Group Blog
 
All blogs
 
รักษาสิว 1 เดือน (ไม่เกี่ยวกับรอยดำ)

คำแนะนำ : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน+รับชมภาพ เนื่องด้วยเป็นการรักษาส่วนบุคคล ข้อมูลที่นำมาเล่าให้ฟังจึงอาจเหมาะสมสำหรับบางท่านเท่านั้น แต่ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคนเสมอไป เพราะสภาพผิวหนังและสาเหตุการเป็นสิวย่อมต่างกัน ดังนั้นข้อมูลที่นำเสนอนี้จึงเหมาะกับผู้อ่านด้านความรู้เกี่ยวกับการรักษา มากกว่าที่จะมุ่งให้ปฏิบัติตาม ทั้งนี้ไม่ได้มุ่งชักชวนให้ไปรักษายังคลินิคที่ จขกท. ทำการรักษาอยู่ แต่อยากให้ผู้อ่านสามารถรักษาและดูแลตัวเองในส่วนที่พอจะทำได้เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้ส่วนหนึ่ง

ข้อมูลส่วนตัว
- ช่วงวัยเด็กและวัยรุ่นไม่เป็นสิว มาเป็นสิวช่วงอายุหลัง 24-25 ปีเรื่อยมา
- ไม่ชอบกินผักผลไม้ แต่ชอบกินน้ำผัก น้ำผลไม้
- ดื่มแอลกฮอลล์ และอยู่ในสถานที่มีควันบุหรี่ (เกือบบ่อย)
- ชอบทานน้ำอัดลม ชอบช๊อคโกแลต ชอบไอศกรีม (แต่ไม่ชอบกินของหวานแบบที่มีน้ำเชื่อม ขนมของไทยหวานๆ)
- ชอบกดสิวเอง สำหรับสิวที่อุดตันเป็นหัวเด่นชัด
- แต่งหน้าน้อย เพราะทำงานอยู่บ้านไม่ต้องจำเป็นต้องแต่งหน้าเพื่อพบปะใคร นอกเสียจากส่งฮาวทูประจำเดือนกับแต่งหน้าเพื่อไปทำธุระในกทม.หรือไปงาน
- แพ้ไวเทนนิ่ง ตั้งแต่หยุดการรักษาสิวไปช่วงกลางปี
- ไม่ได้กินยาคุมเพราะกินทีไรฝ้าจะขึ้นเร็วมาก
- ไม่ต้องการทำ IPL เพราะว่าต้องการ SAVE เรื่องค่าใช้จ่าย อีกทั้งกลัวว่ามันจะกลับมาเป็นอีก เท่ากับเสียเงินไปแต่ไม่เกิดประโยชน์
- การรักษาครั้งใหม่นี้ จะให้เวลาในการรักษาค่อนข้างสูง โดยตั้งใจรักษาแบบจริงจัง คือ 1 เดือน เพียรหาอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ไม่มีขาด

สาเหตุที่ไปรักษาเนื่องจากรำคาญการเป็นสิวของตัวเองอย่างถึงที่สุด มีปัญหาของสิวอุดตันข้างแก้ม ข้างกราม และปัจจัยหลักๆ คือ แฟนจะคอยบ่นแต่เรื่องใบหน้าของเราว่ามันไม่ใสเหมือนก่อนจนทำให้เสียความรู้สึกพาลทะเลาะกัน ดังนั้นจึงควรรีบแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังก่อนที่อะไรๆ จะแย่ไปกว่านี้

เริ่มต้นการรักษาวันที่ 24 ตุลาคม 2551
จากการวิเคราะห์ของคุณหมอพบว่า ฝนเป็นสิวอุดตันค่อนข้างเยอะ ยิ่งมองผ่านเลนส์กระจกที่นำมาส่องเพื่อขยายดูจะเห็นชัดมาก หากต้องการหายเร็วทันใจต้องทำการเลเซอร์ด่วนเพื่อเป็นการเปิดผิวบริเวณที่เป็นสิว และค่อยกดสิวที่ฝั่งอยู่ออกมาทีหลัง ขั้นตอนนี้ต้องใช้ Laser CO2 (แบบที่ยิงไฝ ยิงขี้แมลงวัน) เข้าช่วย โดยก่อนการยิงเลเซอร์จะต้องทายาชาให้ทั่วบริเวณที่เป็นสิว ทิ้งไว้ 30-45 นาที จากนั้นคุณหมอก็เข้ามายิงเลเซอร์ ขั้นตอนนี้กลิ่นการเผาไหม้บนใบหน้าแรงมากๆ เหมือนกลิ่นไม้ตียุงเลย เหม็นไหม้สุด เจ็บด้วย ยิ่งตรงที่ยาชาไม่ได้ทาทั่วถึง แสบมากมาย



