- 06 Novembre 09 - ไปเป็นกรรมการตัดสินการประกวด

ไปเป็นกรรมการตัดสินการประกวด

วันนี้เป็นวันที่ชวนตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะมีกิจกรรมอื่นที่นอกเหนือจากการทำอาหาร ดูแลบ้านกับทำหนังสือเข้ามาในชีวิต

วันนี้ฉันไปเป็นกรรมการตัดสินการประกวดมาค่ะ

เปล่า ไม่ใช่การประกวดนางสาวไทยที่คุณแอน หุ้นส่วนของฉันแบ่งร่างไปเป็นคนจัดการประกวดแต่อย่างใดหรอกนะคะ แต่เป็นการประกวดภาพวาด ภาพถ่ายและภาพคอลลาจ ที่พนักงานบริษัทที่หวานใจทำงานอยู่เขาจัดกันขึ้นมา

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อสองวันก่อน หวานใจโทร.มาบอกฉันที่บ้านว่ามีคนเสนอชื่อฉันเป็นกรรมการตัดสินการประกวดครั้งนี้ เพราะเขาอยากได้กรรมการเป็นคนนอกบริษัทเพื่อความยุติธรรม ฉันก็ตอบรับไป เพราะเห็นเป็นเรื่องน่าสนุกดี ได้เปลี่ยนบรรยากาศ ได้ไปเที่ยวออฟฟิศของสามีด้วย

บ่ายสองโมง ทำงานประจำวันเสร็จเรียบร้อย อาบน้ำแต่งตัว เลือกชุดอยู่ตั้งนาน ใส่เข้าถอดออกอยู่หลายรอบ แหม ยังไงฉันก็ต้องรักษาหน้าตาของสามี แต่งตัวสวยพอดูได้นิดนึง เสร็จแล้วขึ้นรถ วิโนดขับไปส่ง ผ่านด่านตรวจหน้าประตูทางเข้าบริเวณหมู่ตึกสำนักงานไอทีที่ตรวจตราคนเข้าออกอย่างเข้มงวดได้อย่างสบายฉิวเพราะได้แท็กที่บริษัทออกให้มาคล้องคอ

ตอนแรกเห็นว่าจะให้ฉันตัดสินแต่ภาพถ่าย แต่เอาเข้าจริงๆ ฉันกับกรรมการผู้หญิงอีกคนที่เป็นนักวาดรูปต้องตัดสินการประกวดทั้งสามประเภท ขั้นตอนการตัดสินก็ไม่ยาก เริ่มจากคัดเลือกผลงานที่เข้ารอบแรก 5 ชิ้น ต่อประเภท หลังจากนั้นคัดผู้ชนะ และรอง 2 คน



      หัวข้อการประกวดทั้งสามประเภทแตกต่างกัน ภาพวาดในหัวข้อ Red Black and Rising คำขวัญประจำบริษัท ภาพถ่ายในหัวข้อ The real India ส่วนคอลลาจหัวข้อ The Power of Creativity (หรืออะไรทำนองนี้) ผลงานที่เข้าประกวดมีทั้งแบบตั้งใจลงทุนใส่กรอบสวยงาม และแบบทำง่ายๆ เป็นกันเองไม่มีพิธีรีตรอง

เริ่มต้นจากภาพวาด ฉันเองไม่ถนัดเรื่องเทคนิคความยากลำบาก ดูประเด็นที่เสนอและความตั้งใจสื่อสารเสียมากกว่า เลยยกให้กรรมการอีกคนที่รู้เรื่องเทคนิคว่ารูปไหนต้องใช้ฝีมือเป็นคนตัดสินเสียเป็นส่วนใหญ่ ฉันก็อือๆ ออๆ ไปตามเรื่อง พอมาถึงรูปถ่าย เธอก็แทบจะยกให้ฉันเป็นคนตัดสินเหมือนกัน แต่พอมาถึงคอลลาจ เราสองคนเริ่มต้องปรึกษากันมากกว่าเดิม ทั้งเรื่องเทคนิค ความตั้งใจ ความละเอียดมีมานะพยายาม และสารที่ต้องการสื่อ และสุดท้ายก็ได้ผู้ชนะและรองครบถ้วนทั้งสามประเภท

