Mygazine : เก็บทุกสิ่งที่สนใจ
นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลา : พาทัวร์เบลเยี่ยมช่วงคริสมาสต์

มาค่ะ วันนี้ไปนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปเที่ยวเบลเยี่ยมกัน

ฉันกับสามีวางแผนจะกลับไปฉลองคริสมาสต์กับแม่และน้องชายของสามีที่เบลเยี่ยม และจะหอบกันไปนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2007 ที่ Marbella (แต่ขอตัดเป็นอีกหนึ่งเวอร์ชันค่ะ)

ว่าแล้วก็เริ่มทัวร์กันเลยค่ะ



โฉมหน้ารถไฟที่พาเราสองคนไปบรัสเซลล์ แม้หน้าตาจtมู่ทู่แต่ว่ากันว่าวิ่งได้เร็วพอๆกับธาลีส (Thalys) กันเลยทีเดียว



นั่งกันไปเรื่อยๆ แล้วก็ผ่านสถานีนี้ "รอตเตอร์ดัม" (เมืองที่มีมหาวิทยาลัยที่ฉันเคยคลั่งไคล้อยากเรียนตั้งอยู่)



ตัดฉับมาที่ท้องถนนในเบลเยี่ยม หลังจากเป็นอีบ้าหอฟาง ขนกระเป๋า 3 ใบยักษ์ยัดใส่รถเช่าได้แล้ว การเดินทางก็เริ่มต้นขึ้น...ภาพนี้เป็นผู้หญิงจากยุโรปตะวันออกที่อพยพมาอยู่ในเบลเยี่ยมแบบผิดกฏหมาย และต้องออกขอเงินตามแยกไฟแดงต่างๆ (อ่ะ...เบลเยี่ยมก็มีขอทานค่ะ)



ซานตาคลอสยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าร้านขายชอคโกเลตขึ้นชื่อของเบลเยี่ยม



วันต่อมา (21-12-06) ไปเดินเที่ยวกันที่ตลาดคริสมาสต์แถวแกรนด์พาเลส ระหว่างทางเดินผ่านนี้ค่ะ ไทย ซูเปอร์มาร์เก็ต ไม่ถ่าย(รูป) ไม่ได้แล้วค่ะ 1 แชะ



ในตลาดที่ว่านี้ จะมีการออกร้านต่างๆมากมาย ทั้งของกินของใช้ และของที่ระลึก จากการเดินสำรวจพบสินค้าจากไทยไหลเข้าไปขายที่นี้กันเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นผ้าพันคอ ตุ้มหู กำไล สร้อยคอ และพวกไม้แกะสลัก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้เลยเลือกเอารูปไอซ์สเก็ตน้ำแข็งที่มีแบ็คกราวน์เป็นชิงช้าสวรรค์มาโชว์แทนค่ะ



วันที่ 22-12-06 ดีใจได้เห็นแสงแดดจากดวงอาทิตย์แหม...ก็ตั้งแต่แตะแผ่นดินถิ่นยุโรป ก็ไม่ได้เห็นตะวันกันเลยว่าได้ วันนี้เลยสดใสคึกคักขึ้นมาหน่อย ไม่ซึมกระทือเหมือนวันอื่นๆ



ระหว่างรอไปกินข้าวเย็น (ฟรี) บ้านเพื่อนสามี เราสองคนเคว้ง ฉันเลยเสนอว่า ไปดูผู้ชายแก้ผ้ากันดีกว่าว่าแล้วก็หันหัวรถกลับไปหาที่จอดรถใกล้ๆกับแกรนด์พาเลสกันอีกครั้ง (ค่าจอดแพงระยับจริงๆ) แต่เนื่องจากเป็นคริสมาสต์ แทนที่ฉันจะได้เห็นผู้ชายแก้ผ้า ก็กลายเป็นซานตาคลอสทะลึ่งโชว์กระปู๋แทน



หลังจากนั้นก็ไปวินโดว์สชอปกันแถว Avenue de la toison d or เนื่องจากยังไม่ถึงเทศกาลเซลล์ จึงได้แต่วินโดว์สชอปจริงๆ รูปนี้ถ่ายแบบไม่ใช่แฟลช สีออกมาฉวยมั่กๆ แต่ต้องบังคับมือให้นิ่งที่สุด ไม่งั้นภาพจะเบลอ



รูปนี้ถ่ายตอนเช้าวันที่ 24-12-06 อุณหภูมิน่าจะอยู่ที่ 0 องศาค่ะ หมอกลงสุดริด หนาวสุดขั้ว ฉันอัดเสื้อไป 2 ชั้นทับด้วยโค้ท ผ้าพันคอ และถุงมือ คุ้มแล้วกับของที่ขนซื้อมาจากไทย (กลัวไม่ได้ใช้จริงค่ะ)



แวะร้านขายดอกไม้ ซื้อกุหลาบให้เป็นของขวัญวันเกิดแม่ของสามี แชะรูปต้นเฟิร์นมาฝาก ราคา 12 ยูโร (ประมาณ 564 บาทค้าาา)



