Group Blog
 
All Blogs
 

ใช้ชีวิตใกล้ถนนใหญ่ เสี่ยงภัยรูมาทอยด์




ผลวิจัยจากสหรัฐอเมริกาชี้ ผู้ที่อาศัยในบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่นมีโอกาสเสี่ยงโรคข้ออักเสบรูมาทอยด์

โดยงานวิจัยพบว่า ผู้ที่อยู่อาศัยใกล้กับถนนใหญ่ที่มีรถราพลุกพล่าน มีควันพิษหนาแน่น

โดยเฉพาะเพศหญิงจะมีโอกาสป่วยด้วยโรคนี้สูงถึงเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเที่ยบกับผู้ที่อยู่ที่อยู่อาศัยในชานเมือง นั่นแสดงว่ามลภาวะบนท้องถนนส่งผลกระทบต่อการเกิดโรคนี้ไม่แพ้ปัจจัยอื่น อันได้แก่ อายุ เพศ เชื้อชาติ สังคม หรือแม้แต่ควันบุหรี่

ที่มา : นิตยสาร Health & Cuisine




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2553    
Last Update : 26 มิถุนายน 2553 12:45:33 น.
Counter : 566 Pageviews.  

หลับให้สบาย ก่อนตรวจสุขภาพ


ถ้าวันพรุ่งนี้ถึงคิวตรวจสุขภาพประจำปี แต่ก่อนเข้านอนคืนนี้ จู่ ๆ คุณก็รู้สึกตื่นเต้นกับการตรวจ และกังวลถึงผลที่จะปรากฏออกมา แม้จะข่มตา พยายามหลับเท่าไหร่ ก็หลับไม่ลงเสียที หากเป็นเช่นนั้น โปรดอย่ารอช้า ลองปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

สิ่งที่ควรงดเว้นก่อนเข้านอน

- 30 นาที ก่อนเข้านอน ไม่ควรดูโทรทัศน์ หรือเล่นคอมพิวเตอร์ เพราะแสงสว่างจากทั้งสองสิ่งนั้นจะทำให้สมองตื่นตัว
- 4 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน อย่าออกกำลังกาย แต่เวลาที่เหมาะสม คือ ช่วงเช้า หากทำได้รับรองกลางคืนหลับสบาย
- 2 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ โดยเฉพาะอาหารที่มีรสจัดจ้าน ไขมันสูง รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ที่จะทำให้หลับไม่สนิท กรน หยุดหายใจเป็นระยะ(หรือ Sleep apnea) ทั้งยังควรเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทคาเฟอีน เพราะมีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ส่งผลให้นอนไม่หลับ

สิ่งที่ควรทำเพื่อให้หลับสบาย

- อาบน้ำอุ่น ๆ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ก่อนเข้านอนควรทำให้ร่างกายอบอุ่น นอนในห้องที่มีอุณหภูมิที่เหมาะสม
- หากล้มตัวลงนอนผ่านไปแล้ว 15-20 นาที แต่ยังไม่หลับ ลองทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ หรือกำหนดลมหายใจเข้าออก จนกว่าจะรู้สึกง่วงเต็มที่แล้วจึงกลับไปนอน
- ถ้ารู้สึกท้องว่าง ควรดื่มน้ำอุ่น หรือนมอุ่น สักแก้วจะช่วยให้หลับสบาย
- ในแต่ละวัน ควรหลับพักผ่อนอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6-8 ชั่วโมง และควรเข้านอนก่อนเวลา 24.00 น.

เพียงแค่เลี่ยงสิ่งที่ต้องงดเว้น และปฏิบัติตามสิ่งที่ควรทำ รับรองนอนหลับฝันดี ตื่นแต่เช้าร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า พร้อมสำหรับการตรวจสุขภาพแน่นอน

ที่มา : นสพ.เดลินิวส์




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2553    
Last Update : 26 มิถุนายน 2553 12:23:08 น.
Counter : 464 Pageviews.  

จับคู่ "สุขภาพดี"


      อาหารหลายประเภทมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากสามารถรับประทานกับอาหารที่ส่งเสริมกันจะยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพมากขึ้นไปอีก

มาดูกันว่า อาหารคู่ใดบ้างที่ดีต่อสุขภาพ

      ไข่ & น้ำส้ม

      หลายคนอาจรับประทานอาหารเช้าคู่นี้โดยไม่รู้ว่าเป็นอาหารที่ส่งเสริมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่ชอบรับประทานเนื้อสัตว์หรือเป็นมังสวิรัติ ซึ่งอาจจะไม่ได้รับธาตุเหล็กมากเท่าที่ร่างกายต้องการ แม้ว่า ผัก ถั่ว และไข่ จะเป็นอาหารที่มีธาตุเหล็กซึ่งจำเป็นต่อการเสริมสร้างเม็ดเลือด แต่ร่างกายดูดซึมเหล็กจากอาหารเหล่านี้ไปใช้ได้เพียง 2-20 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากเนื้อสัตว์ได้ง่ายกว่า การรับประทานอาหารที่วิตามินซีสูง เช่น น้ำส้ม จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กจากไข่ ผัก และถั่วได้มากขึ้นถึง 6 เท่า ซึ่งมากพอจะช่วยให้ร่างกายไม่รู้สึกอ่อนเพลียเพราะโลหิตจางได้

