|
รักละมุนของคุณพ่อสื่อ โดย พุดพิชญา
รักละมุนของคุณพ่อสื่อ by พุดพิชญา
My rating: 3 of 5 stars
เรื่องย่อ: เพราะเหตุการณ์เข้าใจผิด แบบไม่น่าอภัย ทำให้ ชมบุญ เจ้าของนิตยสารใจรัก ได้มาเจอกับ กรินทร์ หนุ่มหล่อเข้มจอมกวน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เธออายแทบแทรกแผ่นดินหนีเพราะ พฤกษ์ หนุ่มที่หมายปองดันอยู่ในเหตุการณ์ด้วย และโชคก็เข้าข้างเมื่อเธอได้รู้ว่านายจอมกวนเป็นน้องชายของพฤกษ์ งานนี้จึงต้องให้กรินทร์ไถ่บาปอย่างด่วนด้วยการเป็นตัวช่วยให้เธอได้โอกาส ใกล้ชิดกับหนุ่มในฝัน แต่แล้วสวรรค์ก็กลั่นแกล้งเธออีกครั้ง เพราะไม่ทันไรว่าที่เจ้าสาวของเขาก็ปรากฏตัวแล้วไฉนนับวันฟ้าก็ยิ่งเป็นใจ ให้เธอเห็นนายจอมกวนน่ารักแบบนี้ล่ะเนี่ย
คอมเม้นต์:เป็นเรื่องแนวสบายๆ ที่อ่านลื่น แป๊บเดียวจบ ผู้เขียนบอกตั้งแต่คำนำว่าอยากเขียนเรื่องที่ไม่มีตัวอิจฉาหรือผู้ร้าย ออกแนวกุ๊กกิ๊กน่ารัก ซึ่งเป็นแบบนั้นจริงๆ
พระเอกเรื่องนี้ต้องบอกว่าสุภาพบรุษสุดลิ่มทิ่มประตู กว่าจะยอมทำตามหัวใจเรียกร้องนี่ทำเอาคนอ่านแทบถอนใจเฮือก (สงสัยเพราะก่อนหน้านี้อ่านแนวพระเอกหัวรั้นและช่างหื่นมากไปหน่อย ฮา) สารภาพว่าตอนต้นๆ เรื่องขัดใจกับชมบุญเล็กน้อยตรงที่ชอบทำตัวเป็นป้าแก่ ไม่แต่งหน้าแต่งตัวให้มันดีๆ มั่ง แต่ก็นะ เธอทำงานเป็นรองบรรณาธิการในนิตยสารประโลมโลกซึ่งเป็นกิจการครอบครัว ก็เลยอนุโลมได้บ้างว่าเพราะไม่ค่อยต้องแต่งตัวสวยๆ ออกไปเจอใคร แต่นิสัยชอบโวยวายและพูดตรงๆ ก็น่ารักดี ซึ่งก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไมพอรู้จักกับพระเอกมากขึ้น ค่อยๆ พัฒนาความรู้สึกในใจให้กันแล้วกรินทร์ถึงได้รักชมบุญ เพราะเธอทำให้ชีวิตเขาสว่างไสวขึ้นจริงๆ
เรื่องนี้ตัวประกอบบทเด่นกันทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝั่งครอบครัวนางเอก ไม่ว่าพ่อ น้า น้องสาว น้องเขย พฤกษ์ที่เป็นรักแรกของชมบุญ หรือสุนีที่เป็นนักเขียนนิยายประจำของนิตยสาร ไม่เว้นกระทั่งเจ้าบุญเกิบ หมาพันธุ์ผสมตัวน้อยของนางเอกที่เจอพระเอกทีไรต้องหาเรื่องกัดทุกครั้งไป แต่อ่านๆ ไป พานจะให้นึกว่าก้องเกียรติ น้องเขยของชมบุญนี่ต่างหากพ่อสื่อตัวจริง เพราะไปๆ มาๆ ตาคนนี้นี่แหละที่มีส่วนให้คู่พระนางเขาลงเอยกันมากกว่าคนอื่นๆ
ชอบสไตล์เรื่องแบบนี้นะคะ แต่เสียดายที่ดราม่าน้อยไปนิดนึง ถ้ามีฉากเค้นอารมณ์เพิ่มได้อีกนิดจะเจ๋งมากๆ
View all my reviews
Create Date : 25 เมษายน 2555 | | |
Last Update : 25 เมษายน 2555 10:47:15 น. |
Counter : 1054 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
บ่วงรักคนพาล โดย พรรษ
บ่วงรักคนพาล by พรรษ
My rating: 4 of 5 stars
เรื่องย่อ: จะไปไหน
เขาเอ่ยถามทันทีที่เธอก้าวไปยังประตู
ก็กลับนะสิ
เธอตอบกลับเหมือนเธอไม่ได้สนใจสิ่งที่เสียไปเลยสักนิด
คุณอยากได้อะไรก็ว่ามา ผมจะให้ทุกอย่าง หรืออยากจะแต่งงานกับผมก็ยังได้ ผมยินดีรับผิดชอบ
ไม่ต้อง!! ถึงฉันจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อีกแล้ว แต่ฉันก็เลือก ผู้ชายชั่ว ๆ อย่างคุณ ฉันไม่เอา
เหมือนโดนตบหน้า เขาดึงแขนเธอใจเอาไว้ แล้วเอ่ยถามเสียงเย็น
เป็นเมียผมแล้วไง?
