BFR's Blog : The Joy of Sharing
Group Blog
 
All blogs
 

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราก็ทำ "ห่อหมกปลา" ได้

ห่อหมกปลา




เมื่อวันก่อนเกิดอาการอยากกินห่อหมกปลา(อีก)เลยไปเดินร้าน ไทลง
ซึ่งเป็นร้านขายของเอเชีย ของ Strasbourg ไปถึง อ้าวว ไม่มีห่อหมก
คราวก่อนฟลุกได้ซื้อไปกิน (อันบะเริ่ม ตั้ง 4.50ยูโร) อร่อยมากๆๆ
(ทะเลาะกับคุณชายแทบแย่ โทษฐานแอบแกะราคาออกเพื่อหลอกลวงตบตาสามีว่ามันไม่แพง)

ไปถามกับคุณป้าประจำร้าน คุณป้าที่น่ารักบอกยังไม่มีเวลาทำเลย
ถ้าอยากทำเองจะบอกวิธีทำให้ กรี๊ดๆ ๆ ๆ เอาค่ะบอกหนูหน่อย

พอฟังกระบวนการทำ ก็คิดว่าไม่น่าเกินความสามารถ รีบจัดแจงซื้อของที่ต้องใช้
รับประกันว่าไม่ยากอย่างที่คิืด ถ้าข้าพเจ้าทำได้แสดงว่าใครๆก็ต้องทำได้
เพราะเป็นเมนูที่เลือกมาแล้วว่า "ทำได้ไม่ยาก"

อุปกรณ์หลักที่ต้องใช้ - หม้อนึ่ง - กระทง (ซื้อแบบสำเร็จมาค่ะ)
หากใครไม่มีใช้ถ้วยเล็กที่ทนความร้อนทนไฟแทนก็ได้

เครื่องปรุง
--------------
- ปลา pangasius filet แบบแช่แข็ง1 KG เข้าใจว่าภาษาไทยเรียกว่าปลาสวาย แต่ไม่แน่ใจใครทราบรบกวนยืนยันเป็นวิทยาทานด้วยค่ะ
(ผลิตภัณฑ์จาก เวียดนาม -หนึ่งถุงมีอยู่ประมาณ ๘ ตัวได้ - แต่ด้วยความงกเลยใช้ไปแค่ ๖ ตัว)
- พริกแกงเผ็ด / พริกแกงแดง 3 ช้อนกินข้าว (วันนี้ใช้น้ำพริกนิตยารสชาติดดีไม่เผ็ดมาก)
- กะทิแบบข้นใช้ทำกับข้าว 1 กระป๋อง
- ผักกาดขาวครึ่งหัว (เอาไปลวก) / หรือ ผักกะหล่ำปลี
- ใบโหระพา ๓ ก้านใหญ่ๆ(ประมาณ ๔ใบอย่างต่ำต่อหนึ่งกระทง)
- ใบมะกรูดซอยละเอียด
- พริกชี้ฟ้า สีแดง (ไว้ตกแต่ง)
- น้ำปลา น้ำตาล
- ไข่ไก่ ๑ ฟอง
- กะทิ (ประมาณ สามช้อนโต๊ะ เอาไว้โปะหน้าตกแต่ง)
- กระทงทำจากวัสดุธรรมชาติ (ไม่แน่ใจว่าใบจากหรือเปล่า)
(หน้าตาเหมือนกระทงขนมเข่ง)

กะทิใช้แบบนี้ค่ะ (พรือของแม่พลอยแบบข้นๆใช้ทำอาหารก็ได้)


ส่วนเจ้าปลาา Pangasius แบบเนื้อล้วนไม่เอาก้าง (filet) หน้าตาเป็นแบบนี้

เอาออกมาหน้าตาแบบนี้ ยาวๆเนื้อขาวๆ (ตอนสุกแล้วเนื้อนุ่มมากๆๆ)

วิธีทำ
--------------
-ล้างกระทง และ ใบโหระพาให้สะอาด


-เอาใบโหระพา อย่างน้อย ๓-๔ใบ (หรือแล้วแต่ความชอบ)ใส่ในกระทง


-ลวกผัดกาดขาวไว้ แล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง หั่นหยาบๆให้พอขนาดก้นกระทง