หวานใจบอกว่า พนักงานชาวอินเดียชื่นชอบกิจกรรมเสริมความร่วมมือทำนองนี้มาก และเท่าที่เห็นก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะมีหลายคนเข้ามาดู “นิทรรศการ” เล็กๆ นี้กันอย่างคึกคัก

เป็นวันที่น่าประทับใจอีกหนึ่งวัน





>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2552 14:02:20 น.
Counter : 845 Pageviews.  

- 05 Novembre 09 - ข้าวมันไก่ ตำรับผสมสูตร

ข้าวมันไก่ ตำรับผสมสูตร

Le riz au poulet...

วันนี้ทำตัวเหมือนว่าง เข้าครัวเตรียมทำอาหารค่ำตั้งแต่กินข้าวกลางวันเสร็จ

เพราะเมนูมื้อค่ำในวันนี้เป็นอาหารที่อ่านวิธีการทำแล้วดูเหมือนจะทำง่าย แต่ขั้นตอนค่อนข้างเยอะ ดังนั้นจึงต้องวิ่งสลับผละจากงานอีดิตประจำวันหน้าจอเข้าครัวเป็นระยะๆ แถมมีเวลาแค่ถึง 4 โมงครึ่ง เนื่องจากต้องเตรียมตัวไปเข้าชั้นเรียนโยคะตอนห้าโมงถึงหกโมงอีก อะไรที่เตรียมทำไว้ก่อนได้ ก็เตรียมทำไว้ เดี๋ยวสามีกลับมาตอนสองทุ่มจะได้กินกันได้เลย

อาหารจานดังว่า ก็ขึ้นชื่อโชว์หราอยู่บนหัวข้อวันนี้แล้ว คือ ข้าวมันไก่

ส่วนที่เสริมมาข้างท้ายว่าตำรับผสมสูตร เพราะในอินเตอร์เน็ตมีสูตรให้เลือกหลากหลาย มีทั้งแบบง่ายๆ จนถึงซับซ้อน ฉันเลยเอามาผสมๆ กัน ขั้นตอนไหนเขาว่ามีผลกับรสชาดโดยไม่ลำบากมากนักฉันก็ทำตามไป

โชคดีที่เครื่องเครามีค่อนข้างครบ เริ่มกันจากการต้มไก่ก่อนละกัน บางสูตรว่าหมักไก่กับเกลือแล้วใส่หม้อต้มได้เลย บางสูตรว่าให้เอาเกลือล้างทั้งข้างนอกข้างในก่อนรอบนึงเพื่อไล่กลิ่นคาว เอ้า เกลือมีเยอะ ล้างคาวก่อนแล้วค่อยหมักก็ได้ ต่อด้วยน้ำต้มไก่ บางสูตรไม่ใส่อะไรลงไปเพิ่มเติม อีกสูตรบอกให้ใส่กระเทียบบุบ รากผักชี พริกไทย ขิงทุบ และซีอิ๊วขาวลงไปด้วย ฉันทำตามแบบที่สอง

การต้มไก่นั้น หลักการสำคัญคือต้องต้มแบบไม่ให้น้ำเดือด เห็นเขาว่าเนื้อไก่จะได้ไม่เละแห้ง รสของไก่จะไม่ถูกดูดออกมาในน้ำเดือดๆ บางคนใช้วิธียกตัวไก่ลงมาใส่น้ำเย็นตอนที่น้ำในหม้อเริ่มเดือด ลดไฟให้หายเดือดแล้วยกกลับลงใส่หม้อ สลับเช่นนี้จนไก่จะสุก บางคนใส่น้ำแข็งลงไปลดอุณหภูมิ ฉันเลือกแบบหลังเพราะยุ่งยากน้อยกว่า ระหว่างที่ต้มนอกจากคอยช้อนฟองดำๆ แล้วก็คอยเลียบตักมันไก่ที่ลอยบนผิวหน้ามาใส่ถ้วยเอาไว้ด้วย ต้มไปใส่น้ำแข็งไปประมาณ 2 ชั่วโมง ยกไก่ออกจากน้ำ