ฮึ..ไม่มีผู้ชายดี ๆ ที่ไหนเขาข่มขืนผู้หญิงกันหรอก แล้วอย่าพูด ว่าฉันเป็นเมียคุณอีก!!
คอมเม้นต์: เรื่องเริ่มต้นไม่ค่อยสวยงามสำหรับคู่นี้ อันมาจากความประทับใจแรกๆ ต่อกันที่ไม่ได้ดีมากมาย นับตั้งแต่ที่รวมพล หรือ "นายเล็ก" ของเหมืองแร่ดีบุกขับรถเฉี่ยวครูปลื้มใจ บัณฑิตครูหมาดๆ ที่ตั้งใจมาสร้างโรงเรียนแก่เด็กชาวเขาโดยต่างฝ่ายไม่รู้ว่าอีกคนเป็นใคร (เหมืองอยู่ที่ตากค่ะ) หรือตอนปลื้มใจตามคชา เพื่อนของรวมพลซึ่งเป็น ตชด. ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลเนื่องจากพระเอกโดนยิง แล้วเขาก็ยังอุตส่าห์ไม่วายเจ้าชู้หาเศษหาเลยกับเธอทั้งที่ยังไม่รู้จักกัน จนถึงขั้นเลวร้ายสุดๆ ก็ตอนที่เขาเมาแล้วข่มขืนเธอ เพราะเข้าใจว่าจะมาเป็นเมียน้อยอีกคนของพ่อ เรียกได้ว่าถ้าไม่ใช่เพราะนางเอกเป็นเด็กกำพร้าที่มีความมุ่งมั่นในวิชาชีพสูง เธอคงไม่อยู่ทนในต่างจังหวัดที่ไม่ใช่บ้าน แต่เพียงเคยมาออกค่ายสมัยเป็นนักศึกษาจนพอจะคุ้นเคยกับผู้คนที่นั่นอยู่บ้างแน่ๆ
พระเอกเรื่องนี้โดนนางเอกด่าว่าเลวว่าชั่วไปเยอะ ซึ่งก็สมควรจริงๆ เพราะก่อนจะมาติดใจนางเอกได้ เขาเป็นเสือผู้หญิงตัวยงชนิดเกือบจะไม่เลือก แล้วพอมาติดใจนางเอกหลังข่มขืนไปแล้ว ก็ยังอุตส่าห์หาทางมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ แล้วใช้คำพูดยั่วยุ ซึ่งความปากเสียของพระเอกก็ดูจะเป็นหนึ่งในนิสัยที่พ่อเจ้าประคุณเลิกยากจริงๆ เพราะขนาดในที่สุดได้แต่งงานกัน หลงรักเธอมากขึ้นและพยายามปรับปรุงตัวแล้ว ก็ยังใช้คำพูดที่ทำให้เธอช้ำใจบ่อยๆ รวมพลเป็นแบบอย่างพระเอกแบดบอยของแท้ คือเสือผู้หญิง ขี้เหล้า (ตอนหลังยอมเลิกเพราะนางเอก) ปากร้าย เอาแต่ใจเพราะเป็นลูกคนเดียวที่พ่อตามใจมาก โกรธง่ายหายไว น้ำใจแบบนักเลง รักแรงหึงแรง บางทีก็มุ่งมั่นใจร้อนแบบเด็กๆ แต่ก็ดูเข้ากันดีเวลาอยู่กับนางเอกที่เป็นครูแบบเข้มข้น แถมหลังจากแต่งงานแล้วเขาก็พยายามปรับปรุงตัวเองจริงๆ เพียงแต่ความไม่ไว้ใจของนางเอกก็ทำให้เขาน้อยใจไปหลายครั้งเหมือนกัน
ส่วนปลื้มใจที่เป็นนางเอก ถ้าตามท้องเรื่องที่เธอเป็นบัณฑิตครูจบใหม่ ก็น่าจะอายุราวๆ 23-24 ซึ่งเท่ากับอ่อนกว่าพระเอก 6-7 ปี แต่บุคลิกและความคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่กว่าโข อาจเพราะลำบากที่ไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก แถมพอเจอพระเอกก็โดนแต่เรื่องให้เสียน้ำใจ ดังนั้นเวลาที่เขามาทำดีเอาอกเอาใจ เธอก็เลยไม่อาจวางใจได้สนิท