Mygazine : เก็บทุกสิ่งที่สนใจ

นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลา : พาทัวร์เบลเยี่ยมช่วงคริสมาสต์

มาค่ะ วันนี้ไปนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปเที่ยวเบลเยี่ยมกัน

ฉันกับสามีวางแผนจะกลับไปฉลองคริสมาสต์กับแม่และน้องชายของสามีที่เบลเยี่ยม และจะหอบกันไปนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2007 ที่ Marbella (แต่ขอตัดเป็นอีกหนึ่งเวอร์ชันค่ะ)

ว่าแล้วก็เริ่มทัวร์กันเลยค่ะ



โฉมหน้ารถไฟที่พาเราสองคนไปบรัสเซลล์ แม้หน้าตาจtมู่ทู่แต่ว่ากันว่าวิ่งได้เร็วพอๆกับธาลีส (Thalys) กันเลยทีเดียว



นั่งกันไปเรื่อยๆ แล้วก็ผ่านสถานีนี้ "รอตเตอร์ดัม" (เมืองที่มีมหาวิทยาลัยที่ฉันเคยคลั่งไคล้อยากเรียนตั้งอยู่)



ตัดฉับมาที่ท้องถนนในเบลเยี่ยม หลังจากเป็นอีบ้าหอฟาง ขนกระเป๋า 3 ใบยักษ์ยัดใส่รถเช่าได้แล้ว การเดินทางก็เริ่มต้นขึ้น...ภาพนี้เป็นผู้หญิงจากยุโรปตะวันออกที่อพยพมาอยู่ในเบลเยี่ยมแบบผิดกฏหมาย และต้องออกขอเงินตามแยกไฟแดงต่างๆ (อ่ะ...เบลเยี่ยมก็มีขอทานค่ะ)



ซานตาคลอสยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าร้านขายชอคโกเลตขึ้นชื่อของเบลเยี่ยม



วันต่อมา (21-12-06) ไปเดินเที่ยวกันที่ตลาดคริสมาสต์แถวแกรนด์พาเลส ระหว่างทางเดินผ่านนี้ค่ะ ไทย ซูเปอร์มาร์เก็ต ไม่ถ่าย(รูป) ไม่ได้แล้วค่ะ 1 แชะ



ในตลาดที่ว่านี้ จะมีการออกร้านต่างๆมากมาย ทั้งของกินของใช้ และของที่ระลึก จากการเดินสำรวจพบสินค้าจากไทยไหลเข้าไปขายที่นี้กันเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นผ้าพันคอ ตุ้มหู กำไล สร้อยคอ และพวกไม้แกะสลัก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้เลยเลือกเอารูปไอซ์สเก็ตน้ำแข็งที่มีแบ็คกราวน์เป็นชิงช้าสวรรค์มาโชว์แทนค่ะ



วันที่ 22-12-06 ดีใจได้เห็นแสงแดดจากดวงอาทิตย์แหม...ก็ตั้งแต่แตะแผ่นดินถิ่นยุโรป ก็ไม่ได้เห็นตะวันกันเลยว่าได้ วันนี้เลยสดใสคึกคักขึ้นมาหน่อย ไม่ซึมกระทือเหมือนวันอื่นๆ



ระหว่างรอไปกินข้าวเย็น (ฟรี) บ้านเพื่อนสามี เราสองคนเคว้ง ฉันเลยเสนอว่า ไปดูผู้ชายแก้ผ้ากันดีกว่าว่าแล้วก็หันหัวรถกลับไปหาที่จอดรถใกล้ๆกับแกรนด์พาเลสกันอีกครั้ง (ค่าจอดแพงระยับจริงๆ) แต่เนื่องจากเป็นคริสมาสต์ แทนที่ฉันจะได้เห็นผู้ชายแก้ผ้า ก็กลายเป็นซานตาคลอสทะลึ่งโชว์กระปู๋แทน



