Celeb Style : แบบสาวอวบ America FERRERA
America Ferrera เกิดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2527 (25 ปี) ที่ Los Angeles, Calif.
Ferrera เป็นลูกคนที่ 6 และเป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัวชาวฮอนดูรัส เธอเริ่มเป็นที่รู้จักตอนอายุ 16 ปี จากการแสดงใน "Real Women Have Curves" นอกจากนี้ การสวมบทเพื่อนสาววัยทีนได้อย่างยอดเยี่ยมส่งผลให้ "The Sisterhood of the Traveling Pants" ฮิตติดลมบนก่อนบท "Betty"ที่สร้างชื่อให้เธอ
Ferrera ซึ่งปัจจุบันคบอยู่กับ Ryan Piers Williams เพื่อนชายผู้กำกับภาพยนตร์ ได้รับการยกย่องจากสภาคองเกรสในฐานะที่เป็นตัวอย่างให้แก่วัยรุ่นหญิงเชื้อสายลาติน ขณะเดียวกันก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่สวยที่สุดของนิตยสาร People และอยู่ในรายชื่อผู้ที่มีอิทธิพลที่สุดของ Time
ส่วนสไตล์การแต่งตัวของเธอเท่าที่หาได้ส่วนใหญ่จะเป็นชุดออกงาน ภาพแคนดิดจะมีน้อย
ลองดูเป็นไอเดียค่ะ
ที่มา : หลายเวบมาก บางภาพเครดิตติดอยู่ที่ภาพ |
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2552 | | |
Last Update : 12 มกราคม 2553 15:16:56 น. |
Counter : 1048 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เสื้อผ้าสีอะไรเหมาะกับผิวคุณที่สุด
ผิวสีแทน สาวผิวสีแทน หรือสีน้ำผึ้งนั้นมีเสน่ห์ไม่น้อย เนื่องจากมีโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์อย่างไทยๆ ซึ่งหากเลือกแต่งกายด้วยสีสันที่เหมาะสมแล้ว ก็จะขับให้ผิวนั้นงดงามยิ่งขึ้น โดยควรเลือกสีที่ไม่สดใสมากนัก เช่น เขียวหม่น หรือฟ้าเทา ซึ่งเมื่อสะท้อนแสงจัดๆ จะขับสีชมพูเรื่อๆ หรือส้มอ่อนออกมาผสมกับสีผิว ทำให้สีผิวดูมีเลือดฝาด เปล่งปลั่งมากขึ้น พยายามหลีกเลี่ยงการแต่งกายด้วยสีสดใสทั้งชุด ไม่ว่าจะเป็นสีแดง หรือสีเขียว ซึ่งสีเขียวของสเปคตรัมจะเข้าไปผสมกับสีผิวทำให้ผิวดูเขียวคล้ำ หมอง ไม่สดใส
ผิวคล้ำ สำหรับสาวผิวคล้ำทั้งหลาย อย่าเพิ่งน้อยใจในโชคชะตา เพราะถึงแม้จะไม่ขาวสดใสอย่างสาวๆ 2 กลุ่มแล้ว แต่สาวผิวคล้ำก็ดูดีได้ไม่แพ้ใครๆ โดยเฉพาะเมื่อเลือกสวมใส่เสื้อผ้าสีเรียบๆ กลางๆ ไม่ฉูดฉาดมากเกินไป เช่น สีเทา หรือสีหม่น แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้สีผ้าที่ให้ความสดใสมีชีวิตชีวาก็ควรเลือกสีอ่อน เช่น สีเหลืองอ่อน เขียวอ่อน หรือม่วงอ่อน หรือขาวที่เป็นดอกกระจายทั่วไป เมื่อดูรอบๆ จะเห็นสีส่วนรวมเป็นสีอ่อน จะทำให้ผิวคล้ำดูไบรท์ขึ้น หรืออาจใช้ผ้าสีเข้มแต่ไม่สดในปริมาณที่ไม่มากนัก เช่น สีเขียวแก่ โดยพยายามโชว์ผิวให้มาก เพราะสีหนักจะตัดกับสีผิวทำให้ดูขาวขึ้นกว่าเดิม สีเหลืองอ่อน สีน้ำตาลไหม้หรือสีน้ำเงินเข้ม เขียวเข้ม แดงเข้มหนัก เหมาะสำหรับคนผิวคล้ำ เพราะสีจะตัดกับสีผิว แลดูมีเสน่ห์มากขึ้น
ที่มา : บล็อกคุณ Mimi-jaiko |
Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2552 | | |
Last Update : 12 มกราคม 2553 15:20:44 น. |
Counter : 1422 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
รักษ์สุขภาพด้วย 18 วิธี
