ดึ๋ง ดึ่ง ดึ่ง ดึ๊ง
Group Blog
 
All blogs
 

HOW TO ลาบหมูแซ่บซี๊ด ทำง่ายแบบหมูๆ กับคนอร์สูตรสำเร็จ ลาบ-น้ำตก

สวัสดีจ้าสาวๆ วันนี้เบลล์ขอพักแปรงแต่งหน้า เดินเข้าครัวควงตะหลิวทำเมนูแซ่บๆ แบบง่ายๆ
ชนิดที่ใครๆก็ทำได้ ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก แค่สามขั้นตอนก็ได้ลาบหมูสุดแซ่บมารับประทานละจ้า
จะง่ายแค่ไหน ตามมาเลย...

สิ่งที่ต้องเตรียม




1. คนอร์สูตรสำเร็จ ลาบ-น้ำตก 1 ซอง
2. เนื้อหมูสับ หรือไก่สับ 2 ขีด
3. หอมแดงประมาณ 4 หัว
4. ผักชีฝรั่งประมาณ 2 ต้น
5. ต้นหอมประมาณ 4 ต้น
6. สะระแหน่ กำนึง เอาไว้แต่งจานสวยๆหรือจะคลุกลงไปตอนท้ายก็ได้
7. ผักเคียงหรือเครื่องเคียงอื่นๆตามชอบ เช่น ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี ข้าวสวย ข้าวเหนียว ฯลฯ
*ผักที่จะคลุกลงไป ให้ซอยเตรียมไว้เลยจ้า..



วิธีทำ
จะบอกว่า ง่ายเว่อร์ 3 ขั้นตอนเท่านั้น

1. รวนเนื้อหมูกับน้ำเปล่า 2-3 ช้อนโต๊ะในหม้อจนสุกแล้วยกลงจากเตา



แต่ถ้าใครไม่มีเตา สามารถรวนหมูในไมโครเวฟได้นะจ๊ะ
โดยใส่น้ำในชามใบโตประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ แล้วเติมหมูลงไป
เกลี่ยแผ่ๆ แล้วเวฟประมาณ 2 นาที ยกออกมาใช้ส้อมยีๆ
แล้วเวฟต่อจนสุก ยกออกจากเตา



2. ฉีกซอง ใส่ คนอร์สูตรสำเร็จ ลาบ-น้ำตก ลงในหม้อ แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน



3. ใส่บรรดาผักที่เราซอยเอาไว้ คลุกให้เข้ากัน
แล้วแต่งจานด้วยใบสะระแหน่ เสิร์ฟพร้อมผัดสด เครื่องเคียง และข้าวเหนียว



เท่านี้เราก็จะได้ลาบหมูหน้าตาดูดีเว่อร์ เหมือนที่ไปซื้อร้านส้มตำปากซอยเลยค๊า!



ซูมๆเข้าไปซักหน่อย จะบอกว่าเหมือนที่เค้าทำขายกันจริงๆนะ ภูมิใจจัง5555



ทำเสร็จไวมาก แต่งหน้าเต็มทำกับข้าว หน้ายังไม่ทันมัน ก็เสร็จพร้อมรับประทานละจ้า 5555

แล้วรสชาติล่ะ จะเป็นยังไง.... ชิมละนะ อ้ามมมมม..



เหร้ยยยยยยยย อรอ่ยมากค่ะคุณผู้โช้มมมมม!!!
คือ ง่าย และ อร่อย หอมข้าวคั่วมากๆเลยค่ะ
เหมือนกับคั่วเองเลย ได้รสแซ่บแบบลาบแท้ๆ ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเติมเลยจ้า


จากประสบการณ์ที่เคยพยายามทำลาบเอง จะเสียเวลากับการกะปริมาณพริก ข้าวคั่ว
มะนาว น้ำปลา บลาๆๆ คือกะไปชิมไป รู้ตัวอีกที ยังไม่ทันจะอร่อยก็หมดจานซะแล้ว55555
แต่ครั้งนี้มีผู้ช่วย คือ คนอร์สูตรสำเร็จ ลาบ-น้ำตก ซองเดียวอยู่!
ช่วยประหยัดเวลาได้มาก และไม่ต้องคิดเยอะเลยค่ะ เทๆคลุกๆก็กินได้แล้ว
จะทำที่บ้าน ที่คอนโด หรือแม้แต่มื้อเที่ยงยืมไมโครเวฟที่ออฟฟิศก็ยังสามารถทำได้

เห็นว่าคนอร์สูตรสำเร็จลาบ-น้ำตกยัง ทำน้ำจิ้มแจ่ว กับ ต้มแซ่บ ได้ด้วย
เดี่ยวจะไปซื้อกระดูกหมูมาลองทำดู ต้องแซ่บเว่อร์แน่นอน
เหมาะกับสาวๆยุคนี้เป็นที่สุด ไม่ต้องใช้สกิลแม่ศรีเรือนก็แซ่บได้จ้า



สาวๆใครอยากลองทำดูบ้าง สามารถหาซื้อได้ที่ซุปเปอร์ ห้างสรรพสินค้า
ร้านค้าทั่วไปและใน 7-11 ก็มีนะจ๊ะราคาซองละ 15 บาทเท่านั้นจ้า

หรือจะเข้าไปหาไอเดีย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก็ตาม link ไปเลยจ้า
//www.knorr.co.th/product/category/284402/-

ว่าแล้วก็ขอตัวไปแซ่บซี๊ดให้หมดจานก่อนดีกว่า
น้ำลายสอ รอไม่ไหวแว้วววววไปละนะ บายยยย

Smiley




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2557    
Last Update : 16 ตุลาคม 2557 19:28:53 น.
Counter : 4928 Pageviews.  

