~Tag : หนอนหนังสือ
พอดีช่วงนี้พักเขียนแป๊บนึงเพื่อผันตัวเองมาเป็นนักอ่านบ้าง แล้วไปเจอ Tag นี้จากบล็อกคุณสร้อยดอกหมาก ซึ่งเห็นว่าเอามาจากบล็อกคุณลวิตร์อีกที เลยขอเอามาทำต่อหน่อยค่ะ
1.แนะนำตัวมา
รู้จักในหมู่เพื่อนฝูงด้วยชื่อเล่นว่า ริน ซึ่งมาจากพยางค์ที่สองของชื่อจริง แต่ชื่อเล่นจริงไม่ค่อยมีใครรู้นอกจากคนในครอบครัวกับเพื่อนประถม (น่าจะเป็น generation แรกๆ ที่มีเล่นสองพยางค์)
ส่วนในหมู่นักอ่าน (ปล. ตอนนี้ยังเขียนแค่แนววาย) จะใช้นามปากกา Bellbomb ซึ่งมาจากอีเมล์แอคเคาท์ของ Hotmail ที่เปิดใช้ตั้งแต่สมัยยังเป็นสาวสะพรั่งอายุ 16 (อีกนัยหนึ่งคือ เก่ามากกกกก) ทีนี้เวลาสมัครเล่นบอร์ดอะไรก็จะใช้ชื่อนี้ตลอดด้วย ไปๆ มาๆ เลยกลายเป็นนามปากกาไปเลย ถึงจะอยากเปลี่ยนก็คงช้าไปแล้วสำหรับตอนนี้
2.ปกติอ่านหนังสือแนวไหน
ที่อ่านเยอะสุดเลยก็การ์ตูน ยิ่งสมัยวัยกระเตาะยิ่งกระหน่ำซื้อมาก จนหลังๆ เริ่มซาเพราะหลายเรื่องที่ติดตามมันช่างยืดยาว + ไม่มีที่เก็บ เลยอาศัยอ่านออนไลน์แทน
ถ้าฝั่งนิยาย ชอบอ่านวรรณกรรมเด็กแปล เพราะตอนเด็กๆ หม่ามี้ชอบซื้อให้อ่าน พวกโต๊ะโตะจัง, โมโมจัง, Alice in Wonderland, Wizard of Oz ฯลฯ อีกประเภทที่โปรดก็นิยายสืบสวนฆาตกรรม ถ้าต้นฉบับเป็นภาษาญี่ปุ่นจะซื้อฉบับแปล แต่ถ้าต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ จะอ่านภาษาอังกฤษไปเลย
สำหรับนิยายแนวรักโรแมนติก เพิ่งมาตามอ่านเมื่อสองสามปีนี้เอง และจะชอบอ่านของไทยมากกว่าต่างประเทศ แต่ตอนเด็กๆ เคยอ่านพวกนิยายแปลอิโรติกเหมือนกัน เนื่องจากหม่ามี้ชอบ + เจ้าตัวเขาเคยแปลส่ง สนพ. เองด้วย ใช้นามปากกาไพลิน หรืออะไรสักอย่างไพลินๆ นี่แหละ คุณลูกก็ลืมแล้วเนื่องจากไม่ค่อยชอบอ่านแนวนั้น
ไหนๆ แล้วก็โฆษณางานแปลเก่า (มากกกก) ของหม่ามี้ซะหน่อย เรื่องนี้ใช้ชื่อจริงนามสกุลจริงเลยค่ะ เห็นว่าฮอลลีวู้ดเคยเอาโครงเรื่องไปทำภาพยนต์ด้วย ชื่อเรื่อง สยบลัทธินรก หรือชื่อต้นฉบับว่า Bless the Child เขียนโดย Cathy Cash
จำได้ว่า ได้อ่านตอนที่พิมพ์ออกมาเป็นเล่มแล้วก็งงๆ เพราะแนวเรื่องมันไม่ใช่แนวที่หม่ามี้ชอบอ่านสักกะติ๊ดดดดดเลยน่ะ
3.แล้วไม่ชอบแนวไหนบ้างรึป่าว
แนวตลาดนิยม (ตบจูบ + คลีเช) / แนวเกมออนไลน์ / แวมไพร์ / มนุษย์หมาป่า / Chic Lit
4.หนังสือเรื่องแรกที่อ่านเอง (หรือเรื่องแรกที่จำได้ว่าอ่าน)
น่าจะการ์ตูนโดราเอมอน เพราะสมัยเด็กอยู่บ้านติดกับบ้านป้า แล้วลูกพี่ลูกน้องมีกรุการ์ตูนอลังการมาก เลยชอบไปนอนกลิ้งหยิบของเขามาอ่านบ่อยๆ