มีเคล็ดการรักษาผิวไก่ให้ฉ่ำชื่นดูดีอยู่สองอย่างคือ ทาน้ำมันพืชหรือน้ำมันไก่ กับยกออกมาแช่น้ำเย็นเอาไว้ครึ่งนาที ฉันทำมันทั้งสองอย่างเลย ยกลงมาใส่น้ำเย็นแล้วเอาน้ำมันไก่ทาผิว





คลิกที่ลูกศรตรงกลางหรือมุมซ้ายมือบนเพื่อดูสไลด์ค่ะ


ต่อจากนั้นก็เป็นการหุงข้าวมันไก่ บ้างว่าให้ใช้ข้าวหอมมะลิเก่า หุงออกมาเม็ดจะได้แน่นๆ ไม่เละ บ้างให้ผสมข้าวเหนียวลงไปปริมาณ 1/10 ข้าวเหนียวฉันมีอยู่ ใส่ก็ใส่ แต่ข้าวหอมมะลิที่บ้านนี่สิไม่แน่ใจว่าเก่าพอหรือเปล่า เอาเถิด ทำเท่าที่มี แช่ข้าวสาร 10 นาทีตามที่สูตรไหนสักสูตรบอกไว้

ตั้งกะทะเทน้ำมันไก่ที่ตักจากหม้อต้มไก่ลงไป ใช้กระชอนตักกระเทียม พริกไทย รากผักชีและขิงในหม้อลงไปผัด (อันนี้ฉันคิดขึ้นเอง โดยการผสมระหว่างสูตรที่ไม่ใส่อะไรเลยในช่วงต้ม แล้วมาใส่ทีหลัง กับสูตรที่ใส่เครื่องพวกนี้ในหม้อต้ม แต่ไม่ใส่ลงในกะทะผัดข้าวในภายหลัง) ตามด้วยข้าวที่สรงน้ำจนสะเด็ดแล้ว ผัดให้เข้ากันสักพัก แล้วเทลงหม้อหุงข้าวไฟฟ้า เทมันไก่ที่เหลือลงไป ผสมด้วยน้ำซุปจากหม้อต้มไก่ แล้วกดสวิตช์หุง

---- ลงไปเรียนโยคะ ----

กลับขึ้นมา ทำน้ำซุปสำหรับซดเป็นเครื่องเคียง ก็ง่ายๆ ปอกฟัก คว้านไส้ หั่นใส่หม้อที่มีน้ำซุป เป็นอันจบกระบวนการ เดี๋ยวก่อนเสิร์ฟค่อยมาปรุงรสชาด โรยหน้าด้วยผักชีอีกที

น้ำจิ้ม อันนี้ก็มีหลายสูตรเหมือนกัน ทั้งจากในเน็ตและจากสูตรของ(แม่)เพื่อนๆ ส่วนผสมหลักมีเต้าเจี้ยว (โชคดีที่ซื้อมาเก็บไว้พอดีจากเมืองไทย ไม่งั้นมีเซ็ง) น้ำส้มสายชู (หรือน้ำมะนาว ถ้าทำตามสูตรคุณแม่ของแอล) น้ำตาล รากผักชี กระเทียม พริก ขิง กับซีอิ๊วขาว บ้างให้สับซอยเฉยๆ บ้างให้ใส่เครื่องปั่น ฉันยึดทางสายกลาง โยนใส่ครกตำเสียงดังสนั่น ชิมรส เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดนิดๆ เป็นอันเรียบร้อย



>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2552 23:39:44 น.
Counter : 1143 Pageviews.  

