Group Blog
 
All Blogs
 

จับลูกเขย่า ระวัง! Shaken Baby Syndrome



จับลูกเขย่า ระวัง! SHAKEN BABY SYNDROME
(รักลูก)

เขย่า
ลูกเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จะด้วยความโมโห
หรือเล่นรุนแรงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการ Shaken Baby Syndrome
ส่งผลต่อสมอง และอันตรายถึงชีวิต!


"เธอ...ช่วยทำยังไงก็ได้ให้ลูกเงียบเสียงทีเถอะ" คุณพ่อบ้านผู้กำลังคร่ำเคร่งกับกองงานตรงหน้าบ่นอย่างหงุดหงิด หลังจากทนฟังเสียงลูกน้อยวัยแบเบาะร้องไห้เสียงลั่นแบบไม่รู้หยุด

"เงียบ...เงียบได้แล้ว ร้องอยู่ได้ บอกให้...เงียบๆๆๆ"
คุณแม่ตะเบ็งเสียงอย่างสุดกลั้น
พร้อมสองมือยกลูกสาวตัวน้อยลอยเหนือเบาะรองนอน และแล้ว
ก็เขย่าลูกอย่างสุดแรง!!! สิ่งที่ตามมาคือลูกสาวเงียบเสียงลงโดยพลัน!
คุณแม่จึงหันกลับไปทำงานบ้านต่อ

3 ชั่วโมงก็แล้ว 4 ชั่วโมงก็แล้ว ลูกน้อยยังคงนอนนิ่ง ไม่ร้อง ไม่หิว "หรือว่าเราจะเขย่าตัวลูกแรงเกินไป คุณแม่เริ่มวิตก "แต่ไม่มั้ง ลูกคงร้องจนเพลียเลยหลับยาว" เธอปลอบใจตัวเองเพื่อลดความรู้สึกผิด ส่วนคนเป็นพ่อก็ยังวุ่นอยู่กับงานที่กองสุมดั่งไม่รับรู้ใด ๆ ในบ้าน

จนกระทั่งต้องอุ้มลูกไปโรงพยาบาล หลังจากที่คุณแม่หน้าซีดเผือดมาบอกว่าลูกรักนอนแน่นิ่งไปกว่า 6 ชั่วโมงแล้ว !
ทาง
โรงพยาบาลพบว่าเด็กมีอาการซึม ไม่สนองตอบต่อเสียง
สนองตอบเล็กน้อยต่อความเจ็บ หายใจแค่ 14 ครั้งต่อนาที แถมชีพจรเต้นช้าเพียง
60 ครั้งต่อนาที

คุณ
หมอช่วยให้ออกซิเจนผ่านทางหน้ากากและถุงลม แต่เด็กอาการไม่ดีขึ้น
จึงใส่ท่อเพื่อช่วยในการหายใจ คุณหมอตรวจตาพบว่าที่จอรับภาพนั้น มีเลือดออก
เมื่อตรวจสมองด้วยเครื่อง MRI ก็พบว่ามีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง
รวมทั้งระหว่างรอยแบ่งแยกของสมองด้วย

สิ่ง
ที่น่าตกใจและน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ อีกเพียง 3
วันถัดมา...ลูกน้อยเสียชีวิต
สาเหตุเนื่องจากเด็กถูกเขย่าตัวอย่างรุนแรงจนเลือดออกในสมองการจับตัวเด็ก
เขย่าแรง ๆ ด้วยอารมณ์โกรธเพียงชั่ววูบ
หรือด้วยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ทำให้คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องปวดร้าวใจไปชั่ว
ชีวิตมานักต่อนักแล้ว


Shaken Baby Syndrome

ใน
ทางการแพทย์เรียกการตายของเด็กจากกรณีข้างตันว่า Shaken Baby Syndrome
หลายราย นอกจากโดนเขย่าอย่างรุนแรงแล้ว
ยังโดนจับกระแทกกับที่นอนกับหมอนด้วย