ลองเล่น NOTE4 ในงาน The First Experience with GALAXY Note 4 l Express to Connect

สวัสดีจ้าสาวๆ วันนี้เบลล์ขออัพเดตอะไรที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับสายความงามซักหน่อย
แต่เชื่อว่าจะเป็นไรที่สาวๆน่าจะกรี๊ด เรื่องของเรื่องคือเบลล์มีโอกาสได้ไปร่วมงาน
The First Experience with GALAXY Note 4 l Express to Connect



และในงาน เบลล์ได้ลองสัมผัส Samsung Galaxy NOTE4 เป็นครั้งแรก ตื่นเต้นมากๆค่ะ
เพราะปกติก็ใช้โน้ตอยู่แล้ว และเป็นรุ่นที่รอคอยเลยก็ว่าได้
เพราะเครื่องเก่า(โน้ต1) ที่ใช้อยู่ตอนนี้มันแก่มากแล้ว เริ่มหนืดบ้าง อืดบ้างไรบ้าง
และด้วยความตื่นเต้นนี้เลยเก็บภาพ เก็บประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
แต่ยังไงคงต้องออกตัวก่อนว่า เบลล์ไม่ใช่กูรูสายไอทีนะคะ
คงเล่าเรื่องได้แค่ในมุมของ USER ปกติทั่วไปเท่านั้นค่ะ

เอาล่ะ เริ่มกันเลย..
งานนี้จัดขึ้นที่ร้าน Marlin ซอยพหลโยธิน7 บรรยากาศสบายๆในร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น
(ไม่ได้ถ่ายรูปร้านมา เพราะกำลังอึ้งกับของกินอย่างที่เห็นในรูปค่ะ 5555)



ภายในงานมีการแนะนำฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ใหม่ๆของ Samsung Galaxy Note4



มีการพูดคุยเล่าประสบการณ์ใช้งาน Galaxy Note รุ่นก่อน โดยพี่เกด จากเว็บ Jeban.com
และน้องบอม เจ้าของเพจ "คนอะไรเป็นแฟนหมี"



และท้ายงานยังมีกิจกรรมสนุกๆให้เล่น กรุ๊ปที่เบลล์ไปสิงอยู่ชนะซะงั้น5555
เลยได้รางวัลมาเป็นรูปวาดฝีมือน้องบอม เจ้าของเพจ "คนอะไรเป็นแฟนหมี" น่ารักฝุดๆ..



ในส่วนของ Spec และ จุดเด่นต่างๆของน้องโน้ต4
เบลล์ขอให้เข้าไปอ่านในเว็บ Samsung เลยละกันค่ะ จะได้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ตามมาเล๊ย...
//www.samsung.com/th/galaxynote4/note4_features.html



ลองจับ ลองเล่น..

จากที่ลองสัมผัสเครื่องครั้งแรก รู้สึกงานประกอบแน่นขึ้นกว่ารุ่นก่อน และชอบที่มีโครงขอบเป็นโลหะ
ดูสวยคมขึ้นจาก Note3 ค่ะ ส่วนวัสดุฝาหลังเป็นหนังเทียม ให้ความรู้สึกหยุ่นๆกระชับมือดี
และรู้สึกดีใจมากที่เค้าเอารอยเย็บตรงขอบออกไปแล้ว เย้! 5555
ส่วนหน้าจอดูดีกว่าในรูปมากๆค่ะ มีความโค้งนูนจิ๊ดๆ ที่ให้ความรู้สึกไม่ก๊องแก๊ง โดยรวมโอเคมากๆค่ะ



ลายขีดๆจุดๆตรงข้างล่าง ของจริงจะไม่มีนะคะ อันนี้เครื่องเดโม่จ้า

และส่วนที่เบลล์จะพูดถึงต่อไป คงเป็นในแง่ประสบการณ์การลองจับ ลองเล่นจากในงานแบบประเดี๋ยวประด๋าว
แต่บอกเลยว่าฟีเจอร์เค้าอัดมาแน่นจริงๆจากที่เคยเล่นโน้ต1มาก่อนยังแอบอึ้งๆตอนจับเครื่องครั้งแรกเลย
หลายฟีเจอร์มันพัฒนาได้ดีขึ้นมาก และด้วยเวลาในงานจำกัด เบลล์เลยได้ลองเล่นไม่กี่อย่าง
แต่ก็พยายามเก็บจุดที่น่าสนใจมาฝากกันค่ะ



1. กล้องหน้า 3.7 ล้านพิกเซล สว่างขึ้นมาก ถ่ายในที่มืดออกมาโอเคมากๆ
ถ้าใช้โหมด Beauty ถ่ายออกมาแล้วฟรุ้งฟริ้งเว่อร์ ชัตเตอร์ไว
กดชัตเตอร์ได้หลายวิธี จะกดปุ่มปกติ กดปุ่มข้างๆ จะแตะตรงไหนของหน้าจอก็ได้
หรือทีเด็ดคือ แตะที่เซนเซอร์ด้านหลัง อยู่ตำแหน่งนิ้วชี้พอดี แค่แตะเบาๆก็ลั่นชัตเตอร์ได้เลย
โดนใจสาวๆนัก Selfie แน่นอน



เบลล์ใช้ Note4 ถ่ายรูปด้วยกล้องหน้ามาให้ชมกันค่ะ
Selfie จากกล้องหน้า Samsung Galaxy Note4 ในสภาพแสงน้อย ถ่ายในร้านอาหารมืดๆนะคะ รูปออกมาสว่างดีมากๆ ในรูปเบลล์ถ่าย2แบบ คือ แบบปิด และเปิดโหมด beauty แบบเร่งสุด ฟรุ้งฟริ้งฝุดๆกันไปเลย บอกเลยว่ารัก กรี๊ดมาก จากใจติ่งNOTE!




และรูปนี้ถ่ายจากกล้องหลัง Note4 ค่ะ (ผ่านการย่อรูปเฉยๆ ไม่ปรับอะไรเพิ่มเติม)
ถ่ายในที่มืดได้ดีขึ้นกว่าเดิมมากกกกกกกกก รักเลยๆ




2. สำหรับคอ Wefie ชอบถ่าย Selfie เป็นแก๊งก์ใหญ่ ก็น่าจะชอบฟีเจอร์นี้ "Wide Selfie"
เลนส์กล้องหน้าเก็บภาพได้มุมกว้าง 90 องศา กว้างกว่าเลนส์ทั่วไป ถ้าถ่ายปกติก็จะเก็บได้กว้างขึ้นอยู่แล้ว
แต่ฟีเจอร์ Wide Selfie นี้ มันจะคล้ายๆการถ่ายพานอรามา กวาดกล้องไปซ้ายและขวา
ก็จะเก็บภาพได้กว้างมากขึ้นอีก ถ่าย Wefie ได้สบ๊ายยยยย (ไม่ได้เก็บภาพอันนี้มาฝากง่ะ -*- )

3.S Pen ที่พัฒนาขึ้นมาก ให้ความรู้สึกใกล้เคียงปากกาจริงมากขึ้น เอียงปากกาเขียนได้
รับแรงกดแตกต่างได้มากขึ้น ถึง 2048 ระดับ



เบลล์มีคลิปสั้นๆมาฝากค่ะ ลองเขียนแล้วได้ประมาณนี้..



