ำผลไม้คั้นสด น้ำผักหรือผลไม้ที่คั้นสดๆ ไม่ได้ผ่านวิธีการพาสเจอร์ไรซ์ ถือว่าเป็นเสี่ยงด้วย ควรถามว่าน้ำนี้คั้นหรือปั่นนานเท่าไรแล้ว หรือถ้าจะให้ปลอดภัยจริงต้องให้ปั่นกันสดๆ ต่อหน้าเลย แทนที่จะซื้อจากแก้วหรือขวดที่ปั่นไว้เรียบร้อยแล้ว

-ไข่ดิบหรือไข่ที่ปรุงไม่ค่อยสุก วิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการกินไข่ก็คือ กินไข่แดงและไข่ขาวที่แข็งด้วยความร้อน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของไข่ดิบ

วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงแมลง

อย่าอายที่จะปฏิเสธอาหารที่มีกลิ่น หรือรสชาติประหลาด หรือว่าอาหารที่ไม่ได้ปรุงตามที่คุณสั่ง

- สลัดบาร์ ควรเช็ดความสะอาดและอุณหภูมิของสลัดบาร์ ดังนั้นต้องแน่ใจว่า อาหารนั้นร้อนพอและอาหารเย็นได้รับความเย็นเพียงพอ อาหารร้อนและอาหารเย็น ควรเก็บไว้แยกจากกันให้เป็นที่ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค

- ที่ทำงาน หากว่านำสลัดหรือแซนวิชมาทานที่ทำงานเป็นอาหารกลางวัน ควรเก็บไว้ในภาชนะที่เก็บความเย็นได้ หรือใช้ถุงสองชั้นและแช่ด้วยแพ็คเย็น ซุปร้อนและเครื่องดื่มร้อนควรเก็ยไว้ในกระติกเก็บความร้อน เมื่อทำการอุ่นอาหารในไมโครเวฟขอบงที่ทำงาน ควรใช้ฝาปิดอาหาร

- ที่บ้าน ควรเก็บอาหารที่กิดเหลือเข้าตู้เย็นทันทีที่กินเสร็จเรียบร้อย อาหารที่เหลือจากร้านอาหารควรกินภายในสามวันอย่ากินหรือชิมอาหารที่มีกลิ่น หรือรสชาติประหลาด การชิมอาหารที่เสียแล้วแม้เพียงน้อยนิด ก็สามารถทำให้คุณไม่สบายได้ ควรละลายอาหารแช่งแข็งในช่องธรรมดาของตู้เย็นสักวันสองสันก่อนล่วงหน้า แล้วอุ่นทันทีในไมโครเวฟ อาจจะเป็นการเสียเวลานิดหน่อยแต่ก็ยังคงดีกว่าที่จะต้องนั่งๆนอนๆป่วยไปอีก หลายวัน

ที่มา : ผู้หญิงนะคะดอทคอม




 

Create Date : 22 เมษายน 2553    
Last Update : 22 เมษายน 2553 22:31:16 น.
Counter : 299 Pageviews.  

เทคนิค (พิชิตความเครียด)

ความเครียดเป็นภัยร้ายแรงที่บั่นทอนทั้งร่างกายและจิตใจ โดยที่หลายๆคนไม่คาดคิด ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของการสอบเข้าโรงเรียนใหม่ของเด็กวัยเรียนทุกวัย จนมีผลให้เด็กๆต้องเผชิญกับภาวะวิตกกังวล จนกลายเป็นความตึงเครียด ลองมาหาวิธีรับมือ เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป

นพ.สรวุฒ คุ้มครองธรรม แห่งศูนย์รีไวทัลไลท์ มีความห่วงใยในปัญหาเครียดของวัยรุ่น ได้ให้ข้อแนะนำในการแก้ปัญหาความเครียดว่า ความเครียดเป็นสิ่งใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นกับเราได้ ตลอดเวลา เพราะเกิดจากภาวะของจิตใจตนเองที่ตื่นตัว พร้อมจะเผชิญกับความกด ดันอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคาดคิดว่าเกินความสามารถของเราที่จะแก้ไขให้หมดสิ้นหรือบรรเทาลงได้

คุณ หมอยังบอกถึงอาการของวัยรุ่นที่มีความ เครียดมาก เพื่อให้ผู้ปกครองคอยสังเกตและเฝ้าระวัง จะได้รีบช่วยเหลือและแก้ไขแต่ โดยเร็ว เนื่องจากความเครียดอาจแสดงออกมาในรูปของการเก็บตัว ไม่พูดคุยกับใคร เพราะไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่ง มีอาการซึมเศร้า กินอาหารไม่ลง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แน่นหน้าอก ท้องอืด ปวดหัว มีผื่นขึ้นตามตัว