จากการรักษาครั้งนี้และการรักษาต่อเนื่องในวันถัดไป ผิวหนังควรต้องได้รับการบำรุงและจำเป็นต้องพักผ่อนเยอะๆ งดการรบกวนผิวหน้า หลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงระยะแรกๆ ทากันแดดมากๆ งดแอลกอลฮอลล์กับเลี่ยงควันบุหรี่

ฝนรักษาโดยได้ STEP การใช้ยาทามีดังนี้
(ภาพที่เห็นขอสงวนตัวยาของทางคลินิค เพราะไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ไปรักษา แต่ได้หาตัวยาที่มีสรรพคุณใกล้เคียงกันมาแนะนำดังภาพ ซึ่งก็ใช้ทุกตัวจริงเหมือนกัน)

หมอสั่งให้ใช้ BP 5% ทาทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก (ขึ้นอยู่กับปัญหาสภาพผิวของแต่ละท่านด้วย) และล้างออกด้วยเจลล้างหน้า



จากนั้นทา CM 1% ไม่ได้ใช้ของคลินิค เพราะถามคุณหมอ (นพ.วัชรินทร์ สถิตธรรมนิตย์) มาแล้วว่าไม่มี CM ที่ไหนจะให้เกินจากนี้ หากคนไข้สะดวกซื้อตามร้านยาก็ได้ไม่มีปัญหา ฝนจึงเลือกซื้อจากร้านยา เพราะ CM ของทางคลินิกหมดไปนานแล้ว ซึ่งลักษณะ CM ตัวนี้เป็นเจลใส ไม่มีกลิ่น และไม่แสบด้วยเมื่อโดนสิวที่กำลังอักเสบ มีส่วนประกอบ Clindamycin phosphate สมมูลย์กับ Clindamycin 1 กรัม (รายละเอียดจากฉลากยา) ส่วนข้อบ่งใช้ตัวยา ใช้สำหรับรักษาสิวเรื้อรัง เช่น สิวหัวดำ ตุ่มเล็กๆ มีลักษณะกลมและแข็ง ตุ่มหรือหนอง

ต่อด้วยตัวบำรุงเจลว่านหางจระเข้ เพราะว่าฝนขอคุณหมอว่าต้องการใช้ตัวนี้ระหว่างการรักษา โดยชอบเป็นการส่วนตัวรู้สึกว่าทาแล้วไม่ทำให้เหนียวหน้าดี คุณหมอก็บอกว่า “ใช้ได้”



กระบวนการทาตัวบำรุงต่อไปคือ การเก็บจุดรอยดำ (ซึ่งจะใช้หลังแผลเลเซอร์แห้งและหลุดลอกหมดแล้ว) มีเพื่อนบอกว่าครีมแต้มรอยดำของ DR.SOMCHAI ดี เลยได้ซื้อมาลองใช้แต้มเฉพาะรอยดำ และตามด้วยครีมบำรุงผิว (จริงๆ ฝนใช้ของทางคลินิค) แต่ว่าสรรพคุณจะคล้ายกับ Smooth E Gold ที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส จากนั้นตามด้วยกันแดด (ซึ่งฝนใช้ของทางคลินิคอีกเช่นกัน) ที่มีค่าป้องกันแสงแดด SPF ค่อนข้างสูง



ตามด้วยแป้งฝุ่นเด็กธรรมดา ฝนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนิวบอร์น เพราะสรรพคุณมันบอกว่าช่วยลดอาการระคายเคือง ดังนั้นจึงพยายามเลี่ยงแป้งที่มีน้ำหอมและส่วนผสมของกลิตเตอร์ทุกชนิด

ส่วนยาที่ใช้รับประทานมีดังนี้
ช่วง 20 วันแรกจะทาน อาม๊อคซี่ 2 เม็ด (คุณหมอสั่ง)
และฝนก็เลือกทานผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ พริมโรส 1000 mg + ซิงค์ 75 mg ทุกวันควบคู่ไปด้วย



มาช่วง 10 วันหลัง จะลดอาม๊อคซี่ลง 1 เม็ดและเพิ่มด๊อกซี่ 1 เม็ดแทน และทานอาหารเสริมเหมือนปกติ



