Group Blog
 
All blogs
 
แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก 10 (ครึ่งแรก)

A/N: สวัสดีกับ(ครึ่งแรก)ตอนใหม่ค่ะ รู้สึกตัวเองนิสัยเสียเหมือนกันนะเนี่ย เพราะความที่ไม่เขียนงานสต๊อคเอาไว้ ตอนใหม่ที่เอามาลงแต่ละทีก็เลยทิ้งช่วงจนทำคนอ่านอารมณ์ค้างอยู่บ่อยๆ ก็เลยต้องใช้วิธีแก้ด้วยการมาลงถี่แต่สั้นหน่อย ดีกว่าทิ้งช่วงนาน น้าน นาน แล้วมาทุ่มลงทีเดียวก็หายไปเป็นเดือนๆอีกล่ะค่ะ สำหรับตอนที่แล้วก็ทิ้งท้ายไว้ให้ลุ้นกันน่าดู แต่ในตอนนี้คนอ่านจะได้พบกับสิ่งที่คาดหวังและรอคอย(?)หรือไม่ ไปอ่านกันเลยละกันค่ะ

ป๋อหลอ. อย่างน้อยครึ่งแรกคราวนี้ก็ยาวน้า อิอิอิ


แนะนำ

สำหรับคนที่เพิ่งได้อ่านนิยายเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ขออธิบายล่วงหน้าว่าเรื่องนี้จะเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกสองคนซึ่งเป็นชายทั้งคู่ และอาจมีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน หรือคนที่ไม่นิยมเรื่องแนว Boy's Love ดังนั้นหากไม่ชอบอ่านนิยายแนวที่ไม่มีนางเอก ขอแนะนำว่าให้คลิกไปอ่านหน้า About me , เท้าพาไป หรือ พร่ำ(เพ้อ)รายสะดวก ซึ่งเนื้อหาจะเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปค่ะ เราเตือนคุณแล้วนะคะ



++------++


ตอนที่ 10. (ครึ่งแรก)


ในที่สุดการแข่งขันว่ายน้ำก็จบลง พร้อมๆกับที่เม็ดฝนเริ่มโปรยลงมาจากฟ้า ดูเหมือนระหว่างที่ทั้งสองแข่งกันนั้น ลมจะพัดเร็วขึ้นอย่างกะทันหันจนมวลเมฆครึ้มลอยมาเหนือแถบรีสอร์ทโดยไม่รู้ตัว ภัทรยกมือหนึ่งแตะข้างลำเรือซึ่งเป็นเส้นชัยขณะที่อีกข้างลูบน้ำออกจากหน้า ชายหนุ่มหอบหายใจหนักหน่วง ทรวงอกเพรียวสะท้อนขึ้นลงอย่างแรงเนื่องจากเพิ่งออกกำลังว่ายน้ำอย่างสุดตัวจนแทบหายใจไม่ทัน

“ฝนลงเม็ดแล้วสิ กลับขึ้นไปที่ห้องกันมั้ย?”

เชษฐ์ที่ลอยตัวอยู่ในน้ำไม่ห่างจากเขานักแหงนมองท้องฟ้าแล้วก็ถามขึ้น ภัทรจึงเบนสายตาไปยังคนพูด จากนั้นก็ขมวดคิ้วและทอดตาลงต่ำ ทั้งที่เมื่อครู่ใหญ่ก่อนหน้านี้เขายังอิดออดที่จะลงน้ำ แต่หลังจากที่ผลการแข่งขันออกมาแล้ว ตอนนี้เขากลับไม่ค่อยอยากกลับไปที่ห้องสักเท่าไหร่

“ภัทร”

คงเพราะเห็นว่าเขาไม่ตอบ คนตัวใหญ่จึงเรียกชื่อเขาแล้วก็ยื่นมือข้างหนึ่งมาให้ ภัทรเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าคมที่มีรอยยิ้มติดอยู่จางๆและมือที่อีกฝ่ายหงายมาตรงหน้าด้วยแววตาอ่านยาก ทว่าแทนที่ภัทรจะยื่นมือกลับไปหา เขากลับฉีกตัวว่ายน้ำไปอีกทาง

“ก็กลับสิครับ”

ภัทรเอ่ยขณะที่ว่ายน้ำผ่านหน้าเชษฐ์ ทำให้ได้ยินเสียงหัวเราะในคอเบาๆจากคนที่ว่ายตามมาข้างหลัง และยิ่งได้เห็นคุณผู้จัดการอารมณ์ดีมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหายใจไม่ทั่วท้องมากขึ้นเท่านั้น แต่หากใครที่ได้รู้เงื่อนไขของการแข่งขันก็คงไม่แปลกใจที่ฝ่ายนั้นจะอารมณ์ดี เพราะว่าตอนนี้คนที่ตกหลุมพรางต้องทำตามเงื่อนไขของการเป็นผู้แพ้ด้วยการ ‘ทำอะไรก็แล้วแต่ที่คนชนะสั่ง’ ดันเป็นเขานี่น่ะสิ

ทำไมเมื่อกี้ตอนโดนท้าให้แข่งถึงไม่รู้จักบอกปัดไปนะ คุณเชษฐ์ก็เหลือเกิน รู้ว่าตัวเองได้เปรียบยังจะมาสร้างเงื่อนไขแบบนี้กับเขาอีก นี่ถ้ามาขอให้เขาทำอะไรแผลงๆล่ะได้มีโกรธกันจริงๆแน่

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ภัทรก็ต้องรีบหยุดตัวเองไม่ให้คิดต่อ เขาไม่กล้าจินตนาการว่าจะโดน ‘ขอ’ ให้ทำอะไรที่ไม่อยากทำหรือไม่ จึงได้แต่รีบจ้วงแขนว่ายน้ำให้ทิ้งห่างจากเชษฐ์มากเข้าไปอีก ลมที่พัดแรงทำให้ฝนที่เป็นเพียงหยดน้ำเปาะแปะเมื่อครู่เริ่มทวีความแรงจนมองเห็นบ้านพักได้เพียงลางๆ ขณะที่เดินขึ้นไปบนชายหาด ภัทรก็นึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายถอดแว่นทิ้งเอาไว้แถวนั้นก่อนจะพาเขาลงน้ำ ชายหนุ่มจึงรีบเดินตรงไปยังจุดที่จำได้ว่าเห็นแว่นครั้งสุดท้าย พอพบแล้วก็รีบหยิบขึ้นมาแล้วใช้ปลายนิ้วปัดทรายออกอย่างเบามือ เพราะถ้าเกิดพลาดพลั้งทำให้เลนส์มีรอยขีดข่วนจะทำให้ต้องไปตัดเลนส์ใหม่ ภัทรเหลือบมองคนที่เดินตามขึ้นมาจากน้ำแล้วก็ยื่นของในมือให้โดยไม่สบตาด้วย

“ทีหลังอย่าโยนแว่นทิ้งแบบเมื่อกี้อีกนะครับคุณเชษฐ์ ถ้าเกิดหายไปหรือเลนส์เป็นรอยมันจะยุ่ง”

