"สุวัจน์" อยากให้บ้านเมืองสงบสุขเป็นของขวัญวันเกิด 55 ปี
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และแกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา มีการจัดงานเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 55 ปี โดยมีนักการเมือง นักธุรกิจและบุคคลในแวดวงกีฬาและส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา มาร่วมอวยพรอย่างคับคั่ง อาทิ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ของขวัญวันเกิดที่อยากได้มากที่สุดในปีนี้คืออยากให้บ้านเมืองสงบสุข และอยากเห็นการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลสำเร็จลุล่วงไปได้ ซึ่งวันนี้แนวโน้มในเรื่องเศรษฐกิจดีขึ้นมาก หากรัฐบาลมีเสถียรภาพก็จะเป็นสิ่งดีในการแก้ปัญหาประเทศ ประชาชนก็จะมีความสุข ตนก็ขอเป็นกำลังใจให้กับรัฐบาลทำงานไปได้ด้วยดี ส่วนในอนาคตจะกลับมาเล่นการเมืองอีกหรือไม่นั้น ยังบอกไม่ได้ เพราะยังเหลือเวลาอีก 2 ปี วันนี้การเมืองเป็นของคนรุ่นที่ 3 สำหรับตนถือว่าเป็นรุ่นที่ 2 ขอดูอย่างห่าง ๆ ถ้าบ้านเมืองเรียบร้อยก็คงปล่อยให้รุ่นต่อๆไปทำงาน อย่างไรก็ตามหากเห็นว่าตนยังมีประโยชน์ก็พร้อมกลับเข้ามาทำงาน
นอกจากนี้นายสุวัจน์ยังกล่าวถึงเสถียรภาพรัฐบาลในขณะนี้ว่า ยังไม่ได้เสียหายอะไรมาก แต่อาจมีความรู้สึกมองต่างมุมในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภาพที่ออกมาจึงดูมีความขัดแย้ง แต่คิดว่าคงไม่ทำไปสู่ความแตกแยกและไม่กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ทั้งนี้ตนอยากให้รัฐบาลมีเสถียรภาพให้มากที่สุด เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจกับนักลงทุน ซึ่งตนมองว่าประเด็นเรื่องรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องเป็นเรื่องตายของประเทศ จึงไม่ควรนำเรื่องนี้ไปสู่ความขัดแย้ง หากแก้แล้วทำให้เกิดความขัดแย้ง ก็ควรยุติแล้วกลับมาสู่จุดเดิม เพราะถ้าเริ่มต้นแล้วขัดแย้งกันก็อาจไปไม่ถึงจุดหมาย
เมื่อถามว่าพร้อมเป็นแกนกลางที่จะประสานความเข้าใจระหว่างพรรค ร่วมกับพรรคประชาธิปปัตย์ในเรื่องรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคมเป็นผู้ประสานอยู่แล้ว เชื่อว่ารัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะทำความเข้าใจกันตรงนี้ต้องพูดคุยทำ ให้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องของสภาที่จะผ่านหรือไม่ผ่าน ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลควรเป็นปึกแผ่น ทุกคนเป็นห่วงเหมือนกับภายในรัฐบาลมีปัญหากัน คลุมเครือไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม นายสุวัจน์มองว่า นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจทำงานดี เรื่องเศรษฐกิจแนวโน้มดีขึ้นถ้าหากสามารถสร้างความสมานฉันท์ลดความแตกแยก ก็จะทำให้ทุกอย่างราบรื่น
นอกจากนี้ นายสุวัจน์ยังยอมรับว่ารู้สึกเป็นห่วง สถานการณ์ในการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6หมื่นล้านในวันที่ 26 ก.พ.นี้โดยเห็นว่าถ้าสามารถทำความเข้าใจก็จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น พร้อมกันนี้ยัง เป็นห่วงสถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้านโดยเห็นว่า ถ้าความสัมพันธ์ประเทศเพื่อนบ้านไม่ดี ก็จะเกิดบรรยากาศความไม่มั่นใจ ทั้งในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ และการลงทุน ส่วนปัญหากับสมเด็จฮุนเซนนั้นเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงเข้าใจตรงนี้เพราะเท่า ที่ดูนายกรัฐมนตรี เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ได้ตอบโต้อะไร
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2553 21:49:21 น. |
|
0 comments
|
Counter : 295 Pageviews. |
|
|
|
| |