นอกเหนือจากฟังก์ชั่นการเขียนแล้ว S Pen ยังมีลูกเล่นอีกมากมาย เช่น
Air Command และ Smart Select ที่มีต่อมาจากรุ่นก่อนๆ ก็ถือเป็นฟังชั่นที่ดี
และช่วยอำนวยความสะดวกได้จริงๆ

4. Photo Note ฟังชั่นที่ตอบโจทย์นักจดบันทึกโดยเฉพาะ
เป็นฟังชั่นที่แปลงภาพถ่ายให้เป็นไฟล์ดิจิตอลได้ทันที สามารถแก้ไขบันทึก เปลี่ยนสี
และเพิ่มข้อความเข้าไปด้วยปากกา S Pen ได้อย่างง่ายดาย
(อันนี้อธิบายยาก อาจจะต้องไปลองเล่นเองแล้วจะอ๋ออออ คือมันเหมาะกับคนที่ชอบจดบันทึกจริงๆ)

5. แบทใหญ่ ชาร์จไว พร้อม Ultra Powder Saving Mode
น้องโน้ต4 มาพร้อมแบทจุ 3220 mAh และฟีเจอร์ Fast Charging คือ
สามารถชาร์จไฟเข้าได้สูงถึง 50 % ใน 30 นาที แถมยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Ultra Power Saving Mode
แบบเดียวกับ Galaxy S5 ที่พอแบทเหลือ 10% เปิดโหมดนี้ไว้จะเปลี่ยนจอเป็นขาวดำ
และใช้แอปได้บางแอป เพื่อช่วยเซฟแบท ยืดอายุให้อยู่ได้นานขึ้น
อันนี้จะทำได้จริงแค่ไหนไว้ต้องซื้อมาลองกันยาวๆ



นอกจากเรื่องฟีเจอร์หลักๆที่มากับเครื่องแล้ว คราวนี้ Samsung ยังจับมือกับ MONT BLANC
ทำปากกาและเคสที่ใช้ร่วมกับ Galaxy Note4 ในสไตล์หรูหราตามแบบฉบับของมงบลังต์อีกด้วย
และแอบมีกระซิบว่าจะมีเคสวิบวับที่ทำจากคริสตัล Swarovski ออกมาวางจำหน่ายเอาใจสาวๆอีกด้วย





เอาเป็นว่าจากในงานไม่กี่ชั่วโมงเบลล์ได้ลองเล่นมาประมาณนี้ ก็ถือว่าเอาใจไปเต็มๆ
ตอนนี้ก็เหลือแค่รอซื้อเครื่องจริงมาใช้ซะที และสุดท้าย เบลล์มีข่าวดี มีโปรมาบอกค่ะ
ใครสนใจหรืออยากจะไปลองจับของจริง ไปชมกันได้ในงาน Thailand Mobile Expo 2-5 ตุลา 2557
และในงานนี้ ใครอยากจับจองเค้ามีมาขายล๊อตแรกในราคา 24,900 บาท
พร้อมของแถมเพียบ! มีขายเฉพาะสีขาวและวางขายวันละ 100 เครื่อง
ใครมาไม่ทันไม่ต้องเสียใจ เค้าให้ลงชื่อจอง รอรับเครื่องวันหลังได้อีกค่ะ

หลังงานราคาจะปรับขึ้นเป็น 25,900 บาท นะจ๊ะ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยจ้า...
//www.whatphone.tv/news/update-pro-samsung-galaxy-note-4-tme-2014///www.thailandmobileexpo.com/2014Showcase/th/wp-content/gallery/promotion/68.jpg




ขอพุ่งตัวไปสอยน้องโน้ตก่อนล่ะน๊า
บ๊ายบายยยยยยย

Smiley

ปล. ต้องขอขอบคุณ Samsung Thailand ที่ให้โอกาสบล็อกเกอร์ตัวกลมๆ ได้ไปลองสัมผัสโน้ต4
ในงานสุดพิเศษแบบนี้นะคะ ขอบคุณค่าาาาา :)




 

Create Date : 01 ตุลาคม 2557    
Last Update : 1 ตุลาคม 2557 22:47:09 น.
Counter : 2291 Pageviews.  

REVIEW รีวิว ลองนั่ง UBER ฟรี แทกซี่ไฮโซ เหมือนมีคนขับรถส่วนตัว

หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ UBER มาบ้างแล้ว

UBER เป็นบริการคนขับรถส่วนตัว พูดง่ายๆคือ บริการแบบแทกซี่เลยค่ะ
แต่หรูกว่า รถดีกว่า บริการเริ่ดกว่า คล้ายๆรถลิมูซีนของโรงแรมหรือสนามบิน
แต่ก็แน่นอนว่าต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่แพงกว่า
เบลล์มีโอกาสได้ลองนั่ง UBER มา 2 ครั้งแล้ว รู้สึกประทับใจทีเดียวค่ะ
เลยเอามาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เผื่อใครอยากลองนั่งบ้าง
ก็เอาโค้ดในบล็อกนี้ไปใช้ได้เลย นั่งฟรี 200 บาทค่ะ ( uber200bfree )

ในบล็อกนี้เบลล์จะเล่าอย่างละเอียดเลยค่ะ นั่งแล้วเป็นยังไง รู้สึกยังไงบ้าง
พร้อมทั้งอธิบายว่าเรียกใช้บริการยังไง อาจจะเขียนไว้ยาวซะหน่อย
แต่จัดเต็มแน่นอนจ้า เริ่มเลยเนอะ


UBER แตกต่างจากบริการเรียกแทกซี่ทั่วไปยังไงบ้าง

แม้ในปัจจุบันจะมีบริการเรียกแทกซี่ด้วย Application ให้เลือกใช้บริการค่อนข้างทั่วถึง
แต่ UBER มีบางอย่างเหนือกว่า เช่น

1. รถที่นำมาให้บริการ จะเป็นรถหรูกว่าแทกซี่ทั่วไป เช่น
Toyota Camry, Mercedes-Benz E Class และ Honda Accord
2. คนขับรถแต่งตัวดี-ดีมาก เช่น เสื้อซาฟารีไปจนถึงสูท
(แต่งตัวดีกว่าอิชั้นเสียอีก) แถมให้บริการด้วยความสุภาพเป็นเลิศ
3. มีน้ำดื่มฟรี 1 ขวด บริการบนรถ (จุดนี้เฉยๆนะ เพราะคงบวกค่าน้ำ
ไปกับค่ารถแล้ว55555 แต่ในด้านความรู้สึกก็ถือว่าดีค่ะ )
4. ค่าบริการสูงกว่า แต่จะแพงไม่แพง อยู่ที่ความรู้สึก
และความคุ้มในคำจำกัดความของแต่ละคน
5. จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต หรือเดบิตที่ใช้จ่ายออนไลน์ได้
ไม่มีการรับเงินสดค่ะ และถ้าจะให้ทิป จะมีให้บวกเป็นเปอร์เซนต์ไว้ในแอป
เราเข้าไปตั้งค่าได้เลย
พอพูดถึงราคาค่าบริการที่สูงกว่า อยากรู้แล้วใช่มั้ยคะว่าจะประมาณไหน
ในหน้าเว็บ UBER ให้เรทไว้ประมาณนี้..