น้ำเสียงของคนพูดซึ่งคล้ายจะดุอยู่ในทีทำให้เชษฐ์เลิกคิ้ว แต่น่าแปลกที่ท่าทางและน้ำเสียงของภัทรไม่ได้ทำให้คนตัวใหญ่รู้สึกไม่พอใจเลยสักนิด ตรงกันข้าม ใบหน้าคมเข้มยิ้มอ่อนๆขณะที่รับแว่นกลับไปสวม

“จะจำไว้ก็แล้วกัน”

ทั้งสองรีบเดินกึ่งวิ่งกลับไปที่ห้องพักท่ามกลางพายุฝนที่กรรโชกแรงขึ้นเรื่อยๆ กว่าจะไปถึงหน้าชานพักและเชษฐ์หยิบกุญแจมาไขเปิดห้องได้ ฟ้าก็คะนองและมีสายฟ้าแลบแปลบให้เห็นเป็นระยะ ขนาดทั้งสองเข้าไปในห้องและงับประตูปิดสนิทแล้ว เสียงฟ้าร้องและเสียงน้ำฝนที่ตกกระทบสรรพสิ่งภายนอกก็ยังดังแทรกเข้ามาให้ได้ยินอย่างชัดเจน

เชษฐ์กดสวิตช์เปิดไฟในห้องก่อนจะปรายตามองคนข้างตัว จากนั้นก็ก้าวเร็วๆเข้าไปในห้องน้ำขณะที่ภัทรยืนกอดตัวเองด้วยความหนาวอยู่บนพรมเช็ดเท้าหน้าประตู เสื้อกับกางเกงที่ใส่อุ้มน้ำจนแนบติดกับเนื้อตัว และน้ำส่วนที่เนื้อผ้าดูดซับไม่ไหวก็หยดลงเป็นสายตามเรียวขาจนชุ่มผืนพรมที่รองอยู่ ปกติเขาก็เป็นคนไม่ค่อยได้ออกกำลังกายอยู่แล้ว เมื่อไปโหมออกแรงว่ายน้ำและวิ่งฝ่าฝนบนพื้นทรายเมื่อครู่จึงทำให้ใช้พลังงานไปมาก กล้ามเนื้อทั่วร่างจึงเมื่อยล้าไปหมดด้วยความไม่คุ้นชิน แต่ถ้าหากเขาทรุดตัวลงนั่งตอนนี้ ภัทรก็คิดว่าคงต้องใช้เวลาหลายนาทีแน่กว่าตัวเองจะลุกกลับขึ้นมาไหว

ชายหนุ่มได้ยินเสียงน้ำไหลดังซู่มาจากในห้องน้ำ ความแรงของน้ำและเสียงยามตกกระทบพื้นทำให้เดาได้ว่าเชษฐ์คงกำลังเปิดน้ำในอ่างอยู่ ไม่นานนักอีกฝ่ายก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนใหญ่สองผืนที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ ผืนหนึ่งคล้องอยู่รอบบ่าหนาที่ถอดเสื้อเปียกโชกออกไปแล้ว ร่างกายท่อนบนดูเหมือนจะโดนซับน้ำออกไปจนหมาด แต่กางเกงขาสั้นที่เจ้าตัวใส่ลงน้ำยังไม่ถูกถอดออกไป น้ำจึงหยดจากชายกางเกงลงบนพื้นเป็นทาง ภัทรกะพริบตาปริบๆเมื่ออีกฝ่ายใช้ผ้าขนหนูอีกผืนคลุมลงบนไหล่เขาแล้วก็ช่วยซับน้ำตามเนื้อตัวให้ จากนั้นก็ยกชายผ้าขึ้นมาเช็ดผมที่เปียกชุ่มของเขาให้อีกด้วย

"หนาวล่ะสิท่า ปากซีดเชียว เมื่อกี้ฉันเปิดน้ำอุ่นไว้ในอ่างแล้ว เดี๋ยวไปแช่ซะจะได้หายหนาว"

เชษฐ์พูดพลางใช้ปลายนิ้วโป้งไล้ริมฝีปากที่ซีดจนเกือบเขียวให้ภัทรอย่างแผ่วเบา เรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยด้วยความเป็นห่วง ครู่หนึ่งภัทรก็รู้สึกว่าผิวกายที่เย็นเฉียบของตนเริ่มอบอุ่นขึ้นมาบ้าง แต่เขาก็ไม่แน่ใจนักว่าเป็นเพราะผ้าขนหนูนุ่มฟูที่อีกฝ่ายใช้เช็ดตัวให้ หรือเพราะไออุ่นจากร่างที่ยืนใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจแผ่วๆที่เป่ารดลงบนหน้าผากกันแน่

ร่างเพรียวรวบชายผ้าทั้งสองด้านมาห่มตัวจนกลมดิก จากนั้นก็เอ่ยขึ้นช้าๆ สองตาจับแน่วนิ่งที่ช่วงบ่าของอีกฝ่ายเพราะไม่อยากมองต่ำลงไปกว่านั้น

"เดี๋ยวผมรอก็ได้ครับ คุณเชษฐ์เข้าไปอาบให้เสร็จก่อนเถอะ"

ภัทรพูดแล้วก็กระชับผ้าขนหนูรอบตัวมากขึ้น ไอเย็นจากแอร์ซึ่งหลงเหลือในห้องก่อนที่ทั้งสองจะออกไปเดินเล่น เมื่อรวมกับความเย็นจากพายุฝนภายนอกก็ทำเอาคนที่สวมเสื้อผ้าชื้นๆถึงกับตัวสั่น แต่ถึงจะต้องทนหนาวต่ออีกหน่อย เขาก็ยังยินดีจะรออาบน้ำโดยลำพัง ทว่าดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เห็นดีด้วย เพราะเชษฐ์ส่ายหน้าแล้วก็ออกแรงรั้งไหล่ภัทรให้เข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน

“ขืนรอให้ฉันอาบเสร็จก่อนเธอจะได้ไม่สบายเอาน่ะสิ ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองหนาวจนสั่นไปหมดแล้ว อาบพร้อมกันไปเลยนี่แหละ”

เสียงของอีกฝ่ายตำหนิเขาราวกับเป็นเด็กๆ ภัทรจึงนึกอยากจะเอ่ยแย้งและขืนตัวออก แต่ว่าก็จนใจเพราะตอนนี้เขาทั้งเหนื่อยทั้งหนาว ต่อให้อยากดื้ออย่างไรก็ดิ้นหนีมือใหญ่ที่ยึดไหล่ไว้แน่นไม่ไหวแน่

พอเข้าไปในห้องน้ำได้แล้ว เชษฐ์จึงยอมปล่อยมือจากร่างเพรียวแล้วหันไปล็อกประตู คราวนี้ภัทรจึงได้แต่ทำหน้ามุ่ย

“คุณเชษฐ์ ผมรอได้จริงๆนะครับ”

ชายหนุ่มพยายามจะขอร้อง แต่ดูเหมือนว่าคู่กรณีจะเริ่มหมดความอดทนเข้าไปทุกที เพราะว่าเชษฐ์ยกแขนทั้งสองขึ้นกอดอกแล้วก็ถามเสียงเฉียบขาด

“จะอาบด้วยกัน หรือให้ฉันอาบให้ก่อน?”