อาจดูบุคลิกและการโต้ตอบพระเอกแข็งๆ ไปหลายครั้ง ทำพระเอกเจ็บตัวเพื่อเอาคืนก็หลายหน ทั้งใช้แจกันฟาดหัวแตกมั่ง เอาไม้เรียวตีจนหน้าเป็นแผลมั่ง แต่เราว่าถ้าคนที่ผ่านประสบการณ์เลวร้ายมาตั้งแต่เด็กจริงๆ ก็คงเป็นแบบนี้แหละ คือจะสู้ชีวิต ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ แล้วไหนพระเอกจะชอบมัดมือชกทุกเรื่องอีก จนกระทั่งเธอใกล้คลอดก็ยังไม่วายทำให้เธอเสียใจ แต่ก็ทำให้อ่านไปลุ้นไปว่าคู่นี้จะลงเอยกันได้ยังไงแบบตัวโก่งเหมือนกันนะ
สำหรับเรื่องนี้ ตัวละครที่เราชอบที่สุดกลับเป็นพยัคฆ์ ลูกน้องที่พระเอกเลี้ยงไว้ตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็ชอบตามติดเจ้านายต้อยๆ เป็นห่วงเป็นใย สั่งให้ทำอะไรก็ทำ แถมบางทีเห็นนายทำอะไรไม่ถูกต้องก็ท้วงกันตรงๆ แล้วก็เป็นหนึ่งในคนที่คอยช่วยประสานเวลาพระเอกนางเอกผิดใจกันด้วย ถ้าหากใครเคยอ่านมหาลัยเหมืองแร่ของลุงอาจินต์ ปัญจพรรค์ พยัคฆ์จะให้อารมณ์แบบไอ้ไข่ที่ชอบติดอาจินต์อย่างนั้นเลย คือเป็นเด็กหนุ่มใสซื่อ หัวไว ขี้สงสัยและทะเล้นหน่อยๆ ที่น่าดีใจก็คือตอนนี้คุณฝนกำลังเขียนเรื่องให้พยัคฆ์เป็นพระเอกเองด้วย นี่เราก็รอติดตามเรื่องนี้อย่างใจจดจ่ออยู่เหมือนกันค่ะ
Create Date : 20 เมษายน 2555 | | |
Last Update : 21 เมษายน 2555 15:10:37 น. |
Counter : 2399 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ดาวดินสิ้นฟ้า สาละวิน โดย ณ พิชา
ดาวดินสิ้นฟ้า สาละวิน by ณ พิชา
My rating: 5 of 5 stars
เรื่องย่อ: ปาลี แฝดผู้พี่ ตัดสินใจเดินทางมาทำงานที่เชียงใหม่ และได้มาอยู่ร่วมกันอีกครั้งกับ สันสกฤต แฝดผู้น้อง เรื่องราวของเธอทั้งสองเริ่มต้นเดินทาง ผ่านเกลียวแห่งสายน้ำจากลุ่มน้ำสาละวิน
แสงฉาน จากรัฐฉานในสหภาพพม่า ผู้แบกภาระหน้าที่จากบ้านเกิดเมืองนอน ในฐานะปัญญาชนรุ่นใหม่อันเป็นความหวังของชาวไทยใหญ่
สันสกฤต แฝดผู้น้องที่มีความเป็นตัวตนชัดเจนยิ่ง กับการเรียนขั้นสูงของเธอที่ทำให้เธอต้องเดินทางข้ามน้ำสาละวินเพื่อศึกษา ให้ลึกซึ้งเรื่องชาติพันธุ์ และพบพานอย่างไม่ลงรอยนักกับนายทหารฝ่ายพม่า
ทินเมียนอู นายทหารข่าวกรองพม่าที่เป็นคลื่นลูกใหม่ ประจำเมืองตองยีแห่งรัฐฉาน หน่วยข่าวกรองที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถและมันสมองอันล้ำหน้าทุกสิ่งที่ เขาทำ...ก็เพื่อประเทศของเขา
ใต้ผืนดาวอันกว้างใหญ่ สี่หนุ่มสาวเวียนมาพบกันด้วยชะตาฟ้าลิขิต
ท่ามกลางความบีบคั้นทางการเมืองแห่งรัฐประหาร พวกเขาและเธอต้องใช้ความเชื่อมั่นฝ่าฟันไปด้วยตัวเอง