5.แล้วเรื่องล่าสุดล่ะ
บัลลังก์สายหมอกของเจ้าป้าวรรณวรรธน์ พบจุดรั่วหลายจุดในเชิงข้อมูลที่ทำให้ชะงักงันในการอ่าน เนื่องจากต่างเป็นจุดที่ไม่น่าปล่อยให้หลุดออกมาได้เลยจริงๆ เลยต้องขอพักไว้ก่อน ไว้ทำใจได้แล้วจะกลับมาอ่านใหม่ (เอ รู้สึกล่อเป้าพิกล)
6.นักเขียนที่ปลื้ม
เหมือนจะหลายคน แต่จริงๆ ไม่กี่คนเอง และบางคนไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่สำหรับเรา...เขาและเธอเหล่านั้น “ใช่”
J.R.R. Tolkien (Lord of the Rings, The Hobbit, The Silmarillion) เป็นนักเขียนแนวแฟนตาซีที่ยิ่งใหญ่และมีมิติลึกซึ้ง ถึงแม้ตอนอ่านเล่มแรกตอนต้นๆ จะลำบากนิดหน่อย เพราะเราอ่านจากฉบับภาษาอังกฤษแถมดีเทลยุกยิกชวนสับสน แต่พอชินแล้วอ่านปรื๋อ สรุปว่าชาบูลุงโทลเคียนมากๆ
Suzuki Koji (The Ring series, Rakuen & etc) ชื่นชมจากซีรีส์เดอะริงอันลือลั่น อ่านเล่มแรกหลายรอบ + ตามหาหนังมาดูทุกเวอร์ชันรวมทั้งที่เป็นละคร พอได้อ่านราคุเอ็นยิ่งอึ้ง เพราะแม้จะเป็นแนวโรแมนติก แต่สุซุกิสอดแทรกปรัชญาและความแตกฉานในการมองประวัติศาสตร์ความเป็นมาของโลกตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้ดีเลิศ นอกจากเรื่องการตามหาความรักแล้วยังมีเรื่องคติความเป็นไปของโลกซึ่งบางครั้งเราต้านอำนาจจากภายนอกไม่ได้ แต่บางครั้งเราก็เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ผ่านการตัดสินใจ และอื่นๆ อีกมากมาย คืออ่านนิยายของเขาเรื่องไหนเรื่องนั้น ได้แง่คิดปรัชญากลับมาทุกเรื่อง
Yokoyama Hideo (Hanochi ปริศนาคำสารภาพ) เรื่องราวการสืบสวนที่ไม่ได้มุ่งหาคำตอบว่าใครคือฆาตกร แต่เน้นการค้นหาเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังคำสารภาพของตัวเอกผ่านมุมมองคนเล่าเรื่องหลายๆ คน ชอบปกของบลิสเวอร์ชันแรกที่เป็นมือสองข้างกับรอยสักและกุญแจมือมากกว่าปกเวอร์ชันใหม่ที่เป็นคนหันหลังและมีสีชอล์ครูปปีก รู้สึกว่าที่ญี่ปุ่นจะทำเป็นภาพยนต์ด้วย ว่าจะหามาดูก็ลืมทู้กที =__=”
Miyabe Miyuki (เสียงกระซิบสังหาร, เหตุที่ฆ่า) เจ้าแม่นิยายสืบสวนญี่ปุ่น ชอบทุกเรื่องเลย เพราะสามารถเรียงร้อยเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกี่ยวโยงกัน แต่ตีแผ่ความซับซ้อนของใจคนและความเกี่ยวพันกันของสังคมโครงใหญ่ในญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้ง และชวนให้คิดตามถึงขั้นหดหู่ในบางครั้งได้
