|
Acer สร้างขุมพลังมุ่งนำเสนอความเป็นเลิศ
บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดคอมพิวเตอร์โดยรวมในประเทศไทย ตั้งเป้าเติบโต 30 เปอร์เซ็นต์ สานต่อกลยุทธ์มัลติแบรนด์ ครอบคลุมความต้องการทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมปลุกจิตวิญญาณสู่พลังแห่งความเป็นเลิศด้วยคอนเซ็ปต์ express. your. excellence เพื่อครองความเป็น 1 อย่างต่อเนื่อง
นายแฮรี่ หยาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จในปีที่ผ่านมา โดยเอเซอร์ประเทศไทยมียอดการเติบโต 18 เปอร์เซ็นต์ โดยยังคงครองอันดับ 1 ในตลาดรวม และมียอดการเติบโตของโน้ตบุ๊กสูงถึง 22 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในระดับโลกนั้น ผลการสำรวจจากการ์ดเนอร์ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 ระบุว่าเอเซอร์ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดอันดับ 2 ของโลก ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 15.4 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อนหน้านั้น และมียอดจำหน่ายโน้ตบุ๊กทะลุเป้าถึง 10.96 ล้านเครื่อง ซึ่งทำให้มียอดการเติบโตดีที่สุดถึง 25.6 เปอร์เซ็นต์ และปีนี้เอเซอร์ตั้งเป้าเป็นอันดับหนึ่งของตลาดโน้ตบุ๊กในระดับโลกให้ได้
นายหยาง กล่าวเสริมว่า เราเชื่อว่าตลาดไอทีในปีนี้จะเติบโตกว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ผนวกกับเรามีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากได้ก้าวผ่านวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงต่ำสุดมาแล้ว และปัจจัยที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
จากการคาดการณ์ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย ระบุว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ในปีนี้จะเติบโตในระดับ 3.5 - 4 เปอร์เซ็นต์ ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้รายงานแนวโน้มมูลค่าตลาดคอมพิวเตอร์ในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 53,290 – 57,290 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 8.1 – 16.3 ทำให้เราเชื่อมั่นว่าในปีนี้เอเซอร์จะมีส่วนแบ่งการตลาดคอมพิวเตอร์โดยรวมได้ถึง 1.1 ล้านเครื่อง โดยมีส่วนแบ่งของตลาดโน้ตบุ๊ก 8 แสนเครื่อง หรือมากกว่า 40% และส่วนแบ่งของตลาดพีซี 3 แสนเครื่อง หรือคิดเป็น 25%
“เราตั้งเป้าเติบโตของรายได้ในปี 2553 ไว้ที่ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในปีนี้เรายังคงสานต่อกลยุทธ์ด้านมัลติแบรนด์
ด้วยผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เอเซอร์ ที่ชูความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ส่วนเกตเวย์ เจาะกลุ่มแฟชั่นและความมีเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ และอีแมชชีนเหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญเรื่องของราคา ในฐานะที่เอเซอร์เป็นผู้นำในตลาดคอมพิวเตอร์ เราพร้อมที่จะนำเสนอนวัตกรรม เทคโนโลยี และฟังก์ชันการใช้งานที่ล้ำสมัยให้ผู้บริโภคได้สัมผัสก่อนใคร ในส่วนของพันธมิตรทางการค้านั้น เอเซอร์ยังคงดำเนินนโยบายการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย พร้อมเสริมสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการของคอนซูเมอร์ รวมถึงการพัฒนาการให้บริการหลังการขายอย่างครบวงจร” นายหยาง กล่าวเพิ่มเติม