คอมเม้นต์: ไม่รู้เป็นอะไร ถ้าเจอนิยายที่อ่านแล้วชอบ และยิ่งพบว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงจะชอบอวยออกหน้าออกตา เขียนรีวิวยาวๆ ได้โดยไม่รู้สึกเบื่อ เพราะอยากให้คนเขียนเขาได้รู้และมีกำลังใจว่าผลงานที่สร้างสรรค์ออกมานั้นมีคุณค่า และนี่ก็เป็นเรื่องที่เราอยากเชียร์ออกนอกหน้าอีกเรื่องหนึ่งค่ะ
สำหรับ "ดาวดินสิ้นฟ้า สาละวิน" นี้จะค่อนข้างแหวกแนวจากเรื่องอื่นในท้องตลาด เพราะว่าพระเอกไม่ใช่ชาวต่างชาติจากประเทศที่พัฒนากว่าเรา แต่เป็นชาวพม่า! สำหรับในเรื่องนี้จะมีตัวละครที่เดินเรื่องสองคู่ โดยนางเอกเป็นฝาแฝดชาวไทย แฝดพี่ชื่อปาลี (ชื่อเล่นว่าบี) ส่วนแฝดน้องชื่อสันสกฤต (ชื่อเล่นว่าซี) ปาลีจะนิสัยออกสุขุม พูดน้อยและดูไม่ค่อยแสดงออก แต่ชอบแสดงตัวตนออกมาผ่านการขับรถเร็วยังกับซิ่งฟอร์มูล่าวัน ในขณะที่สันสกฤตจะออกแนวม้าดีดกะโหลก ปากกล้า ชอบตัดสินใจอะไรเร็ว ออกนิสัยน้องสาวคนเล็ก เรื่องเปิดโดยที่ปาลีซึ่งทำงานองค์กรด้าน NGO ต้องย้ายมาประจำอยู่ที่เชียงใหม่ จึงได้มาอยู่บ้านเช่าเดียวกับน้องสาวที่พอเรียนจบตรีที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ต่อปริญญาโทเลย โดยเราก็จะได้เรียนรู้ประวัติตัวละครไปด้วยว่าสองคนนี้ตอนเด็กๆ พ่อแม่แยกทางกัน แต่เราชอบตรงที่สองสาวไม่ได้โตมาแบบเด็กมีปัญหา และไม่มีเรื่องแม่เลี้ยงใจร้าย เพียงแต่พวกเธอก็จะมีบุคลิกเชื่อมั่นในตัวเองและค่อนข้างรักอิสระตามการเลี้ยงดูของครอบครัวเท่านั้น
สำหรับฝ่ายพระเอก คู่ของปาลีคือแสงฉาน ชาวรัฐฉานเชื้อสายไทยใหญ่ซึ่งถูกมองเป็นชนกลุ่มน้อยในพม่า แต่เจ้าตัวเขาจะเป็นนักวิชาการที่ได้มาศึกษาในไทยและอังกฤษ ก็เลยค่อนข้างจะเข้าใจวัฒนธรรมไทยอยู่หลายส่วน โดยที่แสงฉานเคยเป็นอาจารย์สอนสันสกฤตมาก่อน ตอนแรกที่เจอปาลีเขาก็ทักผิด แต่ต่อมาก็เริ่มแยกออกว่าแฝดพี่นิสัยไม่เหมือนแฝดน้อง และนิสัยที่ดูชอบเก็บตัวและประหยัดถ้อยคำของปาลีก็ถูกแสงฉานมองออกว่ามันเป็นเปลือกที่เธอพยายามปกปิดตัวตนแท้จริงไว้ ทำให้เขาเริ่มสนใจเธอมากขึ้นเพราะรู้สึกว่าคล้ายกับตัวเอง และต่อมาก็มีเหตุให้ปาลีต้องเดินทางไปเยี่ยมบ้านของแสงฉานและได้พบครอบครัวของเขาด้วย ทำให้ทั้งคู่ค่อยๆ ใกล้ชิดกันมากขึ้น