อ้างอิงคำพูดคุณหมอวัชรินทร์ สถิตธรรมนิตย์ เรื่องการทานยา
ฝนเคยถามคุณหมอว่า “อาม๊อคซี่กับด๊อกซี่ต่างกันอย่างไร?” คุณหมอตอบว่า การกินยาอาม๊อคซี่จะต่างกับด๊อกซี่ตรงที่ว่า .. อาม๊อคซี่จะแก้เชื้อ เหมาะกับสภาพผิวที่ทำเลเซอร์และเป็นสิวชนิดหัวหนอง แต่ด๊อกซี่เหมาะกับสิวประเภทอักเสบ การจ่ายยาของแพทย์ทำตามความเหมาะสมของคนไข้ในแต่ละราย สำหรับอาหารเสริมเช่น พริมโรส กับ ซิงค์ ไม่ได้มีงานวิจัยของแพทย์บอกว่าลดการอักเสบได้ดี แต่สามารถช่วยได้นิดหน่อย ถามว่าจะทานควบคู่ได้ไหม.. ก็ตอบว่าทานได้ครับ” สุดท้ายคุณหมอทิ้งประโยคไว้ให้คิดว่า “เมื่อ 3 เดือนที่แล้วทำอะไรกับใบหน้าไปบ้างครับ ลักษณะแบบนี้น่าจะเกิดจากการแพ้ มีภาวะสะสม!! สิวไม่สามารถเป็นได้ภายในวันเดียว และการนอนดึกไม่ได้ทำให้สิวขึ้นแต่มันทำให้สิวที่มีอยู่อักเสบและหายช้าเท่านั้นเอง” เพื่อนๆ ก็ลองไปถามตัวเองดูนะจ๊ะ ฝนเองก็มีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ว่าสิวตัวเองเกิดจากอะไร

และที่สำคัญฝนจะดื่มนมเปรี้ยวทุกวัน วันละ 1-2 ขวด เพื่อช่วยเรื่องการขับถ่ายที่ดี



ชมสภาพผิวหน้าช่วงระหว่าง 1 เดือน (ความจริงถ่ายรูปทุกวันแต่ขอตัดมาลงแบบข้ามวันเพื่อให้เห็นผลได้ง่าย)






มาวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 เริ่มการจิ้มกรด TCA เพื่อเอาสิวที่เสี่ยงต่อการอุดตันออกมา จะเห็นได้ว่าหลายจุดมาก บางคนไม่ชอบการจิ้มกรดเพราะหน้าจะเป็นสะเก็ดดำๆ แกะก็ไม่ได้ ต้องปล่อยมันทิ้งไว้ 4-5 วัน แต่ฝนชอบ (ก่อนการจิ้มกรดคุณหมอจะถามความสมัครใจก่อน)


เช้าวันรุ่งขึ้น หน้าตกสะเก็ดดังภาพด้านล่าง


ต่อมาคือช่วงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2551 และในวันใกล้ๆ กับที่ประจำเดือนจะมา ฮอร์โมนนรกก็ทำพิษอีกครั้ง ชมภาพด้านล่าง


ต่อมาคือช่วงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2551 และในวันใกล้ๆ กับที่ประจำเดือนจะมา ฮอร์โมนนรกก็ทำพิษอีกครั้ง ชมภาพด้านล่าง





วันที่ 17 พฤศจิกายน 2551 สิวยุบลงบริเวณแก้ม



ภาพปัจจุบันวันที่ 24 พฤศจิกายน 2551
(มีรอยสะเก็ดที่ไปจิ้มกรด TCA เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2551 ตกสะเก็ดเกือบหลุด)








ตอนนี้ผิวหน้าดีขึ้นมาก สิวตุ่มไตใต้ผิวหนังแทบไม่เหลือแล้ว เหลือแต่รอย

วิธีการที่ใช้ผ่านมา 1 เดือน
คุณหมอ คอยแนะนำการรักษาและทำทรีทเมนต์เพื่อบำรุงผิว
เทคนิคทางการแพทย์มีแค่เลเซอร์ CO2 กับจิ้มกรด TCA
สำหรับตัวเอง หมั่นปฏิบัติตามคำแนะนำ ทั้งทายา กินยา เลี่ยงแอลกอลฮอล์ทุกชนิด ไม่กินน้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีโซดา (เพราะเคยอ่านเจอในเวปรักษาสิว) ไม่ทานของหวาน ยกเว้นไอศกรีม เลี่ยงการแต่งหน้า ถึงจะแต่งหน้าก็ล้างหน้าให้สะอาดที่สุด ระหว่างเป็นสิวฝนจะไม่แกะ ไม่เกาสิวเลยยยย และพยายามไม่เครียด ปล่อยวางเรื่องการรักษาสิว ไม่คาดหวังมาก