ซึ่งมีผลให้สมองได้รับแรงกระแทกเพิ่มขึ้นอีกถึง 50 เท่า
โอกาสจะกลายเป็นเด็กพิการหรือเสียชีวิตก็ยิ่งมีมาก (บางรายแย่ยิ่งกว่านี้
นั่นคือโดนจับกระแทกกับของแข็ง เช่น ขอบเตียง เก้าอี้
ทำให้เด็กแบเบาะกระดูกแขน ขา ซี่โครง หรือกะโหลก ศีรษะแตก

เด็ก
ที่โดนเขย่ารุนแรงหลาย ๆ ราย มักไม่เห็นร่องรอยการบาดเจ็บจากภายนอก
ไม่ได้รีบส่งมารักษา ทั้งที่มีอาการของ Shaken Baby Syndrome
จึงมีโอกาสเสียชีวิตสูง
(เด็กที่ตกอยู่ในภาวะ Shaken Baby Syndrome
จำนวน 1 ใน 3 คน มักจะเสียชีวิต) ที่เหลือรอดก็มีโอกาสตาบอด เป็นลมชัก
หรือถ้ารอดก็มักมีปัญหาด้านการเรียนรู้ หรือสติปัญญาต่อไป

อย่า
ลืมเชียวนะครับ ลูกวัยแบเบาะกล้ามเนื้อคอยังไม่แข็งแรง
ศีรษะก็ยังพยุงเองไม่ได้
ที่สำคัญคือสมองของสิ่งมีชีวิตนั้นเปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการทั้งร่างกายและ
จิตใจ สมองคือสิ่งมหัศจรรย์มีการพัฒนาเรื่อยมาตั้งแต่เด็กยังอยู่ในท้องแม่
และพัฒนาอย่างรวดเร็วหลังคลอดแล้ว
แต่สมองของเด็กน้อยนั้นก็มีโอกาสได้รับการกระทบกระเทือนได้โดยง่าย
เพราะศีรษะของเขามีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับสัดส่วนของลำตัว การพลัดตกหกล้ม
ศีรษะจึงมักจะลงก่อน การกระเทือนถึงสมองจึงเป็นเรื่องน่าห่วงอย่างยิ่ง


นอก
จากการพลัดตก ก็มีกรณีที่หลาย ๆ ท่านอาจนึกไม่ถึง ก็คือ
การที่เด็กแบเบาะโดนเขย่าอย่างรุนแรงจนตาบอด พิการ หรือเสียชีวิต
หลายสิบปีก่อน


การปฐมพยาบาล

เรา
ไม่ควรเขย่าลูกนะคะ แต่ถ้าพบเห็นเด็กถูกเขย่าหรือพ่อแม่เองที่เผลอทำเสียเอง
สิ่งที่ควรทำก็คือตั้งสติให้เยือกเย็นลง และรีบแก้ไขดังนี้

1.พาเด็กไปรับการตรวจกับแพทย์ทันที

2.อาการเริ่มแรกของผลกระทบจากการเขย่าเด็กรุนแรง ก็คือ
อาเจียน หรือหายใจลำบาก ซึ่งคล้ายอาการของโรคที่ไม่รุนแรง เช่น
ภาวะร้องไห้ 3 เดือน (โคลิก) กินนมมากเกินไป หรือให้นมไม่ถูกวิธี ดังนั้น
จะต้องบอกคุณหมอว่าเด็กถูกเขย่าอย่างรุนแรง
เพื่อแพทย์จะได้วินิจฉัยได้ถูกต้องและรักษาทันเวลา เพราะอาการ Shaken Baby
Syndrome อาจมีผลให้สมองเด็กได้รับอันตราย
หรือเลือดออกในสมองเพราะการเขย่ารุนแรง ซึ่งต้องรีบทำการรักษา

มิฉะนั้นอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อเด็ก จนอาจไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กได้ทัน






 

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2554 7:33:40 น.
Counter : 570 Pageviews.  

สถานที่ท่องเที่ยว ลอยกระทง 2554

ลอยกระทง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ททท.