- 04 Novembre 09 - พลาดบ้าง พลั้งบ้าง ก็ช่างปะไร

พลาดบ้าง พลั้งบ้าง ก็ช่างปะไร

    วันนี้เริ่มต้นวันได้ดีทีเดียว ทำตัวเป็นประโยชน์ รดน้ำต้นไม้ ใส่ผ้าเค็มลงเครื่องซักผ้า เดินขึ้นลงบันไดหลายรอบ ได้ทำโยคะชุดสุริยะนมัสการตั้ง 6 รอบ (ที่จริงควรจะ 12 รอบ) เปิด wii fit ต่อยมวยต่อด้วยฮูลาฮูบ ได้ออกกำลังขยับเนื้อขยับตัวนิดหน่อยตอนเช้าอย่างนี้ดีจริงๆ จะพยายามทำให้ได้ทุกวัน เป็นการเริ่มต้นวันที่ดี

    และเขาว่าเริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

    แต่เขาก็ว่าเหมือนกันว่า ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน หรือ ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน

    วันนี้ประสบความสำเร็จกับการมีวินัยออกกำลังกาย งานอีดิตประจำวันก็ทำได้ครบถ้วนตามโควต้า แถมยังมีเวลาไปอัพบล็อกทีมงานที่เว็บกำมะหยี่ได้ด้วย แต่วันนี้มีเรื่องหนึ่งที่ประสบความล้มเหลว คือ การทำวุ้นมะพร้าวอ่อน

    เหตุที่คนที่ไม่ใคร่ชอบกินของหวานอย่างฉัน อยู่ๆ ก็อยากทำขนมนี้ขึ้นมา เป็นเพราะความคึก ทุกเช้ามันจุฬาจะเสิร์ฟน้ำมะพร้าวอ่อนให้ฉันดื่ม บางวันถ้ามะพร้าวไม่อ่อนเกินไปนัก ข้างๆ แก้วก็จะมีเนื้อมะพร้าววางแนบข้าง วันนี้ฉันเกิดคึกเห็นเนื้อมะพร้าวแล้วอยากลองทำวุ้นน้ำมะพร้าวใส่เนื้อมะพร้าวดูสักหน่อย ในตู้เสบียงมีผงเจลาตินที่ซื้อจากฝรั่งเศส น่าจะพอกล้อมแกล้มแทนผงวุ้นจากบ้านเราได้ เปิดสูตรทางอินเตอร์เน็ตเห็นเขาใส่ทั้งสองอย่างเลยไม่ค่อยแน่ใจ

    แต่ไม่เป็นไร ลองดู ข้างซองเจลาตินเขียนว่าผงหนึ่งซองใช้ได้กับน้ำ 1/4 ลิตร ฉันให้มันจุฬาเปิดมะพร้าวอีกลูกนึงเทน้ำมาลองทำดู ตั้งน้ำมะพร้าวบนไฟอ่อน (แหม ถ้าได้ใบเตยมาใส่สักใบน่าจะหอมจรุงใจดี) พอผงเจลาตินกับน้ำตาลละลายแล้ว รอให้เย็นสักนิดแล้วใส่เนื้อมะพร้าวลงไป ตักใส่แม่พิมพ์ แล้วเอาเข้าตู้เย็น

    3 ชั่วโมงผ่านไป เปิดตู้เย็น ออกมาก็หน้าตาดูดีนี่ กดหน้าดูหนืดๆ หนึงๆ แต่พอแกะออกจากแม่พิมพ์ซึ่งฉันดันฝันหวานใช้แบบที่มีหยักรูปกุหลาบที่ก้น พอแกะออกมาจะได้สวยๆ ที่ไหนได้เนื้อวุ้นกลับเละเหลวไม่เกาะตัวเสียอย่างนั้น คาดว่าเป็นเพราะน้ำเยอะไป หรือผงเจลาตินไม่เวิร์ก หรือพิมพ์แบบนี้ไม่เหมาะ

     มีเซ็งเล็กน้อย แต่ก็ดีอย่างหนึ่งคือ ประสบการณ์ครั้งนี้ ทำให้ต้องจดลงในรายการซื้อของในเมืองไทยเพิ่มเติมว่าซื้อผงวุ้นกับใบเตยมาที่นี่ด้วย




>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2552 20:31:52 น.
Counter : 898 Pageviews.  