-วางผัดกาดขาวลวกหมาดๆและหั่นหยาบๆวางทับบนใบโหระพา

แล้วนำกระทงที่ใส่ใบโหระพา กับผัดกาดขาวลวกแล้ว ไปวางบนลังนึ่ง(ยังไม่ต้องนอกเตาไฟ)

-นำปลา Pangasius มาละลาย(วันนี้ละลายด้วยไมโครเวฟ เพราะประหยัดเวลาดี) แล้วหั่นเป็นชื้นขนาด ๑-๒ นิ้ว (ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป)


-นำกะทิกระป๋องมาใส่ชามผสม (แบ่งไว้ สามช้อนโต๊ะ ต่างหากสำหรับไว้ตกแต่งตอนจบ)
-ใสพริกแกงเผ็ดไป สามช้อนโต๊ะ (หากชอบเผ็ดก็ใส่เยอะกว่านี้) แล้วคนพริกแกงกับกะทิให้เข้ากันในชามผสม


-ใส่ใบมะกรูดซอยละเอียด(ยิบ) ผสมให้เข้ากัน
-นำเนื้อปลามาใส่ (หากชอบซีฟูดก็เติมลงไปได้)
-ตอกไข่ไก่ ๑ ฟอง แล้วคนให้เข้ากัน


-คนทุกอย่างให้เข้ากันในชามผสมจนได้ส่วนผสมหน้าตาแบบนี้

แล้วก็ปรุงรสด้วยน้ำปลา (ประมาณ ๑-๒ช้อนกินข้าว) น้ำตาลทรายโรยๆนิดหน่อย (ประมาณ ๑ ช้อนชาได้)
-ชิมรสด้วยการนำเนื้อปลานิดหน่อยไปจี่ๆในกระทะร้อนๆให้พอสุกแล้วชิมดู ปรุงรสตามความชอบ

(ระหว่างนี้ต้มน้ำในลังนึ่่งให้เดือด รอไว้)

-นำส่วนผสม เริ่มจากเนื้อปลา แล้วค่อยตามด้วยส่วนที่เป็นของเหลวหยอดไปในกระทง


แล้วโป๊ะหน้าด้วย กะทิที่แยกเอาไว้ ประมาณหนึ่งช้อนชา โรยใบมะกรูดที่ซอยละเอียดยิบ โรยเปลือกพริกชี้ฟ้าสีแดงๆเืถือกๆ ปิดท้ายเพื่อความสวยงาม

ใส่ให้พอๆเต็มกระทง แตอย่าให้ล้น

นำลังนึ่งไปวางบนหม้อน้ำที่กำลังเดือด ปิดฝา ไฟแรง(สุด) เป็นเวลา ๑๕ - ๒๐ นาที


ส่วนผสมที่เหลือ หากกระทงไม่พอ ใส่ชามทนไฟแล้วเอาไปนึ่ง ๑๕-๒๐นาทีเหมือนข้างบน


เสร็จแล้วค่ะ โรยใบโหระพาโปะหน้า ไม่น่าเชื่อว่าเราจะทำได้

ใครทำทานตามสูตรขอให้อิ่มอร่อยนะคะ




 

Create Date : 05 ตุลาคม 2551    
Last Update : 5 ตุลาคม 2551 8:10:46 น.
Counter : 3867 Pageviews.  

Trio Mozzarella



วันนี้ทำอะไรง่ายๆเอาใจมนุษย์ผักค่ะ
Trio Mozzarella ออกสไตล์อิตาเลียนเบาๆไร้เนื้อสัตว์
ประกอบไปด้วย Eggplant + มะเขือเทศ + ชีสMozzarella
เป็นอาหารที่ทานง่ายๆ ใช้เวลาไม่นานมาก คิกว่าประมาณ 20 ถึง 30 นาทีทั้งหมด


สำหรับ ๔ที่ ชามสำหรับเข้าเตาอบขนาดเท่าเค้กปอนด์
ส่วนประกอบเครื่องปรุง
- Eggplant ภาษาไทยเีรียกมะเขือม่วงใช่ไหมคะ ๒ ลูก
- มะเขือเทศ ๕ ลูก
- ชีส Mozzarella ๒ ก้อน
- กระเทียม ๓ กลีบใหญ่
- เกลือ พริกไทย
- Herbs / Basil / Italian spices
- Maggi
- น้ำมันมะกอก