ศรีสุรางค์ (เพลิงสีน้ำเงิน, ดาราแดง, ธารทับทิม, เล่ห์ร้ายนิยายรัก, วินธัย) เพิ่งค้นพบคุณแอนไม่นานนี้เพราะได้อ่านรีวิวแนะนำ พอได้หามาอ่านแล้วก็ชอบทุกเรื่อง ส่วนตัวคิดว่าคุณแอนเหมาะกับสไตล์เรื่องเหนือจริงมากกว่า เพราะด้วยสำนวนภาษา จินตนาการและความรู้ทางเรื่องพระพุทธศาสนาและเมืองหิมพานต์ ยิ่งพอได้มาอ่านเล่ห์ร้ายนิยายรักหลังสามเรื่องแรกที่แนะนำ เลยพาลทำให้รู้สึกว่าเรื่องหลังนี้จืดไปเพราะพระเอกไม่มีเวทย์มนต์ (ฮา) และที่สำคัญที่สุด คือท่านอมาลจากเรื่องเพลิงสีน้ำเงินเป็นพระเอกคนแรกในรอบสิบกว่าปีที่ทำให้เราตกหลุมรักและกรี๊ดออกนอกหน้าได้ เพราะคนสุดท้ายที่เคยทำให้รู้สึกแบบนี้คืออิซัค พระเอกการ์ตูนเรื่อง จอมคนแดนฝัน ของ อ.ฮิคาวะ เคียวโกะ สมัย ม.ต้น (ซึ่งจำนวนปีผ่านมาเกินจะนับนิ้วบนสองมือ)
เตี่ยนซิน (นักเขียนแนวโรแมนซ์ชาวไต้หวัน หาอ่านได้จากนิยายเครือมากกว่ารักของแจ่มใส) เท่าที่อ่านมา จำได้ว่าไม่เคยไม่ชอบเรื่องไหนของเตี่ยนซิน มีแต่ชอบน้อยหรือชอบมาก ทั้งๆ ที่หากอ่านแบบเป็นกลางจะพบว่าหลายเรื่องดำเนินแบบสูตรสำเร็จ (โดยเฉพาะมุกพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยนางเอกเวลาโดนลักพาตัว ดูพล็อตคุ้นๆ ไหม?) แต่ความสามารถของเตี่ยนซินคือการสร้างตัวละครที่หลากหลายมีเอกลักษณ์แทบทุกตัว และเธอจับคู่ตัวละครได้ถูกใจเราหมด ไม่มีการอ่านแล้วขัดใจว่าทำไมนางเอกคนนี้ไม่คู่กับคนนั้น และไม่ค่อยมีพล็อตแนวนางเอกหวั่นไหวจากพระรอง แต่เน้นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกและนางเอก และที่ชอบคือพระเอกของเธอทุกเรื่องจะรักนางเอกมากกกกก ขี้หึงมากกกก และเก่งวรยุทธ์กันเทพมากกกก (ส่วนใหญ่มักรวยด้วย โฮ่ๆ) และสิ่งที่ชอบอีกอย่างคือเวลาอ่านทุกเรื่องจะจับได้ถึงความเป็น feminist และหัวสมัยใหม่ของคนเขียน เพราะไม่มีนางเอกคนไหนถูกพระเอกทำร้ายหรือหักหาญน้ำใจแบบโหดๆ และแม้เธอเหล่านี้จะไม่เคยมีประสบการณ์กับชายใดมาก่อน แต่ก็ค่อนข้างมีมุมมองเปิดกว้างเรื่องเพศ คืออ่านแล้วรู้สึกว่าคนเขียนมองหลายๆ อย่างคล้ายเรา เลยพาลชอบทุกเรื่องที่เธอเขียนไปด้วย
เฟื่อง (ยามตะวันรอน) เป็นนิยายวายของไทยเล่มแรกที่ได้อ่านจริงๆ จังๆ เพราะนอกนั้นส่วนใหญ่อ่านจากอินเตอร์เน็ต ถึงแม้สำนวนภาษาจะเรียบเรื่อยสำหรับหลายคน แต่ความเป็นธรรมชาติของตัวละคร ปมที่ไม่มีอะไรดรามาสุดกู่ และแนวเรื่องย้อนยุคนิดๆ ไปสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งผู้เขียนสอดแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางวัฒนธรรมได้รื่นไหล และไม่อ่านแล้วรู้สึกเหมือนเด็กวัยรุ่นพยายามเขียนนิยายย้อนยุคของผู้ใหญ่ ทำให้หลงรักเรื่องนี้ตั้งแต่อ่านครั้งแรก และน่าจะนับเป็นนิยายวายที่หยิบมาอ่านบ่อยที่สุดนอกจากของตัวเอง แต่ตอนนี้เห็นว่ากลายเป็น rare item ที่ต้องล่ามือสองเอาซะแล้ว