หลังจากนั้นก็ไปวินโดว์สชอปกันแถว Avenue de la toison d or เนื่องจากยังไม่ถึงเทศกาลเซลล์ จึงได้แต่วินโดว์สชอปจริงๆ รูปนี้ถ่ายแบบไม่ใช่แฟลช สีออกมาฉวยมั่กๆ แต่ต้องบังคับมือให้นิ่งที่สุด ไม่งั้นภาพจะเบลอ



รูปนี้ถ่ายตอนเช้าวันที่ 24-12-06 อุณหภูมิน่าจะอยู่ที่ 0 องศาค่ะ หมอกลงสุดริด หนาวสุดขั้ว ฉันอัดเสื้อไป 2 ชั้นทับด้วยโค้ท ผ้าพันคอ และถุงมือ คุ้มแล้วกับของที่ขนซื้อมาจากไทย (กลัวไม่ได้ใช้จริงค่ะ)



แวะร้านขายดอกไม้ ซื้อกุหลาบให้เป็นของขวัญวันเกิดแม่ของสามี แชะรูปต้นเฟิร์นมาฝาก ราคา 12 ยูโร (ประมาณ 564 บาทค้าาา)



ส่วนกุหลาบจิ๋ว ดอกละ 0.80 ยูโร (ประมาณ 38 บาทค่ะ) แพงมากกกกกก



ระหว่างนั่งดูทีวีที่บ้านแม่สามี ทีวีบ้านเค้าก็ถ่ายทอดพระราชดำรัสของกษัตริย์บ้านเค้าเหมือนกับบ้านเรา ลองกล้องอีกแล้ว ถ่ายแบบไม่เอาแฟลช ออกมาสวย เหมือนได้เข้าเฝ้าอยู่หน้าเบื้องพระบาท เลยได้รูปกษัตริย์บ้านเค้าเอามาอวด อิ



โต๊ะดินเนอร์วันคริสมาสต์ของบ้านแม่สามี ที่มีคนกิน 4 คน คือ แม่สามี น้องชาย สามี และฉัน



โฉมหน้าอาหารเรียกน้ำย่อย



ตามมาด้วยจานหลัก เยอะมาก อิ่มอึดเลยงานนี้



อันที่จริงต้องปิดท้ายด้วยเจ้านี้ แต่ฉันอิ่มจัด บวกกับนาฬิกาในร่างกายยังงง งง อยู่ หลังจานหลัก ฉันก็หลับเลย ง่วงแบบบอกสาเหตุไม่ได้ แล้วเราทั้งหมดก็จัดการเจ้านี้กันในวันรุ่งขึ้น เอิ๊ก



ลงใต้ไปเยือนบ้านเพื่อนสามีที่เมือง Ath เมืองเล็กๆ ที่ทำกสิกรรมกันซะส่วนใหญ่ แบบของบ้านจะต่างจากบรัสเซลล์ หน้าตาจะเป็นแบบนี้ คือ เป็นตึก 2 ชั้นและดูประหนึ่งเป็นต่างจังหวัดบ้านเรา มองไปทางไหนก็อุดมไปท้องทุ่งสุดลูกหูลูกตา



ข้างในสิ่งก่อสร้างนี้ คือ รูปปั้นพระเยซู ซึ่งชาวเมือง Ath เชื่อว่า จะช่วยปกปักรักษาบ้านเมือง และช่วยให้กสิกรรมอุดมสมบูรณ์



บรรยากาศคริสมาสต์ที่เมือง Ath



แวะปราสาท (ชื่ออะไรจำไม่ได้) ระหว่างทางกลับจาก Ath มุ่งหน้า บรัสเซลล์ ไม่ได้เข้าข้างใน เพราะ ปิดปรับปรุงค่ะ



เกิดทะลึ่งอยากถ่ายรูปถนนสายหนึ่งในบรัสเซลล์ ที่เต็มไปด้วยหน้าร้านที่เอาผู้หญิง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากยุโรปตะวันออก มานุ่งน้อยห่มน้อย แล้วยืดบิดไปบิดมา เรียกลูกค้า
ผู้ชายให้เข้ามาใช้บริการ ดูผ่านๆเหมือนกับเอาสัตว์มาโชว์หน้าร้าน เห็นแล้วเศร้าจิต น้องนางบางคนเห็นกล้อง โบกไม้โบกมือ ส่งจูบกันให้ว่อน ส่วนฉันก็กลัวนักเลงจะมาทุบกระจก ภาพที่ได้จึงเบลอประมาณนี้