          ค่ำคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทยของทุกปี เป็นที่ทราบกันดีว่าตรงกับ "วันลอยกระทง"
ประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย ในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง
โดยมี นางนพมาศ หรือ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นครั้งแรก

ทั้งนี้ มีความเชื่อกันว่าการลอยกระทง เป็นการบูชาและขอขมา "แม่พระคงคา"
เนื่องจากมนุษย์ได้ใช้น้ำดื่มกิน รวมถึงการทิ้งสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ
ลงไปในแม่น้ำ รวมถึงเป็นการสะเดาะเคราะห์ และบูชารอยพระพุทธบาท เป็นต้น
อีกทั้งยังมีความเชื่อกันว่าการลอยกระทง คือ การลอยความทุกข์ ความโศก
และโรคภัยต่าง ๆ ให้หายไปกับสายน้ำ


ดังนั้น ในทุกปีทั่วทุกภาคในประเทศไทยจะจัดงานเทศกาล "ประเพณีลอยกระทง" อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่ง วันลอยกระทง 2554 ตามสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดต่าง ๆ ก็ได้จัดงาน วันลอยกระทง เหมือนเช่นเคย แต่จะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย...


ลอยกระทง

สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง กรุงเทพมหานคร

         
เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง กรุงเทพมหานคร
กำหนดการจัดงานในวันที่ 8 - 10 พฤศจิกายน 2554 สถานที่จัดงาน ณ
สวนนาคราภิรมย์, บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานกรุงเทพ ถึงสะพานกรุงธน
กรุงเทพมหานคร

กิจกรรม

กิจกรรม Hi - Light ในวันพิธีเปิด วันที่ 8 พฤศจิกายน 2554

ชมขบวนเรือประดับไฟฟ้า การประดับไฟฟ้าส่องสว่าง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

กิจกรรมส่งเสริมร่วมบรรยากาศประเพณีลอยกระทง

สัมผัสบรรยากาศพิเศษสุดของงานลอยกระทงในแบบฉบับกรุงรัตนโกสินทร์

การแสดงทางวัฒนธรรม

กิจกรรมสาธิตการทำกระทงสาย กระทงดอกไม้สด

         
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองสร้างสรรค์กิจกรรม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 1600 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 66 2250 5500,
ศูนย์บริการข่าวสารการท่องเที่ยว ททท. 1672 หรือทาง www.loikrathong.net


ลอยกระทง

งานประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่

         
งานประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่ กำหนดการจัดงานในวันที่ 8 – 11
พฤศจิกายน 2554 สถานที่จัดงาน ณ ถนนช้างคลาน ย่านไนท์บาซาร์ อำเภอเมือง
จังหวัดเชียงใหม่

กิจกรรม

การประกวดโคมบูชา นิทรรศการโคมบูชา

การแสดงพื้นบ้าน ศิลปวัฒนธรรมล้านนา

การสาธิตประดิษฐ์โคม ตุง ล้านนา และกระทง

การประกวดขบวนโคมยี่เป็ง

กาดหมั้วล้านนา

การประกวดขบวนแห่โคมยี่เป็ง ย่านไนท์บาซาร์

การประกวดหนูน้อยยี่เป็ง

การประกวดเทพียี่เป็ง

การประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่

         
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 66 5324
8604, 66 5330 2500, ศูนย์บริการข่าวสารการท่องเที่ยว ททท. 1672 หรือทาง www.loikrathong.net


ลอยกระทง

ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง

         
ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
กำหนดการจัดงานในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2554 สถานที่จัดงาน ณ อุทยาน ร.๒
อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

กิจกรรม

การลอยกระทงกาบกล้วยกว่าหนึ่งแสนใบ ตลอดลำน้ำแม่กลอง

ร่วมรำวงย้อนยุค

ร่วมทอดผ้าป่าทางน้ำ ณ วัดแก้วฟ้า

ชมการแสดงโขน ยุวศิลปินจากมูลนิธิ ร.๒

กิจกรรมหมู่บ้านสุขใจ

การแสดงหุ่นสาย

การแสดงการละเล่นของเด็กไทย

ร่วมลีลาศ และรำวงกับวงสุนทราภรณ์ วงใหญ่และชมมรหรสพต่าง ๆ

         
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทรศัพท์ 66
3475 2847 – 8, ศูนย์บริการข่าวสารการท่องเที่ยว ททท. 1672 หรือทาง www.loikrathong.net