วิธีทำ

1.หั่นมะเขือเทศเป็นแว่นบางๆ หั่นมะเขือม่วงเป็นแว่นยาวๆ หั่นชีสMozzarella เป็นแว่นบางๆ
2.เอามะเขือม่วงไปใส่ในกระทะที่มีน้ำมันมะกอก พอประมาณ ทอดแบบใช้น้ำมันน้อย ให้พอเหลืองทั้งสองข้าง แล้วเอาออกมาซับน้ำมัน
---ระหว่างนี้เปิดเตาอบอุ่นรอที่ 220 องศาC----
3.เอาน้ำมันมะกอกทาทั่วชามที่จะเข้าเตาอบ วางมะเขือม่วง ๑ ชั้น
4.วางมะเขือเทศเรียงอีก ๑ ชั้น
5.วางชีสมอสซาเรลล่า วางเรียงอีก ๑ชั้น
6.โรยเกลือพริืกไทย และเครื่องเทศ และ เบซิลซอย(หรือแบบแห้งๆซอยมาแล้ว) ๑รอบ
7.ทำซ้ำกับ ข้อ 4-6 อีกทีแล้วก็โรยหน้าด้วยกระเทียมสับหรือบด โรยน้ำมันมะกอกบางๆอีกหนึ่งรอบ
8.เข้าเตาอบ 220 C 15นาทีค่ะ
แค่นี้ก็เรียบร้อยค่ะ
อาหารง่ายๆอีกจาน




 

Create Date : 16 มีนาคม 2550    
Last Update : 16 มีนาคม 2550 15:36:00 น.
Counter : 880 Pageviews.  

Couscous สูตรคุณgentilly แรงบันดาลใจจากคุณพธูไทย

ได้รับแรงบันดาลใจในการทำคูสคูส (อาหารชาติโมรอคโค)ที่เคยคิดว่า
ยากนักยากหนา แต่ปรากฎว่าได้ลองทำตามที่คุณพธูไทยยุ อ้า อร่อย
ทำไม่ยากนักด้วย งานนี้ต้องใช้หม้อความดันนะคะ

ขออนุญาตเอา ข้อความคุณ มาแปะไว้ตรงนี้้เพืิอการค้นหาส่วนคนที่ต้องการอ่านกระทู้ทั้งหมด
เชิญตรงนี้ค่ะ
//topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2006/12/H4930096/H4930096.html




ส่วนไส้กรอกแห้งๆผอมนั้นเขาเรียกว่า แมกเกซค่ะ
Merguez

Harissa ก็จะคล้ายๆพริกเผาบ้านเราแต่เป็นของพวก ตุนิเซีย โมรอคโค
ใส่พริก กระเทียม เครื่องเทศ หอมมากๆๆขอบอก


สูตรต้นตำรับเดิมทีคุณGentilly มาแปะไว้

couscous สำหรับ 6 คน
เนื้อคอแกะน้อย(agneau)ประมาณ 750 กรัม,ไก่1ตัวประมาณ 1 กิโล จัดการสับเป็นชิ้นโตๆนึกถึงหน้าคนที่เรารักน้อยๆๆๆ จะสับได้ดีมากมาก ขอบอก
น้ำมัน 1แก้วชา(เขาเขียนอย่างนี้จริงๆคะ)