คราวนี้ภัทรหุบปากฉับ เพราะถึงแม้อีกฝ่ายจะยื่นข้อเสนอให้ แต่ไม่ว่าตัวเลือกเอหรือบีก็ไม่เข้าท่าสำหรับเขาทั้งนั้น สุดท้ายภัทรจึงได้แต่ตอบรับเสียงอุบอิบ ดูเหมือนว่าเขาจะดื้อกับคุณผู้จัดการไม่ขึ้นเลยจริงๆ

“...อาบด้วยกันก็ได้ครับ”


++------++


น้ำที่เชษฐ์เปิดรอไว้เริ่มเอ่อขึ้นจนเกือบถึงขอบอ่าง ภัทรเหลือบตามองคนที่หันไปปิดก๊อกน้ำก่อนจะถอดแว่นออกวางไว้ จากนั้นก็ดึงสายตากลับมาและเริ่มถอดเสื้อตัวเองออกช้าๆอย่างไม่ค่อยเต็มใจ

หลังจากที่ยอมตกลงว่าจะอาบน้ำด้วย ชายหนุ่มก็เอาผ้าขนหนูที่ห่มตัวเมื่อครู่ไปแขวนบนราวพาดข้างอ่างล้างหน้า เพราะถึงอย่างไรก็คงต้องฟอกสบู่และสระผมในห้องกระจกซึ่งกั้นไว้สำหรับอาบน้ำฝักบัวก่อนจะไปลงแช่น้ำอุ่น ความจริง ถ้าคุณผู้จัดการจะยอมฟังเขาสักนิด เขาก็คงขอให้ต่างคนต่างแยกกันอาบในอ่างกับในห้องกระจกไปแล้วในเมื่ออีกฝ่ายกลัวเขาจะไม่สบายนัก แต่ก็คิดว่าพอจะเดาคำตอบได้จึงไม่ได้เอ่ยออกมา

ภัทรเลื่อนมือลงปลดกระดุมกางเกงแล้วก็หยุดมือนิ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ยังทำใจรูดซิปกางเกงลงไม่ไหว ถึงแม้เขาจะใส่กางเกงในแบบบรีฟไว้ข้างในอีกชั้นก็ตาม แต่เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาถอดเสื้อผ้าให้อีกฝ่ายดูในสภาพมะล่อกมะแล่กแบบนี้

เอาเถอะน่ะ...คุณเชษฐ์ตอนนี้ก็ไม่ได้ดูดีไปกว่าเขาเท่าไหร่หรอก...

ภัทรพยายามปลอบใจตัวเอง พลันหางตาก็เห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายแวบๆ เช่นเดียวกับหูที่ได้ยินเสียงรูดซิปกางเกง ตามด้วยเสียงเฉอะแฉะของผ้าเปียกที่โดนรูดออกพ้นขาคนตัวใหญ่

ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจจะรับรู้ แต่ความที่ทั้งสองอยู่ในห้องน้ำด้วยกัน ภัทรจึงได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถของคนร่วมห้องเต็มสองหู หลังจากเชษฐ์โยนกองเสื้อผ้าที่เฉอะแฉะไว้มุมหนึ่งของห้องน้ำแล้วก็เปิดประตูเข้าไปในห้องกระจก จากนั้นภัทรก็ได้ยินเสียงเปิดน้ำฝักบัวซึ่งเป็นแบบที่ยึดติดไว้กับฝาผนัง ไอสีขาวลอยอวลขึ้นจากกระแสน้ำอุ่นที่สาดลงมาเป็นฝอยละเอียดจนทั้งห้องอุ่นขึ้น และภัทรก็รู้สึกได้ว่าสายตาของอีกฝ่ายกำลังจับจ้องมาที่ร่างของเขาไม่วางตา

“ต้องให้ถอดให้หรือเปล่า?”

คราวนี้เสียงคนถามไม่มีแววหงุดหงิดโมโห ฟังแล้วเหมือนกำลังอารมณ์ดีมากเสียด้วยซ้ำ ภัทรจึงได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น ผิวแก้มเริ่มร้อนขึ้นมาเพราะรู้ว่าสายตาของอีกฝ่ายยังไม่ละจากเขาไปไหน แต่ถ้าเขายังปักหลักยืนอยู่ในกางเกงเปียกๆแบบนี้ต่อไปล่ะก็ได้เป็นหวัดแน่ สุดท้ายภัทรจึงข่มใจแล้วบอกกับคนข้างหลังโดยไม่หันกลับไปมอง

“คุณเชษฐ์ก็หันหลังไปสิครับ เดี๋ยวผมถอดเสร็จก็ตามเข้าไปเองน่ะแหละ”

ถึงจะยังไงก็ต้องอาบน้ำด้วยกัน แต่ตอนถอดก็ขอความเป็นส่วนตัวบ้างก็ยังดี...

“งั้นก็ตามใจ”

ภัทรได้ยินเสียงเชษฐ์ตอบรับ จากนั้นก็ตามด้วยเสียงฟื้ดเหมือนอีกฝ่ายกดแชมพูจากขวดปั๊มไปขยี้บนผม ทำให้รู้ว่าอย่างน้อยอีกฝ่ายก็ยังฟังเขาบ้าง ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จากนั้นก็ตัดสินใจถอดเสื้อผ้าที่เหลืออยู่บนร่างกายให้เสร็จเสียที

จะช้าจะเร็วก็ต้องโดนเห็นอยู่แล้ว ขืนมัวแต่กระบิดกระบวนเหมือนผู้หญิงอยู่ก็คงน่าหัวเราะมากกว่ากระมัง...

เมื่อคิดตกแล้ว ชายหนุ่มก็รูดซิปแล้วดึงกางเกงทั้งตัวนอกตัวในออกพร้อมกันทีเดียว ถึงจะทุลักทุเลนิดหน่อยเพราะกางเกงทั้งสองชิ้นอุ้มน้ำจนหนักและแนบเนื้อจนรูดลงยาก หลังจากที่ร่างกายเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ใดปกคลุมอีก ภัทรก็ขยุ้มเสื้อผ้าเปียกๆของตนวางกองที่มุมห้องข้างเสื้อผ้าที่เชษฐ์ถอดทิ้งไว้ ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเดินไปเปิดประตูกระจกของส่วนที่กั้นไว้แล้วก้าวเข้าไปด้านใน

ดูเหมือนเชษฐ์ที่เข้ามาก่อนจะสระผมเสร็จแล้ว เพราะว่าภัทรเห็นแต่เรือนผมเปียกน้ำที่โดนเสยขึ้นไปจนลู่ มีเพียงคราบฟองสายเล็กๆบนไหล่ที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายเพิ่งจะล้างแชมพูออกไป และเนื่องจากห้องกระจกที่กั้นไว้สำหรับอาบน้ำนี้ไม่ได้กว้างขวางนัก แค่เพียงพอให้คนสองคนเข้ามาอาบน้ำพร้อมกันได้โดยไม่ถึงกับต้องยืนตรงเท่านั้น เชษฐ์ที่รับรู้ว่าภัทรเดินเข้ามาแล้วจึงหันมาหา สายตาคมกริบตวัดลงมองเขาทั้งร่างแวบหนึ่งก่อนจะยิ้ม และคนถูกมองก็รู้สึกว่าความร้อนแล่นลามไปทั้งหน้า

“ยิ้มอะไรครับคุณเชษฐ์ ผมก็มีเหมือนที่คุณเชษฐ์มีนั่นแหละ”