ลอยกระทง

เทศกาลโคมไฟ สีสันเมืองใต้

         
เทศกาลโคมไฟ สีสันเมืองใต้ ประจำปี 2554 กำหนดการจัดงานในวันที่ 1
พฤศจิกายน 2554 - 30 เมษายน 2555 สถานที่จัดงาน ณ
บริเวณสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

การจัดงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วน

         
เทศกาลโคมไฟน้ำแข็ง จัดแสดง ณ อาคารจัดแสดง Hat Yai Ice Dome
เริ่มจัดแสดงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 - 30 เมษายน 2555
มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม ดังนี้

          - นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (ผู้ใหญ่) 300 บาท
          - นักท่องเที่ยวต่างชาติ (เด็ก) 150 บาท 
          - นักท่องเที่ยวชาวไทย (ผู้ใหญ่) 200 บาท
          - นักท่องเที่ยวชาวไทย (เด็ก) 100 บาท

กิจกรรม

          รายละเอียดโคมน้ำแข็ง ขอแบ่งออกเป็น 3 โซน

1. โซนความสัมพันธ์ไทย-จีน ประกอบด้วย พระพุทธรูปใหญ่  ฮก ลก ซิ่ว พระบรมมหาราชวัง เทียนอันเหมิน หงส์ กับ มังกร เจ้าแม่กวนอิม

2.
โซนอาเซียน ประกอบด้วย เมอร์ไลออน สิงคโปร์  มัสยิดสีชมพู มาเลเซีย
ซุ้มประตูบาหลี อินโดนีเซีย ชมสวนดอกไม้ ศาลาหกเหลี่ยม ยักษ์น้องไท

3. โซนโลกของเด็ก ประกอบด้วย ตุ๊กตาน้องสุขใจ เขาวงกต สไลเดอร์น้ำแข็ง สัตว์ดึกดำบรรพ์  บาร์น้ำแข็ง


ลอยกระทง

          เทศกาลโคมไฟ สีสันเมืองใต้ ณ
บริเวณด้านในสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ระยะเวลาจัดงาน 4 เดือน (เริ่มจัดแสดงวันที่ 1 มกราคม – 30 เมษายน 2555)
**เปิดให้ชมฟรี *

กิจกรรม

         
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ร่วมสร้างสรรค์โคมไฟเฉลิมพระเกียรติ
เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา
ในปี 2554 สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษา80 พรรษา
ในปี 2554 และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามกุฎราชกุมารทรงเจริญพระชนมพรรษา 60
พรรษา ในปี 2554 และโคมไฟในรูปแบบต่าง ๆ
ที่ร่วมรังสรรค์โดยเทศบาลนครหาดใหญ่

         
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครหาดใหญ่ โทรศัพท์ 66 7420
0000,ททท. สำนักงานหาดใหญ่ โทรศัพท์ 66 7423 1055, 66 7423 8518,
ศูนย์บริการข่าวสารการท่องเที่ยว ททท. 1672

          ** กำหนดการจัดงานอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อนเดินทาง **


ลอยกระทง

งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย

         
งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2554
กำหนดการจัดงานในวันที่ 8 – 10 พฤศจิกายน 2554 สถานที่จัดงาน ณ
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย

กิจกรรม

พิธีรับรุ่งอรุณแห่งความสุข

การสาธิต โคมชักโคมแขวน

การแสดงพลุ ตะไลไฟพะเนียง

การแสดงแสง เสียงศิลปวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัดสุโขทัย และกิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟ ณ บริเวณวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