“ในปีนี้เอเซอร์ยังได้เสริมความแข็งแกร่งรับปีเสือดุ ด้วยคอนเซ็ปต์ express. your. excellence นำเสนอความเป็นเลิศที่มีอยู่ในตัว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจและพลังในการก้าวสู่ความสำเร็จ โดยในระดับโลกเอเซอร์ภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่แวนคูเวอร์ และการแข่งขันโอลิมปิกในปี 2010 ที่กรุงลอนดอนอย่างเป็นทางการ ส่วนในระดับ ประเทศเอเซอร์จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนหลักทีมนักกีฬาฟุตบอลของสโมสรทหารบก ในการแข่งขันไทยพรีเมียลีกตลอดทั้งฤดูกาลของปี 2553 รวมถึงกิจกรรมที่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนนักกีฬาให้เป็นที่รู้จัก พร้อมสนับสนุนให้เยาวชนได้เข้าถึงกีฬาฟุตบอลมากขึ้น ” นายหยาง กล่าวสรุป
ข้อมูลเกี่ยวกับเอเซอร์
นับแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2519 เอเซอร์มุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดระหว่างคนและเทคโนโลยี ด้วยการเอาใจใส่กับการทำตลาดผลิตภัณฑ์ไอทีภายใต้แบรนด์เอเซอร์ในทุกประเทศ ปัจจุบันเอเซอร์เป็นผู้จัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอันดับสามของโลก และเป็นอันดับสองในตลาดโน๊ตบุ๊ก ด้วยอัตราการเติบโตสูงที่สุดในบรรดาผู้นำตลาดห้าลำดับแรกของโลก รูปแบบการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มีผลกำไรและยั่งยืนเป็นปัจจัยหลักของการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเอเซอร์ ในขณะเดียวกันความสำเร็จของการควบรวมกิจการกับเกตเวย์และแพคการ์ด เบลล์ทำให้บริษัทสามารถเป็นบริษัทระดับโลกที่มีบทบาทในสหรัฐอเมริกา และขยายความแข็งแกร่งในตลาดในยุโรป เอเซอร์ อิงค์ มีพนักงาน 6,000 คนทั่วโลก และมีรายได้ในปีงบประมาณ 2008 อยู่ที่ 16.65 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.acer.com
ผลิตภัณฑ์เอเซอร์ เริ่มเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2527 โดยบริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ปัจจุบันบริษัทฯ เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย เคยเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และได้รับรางวัล Outstanding Brand Performance จาก The Reader’s Digest ถึง 8 ปี เอเซอร์ ยังได้ครองส่วนแบ่งทางการตลาดโน้ตบุ๊คอันดับ 1 กว่า 13 ไตรมาสติดต่อกัน (ตั้งแต่ปี พ.ศ..2546 – ปัจจุบัน) รายละเอียดโปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.acer.co.th
Acer และโลโก้ Acer เป็นเครื่องหมายการค้าของ Acer Incorporated เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน และ/หรือเครื่องหมายบริการอื่นๆ ที่ระบุหรือแสดงในลักษณะอื่นใด ถือเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง
Create Date : 28 มกราคม 2553 | | |
Last Update : 28 มกราคม 2553 20:30:27 น. |
Counter : 361 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Acer สร้างขุมพลังมุ่งนำเสนอความเป็นเลิศ
บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดคอมพิวเตอร์โดยรวมในประเทศไทย ตั้งเป้าเติบโต 30 เปอร์เซ็นต์ สานต่อกลยุทธ์มัลติแบรนด์ ครอบคลุมความต้องการทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมปลุกจิตวิญญาณสู่พลังแห่งความเป็นเลิศด้วยคอนเซ็ปต์ express. your. excellence เพื่อครองความเป็น 1 อย่างต่อเนื่อง
