อาการปวดหลัง!
หลังของเรา หลังเป็นส่วนสำคัญของร่างกายที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักตัวส่วนบน
กระดูกสันหลังประกอบไปด้วยกระดูก 24 ชิ้น แต่ที่เป็นส่วนสำคัญของอาการปวดหลัง
ที่พบบ่อยคือ กระดูกสันหลังส่วนล่าง 5 ชิ้น ซึ่งต่อกับกระดูกกระเบนเหน็บ
กระดูกสันหลังส่วนล่างนี้เชื่อมต่อด้วยข้อต่อ และมีช่องระหว่างข้อให้ปลายประสาท
ผ่านออกมาเลี้ยงกล้ามเนื้อของเรา
อาการปวดหลังอาจแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ
1 . อาการปวดหลังแบบเฉียบพลัน ซึ่งเป็นมาภายในไม่กี่วัน ถึง 1 ถึง 2 สัปดาห์ โดยมาก
มัก จะเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ
2 . อาการปวดเรื้อรังซึ่งมักเป็นนานกว่า 3 เดือน และมีสาเหตุมากมาย
สาเหตุของอาการปวดหลังที่พบบ่อย
1 . อิริยาบถหรือท่าทางที่ไม่ถูกต้องหรือหลังเคล็ดเป็นภาวะที่ทำให้เกิดอาการปวด หลังได้บ่อย เช่น นั่งทำงานในท่าก้มหลังเป็นเวลานาน การก้มตัวยกของหนักเป็นเวลานาน การก้มตัวยกของหนัก
หลัง ถูกกระแทกเป็นต้น
2 . ภาวะเสื่อมของกระดูกสันหลัง พบบ่อยในผู้สูงอายุ กระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกสันหลัง มีการเสื่อม ทำให้เกิดอาการปวดกระดูกสันหลังเรื้อรัง ในบางลายอาจมีกระดูกงอก ไปกดปลายประสาททำให้เกิกอาการชา หรืออ่อนแรงของขาได้
3 . หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน มักเกิดอาการปวดหลังแบบเฉียบพลัน เกิดจากอาการที่ยกของหนัก หรือ ล้มก้นกระแทกพื้น เกิดแรงดันทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังไปกดเส้นประสาทที่ออกมาจากไขสันหลัง เกิดอาการปวดร้าวไปด้านหลังของขา ร่วมกับอาการชาและอ่อนแรงของกล้ามเนื้อขา ภาวะนี้จึงจำเป็น ต้องการ การผ่าตัดแก้ไข
4 . ภาวะเครียด อาจส่งผลให้มีการเกร็งของกล้ามเนื้อหลังตลอดเวลา ทำให้ปวดหลังได้
5 . กระดูกสันหลังอักเสบ เป็นภาวะที่มีการอักเสบของกระดูกสันหลัง พบได้บ่อยในเพศชายวัยกลางคน มีอาการปวดหลังเรื้อรัง อาจมีข้ออักเสพอื่นๆร่วมด้วย ผู้ป่วยจะมีอาการหลังแข็ง ถ้าได้รับการวินิจฉัย ไม่ถูกต้อง กระดูกสันหลังอาจยึดติดกันไปหมด ก่อให้เกิดความพิการตามมาได้
6 . สาเหตุอื่นๆได้แก่ โรคของอวัยวะบางอย่างที่ทำให้เกิดอาการปวดร้าวมาบริเวณหลังได้ ได้แก่ โรคไต โรคเกี่ยวกับรังไข่และมดลูก หรือโรคที่เกี่ยวกับต่อมลูกหมาก หรือการกระจายของมะเร็ง มา ที่บริเวณกระดูกสันหลัง เป็นต้น
การรักษา
1 . ควรระวังและหลีกเลี่ยงการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการยกของหนัก การที่ต้องทำงานก้มๆเงยๆ
2 . ปรับปรุงอิริยาบถต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดการปวดหลังเช่น ที่อาจก่อให้เกิดการปวดหลัง เช่น ที่นอนควรเป็นที่นอนราบเรียบและแข็ง เก้าอี้นั่งควรเป็นเก้าอี้ที่มีพนักพิงหลังและนั่งตัวตรงเวลา ขับรถควรปรับพนักเก้าอี้ให้อยู่ในท่าตรง เวลาก้มหยิบของควรใช้วิธีย่อเข่าลงเก็บของเป็นต้น
3 . อาจใช้ยาแก้ปวด เช่น ยาพาราเซตามอล หรือ แอสไพริน รับประทานแก้ปวดได้ทุก 4 ถึง 6 ชั่วโมง ในกรณีที่รับประทานยามาแล้ว 5 ถึง 7 วัน และอาการไม่ดีขึ้นควนปรึกษาแพทย์ ในรายที่เป็นเรื้อรัง หรือมีอาการปวดอย่างมาก การทำกายภาพบำบัดจะช่วยลดอาการเจ็บปวดได้ การใช้อุปกรณ์ก็สามารถช่วยลดอาการเจ็บปวดได้เช่นกัน
4 . การบริหารหล้ามเนื้อหลัง เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลัง เพราะจะช่วยเพิ่มความแข็งเกร่งของกล้ามเนื้อหลัง และลดการเกร็งของหล้ามเนื้อหลังการบริหารควรทำทุกวัน
5 . หาทางออกกำลังกายเป็นการผ่อนคลายความเครียด
Create Date : 04 เมษายน 2553 |
Last Update : 4 เมษายน 2553 16:26:13 น. |
|
1 comments
|
Counter : 480 Pageviews. |
|
|
|
โดย: thanitsita วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:18:55:01 น. |
|
|
|
| |