|
แรงดึงดูดระหว่างคนสองคน
เพื่อนคนหนึ่งสงสัยปนไม่เข้าใจว่า ทำไมคนเราถึงคุยโทรศัพท์กับคนที่ไม่เคยเห็นหน้าได้เป็นวรรคเป็นเวร แล้วพอเห็นหน้า เราก็ยังอยากคุยกะเค้าได้อีกเป็นวรรคเป็นเวร นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการรู้จักและสานสัมพันธ์กันต่อไป?? ทำให้นึกถึงเพลงโฆษณาข้าวเกรียบยี่ห้อนึงที่ร้องว่า โอ้...น้ำ มาหลงคารมอะไรกับปลารูปหล่อ ฟ้า...มาทำสัญญาอะไรกับนกตัวดี ดอกไม้ กับ ผีเสื้อ ก็มาเป็นเพื่อนกันด้วยเหตุใด... มันเลยเกิดประเด็น เรื่อง...แรงดึงดูดระหว่างคนสองคน อาการแบบนี้เคยเป็นบ้างเหมือนกัน กับคนที่เรารู้สึกบางอย่างมากๆ อาการของแรงดึงดูดที่อยากเข้าไปอยู่ใกล้ๆ อยากโทรหา อยากคุย อยากเจอ และที่สำคัญอยากเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน จะเรียกว่า อาการหลงรัก ได้ไหม บอกไม่ได้เหมือนกัน เรามันเป็นประเภทถนัดผลักไสชาวบ้านมากกว่าจะดึงดูดให้ใครอยากมาอยู่ใกล้ แต่ก็เคยเป็นนะ กับเพื่อนสนิท เป็นบ่อยซะด้วย ผู้หญิงด้วยกันนี่แหละ ยิ่งช่วงแรกที่ได้รับตำแหน่งเพื่อนสนิท แรงดึงดูดมันจะมีมากเป็นพิเศษ อยากเจอ อยากโทรหา อยากอยู่ด้วย เพราะมีความสุข มันดีที่ว่า การสมัครเป็นเพื่อนสนิท มันไม่ยาก ไม่เจ็บปวด แล้วก็ไม่ต้องมีฟอร์ม (ทำเนียนๆ อยู่ข้างเธอ) ...เหมือนแรงดึงดูดอย่างอื่น... เราสามารถบอกเพื่อนว่า คิดถึง ได้โดยไม่ต้องกลัวว่า อีกฝ่ายจะคิดยังไง เราอยากบอกรัก ก็บอกได้ โดยไม่ต้องกลัวว่า จะได้รับความรักตอบกลับมาหรือไม่ หรือเวลาอยากเจอ เราก็ไม่ต้องมีเหตุผลร้อยแปดประการไว้อ้างว่า ทำไมอยากเจอ แค่เหตุผลที่ว่า คิดถึง อยากเจอ มันก็มากมายเพียงพอแล้ว เพราะเรารู้ว่า อย่างไรเสีย เพื่อนก็ให้ความรู้สึกดีๆ กะเราได้เสมอ ในอีกมุมนึง... เมื่อไม่นานมานี้ ได้แลกเปลี่ยนทัศนะเรื่องความรักระหว่างชายหญิง พี่คนนึงบอกเราว่า เมื่อถึงวันนึง เราจะเหนื่อยกับการไล่ตามคนที่เรารัก เราก็จะเลือกรักคนที่เค้ารักเรา คนที่ไม่ทำให้เราต้องเจ็บปวด แต่เราว่า เรื่องความรักกับเรื่องของแรงดึงดูด มันเกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออก โดยหลักการ ใครๆ ก็พูดได้ว่า รักคนที่เขา รักเราดีกว่า แต่โดยความรู้สึก เราก็มักจะพาตัวเองไปอยู่ใกล้สิ่งที่พึงใจ คนที่เรา "รัก" ด้วยหวังว่าสักวัน แรงดึงดูดของเราจะสามารถดึงดูดเค้ามาอยู่ในวงกลมเดียวกันกับเราได้ คงจะดี...ถ้าเรากับเขาได้ผลัดกันไล่ตามในวงกลมวงเดียวกัน แทนที่จะเป็นการไล่ตามบนเส้นขนานที่หาจุดบรรจบไม่เจอแบบนี้ แต่ตอนนี้ รู้แค่ว่า การทนรักคนที่ไม่รัก กับการทนรักคนที่รักเรา มันโหดร้ายกับหัวใจ ไม่น้อยไปกว่ากันหรอก
Create Date : 17 เมษายน 2550 |
Last Update : 17 เมษายน 2550 1:00:44 น. |
|
4 comments
|
Counter : 3407 Pageviews. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:6:28:53 น. |
|
|
|
โดย: fonejank วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:15:37:42 น. |
|
|
|
โดย: จมูกหมู81 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:21:08:13 น. |
|
|
|
| |
|
น่านจิ งั้นคงต้องดูองค์ประกอบอื่นประกอบนอกจากความรัก
เช่นวิถีชีวิต ความคิด ทัศนคติ จิตใจ รสนิยม และความเข้าใจ