การจัดกิจกรรมชุมชนโบราณ ตลาดแลกเบี้ย (ตลาดปสาน) การละเล่นพื้นบ้าน

การแสดงทางวัฒนธรรมไทย

สาธิตการทำอาหารไทยพื้นบ้าน และสินค้าพื้นเมืองของชาวชุมชน ขบวนนางนพมาศเชื่อมสัมพันธ์ไทย – ญี่ปุ่น

         
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานสุโขทัย โทรศัพท์ 66 5561
6228 – 9, ศูนย์บริการข่าวสารการท่องเที่ยว ททท. 1672 หรือทาง www.loikrathong.net


ลอยกระทง

งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง

         
งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง ชิงถ้วยพระราชทาน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ประจำปี 2554 จังหวัดตาก
กำหนดการจัดงานในวันที่ 9 – 12 พฤศจิกายน 2554 สถานที่จัดงาน ณ
บริเวณริมสายธาร ลานกระทงสาย เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี
จังหวัดตาก

กิจกรรม

ชมการลอยประทีป 8,000 ดวง ชมกระทงนำ กระทงกะลา กระทงปิดท้าย ของกระทงทุกสายที่ส่งเข้าประกวด ณ อาคารหอกิตติคุณ

การแข่งขันศิลปหัตถกรรม ณ อาคาหอกิตติคุณ

ชมสินค้า "หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์"

การแข่งขันการลอยกระทงสายของชุมชนต่าง ๆ และการแสดงบนเวที

         
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานตาก โทรศัพท์ 66 5551 4341 –
3, ศูนย์บริการข่าวสารการท่องเที่ยว ททท. 1672 หรือทาง www.loikrathong.net




Free TextEditor




 

Create Date : 27 ตุลาคม 2554    
Last Update : 27 ตุลาคม 2554 3:05:10 น.
Counter : 1198 Pageviews.  

รูปภาพ T-ara สาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วงT-ara กับกางเกงขาสั้นฟิตเปรี้ยะ














รูปภาพ T-ara สาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วงT-ara กับกางเกงขาสั้นฟิตเปรี้ยะ





















รูปภาพ T-ara สาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วงT-ara กับกางเกงขาสั้นฟิตเปรี้ยะ





















รูปภาพ T-ara สาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วงT-ara กับกางเกงขาสั้นฟิตเปรี้ยะ





















รูปภาพ T-ara สาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วงT-ara กับกางเกงขาสั้นฟิตเปรี้ยะ





















รูปภาพ T-ara สาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วงT-ara กับกางเกงขาสั้นฟิตเปรี้ยะ





















รูปภาพ T-ara สาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วงT-ara กับกางเกงขาสั้นฟิตเปรี้ยะ





















รูปภาพ T-ara สาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วงT-ara กับกางเกงขาสั้นฟิตเปรี้ยะ





















รูปภาพ T-ara สาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วงT-ara กับกางเกงขาสั้นฟิตเปรี้ยะ





















รูปภาพ T-ara สาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วงT-ara กับกางเกงขาสั้นฟิตเปรี้ยะ





















รูปภาพ T-ara สาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วงT-ara กับกางเกงขาสั้นฟิตเปรี้ยะ





















รูปภาพ T-ara สาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วงT-ara กับกางเกงขาสั้นฟิตเปรี้ยะ





Free TextEditor




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2554    
Last Update : 15 ตุลาคม 2554 3:09:20 น.
Counter : 6486 Pageviews.  

เมนูเด็ด...บอกลาปัญหาเรื่องเท้า

อาหารเพื่อสุขภาพ


เมนูเด็ด...บอกลาปัญหาเรื่องเท้า (Modernmom)
เรื่อง : โอบา

"You are what you eat" สุขภาพดีเริ่มต้นจากการกิน เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ใครก็รู้ แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่ามีอาหารชนิดใดบ้างที่กินแล้ว จะทำให้เท้าแข็งแรงและมีสุขภาพดี และอาหารชนิดใดบ้างที่กินแล้วจะส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพเท้าของตัวเอง...มาค้นหาคำตอบจากเมนูเหล่านี้กันค่ะ

8 อาหารบำรุงสุขภาพเท้า

มาเริ่มต้นดูกันสิว่า อาหารที่กินแล้วบำรุงสุขภาพเท้าให้แข็งแรงมีอะไรกันบ้าง...