ภัทรพยายามบังคับสายตาให้มองแต่ใบหน้าของอีกฝ่ายเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะอายกับแววตาที่ทอประกายกรุ้มกริ่มชัดเจน แต่ก็ยังดีกว่าให้มองต่ำลงจนสายตาอาจไปปะทะกับ ‘อะไรๆ’ เข้า เพราะแค่เพียงเมื่อครู่ที่ได้มองด้านหลังอีกฝ่ายทั้งตัว เขาก็แทบอยากเดินหนีออกไปรอหน้าห้องน้ำอยู่แล้ว

ชายหนุ่มพยายามทำเป็นไม่สนใจสายตาของคนที่ยืนอยู่ก่อนแล้วก็เบียดตัวเข้าไปยืนใต้ฝักบัวบ้าง ภัทรหลับตาแหงนหน้าให้สายน้ำชะลงบนใบหน้าและลำตัวเพื่อจะได้ลืมว่าตัวเองยืนเปลือยอยู่กับใคร กระแสน้ำอุ่นจัดจนเกือบร้อนช่วยขับความหนาวออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี ผิวเนียนที่เย็นจนซีดเมื่อครู่จึงเริ่มมีสีเลือดฝาดขึ้นบ้าง แต่แล้วเสียงของเชษฐ์ที่เอ่ยถามกลั้วหัวเราะก็ทำเอาเขาต้องหันขวับไปมอง

“ใครบอกล่ะว่าเหมือนกัน?”

“คุณเชษฐ์!”

ภัทรตวาดแว้ด แต่เมื่อได้ประสานสายตากับนัยน์ตาคมกริบที่ทอประกายลึกซึ้งอย่างไม่ปกปิดความรู้สึก เขาก็รู้สึกว่าลมหายใจติดขัดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ภัทรเริ่มตระหนักว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาในเวลานี้เป็นเพียง ‘ผู้ชาย’ ธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ใช่ผู้จัดการ ไม่ใช่คนที่อายุมากหรือวุฒิการศึกษาสูงกว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บซ่อนอารมณ์หรือปิดบังความต้องการเหมือนกับเวลาที่พวกเขาอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ เพราะในยามนี้ ณ ที่ตรงนี้มีแต่พวกเขาสองคน และสิ่งที่เพิ่งตระหนักก็ทำให้ภัทรพูดอะไรต่อไม่ออก

ร่างเพรียวรีบหลบสายตาที่จ้องมองแล้วก็ยื่นมือไปหมายจะเปิดประตู เพราะสายตาร้อนแรงที่มองมาทำให้เขารู้สึกเหมือนหากไม่ถอยให้ห่างคงจะถูกหลอมละลาย แต่ก็ยังช้ากว่าอ้อมแขนกำยำที่เหนี่ยวเอวเขากลับไปโอบเอาไว้

“ยังอาบน้ำไม่เสร็จ จะรีบไปไหน”

เชษฐ์เอ่ยถามขณะที่กอดภัทรแน่นจากด้านหลัง ทว่าร่างเพรียวตกใจจนไม่ได้เอ่ยตอบ การแนบชิดที่เกิดขึ้นนั้นกะทันหันเกินไปจนเขาไม่ได้เตรียมตั้งรับ ถึงแม้ละอองน้ำจากฝักบัวจะยังคงหลั่งไหลมาโดนผิวกายของทั้งคู่ แต่ความอุ่นร้อนนั้นก็เทียบไม่ได้เลยกับอุณหภูมิของเลือดเนื้อที่กำลังแนบชิดกันอย่างไร้ที่ว่างในขณะนี้

ภัทรรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงจนแทบจะกระดอนออกมาจากอก จริงอยู่ว่าอ้อมแขนแข็งแรงวงนี้เคยโอบกอดให้ความอบอุ่นแก่เขามาแล้วไม่รู้ต่อกี่ครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทั้งสองจะชิดใกล้กันแนบแน่นโดยปราศจากสิ่งกั้นขวางเช่นครั้งนี้ ร่างที่ยืนตัวแข็งสะดุ้งเฮือกเมื่อรับรู้ถึงความรุ่มร้อนที่กำลังเบียดเนินเนื้อของเขาจากด้านหลัง

“คุณเชษฐ์...”

ภัทรเอ่ยเสียงสั่น ไม่กล้าแม้แต่จะขยับปลายนิ้ว ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว และใช่ว่าจะไม่ประสีประสาจนไม่รู้ว่าเพศชายด้วยกันนั้นปลดปล่อยความต้องการที่มีต่อกันอย่างไร แต่กระนั้นความหวาดหวั่นที่สลัดไม่หลุดก็ทำให้เขาไม่พร้อมจะรับมือกับอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ที่สำคัญที่สุด สถานการณ์ตรงหน้าก็ทำให้ภัทรได้คำตอบให้กับสิ่งที่เขาเฝ้าถามตนเองมาตลอดตั้งแต่เมื่อเย็นวาน

เขายังไม่พร้อมจะทำเรื่องนี้กับเชษฐ์...

อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในนาทีนี้ ไม่ใช่เพราะว่ารังเกียจหรือต่อต้าน แต่อะไรบางอย่างทำให้เขายังไม่กล้าพาตัวเองไปสู่ขั้นนั้น และสมองที่กำลังมึนงงของภัทรก็สับสนเกินกว่าจะวิเคราะห์ว่าคำตอบของอะไรบางอย่างนั้นคืออะไร

ทันทีที่ตระหนักถึงความจริงข้อนี้ ภัทรก็ให้ยิ่งลนลานกับสิ่งที่ยืนยันความปรารถนาในตัวเขาจากร่างแกร่งที่ยืนซ้อนอยู่มากยิ่งขึ้น เสียงหัวใจที่ถ่ายทอดมาทางแผ่นหลังทำให้วงจรความคิดของภัทรว้าวุ่น เขากลัวว่าถ้าหากพูดอย่างที่คิดออกไปจะทำให้เชษฐ์โกรธ แต่ถ้าไม่พูด คนที่อาจจะเสียใจทีหลังก็จะเป็นเขาเอง ชายหนุ่มเกร็งไหล่แล้วก็ปิดตาแน่นเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอ้อยอิ่งจากริมฝีปากบางที่จรดอยู่ข้างใบหู

ได้โปรดเถอะ อย่าเพิ่งขออะไรจากเขาตอนนี้เลย...