- 03 Novembre 09 - เริ่มด้วยโยคะ จบด้วยหลานสาว

เริ่มด้วยโยคะ จบด้วยหลานสาว

    เพิ่งกลับจากคอร์สโยคะที่ห่างหายไปเกือบสามเดือน เพราะอาจารย์ป่วยส่วนหนึ่ง ส่วนหนึ่งฉันไม่ว่าง ไปฝรั่งเศสเดือนสิงหา กันยาอาจารย์กลับไปรักษาตัวที่บ้าน ส่วนตุลาฉันต้องดูแลไอ้ลูกเลี้ยงตัวน้อย การเรียนจึงสะดุดติดขัดทิ้งช่วง เขากลับมาเริ่มเรียนกันใหม่ตอนหกโมงเช้า ฉันก็ลุกไม่ไหว ถึงกับตัดใจยอมทิ้งเงินที่จ่ายแล้วล่วงหน้าเลยทีเดียว และหมายใจแล้วเล่าว่าจะทำโยคะให้เป็นกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

    แต่ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่แล้วอาจารย์โทรศัพท์มาส่งให้ภรรยาที่พูดอังกฤษได้แจ้งฉันว่าจะเปิดคอร์สเรียนตอนเย็นเริ่มตอนห้าโมง ฉันสะดวกหรือเปล่า ก็ต้องสะดวกสิ ช่วงนี้งานการเบาลงแล้ว เหลืออีดิตงานเล่มนึงเพื่ออกก่อนช่วงปีใหม่

    วันนี้เริ่มต้นชั้นเรียนใหม่ มีนักเรียนแค่สองคน ทีนากับพรีตที่เคยเรียนด้วยกันตอนเก้าโมงเช้าไม่ได้มา มีนักเรียนอีกคนในหมู่บ้านมาเริ่มเรียนใหม่หมด ก็ดีไปอย่างจะได้ทบทวนพื้นฐานจะได้แน่นๆ เพราะถ้าเริ่มต่อจากชั้นเรียนคราวที่แล้วเลยเนี่ย ฉันไม่แน่ใจว่าจะตามติดได้แค่ไหน หลังเลิกเรียนอาจารย์บอกฉันว่าเปิดชั้นเรียนนี้ให้ฉันโดยเฉพาะ ด้วยฉันเป็นนักเรียนที่เก่งที่สุดของเขา ถ้าไม่มีนักเรียนน้อยก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีมากกว่านี้ก็ดี

    อ้าว กดดันกันนี่หว่า สองอาทิตย์หน้าฉันไม่อยู่เสียด้วย ต้องไปตกปลากับหวานใจและต่อด้วยกลับเมืองไทย ถ้าอาจารย์รู้จะมีงอน มีล้มเลิกชั้นเรียนมั้ยเนี่ย ถ้ามี ฉันว่าฉันจะลงทุนตามไปเรียนในคอร์สที่อาจารย์สอนข้างนอกหมู่บ้าน จะได้ไม่มีใครเศร้าเสียกำลังใจ ฉันจะได้มาๆ ไปๆ ไหนต่อไหนได้โดยไม่รู้สึกผิดบาป