ผลตอบลัพธ์ อยู่ในระดับที่พอใจ แม้จะเหลือรอยดำ แต่ตุ่มไตใต้ผิวหมดลงแล้ว ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น เป็นเพราะเราดูแลผิวไม่ขาด ให้เวลาและใส่ใจมันมากๆ โดยแต่ละอาทิตย์ทำทรีทเมนต์บำรุงหน้าเพื่อให้ผิวได้รับการบำรุง 1-2 ครั้ง



ผลที่ได้ขึ้นอยู่กับบุคคล ดังนั้นถ้าถามว่าทำอย่างไรให้สิวหาย? คำตอบคือ
1. ต้องรู้ว่าคุณเป็นสิวประเภทไหน ( ควรให้หมอผิวหนังวิเคราะห์ หากเป็นเยอะจนสิ้นหวัง)
2. รักษาตามอาการ ถ้าไม่อยากถูกเลี้ยงไข้ ควรมีภูมิคุ้มกันตนเองด้วย “ คุณควรถามในเรื่องที่เราอยากรู้ และไม่ต้องเกรงใจหมอ ถามไปเลยว่าจะใช้ยาตัวไหนได้บ้างที่มีคุณลักษณะคล้ายตัวยาที่คลินิคจ่าย แต่เราจะไปหาซื้อเองข้างนอกเพื่อลดค่าใช้จ่าย” หากหมอคิดจะเลี้ยงก็คงบอกว่ายาของเราดีที่สุด!! เคยมีเพื่อนที่ทำอยู่คลินิคผิวหน้าบอกว่า “ความจริงแล้วสรรพคุณยาที่หมอจ่ายให้มันก็เหมือนซื้อจากร้านยามาใช้เอง เพราะหมอของร้านเรายังไปซื้อมาเติมใส่ตลับเองเลย”
3. ควรบำรุงผิวด้วยการทำทรีทเมนต์สัปดาห์ละครั้ง อย่างน้อยก็เป็นการชำระสิ่งสกปรกและขับผิวให้ใสขึ้น อันนี้ถามหมอมาแล้ว ไม่ได้กล่าวอ้างเอง
4. ควรล้าง คสอ.ให้สะอาดหลังจากการแต่งหน้า
5. กินอาหารที่มีประโยชน์ งดแอลกอลฮอล์ บุหรี่
6. การรักษารอยสิวจำเป็นต้องใช้ระยะเวลา และมากกว่า 1 เดือนอยู่แล้ว ดังนั้นหลังจากสิวหายก็จำเป็นที่จะต้องใส่ใจในการเก็บรอยดำอย่างต่อเนื่องอีกที



ข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งหน้าสำหรับผิวหน้าที่เป็นสิว (ฝน) : เคยปรึกษาหมอผิวหนัง (นพ.นพ.วัชรินทร์ สถิตธรรมนิตย์) เรื่องการเลือกใช้ คสอ. ซึ่งผิวอย่างฝนควรเลี่ยงผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อครีม ให้ใช้เป็นประเภทฝุ่นแทน ดังนั้นจะเห็นว่าฝนเลือกใช้บรัชเป็นฝุ่นเกือบทั้งนั้น และไม่ใช้ทินต์แต่งแต้มสีแก้ม (กลัวอุดตัน) ส่วนเซ็ตรองพื้นที่เลือกใช้ BOBBI BROWN ก็ผ่านการปรึกษาคุณหมอมาแล้วแทบทั้งสิ้น ทำให้ POINT MAKE UP มักจะเน้นประเภทฝุ่นด้วยเช่นกัน

หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ในการรักษาสิวกับเพื่อนๆ ได้บ้างไม่มากก็น้อย

(อ้างอิงรายชื่อคุณหมอ แต่ไม่ขออ้างอิงสถานที่รักษาสิว เพราะไม่ได้มาโฆษณาให้จ้า ขอไม่ตอบนะจ๊ะ ไม่ได้อยากใจร้าย แต่มันเป็นมารยาทของเวปไซด์ เราจำเป็นต้องทำตามกฎ )


Create Date : 24 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2552 10:22:15 น. 11 comments
Counter : 18279 Pageviews.