ส่วนคู่ของสันสกฤตคือทินเมียนอู เป็นทหารหน่วยข่าวกรองของพม่าและเชื้อสายพม่าแท้ ตอนฉากพบกันครั้งแรกของคู่นี้คือสันสกฤตเดินทางไปพม่ากับอาจารย์และรุ่นพี่ในรัฐฉานเพื่อหาข้อมูลประกอบการทำวิจัย แล้วเธอแอบไปเดินเล่นคนเดียวและถ่ายรูปอาคารที่ทำการของเขา เลยโดนพ่อทินเข้ามาขอดูพาสปอร์ต แต่เพราะพ่อเจ้าประคุณไม่ได้ใส่เครื่องแบบทำให้สันสกฤตไม่รู้ว่าเขาเป็นทหาร ก็เลยเถียงใหญ่จนกระทั่งเขาประกาศยศออกมาว่าเป็นร้อยโทในหน่วยข่าวกรอง แล้วก็เดินไปส่งเธอที่ที่พักแบบที่สันสกฤตไม่เต็มใจ หลังจากนั้นคู่นี้ก็มีโอกาสเจอและประคารมกันอีก ความที่สันสกฤตหัวค่อนข้างทันสมัยและเรียนเกี่ยวกับเรื่องชาติพันธุ์ในพม่า เธอเลยกล้าต่อว่าประเทศเขาเสียๆ หายๆ หลายอย่าง แต่ทินเมียนอูถึงจะไม่ชอบใจและเถียงกลับ แต่เขาก็ไม่ได้จับเธอไปขังหรือรายงานกับเบื้องบน และต่อมาตอนที่สันสกฤตกับคณะจะกลับเมืองไทย ก็มีอันให้ประจวบเหมาะกับที่วันนั้นเกิดรัฐประหารในพม่า สันสกฤตซึ่งจับพลัดจับผลูแยกกับคณะโดยไม่ตั้งใจเลยได้ทินเมียนอูซึ่งถูกคณะรัฐประหารไล่ล่าเหมือนกันเพราะอยู่ในกองทัพฝั่งตรงข้ามช่วยพาหนีไปส่งชายแดนไทย ซึ่งระหว่างที่เขาช่วยพาเธอหนีนี่แหละที่สันสกฤตได้เรียนรู้ว่าทินเมียนอูไม่เหมือนทหารพม่าที่เธอเคยได้ยินมา และเขาก็เป็นสุภาพบุรุษและคอยปกป้องคุ้มครองเธอตลอดจนเธอได้กลับมาบ้านอย่างปลอดภัย
สารภาพว่าไปเห็นนิยายเรื่องนี้โดยบังเอิญและสะดุดกับชื่อเรื่องทันที เพราะว่าตอนนั้นกำลังเตรียมตัวจะไปเที่ยวพม่าอยู่ด้วย แต่ก่อนจะไปเราไม่มีเวลาอ่านเลย ทีนี้พอได้ไปเที่ยวมาแล้วเลยรีบหยิบเรื่องนี้มาอ่านเพราะกำลังพม่าฟีเวอร์เนื่องจากประทับใจสุดๆ และอ่านแล้วก็ตกหลุมรักทินเมียนอูทันทีค่ะ คือเนื้อหาในนิยายจะเขียนช่วงปี 2547 ซึ่งเป็นช่วงที่พม่ายังไม่เปิดประเทศ สถานการณ์ภายในไม่สงบเรียบร้อยเหมือนตอนที่เราไปเที่ยวซึ่งพม่าส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว (ไปปลายเดือน พย. 2554) สำหรับดีเทลในเรื่องจะอิงข้อมูลเยอะพอสมควร คุณฝน (ผู้เขียน) บอกเราว่ารายละเอียดอาจค่อนข้างเยอะ แต่เรากลับรู้สึกว่าอ่านแล้วรื่นไหลและไม่ได้เยอะจนเหมือนยัดเยียด เพราะถึงพม่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน แต่ส่วนใหญ่คนไทยก็ไม่ค่อยได้รู้เรื่องราวภายในของเขานอกจากเรื่องของอองซาน ซูจีอยู่ดี สารภาพว่าพอเราได้ไปเที่ยวพม่ามาเอง จากที่เฉยๆ กับประเทศนี้มาก่อน ตอนนี้เราประทับใจผู้คนที่นั่นไปเลยค่ะ เพราะเฟรนด์ลี่และไนซ์มาก อาจเพราะต้องอยู่กับรัฐบาลทหารกันมานานและกฎหมายเข้มงวดด้วยหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่ทุกคนที่ได้คุยด้วย