เข้าพันทิพโต๊ะไกลบ้าน เค้าว่ากันว่า เย็นตาโฟ ร้านพัทยาที่บรัสเซลล์ อร่อย ฉันก็เลยอ้อนวอนให้สามี พากลับไปแถวแกรนด์พาเลสอีกครั้ง เพื่อกินเย็นตาโฟโดยเฉพาะ สรุปแล้วรสชาติอร่อยสมคำเล่าลือ ที่สำคัญจานหญ่ายยยยมาก กินไม่หมดอีกแล้ว



ส่วนสามีสั่งผัดเนื้อกับผักอะไรซักอย่าง ขอบอกรสชาติใช้ได้เลย



โชว์โฉมหน้าร้านกันซะหน่อย เจ้าของร้าน เหมือนว่า เป็นผู้หญิงไทยที่แต่งงานกับคนจีน แล้วมาปักหลักทำมาหากินกันที่นี้ และรู้สึกว่าจะเลื่องชื่อในหมู่บรัสเซลเลอร์ซะด้วย

พบกันเวอร์ชันหน้าพาเที่ยว Marbella ของสเปน




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 15 เมษายน 2551 19:35:14 น.
Counter : 1093 Pageviews.  

หนังสื๊อ หนังสือค่ะ

เพลิดเพลินบันเทิงใจหนนี้ กล้าดี...ชวนคุยเรื่องหนังสือ ที่อย่าเรียกหาความน่าเชื่อถือจากฉัน โดยการดูจากความเป็นคนช่างอ่าน เพราะเปอร์เซ็นที่ได้เผลอๆอาจจะติดลบเอาง่ายๆ เอิ๊ก แต่ปล่อยให้หล่อน (คือฉัน) ได้เพ้อเจ้อเกี่ยวกับหนังสือที่หล่อน (คือฉันคนเดิม) ได้ไปอ่านมาก็แล้วกัน เพราะ บล็อกนี้เป็นบล็อกหล่อนนี่ค่ะ อิ อิ

ช่วงนี้อ่านหนังสือเยอะ (กว่ามาตรฐานปกติของตัวเอง อิ) อ่านจบไปแล้วก็หลายเล่ม กำลังอ่านก็มากอยู่ อ่านไปบ่นไปก็เยอะ (ประเภทหนังสือแปล-ที่แม้ว่าจะทราบกันดีว่าผ่านการเรียบเรียงมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ก็จะป่วนให้ฉันปวดหัวได้ทุกเมื่อที่หยิบขึ้นมา จนต้องหยิบ-วาง หยิบ-วาง อยู่หลายรอบ และจนแล้วจนรอดก็วางคาโต๊ะอยู่ข้างเตียง...อ่านไม่ถึงไหนซะที) เอาเป็นว่าวันนี้ หยิบเอาเล่มที่ฉันกำลังอ่านติดพันอยู่ แม้จะยังอ่านไม่จบ แต่ขอฟันธง (ขอเลียนแบบหมอดูซะหน่อย) ได้เลยว่า "ดีมากกกกกก" ค่ะ

เจ้าเล่มที่ว่านี้ คือ "เข็มทิศชีวิต" ของฐิตินาถ ณ พัทลุง คุณคนเขียนเธอเล่าประสบการณ์จริงเกี่ยวกับผลของการฝึกปฏิบัติธรรม หลังจากชีวิตของเธอประสบเรื่องร้ายพร้อมๆกันหลายเรื่อง (ไม่ลงลึกรายละเอียดตรงนี้) ยิ่งอ่านฉันยิ่งรู้สึกว่า ช่ายยยยยยยยยยยยยยย ถูกต้องงงงงง ฉันตกเป็นทาสความคิดของฉันเอง