1. แอปเปิ้ล แตงโม กล้วย กีวีต้องระวัง ผลไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้มีประโยชน์มาก แต่ถ้าคุณกำลังทานยาปฏิชีวนะอยู่ ผลไม้พวกนี้จะกลายเป็นโทษทันทีเพราะมันบูดในลำไส้ได้ง่าย อาจจะทำให้เกิดอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหารได้
2. ผลไม้กับมื้ออาหาร ก่อนทานอาหารควรจะเรียกน้ำย่อยด้วยสับปะรดและมะละกอสัก 2-3 ชิ้น ผลไม้สองชนิดนี้มีเอนไซม์ที่จะช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารมื้อหลักที่กำลังจะตามลงมาได้ง่ายขึ้น และหลังจากจบมื้ออร่อยแล้วควรตบท้ายด้วยแอปเปิ้ลสัก 1 ชิ้นเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลายซึ่งจะทำให้จำนวนแบคทีเรียในช่องปากลดลง และช่วยให้เหงือกแข็งแรงด้วย
3. อย่าปล่อยให้หิว ควรจะทานอาหารให้ตรงเวลาทุกวันแม้จะยังไม่รู้สึกหิวก็ตาม เพราะเวลาที่เราหิวร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนควมเครียดออกมา ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำก็จะทำให้คุณกลายเป็นสาวเครียด และนำไปสู่อาการความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือเบาหวาน
4. เนื้อสัตว์กับผลไม้ไม่เข้ากัน ถ้าทานน้อยๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามื้อไหนคุณทานเนื้อเป็นจำนวนมากแล้วควรจะงดผลไม้ไป เพราะกว่าเนื้อจะย่อยหมดต้องใช้เวลานาน ส่าวนผลไม้ซึ่งย่อยเร็วจะถูกกักอยู่ในกระเพาะ จึงทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารได้
5. นาฬิกาชีวภาพ หลักการสุขภาพดีบอกไว้ว่าเราควรจะเข้านอนในเวลาเดียวกันทุกๆ วัน แต่ส่วนใหญ่พอถึงคืนวันศุกร์กับวันเสาร์เรามักจะนอนดึกเพราะถือว่าเป็นวันหยุด การทำอย่างนี้จะทำให้ความเคยชินหรือที่เรียกว่าชีวภาพของร่างกายรวนจึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่วันจันทร์เราจะง่วงนอนกว่าปกติ
6. ความเครียดทำลายผิว ถ้าอยากผิวสวย แก่ช้า ดูอ่อนกว่าวัย สิ่งแรกที่ต้องปรับคือความคิดของตัวเราเอง พยายามคิดในทางบวก มองโลกในแง่ดี หลีกเลี่ยงความคิดที่ทำให้ตึงเครียด เพื่อไม่ให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกทำลายตัวเราเอง
7. หลีกเลี่ยงภาชนะพลาสติก เพราะความร้อนรวมทั้งรสชาติเผ็ดเปรี้ยว เค็มจากอาหารสามารถเข้าไปกัดเซาะสารสังเคราะห์ในพลาสติกให้ละลายออกปะปนกับอาหารได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะการใช้ภาชนะพลาสติกใส่อาหารเข้าอุ่นในเตาไมโครเวฟยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง เพราะเป็นการเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมเป็นอย่างมาก
8. อย่าประมาทอาการไอเรื้อรัง หลังจากหายหวัดแล้วอาการไออาจจะยังไม่หายไป แต่สาวหลายคนมักจะไม่สนใจเพราะคิดว่าอาการไอเป็นเรื่องชิลๆ แต่ที่จริงอาการไอเรื้อรังร้ายแรงกว่าที่คุณคิด เพราะมันอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ยาปฏิชีวนะ ที่หมอให้มารักษาอาการหวัดไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ วิธีหยุดอาการไอที่ได้ผลที่สุดคือการดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อลดเสมหะในทางเดินหายใจ และนอนหลับให้เพียงพอเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้เต็มที่