เริ่มต้นที่ 45 บาท + คิดค่าเวลา นาทีละ 2.50 บาท + คิดตามระยะยทาง กม.ละ 9.20 บาท
(อัพเดตราคา ณ วันที่ 11/08/2014)
ราคาอาจจะมีการปรับเปลี่ยนนะคะ ลองเช็คก่อนเรียกใช้บริการค่ะ


ทั้งนี้ค่าโดยสารขั้นต่ำจะอยู่ที่ 75 บาท และถ้ามีการยกเลิกนัด จะต้องเสียเงิน 75 บาทค่ะ
และจะมีบางพื้นที่ที่จะคิดราคาตายตัว หรือ Flat Rate เป็นราคาเหมา เช่น
เรียกไปหรือจากสนามบิน จะคิดที่ 1000 บาทตามนี้ค่ะ



(อัพเดตราคา ณ วันที่ 11/08/2014)
ราคาอาจจะมีการปรับเปลี่ยนนะคะ ลองเช็คก่อนเรียกใช้บริการค่ะ

แต่ก่อนเราจะเรียกใช้บริการ เราจะต้องเตรียมดาวน์โหลดแอปและสมัครสมาชิกก่อนนะจ๊ะ
**มือถือหรือแทบเล็ตที่ใช้งานจะต้องต่ออินเตอร์เน็ตไว้ด้วยนะคะ**


1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง app UBER ในมือถือหรือแทบเล็ต
android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.ubercab&hl=en
iOS : https://itunes.apple.com/th/app/uber/id368677368?mt=8

2. สมัคร account UBER และกรอกรายละเอียดต่างๆ
อันนี้จะสมัครจากในคอมก่อนก็ได้ หรือจะสมัครผ่านแอปก็ได้เช่นกัน
และถ้าสมัครผ่าน link ของเบลล์อันนี้ https://www.uber.com/invite/uber200bfree
เพื่อนๆจะได้เครดิตฟรี 200 บาท ใช้นั่ง UBER ได้เลยจ้า!

วิธีการเรียก Uber นั้นง่ายมว๊ากกกก
1. เข้าแอป UBER ไอคอนมือถือหน้าตาแบบนี้...

2. Sign in ลงชื่อเข้าใช้งานในแอปบนมือถือหรือแท็บเล็ตของเพื่อนๆ
จะเจอกับแผนที่รอบๆที่เราอยู่ มีไอคอนรูปรถสีดำ แสดงตำแหน่งรถ UBER
ที่พร้อมเรียกใช้งาน ที่วิ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง ตรงกลางแผนที่จะมีหมุดลอยๆอยู่
ถ้าแถวนั้นมีรถพร้อมให้บริการ บนหมุดจะมีเขียนไว้ว่า
มีรถพร้อมให้บริการภายในกี่นาที
และให้กำหนดสถานที่รับ
แต่ถ้าละแวกนั้นไม่มีรถพร้อมให้บริการ จะขึ้นว่า ไม่มีรถพร้อมใช้งาน


มาถึงขั้นตอนเรียกรถแล้วล่ะ

เราสามารถเสิชสถานที่จากช่องข้างบน โดยกดเข้าไปที่ช่องว่าง มันจะเปลี่ยนไปอีกหน้า
ให้เราพิมพ์ชื่อสถานที่ที่จะให้รถมารับ แล้วเสิชเลือกสถานที่ใกล้เคียง
หรืออีกวิธีกำหนดสถานที่ เราสามารถกำหนดจากตำแหน่ง GPS ที่เราอยู่ ณ ตอนนี้ก็ได้
โดยกลับมาหน้าแผนที่แล้วกดสัญลักษณ์พิกัดที่มุมขวาล่าง
หมุดจะลอยมาอยู่ในตำแหน่งตาม GPS เรา แต่ถ้า GPS มันเพี้ยนไปหน่อย
เราก็แค่จับขยับไปปักบนตำแหน่งที่เราอยู่จริงๆ แล้วกด "กำหนดสถานที่รับ"
พอเรากดแล้วจะขึ้นแถบขาวๆด้านบนเขียนว่า "ยืนยันคนขับรถแล้วและกำลังเดินทางไป"
และด้านล่างจะขึ้นรูปคนขับรถ ชื่อ เรทคะแนน พร้อมรายละเอียดรถว่าเป็นรถรุ่นอะไร
ทะเบียนอะไร เช่น TOYOTA CAMRY และมุมขวาล่างจะมีปุ่ม
ให้เราสามารถติดต่อคนขับรถได้โดยตรง มีให้เลือกโทรหาหรือส่งข้อความ






หลังจากคอนเฟิร์มแล้วจะมี SMS เข้ามา3อัน สองอันแรกส่งจากธนาคารบัตรเครดิตว่า
ใช้จ่ายผ่าน UBER 40 บาท และอีกแป๊บนึงก็มีอีกฉบับตามมาว่ายกเลิกรายการ 40 บาทตะกี้
(คาดว่าเป็นมัดจำในกรณีที่เรายกเลิกการเดินทาง) และอีก SMS ส่งมาจาก UBER ว่า
“UBER ของคุณกำลังเดินทางไปพร้อมบอกชื่อคนขับและเวลาอีกกี่นาทีไปถึง”
แล้วเราก็แค่นั่งรอรถมารับแบบสวยๆ ตามสถานที่นัดหมายเอาไว้
บนแผนที่ในแอปตอนนี้ จะมีหมุดบอกเวลา ว่าอีกกี่นาทีรถจะมาถึง
และจะโชว์ไอค่อนรูปรถของเรา กำลังวิ่งมาหาเรา
จุดนี้ดีมากๆค่ะ ทำให้รู้เลยว่า ตอนนี้รถอยู่ไหนแล้ว จะต้องเตรียมเดินลงบันไดมารอหน้าบ้านได้รึยัง
และถ้าหากเราเกิดเปลี่ยนแผน อยากเปลี่ยนที่นัดหมาย เช่น
จะออกไปยืนรอหน้าปากซอย แค่กดโทรหาคนขับโดยตรง แจ้งได้เลยค่ะ
หรือถ้าคนขับไม่ชินทาง เค้าจะโทรมาหาเราเอง และสอบถามเส้นทาง
พอรถใกล้ถึงเราแล้วจะมีข้อความเตือนขึ้นมาว่า “คนขับรถจะมาถึงแล้ว”
พร้อมมี SMS เข้ามาเตือนด้วย

และในอึดใจเดียวรถ CAMRY คันงามก็มาเทียบถึงหน้าบ้านเลยจ้า
อันนี้ดีมากๆสำหรับคนบ้านอยู่ซอยลึกๆ หรือเดินออกมายาก
UBER เค้าบริการถึงที่เลยจ้าเราก็แค่เช็คดีๆว่า รถและทะเบียนถูกต้องตามที่แจ้งไว้มั้ย
คนขับหน้าตาคนเดียวกันกับในรูปรึเปล่า ถ้าถูกต้องเรียบร้อย ก็ขึ้นรถได้เลย!