     บ่นจบแล้วกลับมาเรื่องภาพประกอบบล็อกวันนี้

    วันนี้ตอนบ่ายๆ พี่มีน พี่สาวแสนสวยแสนดีของฉันส่งรูปหลานสาวที่หวานใจตั้งฉายาให้ว่า มินิ มี เพราะหน้าตาเหมือนฉันเสียขนาดนั้น (ยกเว้นจมูกที่ฉันว่าได้จากพี่เขยไปเต็มๆ )

    หลานผ้าไหมเป็นเด็กเงียบๆ ขรึมๆ โดยเฉพาะกับน้าสาว ซึ่งก็คือฉันนี่ล่ะ เหตุผลคงมีหลายประการ ฉันอยู่ไกล ฉันไม่ค่อยเข้าไปสุงสิงกับหลาน ถึงจะพยายามชดเชยด้วยของฝากต่างๆ นานาจากแดนไกลอย่างสม่ำเสมอ แต่เราก็ไม่ค่อยได้มีความผูกพันธ์ใกล้ชิดกันเท่าไหร่นัก อาจจะเป็นเพราะทุกครั้งที่ได้เจอกันในช่วงเวลาอันสั้น ฉันกับพี่มีนจะปลีกตัวออกมานั่งจิบเบียร์คุยกันต่างหากตามประสาพี่น้องสองสาวเสียเป็นส่วนใหญ่

    แต่ใช่ว่าฉันจะไม่ดูดำดูดีหลานสาวคนเดียวของฉันเลย ฉันหมายใจและแจ้งกับหวานใจไว้แล้วว่า อีกสักปีสองปี ตอนช่วงปิดเทอม ตอนที่หลุยส์หรืออองตวนลูกๆ ของหวานใจมาอยู่ด้วยกัน ฉันจะพาหลานสาวของฉันมาอยู่ด้วยกัน เพื่อเปิดให้เด็กรุ่นต่อไปทำความรู้จักกันไว้ ถ้าถูกชะตาก็เป็นเพื่อนกันต่อไป แต่ถ้าไม่ถูกกันก็จะได้รู้ไว้

     เมื่อพวกแกเติบโตเข้าวัยที่ต้องเรียนต่อ อาจจะต้องมาอยู่ด้วยกัน เพราะฉันตั้งใจจะรับหลานสาวมาเรียนในที่ๆ ฉันจะไปตั้งรกรากนอกเมืองไทยไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม ให้แกได้รู้จักกับชีวิตต่างแดน อย่างน้อยเพื่อฝึกภาษา เปิดหูเปิดตาเสริมประสบการณ์ และถึงตอนนั้นหลุยส์หรืออองตวนก็ควรจะได้โอกาสนั้นด้วย เพื่อทั้งสามคนจะได้สานต่อ มีชีวิตที่ดีมีอนาคตสดใสต่อไป

     ซึ่งเป็นเป้าหมายหนึ่งในชีวิตที่ฉันตั้งใจทิ้งไว้บนโลกใบนี้





>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2552 20:45:43 น.
Counter : 902 Pageviews.  

- 02 Novembre 09 - รัดเข็มขัด จัดงบประมาณ

รัดเข็มขัด จัดงบประมาณ

    สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันกับหวานใจไม่ได้ไปเที่ยวไหน อยู่ที่บังกาลอร์ตลอด วันเสาร์ภารกิจหลักคือพาหวานใจไปทำแว่นใหม่ สำหรับใช้เป็นแว่นสำรอง เผื่อแว่นที่ใช้อยู่แตกหักหรือหาย

     ฉันเป็นตัวตั้งตัวตีลากเขาไปเอง การตัดแว่นใหม่เป็นดำริที่คิดขึ้นนานแล้ว เพราะเห็นจากตอนที่ไปเที่ยวที่แคเรลา ตอนที่หวานใจพลาดตกเรือ แว่นตกน้ำ ต้องให้คนช่วยงมหา โชคดีที่หาเจอ ถ้าหาไม่เจอ คนที่ทั้งสายตาสั้นและยาวและเอียงและอะไรอื่นๆ อีกมากมายอย่างหวานใจท่าทางจะมีเซ็งถ้าไม่มีแว่นใส่ แต่ไม่สบโอกาสทำกันเสียที ผัดผ่อนกันอยู่ล้วเล่า คราวนี้ได้ทำแล้วก็โล่งใจไปหนึ่งเปลาะ

     ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะเข้าเมืองไปซื้อภาพเขียนของศิลปินที่เราชอบใจที่แกลเลอรี แต่เมื่อต้องลงทุนตัดแว่นใหม่ ใช้กรอบมียี่ห้อ ใส่เลนส์ของดีนำเข้าแบบบาง ราคาไม่น้อยเลย เราเลยเลื่อนโครงการซื้อภาพวาดเอาไปเป็นของขวัญช่วงคริสต์มาสแทน

     ช่วงนี้ที่บ้านมีการรัดเข็มขัดกันนิดหน่อย เพราะจู่ๆ ก็มีใบเรียกเก็บภาษีแบบย้อนหลังเข้ามาก้อนใหญ่ที่ฝรั่งเศส เข้าใจว่าระบบค่อนข้างสับสนเรียกเก็บไม่หมดในงวดจ่ายครั้งที่แล้ว เนื่องจากหวานใจย้ายจากฮ่องกงกลับไปทำงานที่ฝรั่งเศสได้ปีกว่าๆ ก็ต้องย้ายทำงานมาที่อินเดีย งวดการจ่ายเลยไม่เหมือนคนที่ทำงานประจำเป็นที่เป็นทาง

     เราเลยต้องมานั่งคำนวณกันนิดนึง ตั้งงบประมาณสำหรับชีวิตในหนึ่งเดือน เพื่อจะได้โอนเงินที่เหลือกลับไปใช้คืนคุณพ่อคุณแม่ที่ออกเงินจ่ายภาษีให้ก่อน ถ้าเป็นคนไทย คงจะไม่รู้สึกอะไรมากที่พ่อแม่ยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ฝรั่งเขาคงอึดอัดไม่อยากทำตัวให้เป็นภาระพ่อแม่อยู่นานๆ โชคดีที่ตอนกลับไปฝรั่งเศสคราวที่แล้วตอนช่วงที่พ่อหวานใจเข้าผ่าตัดหัวใจ เราทำคะแนนดูแลคุณแม่ ไปเยี่ยมคุณพ่อตุนเอาไว้เยอะ แต่คาดว่าพ่อแม่ไม่ว่าชาติไหน ไม่ว่าจะมีคะแนนหรือไม่ ก็คงอยากช่วยเหลือลูกอยู่วันยังค่ำ

     งบประมาณที่ตั้งกัน ส่วนใหญ่เป็นค่าอาหารเครื่องดื่มในระหว่างสัปดาห์ ค่าอาหารเวลาออกไปกินตามร้าน ค่าบริวารแม่บ้านและคนขับรถ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์บ้านและอินเตอร์เน็ต ส่วนค่าเที่ยวของเดือนนี้อันได้แก่การไปตกปลาที่ดาร์จีลิ่งทั้งสัปดาห์หน้า จ่ายไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ตอนจองเมื่อสองเดือนก่อน ที่เหลือก็ค่าตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทยของฉันสิบวันในอาทิตย์ต่อไป


     นอกเหนือจากนั้น เป็นงบที่ตั้งไว้ซื้อของ เพื่อไม่ให้ชีวิตแห้งเหี่ยวเกินไปนัก ของหวานใจเป็นอุปกรณ์ตกปลาสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ต ส่วนฉันเป็นของแต่งบ้านกระจุกกระจิก ของห้อยของแขวนแบบอินเดีย และเสื้อผ้า

     ที่วันนี้เพิ่งไปสอยมาสามสี่ตัวในห้าง ตอนออกไปซื้อกับข้าวตุนเสบียงประจำสัปดาห์ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต





>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2552 22:49:56 น.
Counter : 892 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.