“...อยู่นิ่งๆสิ เดี๋ยวมันก็หายไปเองนั่นล่ะ”

เสียงกระซิบทุ้มต่ำที่แหบพร่าเล็กน้อยดังขึ้นข้างหู สิ่งที่ได้ยินทำให้ภัทรลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงุนงง แล้วก็ให้แปลกใจที่จู่ๆอ้อมแขนที่รัดรอบเอวเขาไว้แน่นก็คลายออกและเปลี่ยนเป็นโอบไว้เพียงหลวมๆ ร่างเพรียวสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะค่อยพรูออกมาอย่างแผ่วเบา แล้วก็ให้ลมหายใจสะดุดอีกเมื่อคนตัวใหญ่ก้มลงใช้คางเกยไหล่เขาไว้ แต่ว่านอกเหนือไปจากนี้แล้ว เชษฐ์ก็เพียงยืนกอดเขานิ่งๆโดยไม่ได้ขยับตัวอีก

หัวใจของภัทรที่เต้นแรงจนเจ็บอกเมื่อครู่ค่อยผ่อนจังหวะ จากรัวถี่ก็ช้าลง เนิ่นนาน...จนภัทรรู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองกลับมาเป็นปรกติ ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกและยาวติดต่อกันหลายครั้ง คิ้วที่ขมวดมุ่นเมื่ออึดใจก่อนค่อยคลายตัวลงหลังจากได้รับรู้ความเปลี่ยนแปลงอีกหนึ่งอย่าง

ความแข็งแกร่งและร้อนรุ่มที่กดดันเขาเมื่อครู่หายไปแล้ว

ภัทรค่อยๆเอียงหน้ากลับไปหาคนที่เกยคางอยู่บนไหล่ ถึงแม้ท่าทีที่เปลี่ยนไปของเชษฐ์จะทำให้เขาโล่งใจ แต่ความงุนงงที่ตามมาก็ทำให้ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ร่างเพรียวย่นคอด้วยความจั๊กกะจี้เมื่อโดนริมฝีปากบางก้มลงประทับบนบ่าอย่างรวดเร็วหนึ่งครั้ง ทว่าสัมผัสนั้นอ่อนโยนและไร้การรุกเร้าจนไม่ทำให้ตื่นกลัวอีก

“หายกลัวหรือยัง?”

เชษฐ์ถามพลางไซ้ปลายจมูกโด่งเข้าที่เรือนผมเปียกชื้นเหนือกกหูบาง ทว่าอ้อมแขนที่ยังโอบรอบเอวภัทรก็ยังคงอยู่ที่เดิม ไม่ได้เปะป่ายจาบจ้วง ทว่าก็ไม่ได้แสดงความเย็นชา ราวกับเพียงจะสื่อว่าอีกฝ่ายพร้อมจะให้ความอบอุ่นแก่เขาอยู่อย่างนั้น และจนกว่าเขาจะอนุญาตให้ล่วงล้ำได้ เชษฐ์ก็จะไม่ทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้

วินาทีที่ได้ตระหนักในความจริงข้อนี้ทำให้ความเต็มตื้นเอ่อท้นขึ้นในอกของภัทร

“ครับ...”

ชายหนุ่มหลับตาลงแล้วตอบเสียงเบา มือทั้งสองที่เมื่อครู่เตรียมจะผลักไสเจ้าของอ้อมแขนออกห่างกลับเพียงทาบทับบนลำแขนแกร่งราวจะยึดเอาไว้ ความหวาดกลัวในใจเมื่อครู่หายไปจนไม่เหลืออีกแล้ว กล้ามเนื้อทั่วร่างที่เกร็งเครียดเมื่อครู่ค่อยผ่อนคลายลง และภัทรก็ยอมปล่อยตัวเองให้พิงกับอกอุ่นที่รออยู่ด้านหลังแต่โดยดี เพราะเขารู้แล้วว่าเจ้าของแผ่นอกนี้จะไม่ทำร้ายเขาอย่างเด็ดขาด

ลมหายใจและจังหวะหัวใจของทั้งคู่ราวจะสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน ภัทรสูดกลิ่นสบู่อ่อนๆจากตัวของอีกฝ่ายด้วยความสบายใจก่อนจะระบายลมหายใจยาว นัยน์ตาเรียวปรือขึ้นช้าๆอีกครั้งแล้วทอดมองผ่านประตูกระจกไปยังอ่างซึ่งมีน้ำอุ่นเต็มอ่าง ชายหนุ่มยิ้มแล้วก็เอี้ยวคอไปมองเจ้าของเรือนร่างแข็งแรงที่ยืนเป็นหลักให้เขาพิง

“ไปแช่น้ำกันไหมครับคุณเชษฐ์ ขืนปล่อยไว้นานๆเดี๋ยวน้ำอุ่นจะเย็นหมด”

คนถูกถามเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่แล้วใบหน้าคมก็ยิ้มให้ก่อนจะกระชับอ้อมแขนและแนบริมฝีปากลงบนเรือนผมหมาดน้ำของภัทรอีกครั้ง

“ไปสิ แต่ต้องหลังจากฉันอาบน้ำให้เธอเสร็จก่อนก็แล้วกัน”

คราวนี้คนตัวใหญ่เปลี่ยนมายิ้มขี้เล่นให้อีกครั้ง ใบหน้าของคนฟังจึงซับสีเลือดเป็นสีเรื่อขึ้น แต่ภัทรก็เพียงยิ้มเขินๆและไม่ได้ปฏิเสธ เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำอะไรที่ฝืนใจเขาอย่างแน่นอน

หลังจากนั้น เชษฐ์ก็ช่วยอาบน้ำให้ภัทรโดยไม่ได้แสดงเจตนาที่จะหักหาญน้ำใจหรือครอบครองอีกเลยจริงๆ อาจมีบ้างที่มือใหญ่อ้อยอิ่งอยู่ตรงไหนนานเกินกว่าที่ควร แต่ว่าอีกฝ่ายก็เพียงแต่หัวเราะเมื่อโดนภัทรเตือนหรือยกมือขึ้นทุบไหล่ และสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ภัทรรู้สึกราวกับเขาและเชษฐ์คบกันมายาวนานมากกว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสามเดือนสั้นๆเช่นในความเป็นจริง

หลังจากที่จัดการล้างฟองสบู่และแชมพูให้ภัทรจนหมดแล้ว เชษฐ์ก็ปิดฝักบัวและผลักประตูกระจกที่โดนไอน้ำเกาะจนเป็นฝ้าพลางจูงร่างเพรียวไปที่อ่าง โชคดีว่าอีกฝ่ายเปิดอุณหภูมิน้ำไว้ค่อนข้างสูงตั้งแต่แรก ดังนั้นแม้ว่าทั้งคู่จะเสียเวลาอาบน้ำนานไปสักนิด แต่ว่าน้ำก็ยังคงอุ่นพอเหมาะจะนั่งแช่เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และจังหวะที่ทั้งคู่ก้าวลงในอ่างนั่นเอง ภัทรก็หนีไม่พ้น ต้องเหลือบตาไปเห็นสิ่งที่หลบเลี่ยงจะเห็นมาตั้งแต่แรกจนได้ แต่ถ้าหากว่าเขาไม่เหลือบตาลงต่ำ ภัทรก็คงกะไม่ถูกแน่ว่าต้องก้าวสูงแค่ไหนถึงจะพ้นขอบอ่าง

ดูเหมือนเชษฐ์จะรู้ว่าภัทรเป็นอะไรจากการที่อีกฝ่ายเบนสายตาไปทางอื่นกะทันหันแล้วก็รีบหันหลังย่อตัวลงนั่งในน้ำ หลังจากที่ขยับตัวจนร่างสูงใหญ่พิงกับขอบอ่างและให้ภัทรนั่งเอนลงบนอกตนได้โดยที่ต่างคนต่างไม่เมื่อยแล้ว เชษฐ์ก็ยกแขนขึ้นวางพาดไปตามแนวขอบอ่างทั้งสองด้านแล้วกระซิบถามคนตรงหน้ายิ้มๆ

“บอกแล้วว่าไม่เหมือนใช่ไหมล่ะ?”