ขึ้นไปแล้วก็บอกคนขับได้เลยว่าจะไปไหน เค้าพาไป แถมช่วยคิดด้วยว่าไปทางไหนดีสุด
บรรยากาศบนรถเอาเป็นว่าไม่ต้องเทียบกับแทกซี่ปกติ
ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งรถโรงแรม รถบ้านคนขับแต่งตัวดีเลยล่ะค่ะ
บางทีเจอใส่สูท บางทีก็ชุดคนขับรถแบบในละครหลังข่าว (เว่อร์มะ555)

แอร์เย็นสบาย ขับนิ่ม คนขับใจเย็น สุภาพทุกคน (ทั้ง2ครั้งที่เคยนั่ง มาตรฐานเดียวกันค่ะ)
ไม่เคยเจอแบบที่แสดงอารมณ์หงุดหงิด รถติด โวยวาย ต่อรองใดๆ คือดี ดีมากๆค่ะ
อ่อ คนขับเค้าจะมีไอแพดประจำตัวด้วยนะคะ
เค้าจะเปิดแอป UBER เอาไว้ พอรับเราแล้วเค้าก็จะกดในแอปเค้าว่า รับผู้โดยสารแล้ว
ในมือถือเราก็จะเตือนว่า รับแล้ว

ในแอปจะมีไอค่อนรถที่เรานั่งอยู่วิ่งไปตามเส้นทาง เราสามารถดูได้เลยว่า ขับถึงไหนแล้ว
ระหว่างนั่งรถ เค้าจะมีน้ำเปล่าขวดเล็กบริการฟรีด้วยนะคะ หยิบมาดื่มได้เลย

และจุดที่ประทับใจมากคือ ครั้งแรกที่ใช้บริการเจอคุณลุงคนขับใจดี
ตอนรถติดแดดส่อง คุณลุงคนขับก็คอยปิดม่านบังแดดให้ด้วย เทคแคร์กันดีสุดๆไปเลย

เมื่อถึงจุดหมายคนขับจะกดในแอปว่าถึงแล้ว และจะแสดงค่าเดินทางบนแอปในมือถือเรา
(บนรถไม่มีมิเตอร์ให้ส่องราคาแบบ Real time นะจ๊ะ ลุ้นราคาทีเดียวตอนจบ55555 )
ถ้าเรามีเครดิตพอสำหรับค่าเดินทาง ค่าเดินทางจะขึ้นเป็น 0.00 บาท
แต่ถ้าไม่ได้ใช้ ระบบะจะแจ้งค่าเดินทางจริง และจะหักจากบัตรเครดิตค่ะ
และในหน้านั้นจะมีให้เรา ให้คะแนนคนขับรถ เบลล์ให้ไปเลยคะแนนเต็ม!!
พอเรากดให้คะแนนเสร็จก็เป็นอันจบพิธี

หลังจากส่งถึงที่แล้ว ในหน้าแอบจะกลับไปเป็นแบบตอนแรกเลยค่ะ (รูปขวา)
อ่อ ลืมเล่า พี่คนขับเค้าลงมาเปิดประตูให้ด้วยจ้า รู้สึกเป็นคุณหนู1วัน เขินนนนน 555555
หลังจากใช้บริการแล้ว จะมีอีเมลใบเสร็จค่าเดินทาง พร้อมรายละเอียดส่งมา
และเรายังสามารถเช็คย้อนหลังได้ด้วยว่า เคยใช้บริการเรียกจากไหนไปลงไหน
ราคาเท่าไหร่ ใครขับ โดยดูได้จากในเว็บไซท์ UBER.com


ขอย้อนกลับมาดูรายละเอียดอื่นๆในแอป UBER กันอีกนิด
เมนูที่ซ่อนอยู่ในแอป UBERกดที่ไอค่อน U ที่มุมซ้ายบน จะเจอเมนูซ่อนอยู่

โปรไฟล์ จะแสดงชื่อ อีเมล เบอร์โทร ที่เราลงทะเบียนไว้
และมีปุ่ม "sign out" หรือ ออกจากระบบ

การชำระเงิน จะแสดงเลขบัตรเครดิตที่เราลงทะเบียนไว้ แต่จะแสดงแค่ 4 ตัวท้าย
ตามปกติเหมือนเว็บซื้อของออนไลน์ทั่วไป
เราสามารถเพิ่มแอคเคานท์บัตรเครดิตใบอื่นๆได้อีก โดยกดรูปบัตรที่มีสัญลักษณ์+ มุมขวาบน
แล้วกรอกรายละเอียด และส่วนล่างของหน้านี้จะแสดงเครดิต UBER คงเหลือของเราด้วย
เครดิตอันนี้จะได้มาจาก โค้ตต่างๆ และจะได้เพิ่มอีกครั้งละ 200 บาท
เมื่อมีคนใช้ UBER ผ่าน link ของเรา เหมือนเราแจก 200 และได้รับ 200
WIN-WIN ทั้งคนรับและคนให้ค่ะ

โปรโมชั่น
จะมีช่องให้เราใส่โค้ดส่วนลด โปรโมชั่นต่างๆ



แชร์ ในหน้านี้เราสามารถแชร์โค้ดของเราผ่านแอปอื่นๆได้ เช่น
Facebook Gmail Google+ Twitter Hangout และ SMS