นายแฮรี่ หยาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จในปีที่ผ่านมา โดยเอเซอร์ประเทศไทยมียอดการเติบโต 18 เปอร์เซ็นต์ โดยยังคงครองอันดับ 1 ในตลาดรวม และมียอดการเติบโตของโน้ตบุ๊กสูงถึง 22 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในระดับโลกนั้น ผลการสำรวจจากการ์ดเนอร์ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 ระบุว่าเอเซอร์ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดอันดับ 2 ของโลก ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 15.4 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อนหน้านั้น และมียอดจำหน่ายโน้ตบุ๊กทะลุเป้าถึง 10.96 ล้านเครื่อง ซึ่งทำให้มียอดการเติบโตดีที่สุดถึง 25.6 เปอร์เซ็นต์ และปีนี้เอเซอร์ตั้งเป้าเป็นอันดับหนึ่งของตลาดโน้ตบุ๊กในระดับโลกให้ได้
นายหยาง กล่าวเสริมว่า เราเชื่อว่าตลาดไอทีในปีนี้จะเติบโตกว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ผนวกกับเรามีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากได้ก้าวผ่านวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงต่ำสุดมาแล้ว และปัจจัยที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
จากการคาดการณ์ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย ระบุว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ในปีนี้จะเติบโตในระดับ 3.5 - 4 เปอร์เซ็นต์ ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้รายงานแนวโน้มมูลค่าตลาดคอมพิวเตอร์ในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 53,290 – 57,290 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 8.1 – 16.3 ทำให้เราเชื่อมั่นว่าในปีนี้เอเซอร์จะมีส่วนแบ่งการตลาดคอมพิวเตอร์โดยรวมได้ถึง 1.1 ล้านเครื่อง โดยมีส่วนแบ่งของตลาดโน้ตบุ๊ก 8 แสนเครื่อง หรือมากกว่า 40% และส่วนแบ่งของตลาดพีซี 3 แสนเครื่อง หรือคิดเป็น 25%
“เราตั้งเป้าเติบโตของรายได้ในปี 2553 ไว้ที่ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในปีนี้เรายังคงสานต่อกลยุทธ์ด้านมัลติแบรนด์
ด้วยผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เอเซอร์ ที่ชูความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ส่วนเกตเวย์ เจาะกลุ่มแฟชั่นและความมีเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ และอีแมชชีนเหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญเรื่องของราคา ในฐานะที่เอเซอร์เป็นผู้นำในตลาดคอมพิวเตอร์ เราพร้อมที่จะนำเสนอนวัตกรรม เทคโนโลยี และฟังก์ชันการใช้งานที่ล้ำสมัยให้ผู้บริโภคได้สัมผัสก่อนใคร ในส่วนของพันธมิตรทางการค้านั้น เอเซอร์ยังคงดำเนินนโยบายการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย พร้อมเสริมสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการของคอนซูเมอร์ รวมถึงการพัฒนาการให้บริการหลังการขายอย่างครบวงจร” นายหยาง กล่าวเพิ่มเติม
“ในปีนี้เอเซอร์ยังได้เสริมความแข็งแกร่งรับปีเสือดุ ด้วยคอนเซ็ปต์ express. your. excellence นำเสนอความเป็นเลิศที่มีอยู่ในตัว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจและพลังในการก้าวสู่ความสำเร็จ โดยในระดับโลกเอเซอร์ภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่แวนคูเวอร์ และการแข่งขันโอลิมปิกในปี 2010 ที่กรุงลอนดอนอย่างเป็นทางการ ส่วนในระดับ ประเทศเอเซอร์จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนหลักทีมนักกีฬาฟุตบอลของสโมสรทหารบก ในการแข่งขันไทยพรีเมียลีกตลอดทั้งฤดูกาลของปี 2553 รวมถึงกิจกรรมที่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนนักกีฬาให้เป็นที่รู้จัก พร้อมสนับสนุนให้เยาวชนได้เข้าถึงกีฬาฟุตบอลมากขึ้น ” นายหยาง กล่าวสรุป