จริงๆ เธอคนนี้ สอนวิธีเลิกเป็นทาสความคิดของตัวเองด้วยสำนวนง่ายๆ อ่านสบายๆ และทุกอย่างที่เธอเขียน มันคือสิ่งที่ในที่นี้ เอาเป็นตัวฉันก็แล้วกัน (ไม่แน่ใจว่าคนอื่นจะรู้สึกแบบนี้ด้วยหรือเปล่า) กำลังเป็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน อย่างที่เขียนไว้ข้างต้นว่า อืมมม ช่ายยยยยย ถูกต้องงงงงงง

"ฉันเป็นอย่างงงงงงนั้นจริงๆ"

แม้จะยังอ่านไม่จบ แต่ก็พยายามเอามาประยุกต์ใช้กับตัวเอง ที่ตกเป็นทาสความคิดของตัวเองมานาน จนบางครั้งเจ้าความคิดที่มีเป็น 108-1009 ก็เล่นเอาฉันนอนไม่หลับไปทั้งคืนเลยก็มี

สำหรับผลที่ได้นั้น ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างคะ แต่สิ่งดีๆที่รู้สึกได้ คือ ฉันมีไกด์ไลน์ ฉันเริ่มรู้แล้วว่า มันมีที่มาที่ไปอย่างไร ที่เหลือ คือ การลงมือปฏิบัติจริง ครั้งแรกไม่สำเร็จ เอ้า ลองครั้งสองครั้งสามต่อไปเรื่อยๆ

ความชำนาญไม่ได้มาจากการลงมือปฏิบัติเพียงครั้งเดียวซะเมื่อไหร่...ฉันเชื่ออย่างนี้คะ




 

Create Date : 14 มกราคม 2550    
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2552 11:18:31 น.
Counter : 512 Pageviews.  

CSI ไตรเวอร์ชัน

สั้นๆ เกี่ยวกับหนึ่งในหลายสิ่งที่สร้างความบันเทิงให้กับฉันในช่วงนี้ นั่นก็คือ หนังชุดที่ออกอากาศทางช่องยูบีซี

ถ้าเป็นคนที่ชอบหนังแนวสืบสวนสอบสวน คาดว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ซีรีส์ CSI ทั้ง 3 เวอร์ชัน

สำหรับตัวฉันเอง เป็นแฟนติดหนึบมาได้เกือบ 1 ปีแล้ว (หลังจากออกจากงานมาเป็นแม่บ้านก็เกาะติดอยู่กับหน้าจอนี่แหละค่ะ ไม่จอทีวี ก็จอคอมพิวเตอร์ อิ) และที่ชื่นชอบเป็นพิเศษชนิดมิมีพลาดนอกจากมีเหตุจำเป็นจริงๆ ก็นี้เลยค่ะ CSI : MIAMI และ CSI : NEW YORK แต่ละตอนที่ทำออกมาไม่เคยทำให้ต้องผิดหวัง

ส่วน CSI อีกอัน (จำชื่อเต็มไม่ได้) ที่ไม่ค่อยชอบ คิดว่า หนึ่ง อาจเป็นเพราะไม่มีดาราที่ฉันคุ้นหน้าคุ้นตาจากทั้งจอแก้ว และจอเงิน สอง ตามท้องเรื่องเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่ลาสเวกัส ซึ่งฉันไม่ค่อยชื่นชอบเมืองแห่งการพนัน มายา และทะเลทรายเท่าใดนัก สาม อาจจะเป็นไปได้ว่าทีมงานมือเขียนบทไม่ถึง แม้ว่าทั้ง 3 เวอร์ชันจะอำนวยการสร้างโดย Jerry Bruckhiemers

ลองติดตามดูแล้วคุณจะเห็นภาพกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์มากขึ้น




 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2552 11:18:59 น.
Counter : 431 Pageviews.  