ความช่วยเหลือ
อันนี้จะ link ไปที่หน้าเว็บของ UBER ค่ะ

เกี่ยวกับเรา
อันนี้จะมีลิ้งไปที่ Google Play / Facebook และเว็บไซท์ของ UBER.com

สรุปUBER เหมาะกับใคร
• คนที่ชอบความสะดวกสบายในการเดินทาง เบื่อแทกซี่ช่างเลือก
ยอมจ่ายมากกว่าเพื่อแลกกับความสะดวกที่มากกว่า หรูกว่า
• คนที่บ้านอยู่ซอยลึก ไม่ค่อยมีแทกซี่ผ่าน หรือเรียกรถยาก
• คนที่มีสัมภาระในการเดินทาง พะรุงพะรัง หรือแต่งตัวทำผมมาอย่างเป๊ะ
กลัวโดนลมพัดหัวยุ่ง กลัวแดดเผาเมคอัพเยิ้ม ต้องการความเป๊ะ
จะออกงานต้องเนี๊ยบมากๆ ไม่สะดวกที่จะไปยืนโบกรถแทกซี่
UBER ก็ตอบโจทย์ค่ะ
• สาวๆที่เดินทางคนเดียว ก็เหมาะ เพราะระบบมีความปลอดภัยพอสมควร
สามารถเช็คชื่อคนขับได้ สามารถกดแชร์รายละเอียดการเดินทาง ETA
ให้เพื่อนๆ หรือญาติพี่น้องรับทราบได้เลย ขณะอยู่บนรถ
โดยกดแชร์ผ่านแอป ระบบจะคำนวนเวลาที่จะใช้ในการเดินทาง
และบอกสถานที่จุดหมายให้ด้วย สาวๆสามารถกดแชร์ไปบน Social Network
หรือ Email ได้เลย

เมื่อเพื่อนหรือญาติเราคลิกเข้าไปใน link จะเจอกับแผนที่รายละเอียดแบบนี้

แล้ว UBER เหมาะกับใครอีก...

• คนที่ไม่ชอบพกเงินสด สะดวกจ่ายผ่านบัตรเครดิต
• คนที่เดินทางหลายคน (ไม่เกิน4คน) และต้องการแชร์ค่าเดินทาง
ทำได้เลยโดยผ่านระบบจ่ายเงินในแอป ฟีเจอร์หารค่าโดยสาร
เราสามารถเลือกเพื่อนได้จากชื่อหรือเบอร์โทรศัพท์
แต่มีข้อแม้ว่า เพื่อนคนนั้นจะต้องมีแอคเคานท์ UBER
ที่ลงทะเบียนบัตรเครดิตไว้แล้วเหมือนกัน และระบบจะค่าธรรมเนียมเพิ่มคนละ 7.80 บาท
ส่วนตัวยังไม่เคยลองฟีเจอร์นี้ แต่คิดว่าก็สะดวกดีนะคะ ไม่ต้องมานั่งหารเลขทอนเงิน
แต่ถ้าไม่อยากเสียค่าธรรมเนียม เราก็ให้เพื่อนเลี้ยงไปเลย จบ 55555555555

UBER ไม่เหมาะกับใคร
• คนที่กำลังรีบเร่งเดินทาง ไม่สามารถยืดหยุ่นเวลาได้
ใครที่คิดจะการเดินทางด้วย UBER อาจจะต้องมีการเผื่อเวลา
วางแผนการเดินทางเล็กน้อย ไม่เหมาะกับช่วงเวลาเร่งรีบ ปุบปับจะเรียกแล้วไปเลย
ก็อาจจะไม่สะดวกนัก เพราะจะไม่รู้เลยว่าเวลานั้นจะมีรถว่างรึเปล่า
ต้องคอยเช็คจากแอป ณ เวลาที่จะเดินทาง ยังไม่สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้
• คนที่ไม่มีบัตรเครดิต ไม่สามารถใช้บริการได้นะจ๊ะ
ต้องลงทะเบียนเลขบัตรไว้ตอนสมัครค่ะ
• คนที่ต้องการประหยัดค่าเดินทาง แน่นอนว่าไม่เหมาะกับ UBER
เพราะค่าบริการสูงกว่าแทกซี่ทั่วไปค่ะ และมีบางช่วงเวลาคนที่คนเรียกใช้เยอะๆ
ในช่วงเร่งรีบ เค้าจะมีเรทราคาที่สูงกว่าปกติ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็เลี่ยงดีกว่าค่ะ
• คนที่บ้านใกล้สนามบิน และจะเรียกไปสนามบิน ให้ลองเทียบราคาดูนะคะ
เพราะถ้าเราเรียกไปสนามบินจะขึ้นราคาเป็นราคาตายตัว จะใกล้จะไกล
ก็ราคาเดียว ใครที่บ้านไกลๆจากสนามบิน คือ คุ้มค่ะ
แต่ถ้าบ้านใกล้ล่ะก็ ไม่คุ้มแน่นอน

ความเห็นส่วนตัว
เบลล์ว่า UBER ก็ถือว่าเป็นบริการที่คุ้มเงินที่เสียไปนะ
เหมือนแพงแต่ได้มาซึ่งบริการที่ประทับใจ แต่เรียกใช้บ่อยๆก็ไม่ไหว5555
เบลล์จะใช้บริการเฉพาะวันที่มีนัดออกงาน ไปงาน
แต่งตัวแต่งหน้าเป๊ะแล้ว ไม่อยากไปยืนสู้แดดรอโบกแทกซี่ให้หน้าเยิ้ม
ส่วนวันปกติไปกลับก็คงใช้บริการแทกซี่ปกติกันต่อไปค่ะ
เพราะบ้านและที่ทำงานอยู่ในโซนที่เรียกรถไม่ยาก ก็เรียกใช้ตามแต่โอกาสค่ะ


เอาล่ะ นี่เบลล์ก็รีวิวกันอย่างละเอียดยิบเลยทีเดียว
ถ้าใครอยากลองใช้บริการ UBER อย่าลืมใส่โค้ดนี้

หรือสมัครผ่าน link นี้ เพื่อรับเครดิต 300 บาท ใช้นั่ง UBER ฟรี!
https://www.uber.com/invite/uber200bfree

ใครได้ลองแล้วเป็นยังไง มาเม้น มาคุย มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ
วันนี้ไปแล้วจ้า

บ๊ายบาย Smiley

*** (อัพเดตราคา ณ วันที่ 17/09/2014)
ราคาอาจจะมีการปรับเปลี่ยนนะคะ ลองเช็คก่อนเรียกใช้บริการค่ะ***




 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2557    
Last Update : 17 กันยายน 2557 12:43:52 น.
Counter : 5589 Pageviews.  