พิธันดร (ภูตกระซิบสื่อรัก, Soda Ice Diary, หลังหน้าต่างข้างประตู) เจอเรื่องภูตกระซิบสื่อรักโดยการคลิกลิ้งค์หานิยายอ่านไปเรื่อยๆ ในบอร์ดแห่งหนึ่ง พออ่านแล้วก็ติดหนุบติดหนับ ตามไปเป็น fc ทุกที่ที่คุณพีทอยู่ (แลดูน่ากลัวพิกล) โดยตัวเรื่องจะถูกแบ่งเป็นสิบภารกิจ และมีตัวละครหลักที่คอยดำเนินเรื่องคือเด็กมัธยมต้นชื่อนายพากเพียร กับภูตตัวจิ๋วที่นอกจากน่ารักแล้วทำอะไรไม่ค่อยเป็นชื่อไอ้ป๊อง ทุกภารกิจจะมีส่วนผสมระหว่างความเป็นดรามาและคอเมดี้อย่างลงตัว ตัวละครมีความคิดอ่านติดดิน อ่านแล้วเข้าถึงและอินได้ไม่ยาก และแต่ละภารกิจก็จะมีเอกลักษณ์ของตัวละครในตัวเอง ชอบตรงที่ทุกภารกิจจะให้บรรยากาศละเมียดละไมและอบอุ่น ซึ่งภาษาที่สวยงามของผู้เขียนก็มีส่วนช่วยให้อ่านได้เรื่อยๆ ไม่สะดุด ปัจจุบันมีถึงภารกิจที่หกแล้ว และก็หวังว่าจะได้อ่านภารกิจที่เจ็ดในเร็ววัน นะเจ้าคะคุณพีทคุง (ไม่กดดันคนเขียนเล้ย) Aoikyosuke (ซีรีส์ปรัชญาช่างกล, เพราะว่าเรากัดกัน (ผูกพัน) และอื่นๆ) เป็นนักเขียนวายอีกคนที่ชอบ สไตล์จะต่างจากสองคนด้านบน เพราะในแง่ภาษาแล้วคุณเท็นจะใช้ภาษาบ้านๆ คำหยาบประปราย คำสะกดผิดก็บ่อย ภาษาเด็กแนวก็เยอะ แต่อ่านแล้วธรรมชาติมาก อินไปกับตัวละครและเรื่องราวโดยไม่รู้สึกถึงการปรุงแต่ง และทั้งที่คุณเท็นเขียนนิยายไม่รู้กี่สิบเรื่องก็ยังสามารถสร้างเอกลักษณ์และความแตกต่างให้ทุกเรื่องได้หมด แถมยังขยันเขียนตอนพิเศษมาก ถึงแม้หลังๆ นี้จะเขียนน้อยลงกว่าเมื่อก่อนแล้ว แต่ทุกเรื่องที่จบแล้วก็อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ไม่รู้เบื่อ
Bellbomb (ก็เขียนแต่เรื่องแบบที่ตัวเองอยากอ่านอะนะ ดังนั้นขอชอบตัวเองด้วยละกัน อิอิ) ก็มีออกมาแล้วทั้งผลงานที่จบแล้วและยังไม่จบ ส่วนใหญ่เน้นแนวปุถุชนธรรมดา ไม่เน้นดรามาสุดโต่ง แต่อ่านแล้วสบายใจและมีกำลังใจ ใครสนใจก็ลองคลิกอ่านที่แถบด้านซ้ายมือได้ค่ะ (ขอเน้นอีกทีว่าเป็นแนววาย)
7.สำนักพิมพ์ที่ชอบมากที่สุด
มติชน ผีเสื้อ อะบุ๊ค เพราะไม่ค่อยเจออะไรให้ขัดใจ ไม่ว่าด้านอาร์ตเวิร์คหรือการปรูี๊ฟคำผิด
8.แล้วมีสำนักพิมพ์ที่ไม่ชอบเป็นพิเศษรึป่าว
ไม่มี
9.หนังสือ 5 เรื่องที่ชอบสุดๆ
ตัดใจให้เหลือแค่ 5 ยากจริง... T^T
ขอเลือกโดยใช้หลักเกณฑ์ตัดสินจาก “หากติดเกาะและเหลือนิยายให้อ่านซ้ำๆ ซากๆ ได้ห้าเรื่อง จะเลือกเรื่องไหนบ้าง” ละกัน ไม่งั้นเลือกไม่ถูกค่ะ