 
และหากคุณหมอผู้หวังดีที่เคยติเรื่องการตั้งกระทู้ในรีวิว “มาร์กน้ำตาล” ได้มาอ่าน
ขอให้ทำความเข้าใจด้วยว่า ฝนไม่ได้บอกให้ใครเชื่อ และคิดว่าผู้อ่านในเวปนี้มีวิจารณญาณในการตัดสินใจพอ อีกอย่างการตั้งกระทู้ล้วนแต่เลือกในสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์มาตั้งเพื่อให้ผู้ชมได้อ่าน และจากฮาวทูครั้งนี้ฝนใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลทำทุกวัน ถ่ายภาพทุกวัน อัพเรื่องในบล๊อคทุกวัน ไปหาหมอและสอบถามข้อมูลจากคุณหมอมาจริงๆ ไม่ได้กล่าวแนะนำอย่างพล่อยๆ ขอบคุณอีกครั้งที่ปรารถนาดีและนี่เป็นทางออกที่ฝนเลือกทำให้หน้าหายสิวด้วยการไปพึ่งหมอผิวหนังอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาพยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่มันมีเรื่องฮอร์โมนด้วยทำให้เกิดสิวง่ายกว่าคนทั่วไป

สำหรับเรื่องการแต่งหน้าก็ไม่คิดว่าจะแต่งหน้าอีกถ้าไม่จำเป็น เกริ่นไปแล้วว่าอยู่บ้านทุกวันไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าไปไหน ถ้าไม่ขึ้น กทม.หรือ ทำฮาวทู สรุปตกแล้ว 1 เดือน ( 30 วัน ) ฝนแต่งหน้าไม่เกิน 3 ครั้ง มันมากไปหรือนี่? ถ้ามันมากไปก็จะแต่งแค่เดือนละ 1 ครั้งเพื่อร่วมสนุกกับทางเวป ทั้งนี้ด้วยอายุ 27 ปีมันจำเป็นต้องมีริ้วรอยบ้าง คงไม่สามารถหน้าใสเหมือนเด็กวัยรุ่นได้ ยิ่งต่างจังหวัดแดดแรงมากค่ะ ก็พยายามดูแลตัวเองอย่างถึงที่สุด

ขอบคุณ (ว่าที่) คุณหมอท่านนั้นด้วย (ซึ่งความจริงก็รู้ว่าคุณมีล๊อคอิน) จะเกิดประโยชน์มากถ้าคุณจะตั้งกระทู้เพื่อแนะนำเรื่องการดูแลผิวหน้าหรือเข้ามาตอบกระทู้ที่ตั้งสอบถามเรื่องปัญหาผิวพรรณ เพราะข้อมูลที่คุณได้ศึกษามาเหล่านั้นจะเป็นประโยชน์มากมายกับสาวๆ หลายท่านนะจ๊ะ

ส่วนตัวแล้วถ้าฝนมีข้อมูลดีๆ เมื่อไรจะนำมาเล่าสู่กันฟังเสมอ และที่ผ่านมาหากตั้งกระทู้หรือทำสิ่งใดผิด ทำให้เพื่อนๆ รู้สึกไม่ดี ขอโทษมา ณ ที่นี่ด้วย T^T


โดย: fon (ตีไม่แรง ไม้แพง แต่งตัวเท่ห์ ) วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:05:27 น.  

 
คุณฝนขา บล็อคของคนฝนดีออก เป็นประโยชน์มากๆ นี่ว่าจะแนะนำเพื่อนๆ ให้มาอ่านเหมือนกัน เพราะเค้าก็พึ่งจะมีสิวขึ้นจากที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

จากที่เห็น คุณฝนจะหายแล้วนี่ค่ะ ดีใจด้วย อดทนหน่อยนะค่ะ ... นับวันรอหน้าใส ... เอาใจช่วยค่ะ


โดย: Molly_Nanny วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:58:27 น.  