9. เท้าและข้อเท้าบวม ถ้ามีอาการแบบนี้อย่าปล่อยไว้ เพราะฝ่าเท้าเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาททั่วร่างกาย ถ้าบริเวณเท้ามีปัญหาก็จะส่งผลถึงร่างกายทุกส่วน วิธีแก้ไขคือให้นั่งยองๆ ทุกวันๆ ละ 15 นาทีจากนั้นก็ขยับข้อเท้าไปข้างหน้าและข้างหลังเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น หลังจากนั้นใช้แปรงขนนุ่มๆ แปรงผิวหนังเบาๆ โดยเริ่มจากฝ่าเท้าแล้วค่อยๆ ปัดไล่ขึ้นมาที่ข้อเท้า น่อง ต้นขา ท้อง แขนไปจนสุดที่มือทั้งสองข้าง (ยกเว้นผู้ที่เป็นเบาหวานเพราะเสี่ยงจะเกิดบาดแผล) ตบท้ายด้วยการอาบน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็น จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
10. งดเครื่องดื่มคาเฟอีน เครื่องดื่มพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นชาหรือกาแฟ ปกติก็ไม่ควรดื่มอยู่แล้ว แต่ถ้าบังเอิญคุณเป็นโรคปวดหลัง เครื่องดื่มพวกนี้จะเป็นศัตรูของคุณไปทันที เพราะคาเฟอีนจะไปลดการหลั่งสารเอนโดรฟินซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวดตามอวัยวะต่างๆ อาการปวดของคุณก็จะไม่หายหรืออาจจะเป็นมากขึ้นด้วย
11. ดื่มน้ำเร็ว...อันตราย ใครๆ ก็บอกว่าควรจะดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว แต่ต้องค่อยๆ ดื่มไปตลอดวัน ไม่ใช่ทั้งวันไม่ดื่มเลย แล้วมารวบยอดเอาในครั้งเดียว เพราะการดื่มน้ำปริมาณมากๆ ในครั้งเดียวอาจทำให้เกิดอาการน้ำเป็นพิษเนื่องจากเลือดเจือจาง และอาจทำให้เป็นตะคริว กล้ามเนื้อเกร็งตามมา ยิ่งถ้าอาการเกร็งไปเกิดที่สมอง หัวใจ หรือปอด ก็อาจจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้
12. แดดอ่อนตอนเช้า แสงแดดยามเช้าจัดว่าเป็นยาตามธรรมชาติที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ นอกจากทำให้กระดูกแข็งแรงแล้วยังทำให้อารมณ์ดี เพราะแดดอ่อนๆ มีวิตามินที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข ออกมาต่อต้านอาการซึมเศร้าในตัวเรา คนที่เดินเล่นรับแดดอ่อนจึงมีหน้าตาเบิกบานกว่าคนที่มัวแต่หลบแดดอยู่ในบ้านมาก
13. เบาหวานอย่าทานไข่ ถ้าสมาชิกในครอบครัวคุณคนไหนเป็นเบาหวาน ควรให้เขางดไข่ไปเลย เพราะมีรายงานทางการแพทย์ว่าถ้าคนที่เป็นเบาหวานทานไข่อาทิตย์ละ 1 ฟอง จะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจมากขึ้น
14. อยากผอมต้องน้ำเย็น การดื่มน้ำเย็น 50 ออนซ์ จะช่วยเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นวันละ 50 แคลอรี ช่วยให้น้ำหนักลดลงปีละ 2.5 กิโลกรัม เพราะเมื่อเราดื่มน้ำเย็นร่างกายต้องใช้พลังงานในการทำให้น้ำนั้นเปลี่ยนอุณหภูมิเป็นอุณหภูมิปกติก่อน แล้วจึงนำไปใช้ได้ จึงเป็นการใช้พลังงานมากกว่าเดิม
15. สุขภาพดีทันทีที่ตื่น ถ้าอยากดูแลสุขภาพพร้อมกับการเริ่มต้นวันใหม่ ทันทีที่ตื่นนอนสาวๆ ควรผสมน้ำส้มสายชู (ที่หมักจากผลแอปเปิ้ล) กับน้ำผึ้งในสัดส่วนเท่ากัน ใส่น้ำอุ่นนิดหน่อย คนให้เข้ากันแล้วนำมาดื่ม จะช่วยให้การดูดซึมของระบบลำไส้และการเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดีตลอดวัน
16. ผู้ชายอย่าพลาดมะเขือเทศ สำหรับหนุ่มซ่าที่กำลังเริ่มมีอาการเตะปี๊ปไม่ดังหรือกลัวว่าจะเป็นหมัน มะเขือเทศคือผลไม้ที่คุณจะพลาดไม่ได้ เพราะมะเขือเทศสุกมีสารโคปีนสูงมาก ช่วยให้ต่อมลูกหมากทำงานได้ดี ประสิทธิ์ภาพและสมรรถภาพต่างๆ จึงทำงานได้เป็นปกติ ถ้าผู้ชายทานมะเขือเทศอย่างน้อยอาทิตย์ละ 10 ผลหรือมากกว่านั้น ความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ก็จะน้อยลง 45 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญควรจะทานแบบสุกๆ เช่น ทานเป็นน้ำพริกอ่อง สปาเก็ตตี้ เพราะเวลามะเขือเทศถูกความร้อนมันจะปล่อยสารไลโคปีนออกมามากขึ้น
17. ป้องกันกรดในกระเพาะอาหาร สำหรับที่ท้องอืดบ่อย ควรลดปริมาณการดื่มน้ำผลไม้เข้มข้นอย่างเช่น มะนาว ส้ม ส้มโอ เกรฟฟรุต หรือน้ำมะเขือเทศสดนั่น เพราะน้ำพวกนี้มีกรดมากทำให้ท้องอืด หรือถ้าเสพติดไปแล้วอดไม่ได้จริงๆ ก็อาจจะทำให้เจือจางลงด้วยการผสมน้ำมากๆ
18. หลบอัลไซเมอร์ด้วยเกม ถ้าไม่อยากเป็นอัลไซเมอร์หรือเป็นโรคขี้หลงขี้ลืม สาวๆ ควรจะฝึกสมองด้วยการเล่นเกมที่ต้องใช้สมาธิ เช่น ปริศนาอักษรไขว้ เกมในคอมพิวเตอร์ หรืออาจจะทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิอย่างเรียนดนตรี เล่นหมากรุก เป็นต้น เพราะเกมเหล่านี้จะช่วยให้ระบบประสาททำงานเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ |
Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2552 | | |
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2552 21:56:25 น. |
Counter : 412 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
4 เคล็ดลับเพิ่มความสวยจากผู้เชี่ยวชาญ
Q: อยากดูแลรักษาดวงตาให้สวยใส ซื้ออายครีมมาใช้ แต่ไม่รู้ควรทายังไงดี? A: ตอนนี้มีอายครีมหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ คุณก็ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ส่วนการทาอายครีมก็ไม่ได้มีหลักเกณฑ์ตายตัวว่าต้องทาจากหัวตาไปหางตาหรือหางตาไปหัวตา สิ่งสำคัญที่สุดคือควรทาเบาๆ โดยใช้นิ้วนางเกลี่ยครีมไปรอบๆดวงตา อย่าถูหรือจิ้มอายครีมลงที่ตาแรงเกินไป เพราะจะเป็นการเพิ่มริ้วรอยให้ดวงตามากขึ้นไปกว่าเดิมค่ะ
Q: ปากสีคล้ำ แถมยังสีไม่สม่ำเสมออีกต่างหาก รู้สึกไม่มั่นใจเลย ควรแก้ปัญหายังไงคะ? A: ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนค่ะว่าริมฝีปากหมองคล้ำเกิดจากหลายสาเหตุ อาจเกิดเพราะพันธุกรรม เพราะอากาศหนาว หรือเพราะแพ้สารเคมีบางอย่าง สำรวจตัวเองว่าเราแพ้อะไรหรือเปล่าแล้วพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ อาจใช้ยาช่วยลบรอยดำ หรือลอกด้วย Chemical Peeling หรือตัวช่วยสุดท้ายคือการใช้เลเซอร์ซึ่งจะส่งผลให้ริมฝีปากบวม ตกสะเก็ด แต่ถือว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ได้ผลค่ะ
Q: เพิ่งเคยได้ยินวิธีผอมด่วนด้วย Carboxy ว่ากันว่าฉีดปุ๊บออกโชว์ความสวยได้ปั๊บเลย มันจริงหรือคะ? A: จริงอยู่ที่การฉีดคาร์บ็อกซีเธอราพี (Carboxy Therapy) จะช่วยทำให้มวลไขมันลดลงและทำให้อ้วนช้าลงด้วย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผอมทันตาขนาดนั้นหรอกนะคะ เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังยืนยันมาแล้วว่าควรฉีด 3 ครั้งขึ้นไปจึงจะได้ผล ขึ้นอยู่กับว่ามีมวลไขมันมากน้อยแค่ไหนค่ะ