• จดหมายจากปลายฟ้า / เซลาดอน • คู่วิวาห์พาป่วน / เตี่ยนซิน • ดาราแดง / ศรีสุรางค์ (ของคุณแอนปลื้มพระเอกจากเพลิงสีน้ำเงินที่สุดก็จริง แต่ด้านความลงตัวของพระ-นางชอบดาราแดงมากกว่า) • ยามตะวันรอน / เฟื่อง • ลำนำรักสีรุ้ง / Bellbomb
10.หนังสือเรื่องแรกที่ทำให้น้ำตาไหล
รู้สึกจะเป็นการ์ตูนนะ แต่จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไรเพราะตอนนั้นน่าจะเด็กมาก
11.แล้วเรื่องล่าสุดล่ะ
นึกไม่ออก อีกอย่างคงเพราะเป็นคนบ่อน้ำตาลึก เค้นไม่ค่อยออกเจ้าค่ะ -_-a
12.ชอบนิทานภาพเรื่องไหนมากที่สุด
ตอนเด็กอ่านนิทานภาพเยอะ แต่ตอนนี้นึกไม่ออกว่าเรื่องไหนมั่ง ถ้าเป็นคอมมิคไดอารี ก็ตัดใจยากระหว่างงานของ วานวาน (ไต้หวัน) กับ ทาคางิ นาโอโกะ (ญี่ปุ่น) เพราะชอบเท่าๆ กันทั้งคู่
13.นิยายแฟนตาซีที่คิดว่าสุดยอด
The Silmarillion เฉือนชนะ The Lord of the Rings ไปแบบฉิวเฉียด อาจเพราะอ่านแล้วรู้สึกถึงความอลังการของประวัติศาสตร์ก่อนที่จะกลายเป็น Middle Earth ใน LOTR เลยรู้สึกว่ามันสุดยอดกว่า (นิดนึง นิดเดียวจริงๆ)
14.ถ้าแนวไซไฟล่ะ
Devil May Cry ละกัน คนเขียนดัดแปลงมาจากเกม ก็สนุกดี
15.เรื่องสั้นที่ชอบมากที่สุด
วันสุดท้ายที่กลีบดอกไม้ร่วงโรย / ลูกหมู
16.มีวรรณกรรมเยาวชนเรื่องไหนที่ถูกใจมากๆบ้าง
โมโมจัง, โต๊ะโตะจัง, Alice in Wonderland, ผีน้อย (Das Kleine Gespenst), Little Lord Fauntleroy, The Little Prince, เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก, ราชาธิราช วรรณกรรมพวกนี้ได้อ่านตั้งแต่ยังเป็นเด็กทั้งนั้น เลยประทับใจยาวมาจนถึงตอนนี้ ถ้าเรื่องที่กำลังติดตามในปัจจุบันจะเป็น The Wardstone Chronicles ของ Joseph Delaney
17.หนังสือที่อ่านแล้วรู้สึกว่า "กูไม่น่าเสียเวลาเลย"
ก็พอจะมี แต่รับรองได้ว่าเสียเวลาไม่นาน เพราะถ้าเริ่มมีกลิ่นตุ่ยว่าไม่ใช่แนวก็จะหยุดอ่านทันที
18.อยากให้เด็กไทยได้อ่าน
ดร.ครกกับมหาลัย’เหมืองแร่ เพราะไม่มีพิษภัย และเน้นให้เห็นความสำคัญของการศึกษาที่มีต่อชีวิตไปกันคนละแบบ
19.หนังสือที่ใช้เวลาอ่านนานที่สุด