 
คุณฝนจ๋าอย่าไปเครียดเลยนะ บล็อคคุณฝนตั้งใจถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ที่ได้จากการรักษาให้เพื่อนๆเท่านั้นเองดรีมเข้าใจวัตถุประสงค์จ๊ะ ส่วนตัวดรีมอ่านบล็อคเพื่อนๆใครว่าอะไรดีก็ไม่ได้ทำตามหรือซื้อตามซะทุกอย่างเพราะดรีมรู้ว่าผิวหน้าคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ปัจจัยการใช้ชีวิตหลายๆอย่างก็ไม่เหมือนกันอย่างที่คุณฝนพูดน่ะถูกแล้วค่ะที่คนอ่านต่างมีวิจารณญาณ
แอบดีใจด้วยนะจ๊ะที่สิวดีขึ้นเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ

ปล เป็นกำลังใจให้เสมอนะคนสวย กอด กอด


โดย: only sweetDream วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:50:35 น.  

 
ดูแลตัวเองดีขนาดนี้ เดี๋ยวผิวสวยๆก็กลับมาแล้วค่ะ


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:54:17 น.  

 
ดีขึ้นมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ คุณฝนมีความอดทนมากเลย เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้หายเร็วๆค่า


โดย: s.o.s วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:24:18 น.  

 
เข้ามาอ่านแล้ว

คงต้องใช้ความอดทนมากๆเลย

ขอให้หายไวๆ นะคะ
เชื่อว่าความพยายามดีๆ
ต้องส่งผลดีกับตัวผู้กระทำแน่ๆค่ะ


โดย: princessizz วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:45:07 น.  

 
เป็นรอยดำใช้อะไรดีค่ะ


โดย: บางส้มเปรี้ยว วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:58:53 น.  

 
สู้ๆๆ นะคะ

เดี๋ยวไม่อีกไม่นาน หน้่ากลับมาใสแน่นอน

ขอยืมสูตรไปใช้บ้างน้า อิอิ


โดย: nanae222 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:04:44 น.  

 
รอยดำ จริงๆ แล้วสมูธอีเขียว (หรือขาว) ก็หายจ้า แต่มันต้องใช้เวลา

เคยถามใครไม่รู้จำไม่ได้ หมอหรือเพื่อนสักอย่าง เค้าบอกว่ารอยดำจะหายสนิท แบบรักษาด้วยการทายาก็ 6 เดือนจ้า


โดย: fon (ตีไม่แรง ไม้แพง แต่งตัวเท่ห์ ) วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:27:54 น.  

 
คุณสมบัติที่สำคัญของเจลว่านหางจระเข้ คือ สามารถรักษาบาดแผลให้หายได้เร็วจึงทำให้ลดการเกิดแผลเป็น เป็นคุณสมบัติที่คนเป็นสิวคำนึงถึงมากที่สุด หลาย ๆ คนให้ข้อมูลว่าได้รับผลดีเยี่ยมเมื่อรักษาสิวโดยการทาเจลว่านหางฯบาง ๆ บริเวณที่เป็นสิว เอนไซม์จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวด, ลดการอักเสบ ลดอาการผิวแดง เป็นการเร่งการรักษา รอยแผลก็จะน้อยลง เจลว่านหางจระเข้มีขายทั่วไป สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์


โดย: fon (ตีไม่แรง ไม้แพง แต่งตัวเท่ห์ ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:26:16 น.  

 
ค่อยๆใสขึ้นแล้วนะค๊า ดีใจด้วยจ้า..


โดย: pook_sb วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:36:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ตีไม่แรง ไม้แพง แต่งตัวเท่ห์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]











Blog นี้ไม่ได้อยู่ในหน้า Up Date รวม Bloggang

อ่านเรื่องอัพเดทล่าสุดได้จากด้านล่างที่แปะไว้

หรือไม่เข้าไปที่ All About Blog นะคะ

New!! : UP Date


BABY UPDATE














Bloggang : Fonkan



ฝนขอสงวนลิขสิทธิ์งานเขียน

ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539

ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน

หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความที่เขียนไว้

ใน blog นี้ไปใช้เด็ดขาด...

ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง

โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร

จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด


--------------------------------------------------------

งานเขียนใน Blog นี้จะเน้น ภาพประกอบการเขียน

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน (สังเกตจากคนเข้าชม)

--------------------------------------------------------

เวปไซด์สำหรับสิว รักษาสิวเอง ไม่พึ่งหมอ

http://www.loving-shop.com/

หากสนใจเว็ปไซต์ส่วนตัวฝน คลิ๊ก....

http://www.fonkan.com

--------------------------------------------------------

Friends' blogs
[Add ตีไม่แรง ไม้แพง แต่งตัวเท่ห์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.