นม : อุดม
ด้วยแคลเซียมที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีที่สุด เพราะมีน้ำตาลแล็กโทส
ซึ่งเป็นตัวช่วยส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียม
จึงเสริมความแข็งแรงของกระดูกบริเวณเท้า

โยเกิร์ต :
นอกจากเป็นอาหารในกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนมที่ให้แคลเซียมแล้ว
ในโยเกิร์ตยังมีจุลินทรีย์ที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราทำ
งานอย่างสมบูรณ์
แต่ที่สำคัญคือจะต้องเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ไม่เติมผลไม้เชื่อมหรือ
น้ำตาลลงไป
เพราะความหวานจะไปทำลายจุลินทรีย์และแคลเซียมเสียหมดคุณค่าที่ต้องการเลยหาย
วับไป

ปลาเล็กปลาน้อย :
สำหรับคนแพ้ผลิตภัณฑ์นม อาจเลือกกินปลาเล็กปลาน้อย เช่น ปลาไส้ตัน ปลาซิว
ปลาข้าวสาร ปลาสร้อย ฯลฯ ซึ่งเราสามารถกินได้ตั้งแต่กระดูก เกล็ด ครีบ หาง
ทำให้อาหรประเภทนี้มีธาตุแคลเซียมอยู่สูงมาก แต่ถ้าใครไม่ชอบกินปลา
อาจจะเปลี่ยนเมนูไปเป็นกินกุ้งฝอยที่มีเปลือกอยู่ หรือกุ้งแห้งแทนก็ได้
เพราะเปลือกกุ้งจะอุดมไปด้วยธาตุแคลเซียมเหมือน ๆ
กับการกินปลาเล็กปลาน้อยเช่นเดียวกัน

อาหารทะเล :
ตับ เนื้อแดง มีธาตุเหล็กสูง และร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุด
ช่วยส่งเสริมโครงสร้างการทำงานของเยื่อบุผิวและกระดูก
หากขาดธาตุเหล็กอาจทำให้กระดูกเปราะบางได้

ผักใบเขียว :
บำรุงกระดูกให้แข็งแรง นอกจากเนื้อสัตว์แล้ว
ผักใบเขียวยังอุดมด้วยธาตุเหล็ก และแคลเซียมไม่แพ้กัน
ซึ่งมีผลต่อความแข็งแรงของกระดูกเล็บ ไม่ให้เปราะหรือหักง่าย

เต้าหู้ :
แหล่งโปรตีนสำคัญจากพืชที่มีไขมันต่ำ แต่กลับให้แคลเซียมสูง
แถมราคาก็ไม่แพงกินแล้วดีกับกระดูก ระบบย่อยอาหาร
นอกจากนี้ในเต้าหู้ยังมีสารที่ช่วยปรับระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย
ให้สมดุลและมีสุขภาพดีอีกด้วย

งา :
อาจจะไม่ได้โด่งดังเท่ากับนม แต่งาอบมีแคลเซียมสูงกว่านมถึง 10 เท่า
และสูงกว่าพืชผักทั่วไปถึง 40 เท่า เพราะงาอบมีทั้งแคลเซียม โปรตีน
เหล็กไอโอดีน และฟอสฟอรัส
ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในการสร้างกระดูกเท้าและบำรุงข้อเท้าให้แข็งแรง

บร็อกโคลี่ :
นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังเป็นผักที่ให้วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก
ซึ่งล้วนมีประโยชน์กับกระดูกและเล็บทั้งสิ้น
นอกจากนั้นยังมีกากใยช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี
แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องไม่ปรุงให้สุกมากเกินไป
เพราะความร้อนจะทำให้คุณค่าวิตามินต่าง ๆ หายไปหมด


กาแฟ

5 อาหารต้องห้าม

น้ำตาล :
เป็นอาหารของเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการเท้าเหม็น
หากกินน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินความพอดีก็อาจจะกระตุ้นให้โรคทวีความรุนแรง
มากขึ้นได้