โลกใหม่ ของ ฮ.นิกฮูกี้ เป็นมหากาพย์เชิงธรรมะที่อลังการทั้งจินตนาการ การพยายามนำศาสนาพุทธมาตีความกับพัฒนาการของโลกที่ดิ่งลงในอนาคต สอดแทรกไปกับการชิงไหวชิงพริบของกองทัพตัวละครที่ต่างมีสิ่งที่ต้องการและพร้อมจะทำทุกอย่างให้ได้มา ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากเข้าหาศัตรู การกุเรื่องมาหลอกลวงคนอื่นเพื่อบ่อนทำลายฝ่ายตรงข้าม การใช้ร่างกายเข้าแลกเพื่อหวังผล ฯลฯ รวมทั้งความยาวถึงห้าเล่มหนาๆ ที่ต้องอ่านต่อกันเพราะมันไม่ใช่ซีรีส์แต่คือเรื่องเดียวกัน และจนปัจจุบันก็ยังอ่านเล่มหนึ่งไม่จบ (รู้สึกจะซื้อมาเกือบสิบปี และไม่รู้ว่าตอนนี้เก็บไว้ตรงไหนของบ้าน) แอบคิดในใจว่าโชคดีจริงๆ ที่ไม่มุทะลุซื้อมาทั้งห้าเล่มในคราวเดียว แต่ต้องยอมรับในความอึดของคนเขียนว่า "สุดยอดมาก" เพราะต้นฉบับทั้งเรื่องนั้นยาวเฉียดสามพันหน้า และเน้นอีกครั้งว่าเขียนเป็นเรื่องเดียวต่อกัน ไม่ใช่ซีรีส์ และถ้าจำไม่ผิด ไม่มีการแบ่งบทด้วยอีกต่างหาก
20.ประโยคจากหนังสือประโยคที่ชอบที่สุด
ตอนอ่านมหา'ลัยเหมืองแร่ ของคุณลุงอาจินต์ ปัญจพรรค์ จำได้ว่ามีประโยคที่โดนเยอะมาก ตอนที่ซื้อมาก็อ่านหลายรอบมาก แต่ตอนนี้ไม่มีหนังสือกับตัวเลยนึกไม่ออก
21.ร้านหนังสือร้านโปรด
ไม่มีร้านไหนโปรดเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่ถ้าเจอและมีเวลาว่างก็เดินเข้าหมด
22.เรื่องที่อยากได้ตอนนี้
The Unfinished Tales ทั้งซีรีส์สิบกว่าเล่มของลุงโทลเคียน ต้องการเป็นภาษาอังกฤษที่เป็นมือสอง (เพราะมือหนึ่งแพง) หายากมว้ากกกกกกกกก
23.คิดว่าตัวเองอ่านหนังสือเยอะมั้ย
ก็พอสมควร แต่วรรณกรรมระดับขึ้นหิ้งหลายเรื่องกลับไม่เคยแตะ เช่น เพรพระอุมา, สามก๊ก, นิยายของทมยันตี (รู้สึกจะเคยอ่านแต่คู่กรรม), นิยายของโกวเล้ง, นิยายของกิมย้ง, Jane Austen, Paolo Coelho, Dostoevsky ฯลฯ พวกที่กำลังเป็นที่นิยมก็ไม่อ่านเหมือนกัน อย่างซีรีส์ Twilight Saga, Harry Potter, Shopaholic...ฯลฯ
24.มีหนังสือเรื่องไหนที่มีอิทธิพลต่อความคิดหรือต่อชีวิตบ้างรึป่าว
ส่วนใหญ่จะผสมปนเปกันไปมากกว่า แนวคิดนี้จากเล่มนึงผสมไปกับเล่มนู้นเล่มนี้ อาจมีผลให้เริ่มเปิดโลกทรรศน์ในเรื่องที่ไม่เคยคิดถึง หรือมองในมุมกลับดูบ้าง แต่ไม่มีเล่มไหนที่ถึงกับทำให้จุดประกายมองโลกต่างไปชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
25.สามสี่ปีมานี้ รู้สึกว่าหนังสือแพงขึ้นบ้างรึป่าว
มากกก จนกลายเป็นแฟนประจำร้านมือสองไปเลย ซึ่งก็ยังค่อนข้างแพงอยู่ดีถ้าหากเป็นมือสองที่ค่อนข้างใหม่
อนึ่ง คอมเม้นต์เกี่ยวกับทุกเรื่องที่ยกมาตอบด้านบนเป็นความเห็นส่วนตัวของเราแต่เพียงผู้เดียวนะคะ ใครคิดเห็นไม่เหมือนกันก็ถือเป็นเรื่องความแตกต่างทางรสนิยมละกันนะ
Create Date : 28 กันยายน 2554 | | |
Last Update : 14 ตุลาคม 2554 10:52:40 น. |
Counter : 1013 Pageviews. |
| |
|
|
|