ผักต่อไปนี้หั่นเป็นแท่งยาว
ซุชินี่(cougettesในภาษาฝรั่งเศส) 3ลูก
แครอท 4 ลูก
หัวไชเท้ากลมๆสีขาวใส่หมวกสีม่วง(navet)4ลูก
เซลารี่ 1ก้าน
มะเขือเทศปอกเปลือก1กระป๋อง(อ้าว มันกี่กรัม จะรู้ได้ไงเนี่ย เดาเอาเองก็แล้วกันนะคะคุณแม่บ้านทันสมัยทุกท่าน)
พริกหยวกแดง 3 ลูก หั่นบางๆ
ถั่วchichpea(pois chiches) ครึ่งกระป๋อง(แบบกระป๋องจะสะดวกกว่าแบบดิบ เพราะแบบดิบต้องเอามาแช่น้ำทิ้งไว้หนึ่งคืนก่อนเอามาต้มค่ะ)
หอมใหญ่1หัวหั่นบาง กระเทียมทุบ2กลีบโตๆ
Ras-el-Hanout 1 ช้อนโต้ะ (อันนี้เป็นเครื่องเทศผสมหลายๆอย่าง)
Harissa 1 ช้อนชา(อันนี้เป็นซอสที่มีถิ่นกำเนิกจากอาฟริกาเหนือ)
น้ำ 1 ลิตร เกลือ พริกไทย
คูสคูส 500 กรัม(อันนี้ก็ซื้อแบบที่เขาทำสุกมาแล้วแค่เอามาเติมน้ำอ่นห้าถึงสบนาทีก็กินได้เลยค่ะ ไม่ต้องไปนึ่งอะไรเลย(คือแบบว่ายากๆทำไม่เป็นค่ะ)
เริ่มทำโดยการผัด(ทอด)เนื้อแกะ เนื้อไก่กับน้ำมัน สีจะได้สวยๆ พอสีเหลืองไหม้ได้ที่ก็โยนหอม กระเทียม ผงRas-rl-Hanout ลงไป ตามด้วยมะเขือเทศ แครอท พริก เซลารี่ และไชเท้า
ปิดฝา พอเสียงวิ้วมาก็จับเวลา 13นาที
ในระหว่าง13นาทีนี้ก้เอาคูสคูสมาผสมน้ำ500ซีซีกับน้ำมันมะกอก5ช้อนโต้ะ มันก็จะพองโตขึ้นมา ก็คอยคนเป็นระยะๆ(ไม่ต้องตั้งไฟนะคะ)
พอครบเวลา13นาทีก็หาทางเปิดฝากันเอาเองนะคะ เ

ปิดได้ก็ใส่courgettes กับถั่วลงไป ปิดฝาแล้วจับเวลาหลังเสียงวิ้วอีก3นาที
เปิดฝา จับคูสคูสใส่ตะแกรงนึ่งวางเหนือเพื่อให้ได้ไออุ่นระหว่างรอรับประทานและทำซอส ปิดฝาเพื่อรักษาไออุ่น
ซอส.... ตักน้ำซุปในหม้อมา1ทัพพีโตๆ เติทซอส harissaลงไป แค่นั้นเองก็ได้แล้ว


ปล ตอนทำแค่ย่อสูตรมาครึ่งปริมาณที่เขียนไว้ล้นหม้อขนาด สามลิตร แล้วก็กินได้ สี่ห้าคนแล้วค่ะ




 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2550 21:40:17 น.
Counter : 2847 Pageviews.  

ลาซานญ่าผักโขม+เนื้อ



นำเสนออาหารฝรั่งอีกแล้ว ลาซานญ่า มีสามขั้นตอนนะคะ

เครื่องปรุง ซอสเนื้อ(คร่าวๆนะคะ)
เนื้อสับ 150กรัม(ใครไม่ทานเนื้อเปลี่ยนเป็นหมูสับเอา)
หัวหอมสับ 1ลูก
กระเทียบบด 1กลีบ
ผักโขมลวกสับหยาบๆ 500กรัม หรือเยอะๆกว่านี้เพราะลวกแล้วหดมากๆๆ
มะเขือเทศ 4 ลูก
ซอสมะเขือเทศเข้มข้น (Tomato concentrate) 1กระป๋องเล็กๆ
น้ำสะอาดประมาณ1/2แก้ว
เกลือ พริกไทย
ซอสแมกกี้
น้ำตาลเล็กน้อย
(ใครใช้ซอสสำเร็จรูปก็ เตรียมแค่ หัวหอมสับ เนื้อสับ ผักโขมลวกสุก)