ไม่มีใครทำหน้าอี๋ว่าเรามาจากประเทศไทยเลย แถมยังบอกว่าอยากให้คนไทยไปเที่ยวพม่าเยอะๆ อีก เพราะบ้านเมืองเขาสวยจริงๆ อนุรักษ์โบราณสถานกันไว้ได้ดีมากจนเราอายกับของเมืองไทยเลยแหละ และที่สำคัญ ทำเอารู้สึกว่าเข้าใจกระแสคนพม่าที่ต่อต้านหนังพระนเรศวรไปเลย เพราะท่าน ผกก. วาดภาพพม่าว่าเสียๆ หายๆ อย่างเดียว ทั้งที่อารยธรรมเขาก็ยิ่งใหญ่และมีที่มาสืบย้อนไปหาหลักฐานได้ก่อนเราตั้งหลายร้อยปี
สำหรับเรื่องนี้ แนะนำสำหรับคนที่อยากอ่านนิยายมีสาระ ไม่มีตัวอิจฉา ไม่มองอะไรแบบขาวกับดำเกินไป บทหวานมีพอประมาณแต่ไม่เลี่ยน (แถมอยากให้มีเยอะกว่านี้ด้วยซ้ำสำหรับทินเมียนอู เพราะเป็นพระเอกทรหดที่ต้องอดทนกับสันสกฤตเยอะชะมัด) และนอกจากเรื่องความรักของหนุ่มสาวก็มีเรื่องความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวด้วย ทั้งครอบครัวของแสงฉาน ครอบครัวของปาลีกับสันสกฤต หรือแม้แต่ครอบครัวของทินเมียนอูที่แม้จะแค่ถูกเอ่ยถึงแต่ก็รู้ได้เลยว่าพระเอกเราก็รักครอบครัวเหมือนกัน เป็นหนึ่งในนิยายดีท่ามกลางแนวตลาดดาษดื่นที่อยากเชียร์สุดใจ และถ้าใครอ่านแล้วชอบก็สามารถเสิร์ชหาไอดีของ ณ พิชาในเด็กดีเพื่ออ่านตอนพิเศษหรือนิยายเรื่องอื่นของคุณฝนได้ด้วยค่ะ
View all my reviews
Create Date : 13 ธันวาคม 2554 | | |
Last Update : 15 ธันวาคม 2554 9:46:36 น. |
Counter : 2147 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Digital Fortress (ล่ารหัสมรณะ) โดย แดน บราวน์
Digital Fortress by Dan Brown
My rating: 5 of 5 stars
เรื่องย่อ: เมื่อเครื่องถอดรหัสทรงประสิทธิภาพที่สามารถถอดรหัสได้ทุกชิ้นทั่วโลกของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติหรือ เอ็นเอสเอ ของสหรัฐฯ เผชิญหน้ากับรหัสลึกลับที่ไม่สามารถถอดได้ เอ็นเอสเอจึงต้องเรียก ซูซาน เฟล็ตเชอร์ หัวหน้าฝ่ายถอดรหัสสาวสวยผู้ปราดเปรื่องมาช่วยแก้ไข แต่สิ่งที่เธอค้นพบสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งวงการข่าวกรอง เอ็นเอสเอกำลังตกเป็นตัวประกัน มิใช่โดยการจี้หรือวางระเบิด แต่โดยรหัสชิ้นหนึ่งที่ซับซ้อนชาญฉลาดจนหากเผยแพร่ออกไปเมื่อใด ก็จะทำให้วงการข่าวกรองของสหรัฐฯ ต้องกลายเป็นอัมพาตทันที ซูซาน ซึ่งตกอยู่ในวังวนแห่งความลับและความหลอกลวง ต้องต่อสู้เพื่อรักษาหน่วยงานที่เธอศรัทธา แม้จะถูกคนรอบข้างทรยศ แต่เธอก็ต้องต่อสู้ มิใช่เพียงเพื่อประเทศชาติและชีวิตของเธอเองเท่านั้น แต่ยังเพื่อชีวิตของชายที่เธอรักอีกด้วย...