อาหารหมักดอง :
ในอาหารหมักดองจะพบยีสต์และเชื้อรา
ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะกระตุ้นให้โรคเกี่ยวกับเชื้อราที่เท้าทวีความ
รุนแรงมากขึ้น ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยง

อาหารที่มีกลิ่นฉุน :
เช่น หัวหอม กระเทียม ฯลฯ แม้จะมีสรรพคุณเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
แต่หากกินมากเกินพอดี ก็อาจส่งผลให้เท้ามีกลิ่น
เพราะในกระเทียมมีสารกระตุ้นที่ทำให้ร่างกายเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
โดยขับออกมาทางปัสสาวะ ลมหายใจ และเหงื่อด้วย
ทำให้ตัวเหม็นได้มากกว่าปกติเช่นกัน

ดื่มกาแฟเกินวันละ 2 ถ้วย :
มีงานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า กาแฟแค่ 2
ถ้วยก็มากพอที่จะทำให้กระดูกเปราะบางได้ เนื่องจากกาเฟอีนในกาแฟ
จะทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะ ทำให้กระดูกเท้าเสื่อมเร็วกว่าปกติ

น้ำอัดลม :
เครื่องดื่มเย็นซ่าชื่นใจชนิดนี้
มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดภาวะกระดูกหักได้ง่าย
โดยผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ
จะมีโอกาสเกิดกระดูกพรุนมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม 3-4 เท่าทีเดียว
ถ้าเราอยากให้กระดูกและเท้าแข็งแรง ก็ควรจะดื่มให้น้อยลง

ลองปรับเปลี่ยนวิถีการกินเพียงเล็กน้อย สุขภาพเท้าก็ดูแลได้ง่ายนิดเดียว




 

Create Date : 10 ตุลาคม 2554    
Last Update : 10 ตุลาคม 2554 2:42:37 น.
Counter : 532 Pageviews.  

ยลโฉมทุ่งนาขั้นบันได ณ บ้านแม่กลางหลวง

แม่กลางหลวง



แม่กลางหลวง



แม่กลางหลวง


แม่กลางหลวง


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ the Sixth Floor และ คุณ nihc

ภาพทิวทัศน์ความเขียวขจีของทุ่งนาขั้นบันได ที่ลดหลั่นกันมาเรื่อย ๆ กลายเป็นสิ่งดึงดูดให้นักเดินทาง แวะเวียนมาชื่นชมความงดงาม ณ บ้านแม่กลางหลวง จังหวัดเชียงใหม่
อยู่เสมอ ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ แต่จริง ๆ แล้วนอกจากนาขั้นบันได
ที่นี่ยังมีมนต์เสน่ห์ชวนให้หลงใหลอีกมากมาย อะ ๆ ถ้าอยากรู้ก็เก็บกระเป๋า
สะพายกล้อง ตามเราไปเที่ยวกันเลย...



แม่กลางหลวง


แม่กลางหลวง

บ้านแม่กลางหลวง
อยู่ในตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ
ของชาวปกาเกอะญอ
ตั้งอยู่ในหุบเขาขั้นบันไดบริเวณลุ่มน้ำแม่กลางบนดอยอินทนนท์
ซึ่งความงดงามของนาขั้นบันไดเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ใคร ๆ
ก็อยากเดินทางไปดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่สวยงาม

         
โดยช่วงที่เหมาะจะไปชมนาขั้นบันไดมีสองช่วง คือ เดือนกันยายน – กลางตุลาคม
ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน เพราะนาข้าวจะเริ่มเขียวขจีชุ่มฉ่ำ ส่วนปลายเดือนตุลาคม
- พฤศจิกายน
จะเป็นช่วงที่นาข้าวออกรวงเป็นสีทองเต็มท้องทุ่งเหลืองสวยงามมาก 