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของคู่รักนักเดินทาง

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ หลายๆ คนอาจจะมองเห็นโลกเป็นสีชมพูสดใส เนื่องจากในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้นเป็นวันแห่งความรัก หรือที่เรียกกันว่า วันวาเลนไทน์

ในวันนี้ คู่รักหลายๆ คู่ก็จะถือโอกาสมอบสิ่งดีๆ ให้แก่กันไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ ช็อกโกแลต ของขวัญต่างๆ หรือไม่ก็พากันไปดูหนังฟังเพลง ดินเนอร์ใต้แสงเทียน นอกจากนี้ก็ยังมีคู่รักหลายๆคู่เลือกเอาช่วงเทศกาลแห่งความรักนี้เติมความหวานให้แก่ชีวิตรักด้วยการหาสถานที่โรแมนติกเพื่อไปฮันนีมูนกันแบบสองต่อสอง

โดยในปี 2548 ทางทีมข่าวท่องเที่ยวได้สอบถามบริษัทนำเที่ยวชื่อดังอย่าง ทัวร์เอื้องหลวง บริษัทฟูจิทัวร์ และหนุ่มสาวทัวร์ เกี่ยวกับ 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในเมืองไทยช่วงวาเลนไทน์ ก็ประมวลออกมาได้ว่า

“ดอยอ่างขาง”สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย

ดอยอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมาแรงสำหรับคู่รัก เนื่องจากจุดเด่นของที่นี่คืออากาศที่เย็นสบายตลอดปี หลายคนที่เคยไปเยือนดอยอ่างขางมาแล้วต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าประทับใจในบรรยากาศและสภาพธรรมชาติที่สวยงามเกินจะบรรยาย ที่นี่ยังมี “สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง” มีอาคารไม้ดอกเมืองหนาว มีสวนดอกไม้ซึ่งจัดตกแต่งไว้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะสวนแปดสิบ ซึ่งมีความสวยงามมากจนหลายคนยกย่องว่าเป็นเหมือนสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย

ส่วนใครที่สนใจจะไปเที่ยวหมู่บ้านชาวเขาที่อยู่บริเวณใกล้ๆ เช่น หมู่บ้านขอบด้ง หมู่บ้านของชาวเขาเผ่ามูเซอดำและมูเซอแดง ก็จะได้พบกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย มีสินค้าเกษตรและของที่ระลึกฝีมือชาวบ้านให้เลือกซื้อ หรือจะไปหมู่บ้านนอแล ของชนเผ่าปะหล่อง หรือดาละอั้ง ก็จะมีไกด์เด็กน้อยคอยพาชมทิวทัศน์แถวๆ นั้น และเล่าเรื่องราวของชนเผ่าให้ฟัง

“เกาะช้าง”เกาะชื่อดังแห่งทะเลตะวันออก

เกาะช้าง แห่งทะเลตะวันออก จ.ตราด นับเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากเกาะภูเก็ต และเป็นหมู่เกาะที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยถึง 52 เกาะด้วยกัน ซึ่งในปีนี้เกาะช้างนับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่คู่รักเลือกมาพักผ่อนกัน

โดยเกาะนี้มีทะเลและชายหาดที่น่าสนใจอาทิ หาดทรายขาว หาดไก่แบ้ ที่เป็นหาดสวยงาม มีโรงแรม รีสอร์ท และร้านอาหารอยู่มากมาย ส่วนคู่รักนักกินที่ชอบอาหารทะเลแบบสดๆ และราคาถูกก็มักจะมาที่หมู่บ้านชาวประมงบางเบ้า ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ปลายเกาะช้าง

นอกจากเกาะช้างแล้ว เกาะต่างๆในหมู่เกาะช้างก็กำลังเริ่มเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเกาะที่เด่นๆก็มี เกาะกูด เกาะหวาย เกาะหมาก เกาะขาม เกาะกระดาด ซึ่งหลายๆเกาะในหมู่เกาะช้าง ต่างก็เป็นมีทะเลและปะการังที่สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง

“เกาะตะรุเตา” ไข่มุกงามแห่งอันดามัน

ผลพวงจากเหตุการณ์สึนามิส่งผลให้ทะเลไทยฝั่งอันดามันเงียบเหงา สถานที่ที่เคยได้รับความนิยมจากคู่รักในช่วงวาเลนไทน์อย่างเกาะพีพี จ.กระบี่ เกาะเฮ จ.ภูเก็ต เขาหลัก เกาะสุรินทร์-สิมิลัน จ.พังงา ในปีนี้ต่างหงอยเหงา แต่กับที่ เกาะตะรุเตา จ.สตูล ในปีนี้กับได้รับความสนใจจากคู่รักในการไปท่องเที่ยวพักผ่อนกันไม่น้อยเนื่องจากว่าเกาะตะรุเตาได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิน้อยมาก ส่งผลให้เกาะตะรุเตายังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโรแมนติกของคู่รักอยู่เสมอมา

สำหรับเกาะตะรุเตานี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล ซึ่งมีความสวยงามขนาดที่ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกแห่งอาเซียน โดยหมู่เกาะตะรุเตานี้ประกอบไปด้วยหมู่เกาะใหญ่น้อยอีกจำนวน 51 เกาะ ซึ่งเกาะขนาดใหญ่ 2 เกาะคือ เกาะตะรุเตา และเกาะอาดัง-ราวี

ที่เกาะตะรุเตานี้มีมุมโรแมนติกอยู่หลายมุมให้คู่รักได้สวีทกัน เช่น อ่าวพันเตมะละกา ซึ่งมีหาดทรายขาวสะอาด และเป็นแหล่งชมพระอาทิตย์ตกน้ำที่สวยงาม และใกล้ๆ กันนั้นก็คือจุดชมวิว “ผาโต๊ะบู” ซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ของเกาะบริเวณชายหาดอ่าวพันเตมะละกา ใครที่มาเที่ยวที่นี่อาจจะต้องหลงเสน่ห์ความงามจนคาดไม่ถึงว่า อดีตที่เกาะตะรุเตานี้เคยเป็นที่กักกันนักโทษการเมืองมาก่อน

ส่วนเกาะอื่นๆ ในหมู่เกาะตะรุเตาเองก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน ทั้งเกาะอาดัง-ราวี เกาะหลีเป๊ะ เกาะกลาง และเกาะไข่ บริเวณนี้มีแนวปะการังที่สวยงามมาก โดยเฉพาะเกาะไข่นั้นมีซุ้มประตูหินธรรมชาติ ซึ่งเป็นหินที่ถูกธรรมชาติกัดกร่อนจนทะลุเหมือนเป็นประตู กลายเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล ซึ่งคู่รักหลายๆคู่มักจะมาจูงมือกันเดินลอดประตูหินแห่งนี้

“ปาย”เมืองในหุบเขาแห่งเมืองสามหมอก

ย้อนกลับไปทางภาคเหนืออีกครั้งที่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอนี้เป็นอำเภอเล็กๆ ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อ.ปายมีชื่อเสียงมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับจุดน่าสนใจของอ.ปาย (ในอดีต) นั้นก็อยู่ที่ธรรมชาติอันพิสุทธิ์ อากาศที่เย็นสบาย ความสงบของชุมชน และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายไม่รีบร้อนของชาวปายที่มีทั้งไทยใหญ่ และชาวไทยภูเขาอาศัยอยู่

มาวันนี้แม้ว่าเมืองปายจะพลุกพล่านขึ้น และมีชื่อทางลบมากขึ้น แต่ว่าในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้เมืองปายก็ยังคงมีคู่รักจำนวนมากถามถึง

สำหรับผู้ที่มาเที่ยวเมืองปายสามารถเช่ารถจักรยานหรือรถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวรอบเมืองได้ โดยแหล่งท่องเที่ยวในบริเวณนั้นก็คือบ่อน้ำพุร้อนท่าปาย ซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 80 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว หรือจะไปสักการะเจดีย์พระธาตุแม่เย็นที่วัดแม่เย็น แล้วพักชมวิวทิวทัศน์ของเมืองปายได้จากข้างบนนี้