คอมเม้นต์: เนื่องจากอ่านนานแล้วเลยค่อนข้างลืมเนื้อหาไปเยอะเหมือนกัน เรื่อง Digital Fortress นี้แปลและจัดทำเป็นภาษาไทยแล้วในชื่อ "ล่ารหัสมรณะ" แปลโดย อรดี สุวรรณโกมล และ อนุรักษ์ นครินทร์ ที่ซื้อเรื่องนี้มาอ่าน เพราะว่าติดใจการผูกเรื่องของแดน บราวน์ หลังได้อ่าน Da Vinci Code และตามด้วย Angels & Demons ซึ่งส่วนตัวชอบเรื่องหลังมากกว่า พอไปเห็นเรื่องนี้ที่ร้านคิโนะ อ่านคำโปรยแล้วก็น่าจะเข้าทางเลยหยิบมาเลย
เนื้อหาของเรื่องนี้จะต่างจากสองเรื่องแรกที่สร้างชื่อให้ผู้เขียนในเมืองไทยพอสมควร เพราะว่าไม่ได้เล่นธีมกับศาสนาหรือประวัติศาสตร์ศิลปะอีก แถมตัวเดินเรื่องก็เป็นผู้หญิง โดยเธอมีอาชีพเป็นนักแกะโค้ดหรือพวกรหัสลับแห่งหน่วยงานรักษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ แต่เรื่องนี้ก็ชวนลุ้นตัวโก่งเหมือนกันเพราะนางเอกต้องใช้ความสามารถและไหวพริบในการพยายามแกะรหัสสำคัญเพื่อปกป้องทั้งศูนย์ที่ทำงานของเธอและของประเทศชาติเอาไว้ เรื่องนี้มีพระเอกซึ่งเป็นคู่หมั้นของเธออยู่แล้ว ถึงจะบทบาทในเรื่องค่อนข้างน้อย แต่เขาก็มีส่วนช่วยเหลือในการแกะรหัสของเธอเหมือนกัน เรื่องจะเกิดขึ้นแบบรวดเร็วและต้องแก้ปริศนาให้สำเร็จลุล่วงในเวลาสั้นๆ เหมือนดาวินชี่ โค้ด กับ Angels & Demons ถ้าใครชอบแนวแดน บราวน์อยู่แล้ว เล่มนี้ไม่น่าพลาดอย่างยิ่งค่ะ
View all my reviews
Create Date : 23 ตุลาคม 2554 | | |
Last Update : 23 ตุลาคม 2554 18:14:43 น. |
Counter : 2894 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ทิพยปักษา โดย ญามิวอาห์
ทิพยปักษา by ญามิวอาห์
My rating: 3 of 5 stars
เรื่องย่อ: กลิ่นนิโลบลที่ติดกายแต่กำเนิดเป็นพร ความงามพิสุทธิ์คือสวรรค์สร้างบรรจง ก่อกำเนิดเป็นมัญชรี...นางเทพกินรีแรกดรุณ มณีงามแห่งหิมพานต์พนาไพร ทว่าบุปผชาติหอมแรงดึงดูดเหล่าภมรได้ดีฉันใด กลิ่นเนื้อนวลนางก็อาจชักนำภัยสู่ตัวได้ดีฉันนั้น มัญชรีจึงเร้นกาย ถวายตนเป็นข้าบาทบริจารกในพระแม่ลักษมี รักสูงสุดมอบไว้แด่พระองค์ แต่ที่เคยยึดมั่นก็พลันมลายเพราะจ้าวแห่งเวหาพญาสุบรรณ ราชพาหนะแห่งองค์นารายณ์ เพียงไม่กี่เพลาที่ได้พานพบ... ได้ช่วยเหลือ... ได้ชิดใกล้... ความผูกพันอันไม่ทราบที่มาก็ก่อเกิดรัดรึง กลายเป็นความรู้สึกซึ่งต้องเก็บงำ นางมิปรารถนาสิ่งใด เพียงแค่ได้ระลึกถึงเขา...เท่านี้ก็สุขใจ กระทั่งพระราหูเทพอสูรแผ่เงื้อมเงามายังปักษานคร เข้าร่วมชิงชัยในพิธีสยัมพร ด้วยมาดหมายในดรุณีผู้จรุงกลิ่นนิโลบล มัญชรีไม่ต้องการเป็นชายาภายใต้นามใครที่ไม่ใช่เขา...ปตตรินทร์ หากนางจะทำกระไรได้ ครุฑสูงส่งฤๅจะเหลือบแลเพียงกินรีเช่นนาง