ส่วนกุหลาบจิ๋ว ดอกละ 0.80 ยูโร (ประมาณ 38 บาทค่ะ) แพงมากกกกกก



ระหว่างนั่งดูทีวีที่บ้านแม่สามี ทีวีบ้านเค้าก็ถ่ายทอดพระราชดำรัสของกษัตริย์บ้านเค้าเหมือนกับบ้านเรา ลองกล้องอีกแล้ว ถ่ายแบบไม่เอาแฟลช ออกมาสวย เหมือนได้เข้าเฝ้าอยู่หน้าเบื้องพระบาท เลยได้รูปกษัตริย์บ้านเค้าเอามาอวด อิ



โต๊ะดินเนอร์วันคริสมาสต์ของบ้านแม่สามี ที่มีคนกิน 4 คน คือ แม่สามี น้องชาย สามี และฉัน



โฉมหน้าอาหารเรียกน้ำย่อย



ตามมาด้วยจานหลัก เยอะมาก อิ่มอึดเลยงานนี้



อันที่จริงต้องปิดท้ายด้วยเจ้านี้ แต่ฉันอิ่มจัด บวกกับนาฬิกาในร่างกายยังงง งง อยู่ หลังจานหลัก ฉันก็หลับเลย ง่วงแบบบอกสาเหตุไม่ได้ แล้วเราทั้งหมดก็จัดการเจ้านี้กันในวันรุ่งขึ้น เอิ๊ก



ลงใต้ไปเยือนบ้านเพื่อนสามีที่เมือง Ath เมืองเล็กๆ ที่ทำกสิกรรมกันซะส่วนใหญ่ แบบของบ้านจะต่างจากบรัสเซลล์ หน้าตาจะเป็นแบบนี้ คือ เป็นตึก 2 ชั้นและดูประหนึ่งเป็นต่างจังหวัดบ้านเรา มองไปทางไหนก็อุดมไปท้องทุ่งสุดลูกหูลูกตา



ข้างในสิ่งก่อสร้างนี้ คือ รูปปั้นพระเยซู ซึ่งชาวเมือง Ath เชื่อว่า จะช่วยปกปักรักษาบ้านเมือง และช่วยให้กสิกรรมอุดมสมบูรณ์



บรรยากาศคริสมาสต์ที่เมือง Ath



แวะปราสาท (ชื่ออะไรจำไม่ได้) ระหว่างทางกลับจาก Ath มุ่งหน้า บรัสเซลล์ ไม่ได้เข้าข้างใน เพราะ ปิดปรับปรุงค่ะ



เกิดทะลึ่งอยากถ่ายรูปถนนสายหนึ่งในบรัสเซลล์ ที่เต็มไปด้วยหน้าร้านที่เอาผู้หญิง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากยุโรปตะวันออก มานุ่งน้อยห่มน้อย แล้วยืดบิดไปบิดมา เรียกลูกค้า
ผู้ชายให้เข้ามาใช้บริการ ดูผ่านๆเหมือนกับเอาสัตว์มาโชว์หน้าร้าน เห็นแล้วเศร้าจิต น้องนางบางคนเห็นกล้อง โบกไม้โบกมือ ส่งจูบกันให้ว่อน ส่วนฉันก็กลัวนักเลงจะมาทุบกระจก ภาพที่ได้จึงเบลอประมาณนี้



เข้าพันทิพโต๊ะไกลบ้าน เค้าว่ากันว่า เย็นตาโฟ ร้านพัทยาที่บรัสเซลล์ อร่อย ฉันก็เลยอ้อนวอนให้สามี พากลับไปแถวแกรนด์พาเลสอีกครั้ง เพื่อกินเย็นตาโฟโดยเฉพาะ สรุปแล้วรสชาติอร่อยสมคำเล่าลือ ที่สำคัญจานหญ่ายยยยมาก กินไม่หมดอีกแล้ว



ส่วนสามีสั่งผัดเนื้อกับผักอะไรซักอย่าง ขอบอกรสชาติใช้ได้เลย



โชว์โฉมหน้าร้านกันซะหน่อย เจ้าของร้าน เหมือนว่า เป็นผู้หญิงไทยที่แต่งงานกับคนจีน แล้วมาปักหลักทำมาหากินกันที่นี้ และรู้สึกว่าจะเลื่องชื่อในหมู่บรัสเซลเลอร์ซะด้วย

พบกันเวอร์ชันหน้าพาเที่ยว Marbella ของสเปน




Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 15 เมษายน 2551 19:35:14 น. 0 comments
Counter : 1092 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Never be Afraid to Dream
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]









หมายเหตุ :
1. ขอขอบคุณเจ้าของโค้ด รูป และของแต่งบล็อกที่รวมกันเป็นบล็อกนี้ทุกท่านและขออภัยที่ไม่สามารถเอ่ยชื่อได้ เนื่องจาก จขบ.เซฟมาเยอะจนไม่สามารถจำได้ว่าเอามาจากบล็อกของท่านใดบ้าง

2. ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้า ณ ที่นี้ สำหรับทุกท่านที่แวะมาเยี่ยม มาแสดงความเห็นค่ะ และขออภัยหากไม่ได้กลับไปเยี่ยม
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Never be Afraid to Dream's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.