แต่บางคนที่มาเที่ยวเมืองปายนี้อาจใช้เวลา 3-4 วัน ในการไม่ทำอะไรเลย นอกจากนั่งๆ นอนๆ อ่านหนังสือ หรือเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ เพราะหากใครได้มาที่นี่แล้วจะรู้สึกเหมือนว่าเวลาจะหยุดอยู่กับที่ คู่รักคู่ไหนชอบบรรยากาศเช่นนี้ก็ต้องมาที่เมืองปาย แม่ฮ่องสอนนี้

“ภูชี้ฟ้า”ทะเลหมอกเลื่องชื่อ

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสุดท้ายสำหรับคู่รักก็คือ ภูชี้ฟ้า ในจังหวัดเชียงราย โดยลักษณะเด่นของภูแห่งนี้ คือเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร มีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว

ความสวยงามและโรแมนติกของภูชี้ฟ้าถือว่างดงามไม่แพ้ที่อื่นๆ โดยเฉพาะยามเช้ามืดช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้นในวันฟ้าเปิดและอากาศหนาวเย็น นักท่องเที่ยวจะได้เห็นถึงสีสันของดวงอาทิตย์ยามเช้าที่แย้มกลีบเมฆโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น หลังจากนั้นที่เบื้องล่างก็จะเต็มไปด้วยทะเลหมอกขาวโพลนลอยละล่องฟ่องฟู เป็นที่ประทับใจของใครหลายๆคนมากมาย

สำหรับ 5 สถานที่ที่เลือกมาแนะนำนี้ เป็นเพียงสถานที่ที่คู่รักส่วนใหญ่นิยมไปซึ่งก็มีทั้งความโรแมนติกและความสวยงามในรูปแบบที่แตกต่างกันไป แต่หากจะว่าไปแล้ว เมืองไทยก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่ให้รอคู่รักเดินทางมาเที่ยวอยู่อีกเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้น ในเทศกาลแห่งความรักนี้ หากใครที่ยังอยู่ตัวคนเดียวก็ขอแนะนำให้หาคนรู้ใจไว้ใกล้ๆ ตัวสักคนหนึ่ง เพื่อให้การเดินทางท่องเที่ยวนั้นมีความหมายและไม่เงียบเหงาแน่นอน

ข้อมูจากผู้จัดการออนไลน์





 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2549    
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2552 11:05:08 น.
Counter : 549 Pageviews.  

แด(ก)จังมึง...ช๊อบ ชอบ...ครีเอทสุดริด

สัปดาห์นี้บันเทิงออกแนวประชดประชันเล็กน้อย แต่ขอบอกว่าชอบไอเดียน้องๆสุดริดจิงจิง เข้ากับยุคฮิตหนังเกาหลีเป๊ะ

ไม่มีคำบรรยาย ภาพสื่อความหมายทั้งหมดในตัวมันเอง ขอบคุณผู้จัดการออนไลน์ (อย่าฟ้องหนูนะ ชอบอ่ะ เลยเอามาใส่บล็อก เผื่อจุดกระตุ้นต่อมสร้างสรรค์ของตัวเองบ้าง เอิ๊ก)

fakroop.com

fakroop.com

fakroop.com

fakroop.com

fakroop.com

fakroop.com

fakroop.com

ภาพจากผู้จัดการออนไลน์ล้วนๆ
คลิกที่นี้เพื่อดูข่าวทั้งหมด




 

Create Date : 24 มกราคม 2549    
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2552 11:19:33 น.
Counter : 469 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

Never be Afraid to Dream
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]









หมายเหตุ :
1. ขอขอบคุณเจ้าของโค้ด รูป และของแต่งบล็อกที่รวมกันเป็นบล็อกนี้ทุกท่านและขออภัยที่ไม่สามารถเอ่ยชื่อได้ เนื่องจาก จขบ.เซฟมาเยอะจนไม่สามารถจำได้ว่าเอามาจากบล็อกของท่านใดบ้าง

2. ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้า ณ ที่นี้ สำหรับทุกท่านที่แวะมาเยี่ยม มาแสดงความเห็นค่ะ และขออภัยหากไม่ได้กลับไปเยี่ยม
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Never be Afraid to Dream's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.