แม่กลางหลวง


แม่กลางหลวง


แม่กลางหลวง

อย่าง
ไรก็ตาม ถึงแม้ว่าความเจริญจะค่อย ๆ คืบคลานเข้าไป แต่ชาวปกาเกอะญอ ณ
บ้านแม่กลางหลวง ก็ยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ตามความเชื่อ ประเพณี
และวัฒนธรรมชนเผ่าที่สืบทอดต่อกันไว้อย่างเหนียวแน่น

ความสมถะและเรียบง่ายของพวกเขาจึงกลายเป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่าง
ที่เมื่อมีโอกาสใคร ๆ ก็อยากไปเรียนรู้การดำรงชีวิตประจำวันของพวกเขา
ไม่ว่าจะเป็น การทอผ้า การทำการเกษตร หรือแม้แต่การใช้ชีวิต


         
นอกจากนี้ หากไปเยือน บ้านแม่กลางหลวง ไม่ควรพลาดชมแปลงเกษตรปลอดสาร
แปลงดอกไม้ ผลไม้เมืองหนาว หรือไปชมและทดลองคั่วและบดกาแฟ
พร้อมทั้งลิ้มลองรสชาติกาแฟกะเหรี่ยง
และท้ายที่สุดอุดหนุนงานหัตถกรรมฝีมือชาวปกาเกอะญอ
ซึ่งรับรองได้ว่างดงามปราณีตงดงามแน่นอน



แม่กลางหลวง


แม่กลางหลวง

          ทั้งนี้ บ้านแม่กลางหลวง มีพักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับ
หรือถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว พร้อม ๆ กับอยากดื่มด่ำกับธรรมชาติ
ที่นี่ยังมีบ้านพักเชิงอนุรักษ์ที่อยู่ท่ามกลางท้องทุ่งนาไว้บริการเหมือน
กัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แม่กลางหลวง หมู่ 17 ถนนจอมทอง-ดอยอินทนนท์
ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 08 1960 8856


แม่กลางหลวง


แม่กลางหลวง

ข้อพึงปฏิบัติของนักท่องเที่ยว

ต้องให้ความเคารพ ไม่ลบหลู่ หรือดูถูกกฎระเบียบประเพณีความเชื่อของหมู่บ้าน

ต้องช่วยกันดูแลรักษา ไม่ทำลายสิ่งสาธารณะประโยชน์ในชุมชน

ห้ามนำสิ่งเสพติดเข้ามาในหมู่บ้าน

ห้ามประพฤติไปทางชู้สาว และกระทำอนาจาร

ผู้ที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ท่องเที่ยว ต้องแต่งกายให้มิดชิด

ห้ามส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นในยามวิกาล

ห้ามเล่นการพนันภายในหมู่บ้าน

ห้ามก่อเรื่องทะเลาะวิวาท

ต้องรักษาความสะอาด ทิ้งขยะในที่ทิ้ง ทั้งในบริเวณหมู่บ้านและพื้นที่ท่องเที่ยวทั้งหมด

ต้องติดต่อล่วงหน้ากับคณะกรรมการท่องเที่ยว

ในการศึกษาธรรมชาติและวิถีชีวิตชาวบ้าน ต้องมีนักสื่อความหมายหรือไกด์ท้องถิ่นไปด้วยทุกครั้ง

นักท่องเที่ยวทุกคนต้องบำรุงสมทบกองทุนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของชุมชน เป็นจำนวนเงิน 20 บาท/ครั้ง/คน


แม่กลางหลวง


แม่กลางหลวง

การเดินทาง

บ้าน
แม่กลางหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของดอยอินทนนท์
ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ โดยผ่านอำเภอหางดง – สันป่าตอง - จอมทอง
จากเชียงใหม่มุ่งสู่ดอยอินทนนท์ ถึงชุมชนมีระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร
อยู่ช่วงกิโลเมตร 26 ที่จะขึ้นไปยอดดอยอินทนนท์






 

Create Date : 04 ตุลาคม 2554    
Last Update : 4 ตุลาคม 2554 20:02:50 น.
Counter : 1075 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  

bestjingjai1
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add bestjingjai1's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.