วิธีทำซอสเนื้อ
1.ผัดหัวหอมสับพอสุกๆสีใส่ๆใส่เนื้อสับผัดพอสุก เหยาะเกลือพริกไทยนิดหน่อย
2.เติมมะเขือเทศหั่นๆเป็นซีกๆบี้ๆให้มะเขือเทศเละๆ
3.เติมซอสมะเขือเทศเข้มข้น เติมน้ำสะอาด
4.ใส่ผักโขม คนๆ ปรุงรสด้วย ซอสแมกกี้ น้ำตาล เกลือให้รสออกเค็มๆนำ หวานนิดๆเดียว
5.คนๆปิดฝา ไฟต่ำสัก 5นาที
***(ขั้นตอนนี้ใครต้องการวิธีลัด ซื้อซอสสปาเกตตี้สำเร็จรูปเช่นยี่ห้อ Del Monte - spaghetti sauce เป็นต้น มาใส่หลักจากผัดหัวหอมกับเนื้อสับพอสุกแล้ว (แต่ก็ต้องเติมผักโขมด้วย ถ้าไม่ชอบก็ข้ามไปก็ได้ค่ะ))

เตรื่องปรุงwhite sauce (bechamel sauce)
เนย/มาการีน 1ช้อนกินข้าวพูนๆ
แป้งสาลี ประมาณ 3ช้อนกินข้าวพูน
นมประมาณ ครึ่งลิตร
เกลือ พริกไทย
Nutmeg ถ้ามี

วิธีทำไวท์ซอส
1.ตั้งกระทะไฟอ่อน เอาเนยลงไปผัด
2.เติมแป้งสาลี คนๆให้เข้าๆกัน (มันจะกลายเป็นก้อนเล็กๆติดๆกัน)
3.เติมนมอย่างรวดเร็วทีละนิด แล้วใช้ที่เครื่องครัวแบบที่ตีไข่ทำขนมคนๆๆๆให้เข้ากันจะได้ซอสขาวข้นๆ
4.เติมเกลือนิด พริกไทยหน่อย ใครมี นัทเม็กใส่ไปนิดๆปลายช้อนชา จะหอมมาก

และขาดไม่ได้

แผ่นลาซานญ่า กับ ชีสขูด
ถาดแก้วหรือเทฟล่อนที่เข้าเตาอบได้

ก่อนอบเตรียมอุ่นเตา 230องศาซี 10นาที ระหว่างรอเตรียมลาซานญ่า
1.เอาน้ำมันโอลีฟ ทาถาดให้ทั่ว
วางแผ่นลาซานญ่าที่แข็งๆกรอบๆนั่นละคงปูให้ทั่วถาดอบ
2.ราดซอสเนื้อ1ทัพพีทั่วๆถาด1ชั้นบางๆ
3.ราดซอสขาว1ชั้น
4.ปูแผ่นลาซานญ่า
5.ซ้ำซอสเนื้อ ซอสขาว สุดท้ายโป๊ะหน้าด้วยชีสขุด

อบไฟ 230 องศาซี ประมาณ 15นาทีให้ชีสข้างบนพอออกสีเหลืองทอง
เสร็จแล้วก็เสิร์ฟได้ค่ะ

ดูเหมือนยากแต่ลองทำดูแล้วก็โอเคนะคะ
เสิรฟกับสลัดผักก็อร่อย





 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2549 11:01:00 น.
Counter : 3923 Pageviews.  

พายไส้กรอก



ทุกครั้งที่ทำ คีช แล้วมีแป้งพายเหลือมา ก็มักจะมาทำพายไส้กรอก ไว้ทานเล่น ไว้แจกเพื่อนเสมอค่ะ
สัดส่วนแป้งคีช หากทำตีชเสร็จไปไหนึ่งอันก็ทำพายไส้กรอกจิ๋วได้อีกประมาณ 20-30อันแน่ะ
ใครไม่อยากทำคีชจะทำแต่พายไส้กรอกจิ๋ว ลดสัดส่วนกันเอาเองนะคะ
ใครไม่รู้จักคีช ไม่เคยทำคีช ลองไปดูบล๊อกอันเก่าเรื่อง คีชผักโขม คีชเห็ดของข้าพเจ้าดูนะคะ

นี่คือสัดส่วน สำหรับ ทำ 1คีช(ขนาดเส้นผ่านศุนย์กลาง 24ซม) กับ พายไส้กรอกจิ๋ว(ผลพลอยได้)
เครื่องปรุง ส่วนผสม