คอมเม้นต์: ว่ากันในส่วนที่ชื่นชมก่อนละกันเนอะ
- ภาษาสวยงาม อ่านแล้วรื่นไหลไม่สะดุด ข้อนี้ยกนิ้วให้
- เนื้อหาในโลกหิมพานต์ อ่านแล้วเนียนดี ผู้เขียนทำการบ้านศึกษามาดีมาก เลยไม่รู้สึกแปร่งเหมือนเอาโลกปัจจุบันเข้าไปเอี่ยวเลย
- การนำเรื่องของนางกากีมาตีความใหม่ ทำให้ได้มองในอีกแง่มุมหนึ่ง
ว่าด้วย...ส่วนที่ทำให้ตัดใจมอบเรื่องนี้แค่สามดาว และทำเอาจะหยุดอ่านเสียหลายครั้ง -_-;
- พระเอกนิสัยน่ารำคาญมากกกกกกกกก ขี้น้อยใจ คิดเล็กคิดน้อย ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ นิสัยเหมือนเด็กๆ ชอบคิดว่าโลกและทุกคนรังแกฉัน (อ่านแล้วรู้สึกแบบนี้จริงๆ)
- ผู้ช่วยเยอะมากตลอดเรื่อง เอาเป็นว่าเรื่องนี้คงไม่อาจจบลงได้ด้วยดี ถ้าไม่มีเพื่อนของพระเอกและเพื่อนของนางเอกคอยช่วยเหลือทั้งลับๆ และต่อหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้รู้สึกว่าความเด่นของตัวเอกด้อยลง เพราะแทบไม่ต้องพยายามอะไรเองเลย (เว้นนางเอกตอนท้ายๆ เรื่อง)
- นอกจากชาติกำเนิดของพระเอกแล้ว ไม่มีฉากไหนแสดงถึงฤทธานุภาพที่ทำให้เธอคู่ควรจะเป็นพระราชพาหนะขององค์นารายณ์เลย
- รำคาญเพื่อนนางเอกที่ช่างจู้จี้ แต่ก็คิดไปพร้อมกันว่า เธอคนนี้ยังเหมาะจะเป็นพระเอกมากกว่าพระเอกจริงๆ อีก เพราะห่วงใยนางเอกตลอดเวลา ช่วยอะไรได้ก็ช่วยต่อให้ต้องเสี่ยงตัวเอง พระเอกยังไม่พยายามขนาดนั้นเลย
- เนื้อหาค่อนข้างเน้นความแตกต่างทางชาติพันธุ์เยอะ คือสาเหตุที่นางเอกไม่อยากเป็นชายาพระราหู นอกจากไม่พึงใจเขาเป็นการส่วนตัว ก็เพราะเขาไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกัน และนับถือองค์พระศิวะขณะที่นางนับถือองค์นารายณ์กับพระแม่ลักษมี เลยทำให้รู้สึกว่านางเอกมองโลกแคบไปหน่อย เราอ่านไปแล้วเอาใจช่วยพระราหูมากกว่าพระเอกอีก (เพราะรำคาญที่พระเอกเอาแต่สงสารตัวเองแล้วเที่ยวโทษคนอื่น)
จริงๆ เล่มนี้เป็นนิยายที่ดีนะคะ แต่องค์ประกอบหลายๆ อย่างไม่เข้าทางเรา เลยอ่านแบบแกนๆ มาก นี่ถ้าเล่มหนากว่านี้สงสัยได้อ่านข้ามช่วงกลางๆ แน่เลย =_="
View all my reviews
Create Date : 23 ตุลาคม 2554 | | |
Last Update : 23 ตุลาคม 2554 12:57:43 น. |
Counter : 861 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|