ภัทรหันไปทำตาเขียวใส่คนข้างหลังก่อนจะหันขวับกลับไปด้านหน้า เพราะเขารู้ดีโดยไม่ต้องถามว่าคนพูดเอ่ยถึงอะไร นึกเสียดายที่นั่งท่านี้ทำให้หันไปทุบไหล่อีกฝ่ายไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ถ้าให้นั่งหันหน้าเข้าหากันก็คงจะทุลักทุเล จึงได้แต่ต้องยอมให้เชษฐ์แซวเขาอยู่อย่างนั้นโดยที่โต้ตอบไม่ได้

เอ้า...แซวเขาแล้วสนุกนักก็ปล่อยให้แซวไปแล้วกัน ปกติอยู่ที่ออฟฟิศมีแต่ต้องเครียดกับงานและลูกน้องตลอด อย่างน้อยถ้าหากหัวเราะได้เวลาอยู่กับเขาก็ดีแล้วล่ะ...

ภัทรคิดพลางยกมือทั้งสองข้างรองน้ำอุ่นขึ้นแล้วก็ปล่อยให้ไหลลงผ่านง่ามมือ ฉับพลันก็ต้องครางในคออย่างประหลาดใจเมื่อถูกข้อนิ้วแข็งแรงกดลงบนแผ่นหลังให้

“คุณเชษฐ์นวดเป็นด้วย?”

คนถูกนวดเอี้ยวคอกลับไปถาม แรงที่ถ่ายมาจากมือของเชษฐ์นั้นจัดว่าค่อนข้างหนัก แต่พอกดลงบนเส้นประสาทที่เมื่อยล้าของเขาแล้วก็ทำให้รู้สึกสบายจนไม่อยากเบี่ยงตัวหนี คนถูกทักจึงตอบยิ้มๆโดยไม่หยุดออกแรงตามปลายนิ้วไปบนแผ่นหลังเนียนขาว

“แน่ล่ะสิ ฉันเคยเป็นนักกีฬาโรงเรียนมาก่อนนี่ สมัยเรียนก็ต้องช่วยกันนวดให้เพื่อนในทีมเองแบบนี้แหละ”

ภัทรนึกถึงรูปถ่ายของอีกฝ่ายในชุดนักกีฬาเทนนิสซึ่งเขาเคยเห็นในห้องนั่งเล่นที่บ้าน รูปนั้นน่าจะเป็นรูปสมัยมัธยม แต่เขาจำได้ว่าในรูปนั้นเชษฐ์ไม่ได้ใส่แว่น ความสงสัยที่ผุดขึ้นทำให้ภัทรเอ่ยถาม

“คุณเชษฐ์สายตาสั้นเท่าไหร่ครับ? ผมเห็นรูปสมัยเรียนบางรูปก็ใส่แว่น บางรูปก็ไม่ใส่”

ทั้งที่เรื่องเหล่านี้เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่คนใกล้ชิดในสถานะเช่นเขาควรจะรู้ แต่ที่ผ่านมาภัทรไม่เคยถามเลยเพราะเกรงใจ และคิดว่าเชษฐ์อาจจะมองว่าเขาอยากรู้อยากเห็นกับเรื่องไม่มีสาระ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าอยากรู้จักคนคนนี้ให้มากขึ้นกว่านี้

เชษฐ์ใช้ปลายนิ้วโป้งกดคลึงให้บนช่วงคอที่ต่อกับแผ่นหลังของภัทร จากนั้นก็ตอบเสียงเนือยๆ “ถ้าตอนนี้ก็ประมาณสามร้อยกว่าทั้งสองข้าง แต่ตอนที่เล่นเทนนิสนั่นสั้นแค่สองร้อยเลยไม่ได้ใส่แว่นตลอด เพิ่งจะมาใส่ประจำก็หลังเข้ามหาลัยนั่นแหละ”

“สามร้อยกว่า? ก็ไม่สั้นมากนี่ครับ ทำไมไม่ใส่คอนแทคต์เลนส์ไปเลยล่ะ ขนาดพี่สาวผมสายตาสั้นตั้งห้าร้อยยังใส่คอนแทคต์มาตั้งแต่ม.ปลายเลย”

ภัทรถามขึ้นอีก เพราะเขาเชื่อว่าเชษฐ์ก็คงรู้ตัวว่ารูปร่างหน้าตาของตัวเองนั้นค่อนข้างโดดเด่นทีเดียว แล้วขนาดเขาเอง เวลาเห็นอีกฝ่ายไม่สวมแว่นยังรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวดูผ่อนคลายและให้ความกันเองขึ้นตั้งขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าพวกสาวน้อยสาวใหญ่ที่ออฟฟิศได้เห็นใบหน้าเกลี้ยงๆของคุณผู้จัดการโปรเจ็กต์ทุกวัน มีหวังคงไม่ได้เป็นอันทำงานกันแน่

คำถามของภัทรทำให้เชษฐ์หัวเราะ มือที่นวดต้นคอและท้ายทอยให้เมื่อครู่ถูกปล่อยลงมาโอบไว้รอบเอวบางหลวมๆแทน

“ทำไมล่ะ ใส่แว่นแล้วไม่ชอบหรือไง?”

คนถูกถามหน้าแดงขึ้นเมื่อโดนกระซิบถามเสียชิดริมหู ก็จริงที่เขาชอบเวลาได้เห็นอีกฝ่ายไม่สวมแว่น เพราะมันทำให้ภัทรรู้สึกว่าเชษฐ์ในเวลานั้นปล่อยวางภาระการงานไว้เบื้องหลังแล้วได้ปลดปล่อยตัวเองต่อหน้าเขาจริงๆ แต่ภัทรก็ไม่ปฏิเสธว่าเขาก็ชอบยามที่คุณผู้จัดการยกมือขยับขาแว่นหรือใช้ปลายนิ้วดันแว่นขึ้นไประหว่างที่ทำงานหรือคุยกันเหมือนกัน เพราะเขาเห็นภาพเหล่านั้นประจำจนชินตาไปแล้ว และหากอีกฝ่ายเลิกสวมแว่นไปเลย เขาก็คงจะรู้สึกเหงาๆเหมือนอะไรบางอย่างขาดหายไปอย่างแน่นอน

“เปล่าครับ...ผมแค่ถามดูเฉยๆ”

ภัทรตอบเสียงอ้อมแอ้ม แล้วก็เหลือบตาลงเมื่อเชษฐ์จับมือของเขาข้างหนึ่งหงายขึ้นแล้วลูบด้วยนิ้วโป้งเบาๆ

“นิ้วย่นหมดแล้วสิ น้ำก็เริ่มไม่อุ่นแล้วด้วย งั้นไปแต่งตัวแล้วหาข้าวเย็นกินกันดีกว่า”

“อ๊ะ ครับ”

ภัทรตอบเหมือนเพิ่งรู้ตัว พอเชษฐ์พูดขึ้นมา เขาจึงได้รู้สึกว่าน้ำในอ่างเริ่มหายอุ่นไปกว่าตอนแรกที่ลงแช่เยอะแล้วจริงๆ แต่เพราะว่าเขานั่งพิงอกอีกฝ่ายอยู่ ไออุ่นที่ได้รับจึงทำให้ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดว่าน้ำเริ่มเย็นแล้ว