ข้อมูลเกี่ยวกับเอเซอร์
นับแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2519 เอเซอร์มุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดระหว่างคนและเทคโนโลยี ด้วยการเอาใจใส่กับการทำตลาดผลิตภัณฑ์ไอทีภายใต้แบรนด์เอเซอร์ในทุกประเทศ ปัจจุบันเอเซอร์เป็นผู้จัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอันดับสามของโลก และเป็นอันดับสองในตลาดโน๊ตบุ๊ก ด้วยอัตราการเติบโตสูงที่สุดในบรรดาผู้นำตลาดห้าลำดับแรกของโลก รูปแบบการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มีผลกำไรและยั่งยืนเป็นปัจจัยหลักของการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเอเซอร์ ในขณะเดียวกันความสำเร็จของการควบรวมกิจการกับเกตเวย์และแพคการ์ด เบลล์ทำให้บริษัทสามารถเป็นบริษัทระดับโลกที่มีบทบาทในสหรัฐอเมริกา และขยายความแข็งแกร่งในตลาดในยุโรป เอเซอร์ อิงค์ มีพนักงาน 6,000 คนทั่วโลก และมีรายได้ในปีงบประมาณ 2008 อยู่ที่ 16.65 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.acer.com
ผลิตภัณฑ์เอเซอร์ เริ่มเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2527 โดยบริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ปัจจุบันบริษัทฯ เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย เคยเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และได้รับรางวัล Outstanding Brand Performance จาก The Reader’s Digest ถึง 8 ปี เอเซอร์ ยังได้ครองส่วนแบ่งทางการตลาดโน้ตบุ๊คอันดับ 1 กว่า 13 ไตรมาสติดต่อกัน (ตั้งแต่ปี พ.ศ..2546 – ปัจจุบัน) รายละเอียดโปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.acer.co.th
Acer และโลโก้ Acer เป็นเครื่องหมายการค้าของ Acer Incorporated เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน และ/หรือเครื่องหมายบริการอื่นๆ ที่ระบุหรือแสดงในลักษณะอื่นใด ถือเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง
Create Date : 28 มกราคม 2553 | | |
Last Update : 28 มกราคม 2553 20:29:09 น. |
Counter : 369 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
บริการด้านการสำรองและกู้คืนข้อมูลของไอบีเอ็ม
ปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ถือได้ว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งและเป็นหัวใจหลักต่อการดำเนินธุรกิจ โดยไอทีมีบทบาทอย่างยิ่งต่อธุรกิจในหลาย ๆ ด้าน ตั้งแต่การทำงานเพื่อสนับสนุนระบบงานหลักไปจนถึงการบริหารจัดการข้อมูลในองค์กร เป็นต้น จนเรียกได้ว่าการทำงานอย่างราบรื่นและต่อเนื่องของระบบไอทีมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ เพราะหากระบบไอทีเกิดการหยุดชะงักด้วยเหตุการณ์อันไม่คาดฝันใด ๆ ก็ตาม ย่อมส่งผลกระทบและความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ด้วยการเล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว ไอบีเอ็ม ในฐานะผู้นำทางด้านไอทีที่มีโซลูชันครบวงจร จึงได้คิดค้นเทคโนโลยีและนำเสนอบริการหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรที่ต้องการให้ระบบไอทีรวมทั้งการปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ สามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ปราศจากผลกระทบใด ๆ หากเกิดภัยพิบัติหรือเหตุการณ์อันไม่คาดฝันขึ้น
บริการสร้างความต่อเนื่องของธุรกิจจากไอบีเอ็ม (IBM Business Continuity and Resiliency Services – BCRS)