“อย่างที่เห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ มีวัยรุ่นฆ่าตัวตายมากขึ้นจากหลายๆสาเหตุ เช่น ผิดหวังจากความรัก น้อยใจพ่อแม่ เรื่องการเรียน โดยเฉพาะเด็กบางคนที่พ่อแม่คาดหวังไว้มาก ก็ยิ่งจะทำให้ลูกรู้สึกกดดันอย่างรุนแรง เมื่อเด็กหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ ก็มักจะแก้ปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย ดังนั้น การเลี้ยงดูจึงเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าพ่อแม่เลี้ยงลูกให้เรียนรู้ในการเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ และแก้ไขปัญหาอย่างมีเหตุผล รู้จักยอมรับความเป็นจริง ก็จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับเขาในการใช้ชีวิตอยู่ในสังคม ได้อย่างดี”

นอกจากนี้ คุณหมอสรวุฒยังมีวิธีแก้เครียดมาฝากสำหรับทุกคนได้นำไปใช้ได้ด้วย คือถ้าเกิดความ เครียดมากๆ ก็ควรหาทางระบายออกด้วยกิจกรรมต่างๆที่ชื่นชอบ เช่น ออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ฯลฯ และพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมง โดยเวลานอนที่ดีที่สุดของคนเรานั้น คุณหมอบอกว่า คือช่วงเวลา 4-5 ทุ่ม เพราะจะมีฮอร์-โมนที่หลั่งออกมาช่วยซ่อมแซมร่างกายระหว่างที่เราหลับ ดังนั้น วัยรุ่นที่นอนดึกจึงมักจะโตช้า และห้องนอนก็ควรจะมืดสนิท เพราะมีฮอร์โมนตัวหนึ่งชื่อว่า “เมลโตนิน” จะหลั่งออกมาตอนไฟมืดสนิท เป็นเหมือนนาฬิกาชีวิตเราทำให้แก่ช้าลง และเพิ่มภูมิ คุ้มกันให้ร่างกายเรา หากมีอาการนอนไม่หลับเพราะเครียด หรือคิดเรื่องอะไรมากเกินไป การดูทีวีก่อนนอน ก็ทำให้ สมองไม่ได้พัก จึงไม่ควรทำอะไรก่อนนอน ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ ดูทีวี หรือกิน ควรนั่งวิปัสสนา ทำจิตใจให้ว่าง จะได้นอนหลับสบาย

พร้อมกันนี้ นพ.สรวุฒยังแนะนำเรื่องอาหารการกินช่วยลดความเครียด ซึ่งมีอยู่มากมายหลายชนิด เช่น ถั่วเหลือง นมวัว เนื้อสัตว์ ไข่ ซึ่งจะมีสารอาหาร “ทริปโตฟาน” ช่วยลดระดับความเครียด, ในธัญพืชต่างๆ ยีสต์ รำข้าว เครื่องใน เนื้อ ถั่ว ผัก มีวิตามินบี 6, ตับ เครื่องใน เนื้อ เป็ด ไก่ ปลา ถั่ว จะมีวิตามินบี 3 ฯลฯ ส่วนของหวานสุดโปรดของหลายๆคนอย่างช็อกโกแลต ก็ช่วยแก้เครียดได้ชะงัดเช่นกัน

แต่สำหรับผู้ที่มีอาการเครียดเรื้อรัง หาวิธีแก้ไขอย่างไรก็ยังไม่ดีขึ้น อาจต้องอาศัยเทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยเหลือ ลองปรึกษาคุณหมอได้ที่ 0-2651-4751-3

ที่มา นสพ.ไทยรัฐ




 

Create Date : 22 เมษายน 2553    
Last Update : 22 เมษายน 2553 22:23:10 น.
Counter : 217 Pageviews.  

ทางเลือกอาหารว่างเพื่อสุขภาพ

ปัจจุบันนี้ อาหารว่างในบ้านเรามีให้เลือกทานกันมากมาย แถมยังหาทานได้ง่ายขึ้น

แต่สังเกตให้ดีก็ จะพบว่า อาหารว่างส่วนใหญ่ที่เข้ามามีบทบาทในบ้านเรา ล้วนมีอิทธิพลมาจากประเทศพัฒนาแล้วแทบทั้งสิ้น และแน่นอนว่าเมื่ออาหารเหล่านี้เข้ามา ย่อมจะต้องมีกระแสต่างๆ ที่ทำให้คนทานนั้นพูดถึง เช่น อาหารว่างที่เป็น Junk Food ซึ่งพบได้บ่อยตามท้องตลาดนั้น ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