เชษฐ์รอจนทั้งคู่ก้าวออกจากอ่างแล้วจึงบิดล็อคเพื่อระบายน้ำให้ไหลออกทางปลายอ่าง ระหว่างนั้นภัทรก็รีบหยิบผ้าขนหนูของตัวเองมาเหน็บรอบเอวอย่างแน่นหนา จากนั้นจึงค่อยส่งผ้าขนหนูอีกผืนให้เชษฐ์ใช้เช็ดตัว แต่แทนที่อีกฝ่ายจะใช้ผ้านั้นปกปิดร่างกายเหมือนกัน คนตัวใหญ่กลับใช้ผ้าขยี้ผมที่เริ่มหมาดและซับน้ำตามเนื้อตัวโดยไม่สนใจจะปิดบังร่างกายที่เปลือยเปล่าเลยสักนิด

“คุณเชษฐ์...จะไม่เกรงใจผมบ้างเลยเหรอครับ”

ภัทรถามเสียงอ่อนโดยพยายามไม่หันไปมอง ถึงเมื่อกี้เขาจะได้เห็นแบบเต็มๆตาไปแล้วก็ตาม แต่เขาก็ไม่ใช่คนโรคจิตชอบมองเรือนร่างคนอื่นเวลาไม่ใส่เสื้อผ้าเสียหน่อย ทว่าคำตอบของเชษฐ์ทำเอาเขาอยากจะวางมือจากเสื้อผ้าเปียกที่กำลังคลี่ออกผึ่งแล้วหันไปทุบไหล่หนาสักบึ้กใหญ่ๆ

“จะเป็นไรไปล่ะ เดี๋ยวต่อไปเธอก็ต้องได้เห็นจนชินอยู่แล้วนี่ รีบทำให้ชินไว้ก่อนจะเป็นไรไป”

“คุณเชษฐ์”

ภัทรเอ่ยปรามเสียงดุ แต่แก้มเนียนทั้งสองข้างแดงก่ำ เขารู้ดีว่าความหมายแฝงที่ซ่อนในคำพูดของอีกฝ่ายคืออะไร แต่ป่วยการจะเถียงกับคุณผู้จัดการถึงเรื่องในอนาคตตอนนี้ จึงไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วก็รีบเดินออกจากห้องน้ำไปหยิบเสื้อผ้าสำหรับใส่เปลี่ยน และคราวนี้ก็ยังขอกลับเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำคนเดียวเหมือนเดิม ไม่ใช่เพราะว่าอายหลังจากที่ก็อาบน้ำด้วยกันไปแล้ว แต่เพราะเขาอายที่จะต้องเห็นอีกฝ่ายเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าต่างหาก

ถ้าจะชินก็ให้มันเป็นเรื่องในอนาคตเถอะ ตอนนี้เขายังห้ามใจไม่ให้เต้นแรงเวลาเห็นร่างกายของคุณเชษฐ์ไม่ได้นี่...



+---tbc---+



Create Date : 11 มิถุนายน 2553
Last Update : 5 กันยายน 2553 1:59:27 น. 26 comments
Counter : 936 Pageviews.

 
ขอบคุณมากน้องริน
เชษฐ์เป็นสุภาพบุรุษจังเลย
ปลื้มแทนภัทร
ชอบแบบนี้จัง


โดย: พี่ยู IP: 202.12.118.61 วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:7:41:24 น.  

 
หุหุหุ ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเยอะ ความอดทนของคุณเชษฐ์เลยสูงตามค่ะพี่ยู แต่จะทนได้นานแค่ไหนนี่ต้องดูกันต่อไป อย่างน้อยๆตอนนี้ พระเอกของเราก็ซื้อใจภัทรเพิ่มได้แล้วล่ะนะ ^^


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:14:00:31 น.  

 
อ๊ะ อ๊ะ...ผู้ใหญ่แกล้งเด็กนี่นา ^^

แต่งได้น่าอ่านเหมือนเคยค่ะ คุณริน


โดย: sherry IP: 222.123.196.212 วันที่: 12 มิถุนายน 2553 เวลา:21:15:31 น.  

 
ขอบคุณค่ะคุณเชอร์รี่ ^^

ผู้ใหญ่นี่น่าโดนแกล้งคืนมั่งเนาะ

(โทษทีมาตอบช้า เพิ่งกลับจากเที่ยวเกาะล้านค่า)


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 13 มิถุนายน 2553 เวลา:18:54:39 น.  

 
ขอเข้ามาเป็นสมาชิกด้วยคนนะคะ ติดตามอ่านทุกตอนเลย สนุกมากเลย เขียนได้เก่งจริงๆ รู้สึกว่ามีความรู้สึกร่วมไปกับภัทรและเชษฐ์ ความรักของทั้งคู่งดงามจริงๆ มีการรอคอยไม่มีการหักหาญน้ำใจกันเลย ความรักแบบนี้น่าชื่นชมนะคะ ขอบคุณคนเขียนมากเลยนะคะที่เขียนเรื่องราวที่ดีๆมาให้อ่าน แล้วมาต่อตอนต่อไปเร็วๆ นะคะ
เป็นกำลังใจให้ รักคนเขียนคะ


โดย: nana IP: 124.121.33.214 วันที่: 13 มิถุนายน 2553 เวลา:19:38:33 น.  

 
น้องรินไปเติมพลังที่เกาะล้านเหรอ
บรรยากาศแบบภัทรกับเชษฐ์รึเปล่าน้า
อยากอ่านต่อจังเลย
หวานละมุนละไม
ชอบชอบ


โดย: พี่ยู IP: 202.12.118.61 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:7:32:59 น.  

 
คุณ nana ขอบคุณที่ติดตามและสำหรับคอมเม้นต์ให้กำลังใจค่ะ ถ้าอ่านแล้วมีความสุขกับรูปแบบความรักที่เรานำเสนอได้ก็ยินดีมากเลย ยังไงมาทักทายกันได้เรื่อยๆนะคะ ^^

--------------------------------------

พี่ยู แว้บไปเที่ยวมาเพราะเดี๋ยวเสาร์หน้าเป็นต้นไปก็เปิดเทอมแล้วค่ะ (ป.โท) เลยต้องรีบเที่ยว แต่บรรยากาศที่เกาะล้านนี่คนละเรื่องกับของคุณเชษฐ์กับภัทรเลยล่ะ เดี๋ยวจะเข็นครึ่งหลังมาให้ น่าจะได้มาลงไม่เกินสุดสัปดาห์นะคะ

(ช่วงนี้ต้องรีบเขียน ก่อนจะเรียนหนักจนไม่มีเวลา ตอนปฐมนิเทศก็โดนคณบดีขู่ซ้า)


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:12:36:44 น.  

 
คุณรินจะเริ่มเรียน ป.โท แล้วเหรอคะ
อย่างนี้ก็ต้องห่างหายไปจากแฟนๆบล็อคบ้างน่ะสิคะ

ยังไงก็เอาใจช่วยนะคะ สู้ ๆ 2 ปีเอง


โดย: sherry IP: 222.123.113.26 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:20:57:56 น.  

 
เอาใจช่วยเช่นกันจ้าน้องริน
ยังไงก็คิดซะว่าการแต่งฟิคเป็นการรีแลค
ขอบคุณล่วงหน้าจ้ะ
รออ่านนะจ๊ะคนดี


โดย: พี่ยู IP: 202.12.118.61 วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:7:55:05 น.  