      ขมิ้น & พริกไทยดำ

      แกงกะหรี่ได้ชื่อว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่คนอินเดียคุ้นเคยกันดี เพราะส่วนผสมหลักคือผงขมิ้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย ผลการวิจัยชิ้นล่าสุดพบว่า ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่รับประทานเคอร์คูมินวันละ 1 กรัม ช่วยให้เซลล์สมองถูกทำลายน้ำลง อย่างไรก็ตามร่างกายดูดซึมสารเคอร์คูมินไปใช้งานได้น้อยมาก แต่ถ้ารับประทานพริกไทยดำไปพร้อมกันด้วย จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารเคอร์คูมินมากขึ้นถึง 2,000 เท่า

      แฮมเบอร์เกอร์ & นมไร้ไขมัน

      อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น แฮมเบอร์เกอร์ เนื้อติดมัน หมูติดมัน ฯลฯ นับเป็นศัตรูตัวร้ายของสุขภาพ แต่บางครั้งบางคราวหลายคนก็อดใจไม่ได้ หรือบางทีก็จำเป็นต้องรับประทานเพราะความเร่งรีบ หากอยากลดผลกระทบจากไขมันอิ่มตัวเหล่านี้ลงบ้าง ผลการวิจัยแนะนำให้รับประทานเครื่องดื่ม หรือของหวานที่มีแคลเซี่ยมสูง เช่น นมไร้ไขมัน นมถั่วเหลือง 1 แก้ว จะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายดูดซึมไขมันอิ่มตัวเหล่านี้

      ชาเขียว & มะนาว

      ผลการวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งติดตามศึกษาผู้หญิงและผู้ชายจำนวนมากกว่า 40,500 คน พบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียววันละ 5 แก้ว ขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน เสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองน้อยที่สุด แต่ที่น่าเสียดายคือ ระบบย่อยอาหารที่ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระในชาเหลือไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณที่มีในชาก่อนดื่ม แต่ถ้าผู้ดื่มชาเขียวเติมน้ำมะนาว หรือน้ำส้มลงไปในชาเขียวเพียงเล็กน้อย วิตามินซีในน้ำมะนาวหรือน้ำส้มจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมอนุมูลอิสระได้ดีขึ้น 13 เท่า ซึ่งทำให้การดื่มชาเขียวเพียงวันละ 1-2 แก้ว ก็ช่วยป้องกันโรคร้ายดังกล่าวอย่าได้ผลแล้ว

      จับให้ถูกคู่ก็ยิ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ที่มา : mcot.net




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2553    
Last Update : 26 มิถุนายน 2553 10:56:31 น.
Counter : 435 Pageviews.  

สัญญาณเตือน "เป็นลม" หรือ "หมดสติ"


เคยเป็นกันไหม? หน้ามืด ตาลาย คล้ายจะเป็นลม

การเป็นลม เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอชั่วคราว เชื่อว่าหลายคนที่เจอภาวะอากาศอบอ้าว สถานที่ที่คนอยู่กันหนาแน่น ลมพัดผ่านไม่สะดวก หรือผู้ที่ชอบนอนดึก อดอาหาร จนท้องร้องจ๊อก ๆ ก็ยังไม่ยอมหาอะไรใส่กระเพาะ คงหลีกเลี่ยงอาการเป็นลมไม่พ้น นอกจากนี้ ยาบางชนิดยังทำให้คนเป็นลมง่าย เช่น ยาระงับประสาท ยาลดความดันเลือด ยาลดน้ำตาลในเลือด หรือผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ความดันเลือดสูง ก็มีโอกาสเป็นลมง่ายกว่าคนปกติเช่นกัน

สัญญาณเตือน! ก่อนหมดสติ

ส่วนใหญ่มักพบผู้ที่เป็นลมแต่ไม่หมดสติ มากกว่าผู้ที่เป็นลมและหมดสติไปเลย หรือบางคนจะมีอาการเตือนก่อนจะเป็นลมหมดสติ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มวนท้อง อยากถ่าย เหงื่อแตก ตัวเย็น ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ อาจมีอาการใจสั่นนำมาก่อน แต่บางคนอาจไม่มีอาการใด ๆ เลยก็เป็นได้ และขณะหมดสติ บางคนอาจมีอาการเกร็ง กล้ามเนื้อกระตุก (จำไว้ให้ดี อย่าไปสับสนกับโรคลมชัก หรือ ลมบ้าหมู)