คำว่า Junk Food คนส่วนใหญ่มักคิดว่า เป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพเอาเสียเลย แต่ความจริงอาหารว่างที่ทานนั้นมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรอย่างที่คิดเสมอไป

เพราะ การเลือกทานอาหารว่างในแต่ละครั้ง ก่อนทานเราเองก็คงจะเลือกทานของที่มีแต่ประโยชน์ และเลือกทานในปริมาณที่พอเหมาะกับร่างกายเท่านั้น

ฉะนั้นมาดูกันว่า อาหารว่าง Junk Food ที่กล่าวมาข้างต้น มีอะไรบ้าง และมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร ดังนี้

1. Popcorn

แนะนำว่าอย่า เลือกรับประทาน Popcorn แบบสำเร็จรูปที่สามารถทำเองในตู้ไมโครเวฟ เพราะไขมันที่ ได้รับนั้นจะสูงมาก ทางที่ดีการทำ Popcorn ให้เลือกใช้เนยเทียม เช่น มาร์การีน เพียงเล็กน้อย

2. Fruit and fruit smoothies แนะนำให้เลือกทานผล ไม้ที่มีน้ำตาลไม่สูงมาก หรือจะเลือกทาน fruit smoothies ถ้าต้องการ ความรวดเร็วแล้วสะดวก

3. Ice cream ไม่ แนะนำให้เป็นอาหารว่างประจำทุกวัน เพราะค่อนข้างจะทำให้เกิดโรคอ้วนได้ และถ้าอยากทานจริงๆ ให้เลือกทานรสวานิลา ซึ่งถือว่าเป็นรสชาติพื้นฐาน

4. Cookies ให้เลือกทานคุกกี้แบบ fat-free และไม่แนะนำว่าให้ทานเป็นอาหารว่างประจำเช่นเดียวกัน

5. Cheese and crackers

แนะ นำให้เลือกชีสแบบ low fat และให้โปรตีนสูง แต่ถ้าจะทานคู่กับแครกเกอร์ ให้เลือกที่ทำจาก เมล็ดธัญพืชที่ไม่ได้ผ่านการปรุงแต่ง

6. Cereals

เลือกที่มีไฟ เบอร์สูง และมีปริมาณน้ำตาลต่ำ ธัญพืชที่ดี คือ ข้าวโอ๊ตบดหยาบ

7. Yogurt

ถ้าเป็นคนไม่ชอบ ดื่มนม แนะนำให้ทานโยเกิร์ตที่เป็นรสธรรมชาติไม่มีการปรุงแต่ง และที่สำคัญไม่ควร เลือกที่มีน้ำตาลสูง ถ้าจะเพิ่มรสชาติให้เติมผลไม้สดลงไป

8. Vegetables แนะนำให้ เลือกผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผักใบสีเขียว เป็นต้น

9. Peanut butter ถ้าจะรับประทานให้ทานเพียงแค่หนึ่ง ช้อนโต๊ะเท่านั้น เพิ่มรสชาติด้วยการทาลงบนแครกเกอร์แบบ ธรรมชาติหรือจะขนมปังซีเรียล

10. Cake

ไม่แนะนำให้ทานเป็นอาหารว่างประจำวัน ถ้าอยากทานให้เลือกทานที่เป็นเค้กชนิด low fat หรือจะ เป็นเค้กประเภทโยเกิร์ตผลไม้ก็เข้าที

เพียงแค่นี้ก็ทำให้รู้ว่าการเลือกทานอาหารว่าง ก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อเรา เพราะทำให้สามารถทานอาหารว่างได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพ




 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 21:09:00 น.
Counter : 259 Pageviews.  

เตือนภัย ห้องน้ำในมอเตอร์เวย์!

อยากจะเตือนเพื่อนๆ เข้าห้องน้ำมอเตอร์เวย์ ระวัง !!!

จุดพักรถ มอเตอร์เวย์ต้องระวัง แม้กระทั่ง....... ผู้ชาย

เคยเจอแบบนี้ไหม ครับ จุดพักรถมอเตอร์เวย์ ตอนตีสอง

คุณxx(ขอสงวนนาม)ขณะกำลังขับรถ กลับบ้านคนเดียว ปวดขี้สุดๆ เลยแวะเข้าห้องน้ำ ปิดประตูปัง !!!!