 
คุณเชอร์รี่ จะพยายามไม่ให้ทิ้งช่วงห่าง อย่างน้อยที่สุดก็กะว่าหนึ่งเดือนต้องมีอะไรมาลงบ้าง ยกเว้นว่าไม่สามารถจริงๆด้วยเหตุสุดวิสัยค่ะ

จะว่าไป ช่วงนี้ก็ถือว่าอัพค่อนข้างถี่แล้วเพราะเขียนเรื่องเดียว ตอนที่เขียนสามเรื่องควบกัน (ลำนำรักสีรุ้ง + เมื่อหัวใจเราใกล้กัน + แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก) เคยต้องเว้นช่วงของบางเรื่องไปเป็นครึ่งปีแน่ะ ดีนะคนอ่านยังไม่ลืมตัวละครกันไปเสียก่อน

--------------------------------------

พี่ยู ยอมรับเลยค่ะว่าเขียนนิยายนี่เป็นกิจกรรมรีแล็กซ์สุดๆของรินแล้วละ เดี๋ยวนี้เวลานั่งรถเมล์หรือลงเรือด่วนก็พิมพ์ตอนต่อนิยายด้วยมือถือ กลับบ้านค่อยไปพิมพ์ต่อกับคอม (เปิดเทอมจะขยันได้อย่างนี้ไหมนี่) หลังตรวจความเรียบร้อยแล้วจะรีบมาลงให้ค่า


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:12:38:12 น.  

 
เข้ามาอ่านอีกครั้ง ก็ยังสนุกนะคะ มีความสุขกับการได้อ่านนิยายที่คุณbellbomb แต่งจริงๆ คะ เลยเข้ามาดูทุกวันเลยว่าต่อตอนใหม่หรือยัง ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ จะได้แต่งตอนต่อไปเร็วๆ สู้ๆ คะ


โดย: nana IP: 118.175.70.202 วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:16:38:48 น.  

 
คุณ nana อยากมาลงได้ทุกวันเหมือนกันค่ะ (ช่วงเขียนนิยายใหม่ๆ เคยฟิตได้สองตอนในวันเดียว เดี๋ยวนี้ไม่สามารถอีกแล้ว ) ไงจะพยายามรีบเข็นมาภายในสุดสัปดาห์นี้นะคะ

ปล. สุดสัปดาห์นี่ รวมเสาร์-อาทิตย์ด้วยนะคะ แหะๆ


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:21:43:52 น.  

 
คุณรินคะ..
สุดสัปดาห์ขอนับแค่เที่ยงคืนวันศุกร์ได้มั้ยอ่ะ
^^


โดย: sherry IP: 114.128.61.165 วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:22:39:56 น.  

 
^
^
^

เอ่อ...อ้า....

กำลังปั่นสุดชีวิตค่ะ! ถ้ามาทันวันศุกร์ก็ได้อ่านละกันนิ ^^"


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:9:18:35 น.  

 
คุณริน..ไม่ทันวันศุกร์ กิ๊ว กิ๊ว
(ล้อเล่นนะคะ แวะมาทักทายเฉยๆ )

เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นละค่ะ..เป้&วิว # 2 ^^


โดย: sherry IP: 117.47.37.189 วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:0:21:38 น.  

 
มาสวัสดีเจ้าของบล็อกค่ะ


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:11:17:11 น.  

 
คุณเชอร์รี่ มาไม่ทันคืนวันศุกร์จริงๆล่ะค่ะ มาทันคืนวันเสาร์ต่อเช้าวันอาทิตย์แทน ยังไงระหว่างนี้เอ็นจอยคุณเชษฐ์กับภัทรไปก่อนนะคะ กิ๊ว~ ^^

คุณตูน ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่า ยังไม่ได้ไปอ่านนิยายคุณตูนเลย รอนิดนะคะ


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:0:32:14 น.  

 
รอให้มาต่อตอนต่อไปของเชษฐ์กับภัทร
อยู่นะคะ ทำไมใจร้ายจังไม่เห็นมาต่อสักที


โดย: nana IP: 124.122.203.234 วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:04:12 น.  

 
รอให้มาต่อตอนต่อไปของเชษฐ์กับภัทร
อยู่นะคะ ทำไมใจร้ายจังไม่เห็นมาต่อสักที


โดย: nana IP: 124.122.203.234 วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:04:19 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ nana กำลังปั่นอยู่ค่ะ หวังว่าจะได้มาลงสัปดาห์นี้ก่อนไปเที่ยว ตจว.ช่วงหยุดยาว ยังไงรออีกนิดนะคะ


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:26:35 น.  

 
หึุหึหึ.....


เค้ากำลังจินตนาการว่าไอ้ที่ " ไม่เหมือนกัน " เนี่ย มัน... ยังไง เหอๆๆๆๆ



“จะเป็นไรไปล่ะ เดี๋ยวต่อไปเธอก็ต้องได้เห็นจนชินอยู่แล้วนี่ รีบทำให้ชินไว้ก่อนจะเป็นไรไป”

อร๊ายยยยย คนอาร๊ายยยยย หน้าไม่อายอ่ะ เนอะหนูภัทรเนอะ

ปล. อาบน้ำกัน อาบน้ำกัน ฮิ้วๆๆๆๆ



โดย: aew IP: 125.27.69.230 วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:17:19:18 น.  

 
คุณเชษฐ์นี่เป็นพวกไม่รู้จักอาย + ชอบพูดอะไรไม่เคลียร์ซะด้วยสิ เลยไม่รู้ว่า "ไม่เหมือนกัน" นี่หมายถึงอะไร (ว่าแต่แล้วสั่งงานลูกน้องยังไงหว่า ก๊ากกก)

อาบน้ำกัน เหอๆๆๆ รู้สึกเหมือนทุกเรื่องต้องมีการอาบน้ำด้วยกันเป็นซีนบังคับเลยแฮะ

ปล. พี่แอ๋วจะย้อนอ่านทันตอนปัจจุบันแล้ว กรี๊ดดดด


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 24 มิถุนายน 2554 เวลา:6:30:11 น.  

 
กรี๊ดดดดดด้วย เย้..... คาดว่าพออ่านถึงตอนปัจจุบันรินก็คงจะมาต่อตอนใหม่พอดี แหม๊ะ... กะเวลาได้เหมาะเหม็ง ฮ่าๆๆๆๆ ( มัดมือชกซะงั้น )


โดย: aew IP: 125.27.78.59 วันที่: 24 มิถุนายน 2554 เวลา:10:34:24 น.  

 
กรี๊ดดดดดด อีกที อยากมีสองหัวสิบมือจริงจริ๊ง ก๊ากกกกกกก


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 25 มิถุนายน 2554 เวลา:8:29:22 น.  

 
กร๊ากกก เดี๋ยวต่อไปต้องเห็นจนชิน พูดมาด้ายยยย


โดย: Niii IP: 202.12.73.65 วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:10:24:10 น.  

 
น้องนิ คนพูดเขามั่นใจ 555+


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:12:52:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Applebee
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]






ลายปากกา



~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ~
ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิดโดยนำข้อความทั้งหมดหรือส่วนใดไปเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด!!

Friends' blogs
[Add Applebee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.