บริการที่ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจขององค์กรสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น โดยครอบคลุมตั้งแต่การช่วยองค์กรกำหนดวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ การวางแผนในด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยให้มาตรการรักษาความปลอดภัยในระบบไอทีขององค์กรสอดคล้องกับมาตรฐาน กฏระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ทางธุรกิจ (regulatory compliance) รวมทั้งปรับปรุงความพร้อมใช้งานของระบบ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการความเสี่ยงต่าง ๆ เป็นต้น โดยบริการสร้างความต่อเนื่องของธุรกิจจากไอบีเอ็ม (BCRS) แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
บริการให้คำปรึกษาแผนสำรองทางธุรกิจ (IBM Resiliency Consulting Services) บริการดังกล่าวครอบคลุมตั้งแต่การช่วยประเมิน ออกแบบ พัฒนาแผน และให้คำแนะนำ การจัดการความเสี่ยงของระบบไอที ทั้งองค์กร และบริหารให้ธุรกิจของลูกค้าดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง
บริการออกแบบและวางระบบโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจให้เกิดความต่อเนื่อง (IBM Managed Resiliency Services) บริการที่ช่วยองค์กรออกแบบระบบและวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของธุรกิจ และลดความเสี่ยงที่เกิดจากความผิดพลาดของกระบวนการจัดการ (Fault-Tolerant) เพื่อลดผลกระทบทางธุรกิจที่เกิดจากระบบที่ไม่สามารถใช้งานได้
บริการสำรองข้อมูลทางธุรกิจ (IBM Information Protection Services) บริการที่ช่วยองค์กรสำรองข้อมูลทางธุรกิจเพื่อให้เป็นไปตามกฏข้อบังคับและข้อกำหนดขององค์กร โดยการจัดลำดับความสำคัญ ความสามารถในการ Backup, Restore, Retrieve ทั้งนี้เพื่อการถึงข้อมูลให้ทำได้ตลอดเวลา
บริการการกู้คืนระบบ (IBM Infrastructure Recovery Services) บริการที่ช่วยองค์กรลดความสูญเสียทางธุรกิจ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน หรือภัยพิบัติ ด้วยบริการที่ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายโดยรวมในการกู้คืนระบบ
บริการเพื่อสนับสนุนศูนย์คอมพิวเตอร์สำรองและการกู้คืนระบบ (IBM Disaster Recovery) ของไอบีเอ็มที่ดำเนินการให้กับการบินไทย
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจและทำงานร่วมกับการบินไทยในโครงการในด้านต่าง ๆ มาเป็นเวลายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนด้านผลิตภัณฑ์ โซลูชัน การให้คำปรึกษา หรือการให้บริการทางด้านไอทีในรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น สำหรับการบริการเพื่อสนับสนุนศูนย์คอมพิวเตอร์สำรองและการกู้คืนระบบ (Disaster Recovery Site) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบริการเพื่อสนับสนุนความต่อเนื่องทางธุรกิจของไอบีเอ็ม (IBM Business Continuity and Resiliency Services - BCRS) ในครั้งนี้ ไอบีเอ็มได้ให้บริการใน 2 ส่วนหลัก ๆ คือ
บริการสนับสนุนการกู้คืนระบบและโครงสร้างพื้นฐาน (IBM Infrastructure Recovery & Deployment Services) บริการในด้านดังกล่าว ครอบคลุมถึงการวางแผนภาพรวม การวางแผนโดยละเอียด การติดตั้งอุปกรณ์และแอพพลิเคชัน การดำเนินการทดสอบ (Integration Test) และ การจัดทำระบบเพื่อสำรองระบบสารสนเทศหลักของการบินไทย