สัก พัก มีคนเดินมาเข้าห้องน้ำ ห้องข้างๆ เป๋ แล้วมีเสียงลอดออกมา

ชาย นิรนาม : ' สวัสดี เป็นไงบ้าง สบายดีไหม '
xx : นึกในใจ อืม อะไรของมันว่ะ แต่ทำใจดีสู้เสือ เอาไงเอากันว่ะ เลยตอบกลับไป ' เอ่อ สวัสดีครับ สบายดีครับ '

ชายนิรนามถามต่อ : ' แล้วทำอะไรอยู่ล่ะ '
xx : นึกในใจ ***จะให้กูทำ อะไร ฟะ นั่งอยู่ในส้วม ' เอ่อ คือ ขี้อยู่อะครับ '

ชายนิรนามถามอีก : ' นอนดึกนะเนี่ย ป่านนี้ ยังไม่หลับไม่นอน จะไปไหนเนี่ย '
xx : อืม แปลกดีวุ้ย มีคนชวนคุย คงกำลังหาเพื่อนคุย ' เออ กลับบ้านที่จันทน์ ครับ ต้องไปงานแต่งตอนเช้า '

สำหรับประโยค สุดท้าย ของชายนิรนาม ที่ทำให้เขาขนลุก
.......................................................................
............................................................
..................................................
.........................................
..................................
.........................
.................
.........
....
..
.

ชายนิรนาม : ' เฮ้ยๆ ! กูวางหูแค่นี้ก่อนนะ ห้องข้างๆ เป็นเ *** ้ยอะไรไม่รู้ พูดตอบกูมาตลอดเลยฟ่ะ....




 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 20:36:44 น.
Counter : 316 Pageviews.  

พฤติกรรมเสี่ยงทำร้ายกระดูกสันหลัง

วันนี้เกร็ดความรู้มีพฤติกรรมทำ ร้ายกระดูกสันหลังมาบอกกัน ..

1. การนั่งไขว่ห้าง จะทำให้น้ำหนักตัวลงที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง เป็นผลให้กระดูกคด

2. การนั่งกอดอก ทำให้หลังช่วงบน สะบัก และหัวไหล่ ถูกยืดยาวออก หลังช่วงบนค่อมและงุ้มไปด้านหน้า ทำให้กระดูกคอยื่นไปด้านหน้า มีผลต่อเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงแขน อาจทำให้มืออ่อนแรง หรือชาได้

3. การนั่งหลังงอ หลังค่อม เช่น การอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนาน ๆ เป็นชั่วโมง จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง เกิดการคั่งของกรดแลกติค มีอาการเมื่อยล้า ปวด และมีปัญหาเรื่องกระดูกผิดรูปตามมา

4. การนั่งเบาะเก้าอี้ไม่เต็มก้น ทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานหนัก เพราะฐานในการรับน้ำหนักตัวแคบ

5. การยืนพักขาลงน้ำหนักด้วยขาข้างเดียว การยืนที่ถูกต้องควรลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 2 ข้างเท่า ๆ กัน โดยยืนให้ขากว้างเท่าสะโพกจะทำให้เกิดความสมดุลของโครงสร้างร่างกาย

6. การยืนแอ่นพุง/หลังค่อม ควรยืนหลังตรง แขม่วท้องเล็กน้อย เพื่อเป็นการรักษาแนวกระดูกช่วงล่างไม่ให้แอ่นและทำให้ไม่ปวดหลัง

7. การใส่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่ง จะทำให้แนวกระดูกสันหลังช่วงล่างแอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งจะนำมาสู่อาการปวดหลัง

8. การสะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว ไม่ควรสะพายกระเป๋าข้างใดข้างหนึ่งต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนเป็นการถือกระเป๋า โดยใช้ร่างกายทั้ง 2 ข้างให้เท่าๆ กัน อย่าใช้แค่ข้างใดข้างหนึ่งตลอด เพราะจะทำให้ต้องทำงานหนักอยู่เพียงซีกเดียว ส่งผลให้กระดูกสันหลังคดได้

9. การหิ้วของหนักด้วยนิ้วบ่อยๆ จะมีผลทำให้มีพังผืดยึดตามข้อนิ้วมือ

10. การนอนขดตัว/นอนตัวเอียง ท่านอนหงายเป็นท่านอนที่ถูกต้องที่สุด ควรนอนให้ศีรษะอยู่ในแนวระนาบ หมอนหนุนศีรษะต้องไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป ควรมีหมอนรองใต้เข่าเพื่อลดความแอ่นของกระดูกสันหลังช่วงล่าง หากจำเป็นต้องนอนตะแคง ให้หาหมอนข้างก่ายโดยก่ายให้ขาทั้งหมดอยู่บนหมอนข้าง เพื่อรักษาแนวกระดูกให้อยู่ในแนวตรง
รู้อย่างนี้แล้ว ก็ควรจะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว จะได้ไม่ทำร้ายกระดูกสันหลังอีกต่อไป

ที่มา : นสพ.เดลินิวส์




 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 14:04:46 น.
Counter : 260 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

DeWalt
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add DeWalt's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.