"Samsung Gear Fit" Gatgetมีดีไซน์ คู่กายไลฟ์สไตล์สุดแอคทีฟ

มื่อวีคที่ผ่านมาเบลล์มีโอกาสได้ไปร่วมปาร์ตี้สนุกๆกับงาน
Design your active lifestyle with Gear by Samsung
งานนี้จัดขึ้นที่ร้าน All Six to Twelve สุขุมวิท 39

ภายในงานเบลล์ได้ลองใส่ ลองเล่น ลองสัมผัส Samsung Gear Fit อย่างใกล้ชิด
พูดง่ายๆคือ เหมือนได้ลองเป็นเจ้าของแป๊บนึงSmiley
ถ้ามองเผินๆ เจ้า Samsung Gear Fit ก็ดูเหมือนนาฬิกาข้อมือทั่วไป
มีเวลาบอก มีไฟวาบๆ แต่จริงๆแล้วเป็นมากกว่านั้น
Samsung Gear Fit เป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่ถูกออกแบบมาให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่
มีชีวิตสนุกสนาน คล่องตัว กระฉับกระเฉง อัพเดตทันทุกเหตุการณ์ ทุกการติดต่อ
แคร์ทุกด้านรวมถึงสุขภาพของตัวเอง


(Credit รูปถ่ายจากทีมงานด้วยค่ะ )

ด้วยฟังชั่นเด่นของ Samsung Gear Fit ที่ชูแนวคิด “Stay Fit”
ช่วยทำให้การดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันทำได้ง่ายขึ้นมาก
มีฟังก์ชั่นการวัดการก้าวเดิน วัดระยะทาง วัดการเต้นหัวใจ
มีตัวช่วยคำนวนให้ว่าเราเบิร์นไปกี่แคลอรี่แล้ว
แล้วยิ่งเราใช้ควบคู่กับแอพใน Samsung Galaxy รุ่นใหม่ๆอย่าง S4 S5
เราจะสามารถบันทึกการกินของเราได้ด้วย ว่าเรารับเข้าไปกี่แคลแล้ว
ทำให้สามารถควบคุมปริมาณรับเข้า-นำออก แคลอรี่ให้เหมาะสมในแต่ละวัน
แบบนี้การควบคุมน้ำหนักก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
แหม พอเบลล์ลองเล่นแล้วก็เกิดอยากได้ เผื่อจะผอมกะเค้าบ้าง 5555

นอกจากฟังก์ชั่นที่เป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพแล้ว

Samsung Gear Fit ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy รุ่นใหม่ๆของSamsung ได้ด้วย

เมื่อเชื่อมต่อแล้วเจ้า Gear Fit จะสามารถรับการแจ้งเตือนต่างๆ

ทั้งอีเมล สายเรียกเข้าsms การตั้งปลุก รวมถึงการแจ้งเตือนจากแอพอื่นๆได้ตลอดเวลา

แบบนี้ก็จะไม่พลาดทุกการติดต่อโดยไม่ต้องคอยจ้องหน้าจอโทรศัพท์อีกต่อไป


ส่วนในเรื่องหน้าตาการดีไซน์ หลายคนอาจจะแอบรู้สึกว่าหน้าตามันไม่เหมาะกับสาวหวานอย่างชั้นเลย แต่จริงๆแล้ว

Samsung Gear Fit ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบๆ มีหน้าจอโค้งรับกับข้อมือ ตัวเรือนเพรียวบางแต่ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอ ถอดเปลี่ยนสาย เปลี่ยนสี Mix and Match

ให้เข้ากับการแต่งตัวที่ต่างสไตล์กันออกไปในงานนี้เบลล์ลองแต่งตัวดูหญิงๆ ใส่กำไลเยอะๆ ในใจคิดว่าต้องไม่เข้ากับ Gear Fit แน่ๆเลย

แต่ผิดคาดแฮะ จริงๆมันก็พอไปด้วยกันได้อยู่แม้จะไม่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว แต่ก็พอนัวๆไปด้วยกันพอไหว



สุดท้าย ใครที่อ่านแล้วเริ่มสนใจสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ link นี้ค่ะ

//www.samsung.com/global/microsite/gear/index.html

เอาไว้ถ้ามีอะไรอัพเดตจะมาอัพบล็อกให้อ่านกันอีกแน่นอน

วันนี้ขอตัวละจ้า

บ๊ายบาย

Smiley




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2557    
Last Update : 19 มิถุนายน 2557 10:44:06 น.
Counter : 1269 Pageviews.  

งานเปิดตัวSamsung"mZine"แอพใหม่สำหรับคนรักการอ่าน และ3แอพตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต"GALAXY LIFESTYLE"

เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เบลล์มีโอกาสได้ไปร่วมงานเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุดจากSamsungมาค่ะ
งานนี้จัดขึ้นที่ร้านTheBookshop (Ashton Condo, Sukhumvit Soi 38)ร้ านเค้าจัดได้เก๋ไก๋มากๆ
แต่งด้วยหนังสือห้อยลงมาจากเพดานห้อยขึ้นๆลงๆ แถมเพลงในงานก็เปิดได้เข้ากับบรยากาศสุดๆ
ยังกับอยู่ในเรื่องHarry Potterยังไงยังงั้นเลย



เห็นร้านเต็มไปด้วยหนังสือขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าแอพพลิเคชั่นใหม่ที่เปิดตัวจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนังสือ
แอพที่ว่านี้มีชื่อว่า“mZine”เป็นแอพพลิเคชั่นที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนในปัจจุบัน
ที่มีสมาร์ทดีไวส์ติดมือกันคนละเครื่องอาจจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแทบเลต
เมื่อว่างก็คว้าอุปกรณ์เหล่านี้ขึ้นมาใช้เป็นสิ่งแรกๆ และเพื่อเอาใจคนที่ชอบอ่านนิตยสารและหนังสือพิมพ์
แต่ไม่อยากพกหนังสือเล่มใหญ่เทอะทะ ก็เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพ“mZine”ไว้ในสมาร์ทดีไวส์ส่วนตัว
ก็สามารถเลือกอ่านนิตสารหรือหนังสือพิมพ์ได้ตามที่ต้องการ และที่เริ่ดไปกว่านั้น
แอพ“mZine”นี้มีแพคเกจให้เลือกสมัครถึงสามแบบ สามราคา โดยจุดเด่นอยู่ที่ความเป็นบุฟเฟ่ต์
เมื่อสมัครสมาชิกและเลือกจ่ายตามแพคเกจแล้ว เราสามารถเลือกอ่านนิตยสารเล่มไหน ยี่ห้อไหน
หัวไหน จะกี่เล่มก็ได้ บางแพคเกจจะสามารถเลือกอ่านฉบับย้อนหลังได้แบบไม่อั้นอีกด้วย
แอพป๋าๆแบบนี้ราคาเริ่มต้นแค่เดือนละ89บาทเท่านั้น เหมือนเราจ่ายในราคาเท่าแมกกาซีนเล่มเดียว
แต่อ่านได้ทั้งIN Magazine, her worldแมกกาซีนอื่นๆอีก150เล่มทุกเดือนคุ้มมว๊ากกกกก!!