บริการสนับสนุนการบริหารจัดการศูนย์คอมพิวเตอร์สำรอง (DRC Operations Service) บริการที่ช่วยดูแลจัดการให้การทำงานของศูนย์ฯ และระบบต่างๆ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีความพร้อมสมบูรณ์เมื่อจำเป็นต้องทำการกู้คืน หรือถ่ายโอนระบบงานมาจากศูนย์คอมพิวเตอร์หลัก ซึ่งรวมถึงการจัดเตรียมแผนการปฏิบัติงานในสถานะการณ์ฉุกเฉินด้วย
นอกเหนือจากบริการเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์สำรองที่ไอบีเอ็มทำให้กับการบินไทยแล้ว ที่ผ่านมาไอบีเอ็มยังให้บริการในลักษณะดังกล่าวกับสายการบินชั้นนำของโลกมากมาย เช่น สายการบินแควนตัส สิงคโปร์แอร์ไลนส์ เดลต้าแอร์ไลนส์ เป็นต้น โดยไอบีเอ็มใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี การมีโซลูชันทางด้านไอทีครบวงจร การค้นคว้าวิจัยที่มีมาอย่างยาวนาน ตลอดจนประสบการณ์ ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของทีมงาน ช่วยลูกค้าวางแผน บริหารจัดการและติดตั้งระบบเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานให้สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง ราบรื่น ปราศจากการหยุดชะงักจากภัยพิบัติหรือเหตุการณ์อันไม่คาดฝันต่าง ๆ
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการด้านการสำรองและกู้คืนข้อมูลของไอบีเอ็ม สามารถเข้าไปที่ www.ibm.com/services/continuity
Create Date : 28 มกราคม 2553 | | |
Last Update : 28 มกราคม 2553 20:27:40 น. |
Counter : 355 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
LG และ Panasonic จับ Skype ใส่ทีวี
เทคโนโลยี่กับความง่ายต้องมาพร้อมกันอันนี้คือกุญแกสำคัญของความสำเหร็จ และล่าสุด LG และ Panasonic ได้ตอบสนองความสะดวกสบายและง่ายได้อย่างน่าสนใจ กับการพัฒนาให้สามารถใช้งาน Skype บนทีวีได้ และจุดเด่นนั้นอยู่ที่ สามารถรองรับความละเอียดที่ระดับ HD และหากจะพูดถึง อินเตอร์เน็ตทีวีด้วยแล้ว ก็มีข่าวออกมาให้ได้เห็นกันเรื่อยๆ ซึ่งยังไม่เป็นรูปเป็นร่างมากนัก
Create Date : 28 มกราคม 2553 | | |
Last Update : 28 มกราคม 2553 20:26:38 น. |
Counter : 513 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
McAfee เผย การโจมตีกูเกิลใช้ช่องโหว่จาก IE
ประเด็นเรื่อง กูเกิลจีนถูกโจมตี, ประกาศจะไม่สนับสนุนการบล็อคเว็บในจีนอีกต่อไป ยังเป็นข่าวต่อเนื่องไปได้อีกนาน เพราะรายละเอียดค่อยๆ ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
McAfee Labs ออกมาเปิดเผยว่า มัลแวร์ตัวใหม่ที่ใช้โจมตีกูเกิล ได้อาศัยช่องโหว่ค้นพบใหม่ใน Internet Explorer ของเครื่องเป้าหมาย โดยหลอกให้เจ้าของเครื่องคลิกไฟล์ที่ดูเหมือนว่ามาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เมื่อคลิกแล้ว มัลแวร์จะเริ่มเปิด backdoor ไว้ในเครื่องนั้น และเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้ามาควบคุมเครื่องได้
McAfee บอกว่า IE ทุกเวอร์ชันมีช่องโหว่นี้ แต่เครื่องที่ใช้เป็นฐานการโจมตีนั้นเป็น IE6 ล่าสุดไมโครซอฟท์ออก Security Advisory 979352 มาแก้แล้ว
McAfee เรียกการโจมตีรอบนี้ว่า "Operation Aurora" โดยชื่อ Aurora มาจากพาธของไฟล์มัลแวร์ที่อยู่ในเครื่องต้นฉบับของผู้โจมตี และให้ความเห็นว่า มัลแวร์ตัวนี้พัฒนาขึ้นกว่า Blaster, Code Red ในอดีตมาก และการโจมตีกูเกิลครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของโลกความปลอดภัยออนไลน์ เพราะมันแสดงให้เห็นว่า บริษัทต่างๆ อ่อนไหวต่อการโจมตีขนาดไหน
Create Date : 27 มกราคม 2553 | | |
Last Update : 27 มกราคม 2553 17:20:50 น. |
Counter : 406 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|