เป็นพลเมืองดีทั้งที ต้องรู้วิธีปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง หากพบเห็นผู้ที่เป็นลม มีวิธีช่วยเหลือเบื้องต้นดังนี้

1. ตรวจชีพจรให้เป็น : อาจจับที่ข้อมือ โดยใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางของมือที่ถนัด จับลงบนข้อมือทางด้านหัวแม่มือ ถ้าชีพจรเบาให้ใช้มือหรือยาหม่องนวดได้ทั่วตัว ยกเว้นหน้าและบริเวณอวัยวะเพศ
2. มุงเมื่อไหร่ ตายเมื่อนั้น : เห็นคนเป็นลม อย่าเข้าไปใกล้ ยกเว้นเข้าไปช่วย รีบจับผู้ป่วยนอนราบในที่ร่ม บนพื้นแห้ง คลายเสื้อผ้าให้หลวม แกะเข็มขัด ผ้าพันคอ ถอดรองเท้า ถ้ามีพิมเสนหรือยาหม่องให้ทาบาง ๆ ที่ริมฝีปากบน และใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก ๆ ชุบน้ำเย็น เช็ดหน้า เช็ดตัว หน้าอก และแขนขา แต่ห้ามเช็ดที่ท้องเด็ดขาด! เพราะถ้าท้องเย็น จะทำให้ผู้ป่วยอาเจียนได้
3. ขาสูง หัวต่ำ : หาหมอน กระเป๋า หรือผ้ารอง เพื่อยกขาผู้ป่วยให้สูงขึ้น และจะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ

รู้ไว้ใช่ว่า

การเป็นลมหมดสติไปชั่วคราว แต่หายใจได้ดี และรู้สึกตัวภายใน 2-3 นาที ไม่น่าเป็นห่วง แต่ถ้าหมดสติไปนานเกิน 5 นาที หายใจขาดช่วง ไม่สม่ำเสมอหรือช้าผิดปกติ ต้องรีบนำส่งแพทย์ทันที และระหว่างทางไปโรงพยาบาล ควรอยู่ในท่านอนกึ่งคว่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ทางเดินหายใจอุดตัน หรือหากผู้ป่วยอาเจียน ให้จับนอนตะแคง เพื่อป้องกันไม่ให้เศษอาหารผลัดเข้าหลอดลม

ที่สำคัญ หากผู้ป่วยฟื้นจากการเป็นลม ควรให้แพทย์ตรวจร่างกายหาสาเหตุที่แท้จริง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนเป็นโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ นะจ้ะ




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2553    
Last Update : 26 มิถุนายน 2553 10:44:55 น.
Counter : 461 Pageviews.  

"สมองโปร่ง & แก้ปัญหาดี" เพียงนอนกลางวัน


การนอนหลับกลางวันช่วยทำให้เราหาทางแก้ปัญหาได้ดี!

ดร.ซารา เมดนิก จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก สหรัฐ อเมริกา พบว่า การนอนที่ลูกตากรอกไปมา (Rapid Eye Movement) สามารถช่วยให้เราหาทางแก้ไขปัญหาได้เพิ่มขึ้น 40% โดยในช่วงนั้นร่างกายจะไม่ขยับเขยื้อนชั่วคราวและไม่ไหวติงต่อสิ่งกระตุ้น ใดๆ จากภายนอก

ดร.เมดนิกกล่าวว่า การนอนเช่นนี้เกิดขึ้นประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากนอนหลับและเกิดขึ้นประมาณ 5 ครั้งต่อคืน

ในการทดลองกับอาสาสมัครที่ได้นอนกลางวัน พบว่า อาสาสมัครที่ร่วมเล่นเกมหาคำตอบในการเล่นคำได้ดีขึ้น เช่น ให้โจทย์มาเป็นคำ 3 คำ คือ คุกกี้ หัวใจ 16 และให้หาคำที่ 4 ที่มีความเกี่ยวโยงกับ 3 คำแรก ซึ่งคำตอบของคำถามนี้คือคำว่า "หวาน" ซึ่งผู้ที่นอนกลางวันสามารถทำคะแนนได้ดี เนื่องจากการนอนแบบ REM ช่วยทำให้สมองเชื่อมต่อกับความคิดในแบบใหม่ๆ ก่อให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์


ที่มา : นสพ.ข่าวสด




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2553    
Last Update : 26 มิถุนายน 2553 0:30:50 น.
Counter : 500 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  

quosego
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add quosego's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.