และที่พิเศษมากไปกว่านั้น เค้ามีโปรโมชั่นแรงๆมาฝากกันด้วย

พิเศษ! จ่าย1เดือน ฟรี1เดือน อ่านแมกาซีนและหนังสือพิมพ์ไม่อั้นเพียง199บาท
พิเศษเฉพาะ9,000ท่านแรกเท่านั้นค่ะ



ใครสนใจสามารถเข้าไปลองดาวน์โหลดแอพได้ที่Google Playโดยเสิชว่าSamsung mZine
หรือคลิกจากlinkนี้ได้เลยจ้าhttps://play.google.com/store/apps/details?id=com.samsung.mzine






เบลล์ดาวน์โหลดมาลองใช้งานดูแล้ว แอพนี้ใช้งานไม่ยากเลยค่ะ และมีนิตยสารให้เลือกอ่านเยอะมากๆ
มีหลากหลายแนว ตั้งแต่ นิตยสารวัยรุ่น นิตยสารแฟชั่น นิตยสารไลฟสไตล์ ไปจนถึงนิตยสารสุดเอ๊กซ์ก็ยังมีค่ะ



ส่วนใครที่กังวลว่า จะอ่านในมือถือไม่สะดวก อันนี้ไม่ต้องห่วงเลย เพราะเบลล์ลองแล้ว
เค้ามีฟังก์ชั่นแว่นขยาย เราสามารถซูมเข้าออกได้ง่ายมาก เหมือนการดูรูปในมือถือปกติเลยค่ะ
แถมยังมีฟังก์ชั่น Bookmarks ช่วยคั่นหนังสือที่เราอ่านค้างไว้ได้ด้วย แอพนี้ถือว่าทำออกมาได้ดี
ใช้งานง่ายและมีคอนเทนท์หลากหลาย คุ้มราคาค่ะ

และในงานนี้ นอกจากจะเปิดตัวแอพ “mZine” แล้ว ยังแนะนำอีกสามแอพน่าสนใจ
ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต “GALAXY Lifestyle” ได้แก่





Samsung GALAXY Gift เป็นแอพที่มีไว้เหมือนมีเจ๊มาเลี้ยง
แอพนี้จะเน้นลด แลก แจก แถม เสนอสิทธิพิเศษสำหรับชาว GALAXY โดยเฉพาะ
ใครใช้ Samsung GALAXY ต้องโหลดติดเครื่องไว้ ไปไหนมาไหน เผลอๆได้กินขนมฟรี
ดีไม่ดีมีคนเลี้ยงหนัง เอากะเค้าเซ่ 5555



Samsung GALAXY Showtime เป็นแอพสำหรับคอหนัง
โหลดติดเครื่องไว้เหมือนมีโรงหนังส่วนตัว มีทั้งช่องทีวีดัง ที่เราสามารถเลือกชมรายการย้อนหลังได้
มีซีรี่ส์เกาหลีสุดฮิต ใครที่ติดซีรี่ส์ต้องรักเลยแอพนี้ และยังมีหนังเรื่องเด็ดๆให้เลือกชมอีกมากมาย
เรียกได้ว่าแอพนี้สร้างมาเพื่อคอบันเทิงจริงๆ




Samsung GALAXY Horoscope เป็นแอพพลิเคชั่นดูดวงสําหรับชาวSamsung GALAXYโดยเฉพาะ
ดูดวงโดยโหรชื่อดังของเมืองไทยอ.ลักษณ์ เลขานิเทศและพบกันเร็วๆนี้ กับอ.นิติกฤตย์
ผู้คิดค้นศาสตร์แห่งMathelogyตัวจริง ดูดวงจากเลขเบอร์มือถือ เลขที่บ้าน รหัสเอทีเอ็ม
ใครที่ชื่นชอบการดูดวงต้องไม่พลาดค่ะ

แนะนำแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจครบทั้ง 4 แอพแล้ว ก็มาถึงท้ายงาน มีการเล่นเกมกับหนุ่มน้อย4คน
เบลล์ได้ร่วมเล่นเกมกะเค้าด้วยล่ะ มีดวงแต่ไปไม่สุด เลยไม่ได้รางวัลอะไรเป็นพิเศษ
แต่งานนี้ก็สนุกมากค่ะ บรรยากาศเป็นกันเอง พิธีกรเฮฮา บล็อกเกอร์หน้าตาดี อาหารอร่อย 55555



พองานจบก็แวะถ่ายรูปกันนิดหน่อยแล้วก็แยกย้ายกลับบ้าน งานนี้เบลล์ได้เปิดหูเปิดตา สนุกสนานเฮฮามากๆ
ต้องขอขอบคุณ Samsung Thailand มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ไว้โอกาสหน้า ถ้ามีอะไรใหม่ๆ จะมาอัพเดตกันอีกแน่นอน
วันนี้ขอตัวไปพักละจ้า บ๊ายบาย

Smiley




 

Create Date : 11 มีนาคม 2557    
Last Update : 11 มีนาคม 2557 8:44:26 น.
Counter : 1299 Pageviews.  

1  2  3  

bellyly
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 88 คน [?]





สวัสดีจ้าสาวๆ เบลล์ bellyly อาจจะเงียบหายไปจาก bloggang นานเลย
จริงๆยังไม่ได้เลิกเขียนบล็อกนะคะ ช่วงนี้ย้ายเว็บค่ะ เริ่มขยับขยายเปิดบ้านเป็นของตัวเอง เพื่อที่จะปรับแต่งหน้าตาได้ตามใจชอบ และปรับปรุงหน้าบ้านให้ดูเป็นระเบียบ สวยงามอ่านได้ง่าย สบายตามากขึ้นด้วย



เบลล์ขอเชิญชวนให้ไปติดตามกันต่อ ที่



เพื่อนๆสามารถกดรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการอัพเบล็อกใหม่ได้ที่ Tab Subscribe ด้านขวาในหน้าเว็บใหม่นะคะ



CONTACT
Email: bellyly_ly@hot หรือ bellyly@gmail
Facebook : http://www.facebook.com/BellyBlog
Instagram : http://instagram.com/bellyly#
Twitter : https://twitter.com/bellyly_ly







Friends' blogs
[Add bellyly's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.