Q: เมื่อก่อนอยากสวยอินเทรนด์เลยไปดัดผม ผลที่ตามมาคือตอนนี้ผมแห้งแตกปลายไปเลย ต้องบำรุงยังไงผมถึงจะกลับมาสวยเหมือนเดิมคะ กลุ้มใจจัง? A: ไม่ต้องกลุ้มใจไปค่ะ ก่อนนอนคืนนี้ลองนวดปลายผมด้วยโฮโฮบาออยส์ ห่อผ้าขนหนูทิ้งไว้ทั้งคืน วันรุ่งขึ้นก็นวดหนังศีรษะด้วยปลายนิ้วเพื่อให้น้ำมันกระจายตัว จากนั้นก็ราดน้ำให้เปียกแล้วซับพอหมาดๆ แล้วลงครีมหมักผมโดยเว้นโคนผมไว้ซักครึ่งนิ้ว ใช้ผ้าขนหนูหมาดน้ำที่อุ่นด้วยไมโครเวฟมาห่อผม ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น หรือจะสระผมไปเลยก็ได้เพื่อกำจัดครีมหมักที่ตกค้าง ทำอย่างนี้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง รับรองว่าผมก็จะกลับสุขภาพดีเหมือนเดิมแล้วล่ะ |
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2552 | | |
Last Update : 12 มกราคม 2553 15:00:53 น. |
Counter : 546 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
30ต้นๆผู้หญิงมั่นใจตัวเองสูงสุด งดงามสง่าจากภายในถึงกายเนื้อ
เดลิเมล์ งานวิจัยเผยผู้หญิง 4 ใน 10 รู้สึกว่าตัวเองสวยมีเสน่ห์ที่สุดเมื่ออายุ 30 ต้นๆ อาจเป็นด้วยความสุกงอมจากประสบการณ์ ตลอดจนถึงความสำเร็จในหน้าที่การงานและความรัก
การสำรวจผู้หญิงอังกฤษอายุระหว่าง 40-60 ปี พบว่า 1 ใน 5 เลือกอายุ 40 ปีเป็นช่วงเวลาที่แฮปปี้กับรูปลักษณ์ตัวเองมากที่สุด
อีก 38% รู้สึกว่ารูปร่างหน้าตาของตัวเองสวยสะน่ามองที่สุดในวัย 30 ต้นๆ โดยผู้หญิงกลุ่มนี้บอกว่าเป็นเพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาที่ทำให้มั่นใจมากขึ้น ชีวิตรักกำลังไปได้สวย และยังมีไลฟ์สไตล์การกินดื่มที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
คนดังที่จะเป่าเค้กครบรอบวันเกิดอายุ 32 ปีในปีนี้ และแน่นอนโดยที่รู้สึกผ่อนคลายสบายใจกับรูปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้นมีอาทิ โซฟี ดาห์ล และสองนักแสดงสาวคนสวย ลิฟ ไทเลอร์ และซาราห์ มิเชล เกลลาร์
นักจิตวิทยา ดร.ซานดรา วีทลีย์ กล่าวว่าผลการสำรวจเป็นสัญญาณที่น่าพอใจ เพราะบ่งชี้ว่าผู้หญิงให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าความสำเร็จของตนเองมากพอๆ กับรูปร่างหน้าตา
ฉันรู้สึกว่า ผู้หญิงตกอยู่ใต้อิทธิพลของบุคลิกลักษณะมากขึ้น เป็นสัญญาณว่าเราเห็นคุณค่าของสิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราทำได้ ไม่ใช่แค่เปลือกนอกเท่านั้น"
ความรู้สึกว่าตัวเองสวยเกี่ยวข้องกับความมั่นใจและประสบการณ์ชีวิต เมื่ออายุ 32 ปี ผู้หญิงผ่านอะไรมามาก เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมายและประสบความสำเร็จกว่าขณะอายุ 22 ปีหลายเท่า"
ผู้หญิงอาจเป็นศัตรูร้ายในหมู่ผู้หญิงด้วยกัน โดยต่างวิพากษ์วิจารณ์น้ำหนักตัวและริ้วรอยบนใบหน้าของกันและกัน แต่การศึกษานี้น่าประทับใจตรงที่แสดงให้เห็นว่า ความสวยงามเป็นอะไรที่มากกว่าผิวที่ปกคลุมอยู่ภายนอกเท่านั้น
อนึ่ง การสำรวจออนไลน์นี้จัดทำโดยวิลโลว์ วอเตอร์ แบรนด์น้ำดื่มบรรจุขวดที่อวดอ้างสรรพคุณว่าช่วยปรับสภาพผิวหนังให้ดูดีขึ้น
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ |
Create Date : 31 มกราคม 2552 | | |
Last Update : 12 มกราคม 2553 15:07:25 น. |
Counter : 515 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|