  • แป้งสาลี 250กรัม
  • เนย/มาการีน 100 กรัม
  • เกลือ 1/2ช้อนชา
  • น้ำ 1/2แก้ว

    หากลองทำแต่น้อยๆเฉพาะพายไส้กรอกก็เอาเป็นว่า
  • แป้งสาลี 125กรัม
  • เนย 50กรัม
  • เกลือ 1/2ช้อนชาเหมือนเดิมค่ะ
  • น้ำดื่ม 1/3 หรือ 1/4แก้ว
  • ไส้กรอกค๊อกเทล หรือไส้กรอกเวียนนา (แบบยาวๆหน่อย ไม่อ้วนมาก)

    วิธีทำ
    1.เอาแป้งสาลีมาผสมกับเกลือ ทำหลุมภูเขาไฟ
    2.เอาเนยหรือมาการีนมาตัดเป็นก้อนลูกเต๋าเล็กๆ
    3.เอามือคลุกแป้งกับเนยบีบๆนวดๆให้เข้ากัน จนเนยไม่จับเป็นก้อนๆ
    4.เทน้ำลงไปทีละน้อยๆ น้ำนี่ค่อยๆใส่ทีละน้อยๆดูอย่าให้แป้งมันแฉะก็พอ
    5.ใส่พลาสติก wrap ห่อแล้วแช่ตู้เย็นสัก 30 นาที
    6.พอตอนเอาออกมาใช้นวดแป้งคลึงแป้งเป็นแผ่นๆเอาไส้กรอกแบบสั้นแบบยาวตามสะดวกมาวาง
    แล้วก็เอาแป้งม้วนๆห่อ
    (อย่าให้แป้งหนามาก ห่อพอมิดปิดแล้วก็ ตัดไส้กรอกที่หุ้มแป้งแล้ว ขนาด1ข้อนิ้ว
    ระหว่างนี้ อุ่นเตาอบรอไว้ที่ 210 องศา C ประมาณ10นาที
    ---ภาพพายไส้กรอกที่ห่อหุ้มแป้งเสร็จแล้วก่อนอบ---

    และแล้วก็ขั้นตอนสำคัญ
    7.เอาไส้กรอกหุ้มแแป้งที่ตัดแล้วใส่ถาดเข้าไปอบ (ใส่ฟลอยรองถาดไว้หน่อยก็ได้ค่ะจะได้ไม่ติดถาด)
    อบสัก 15นาที 210องศาC หรือดูจนกว่าแป้งจะสุกเหลืองกรอบ


    หมายเหตุ
    -ใครอยากให้แป้งเหลืองอร่ามเงาๆเอาไข่แดงผสมน้ำนิดๆทาๆๆก่อนอบ (แต่ปกติก็ไม่เคยทาค่ะ ขี้เกียจ)
    -อย่าอบนานเกินไปไม่งั้นไส้กรอกจะแตกแป้งแตกหลุดออกมาไม่สวยค่ะ




     

    Create Date : 05 พฤศจิกายน 2549    
    Last Update : 5 พฤศจิกายน 2549 12:02:20 น.
    Counter : 4459 Pageviews.  
  • 1  2  3  4  5  

    BFR
    Location :
    Strasbourg France

    [Profile ทั้งหมด]

    ฝากข้อความหลังไมค์
    Rss Feed
    Smember
    ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




    เรื่องเล่าจากประสบการณ์หลากหลาย
    ชีวิตในฝรั่งเศส - (อดีต)ชีวิตในเซี่ยงไฮ้/เมืองจีน
    และเรื่องของเด็กสาวตัวน้อยอายุ9ขวบ
    ที่พูดได้ถึงเกือบ4ภาษา

    **หมายเหตุ**
    เนื่องจากไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คข้อความ
    ใครที่อยากสอบถามอะไร
    และต้องการคำตอบให้เขียนเมลไปที่
    b e n j a m a f [@] ฮอทเมล.คอม
    (เขียนติดกันทุกตัวอักษร
    ไม่ใช้MSNนะคะ อีเมลอย่างเดียว)
    Friends' blogs
    [Add BFR's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.