- 12 MARS 08

เงิน 392.34 ยูโร


-- Qu'est-ce que l'on peut faire avec 392.34 euro...---


     เงิน 392.34 ยูโร เทียบเป็นเงินไทยได้ประมาณ 18832.32 บาท ทำอะไรได้บ้าง

     อาจจะซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ปารีส-บาร์เซโลนา - ปารีส ได้สองที่นั่ง

     อาจจะซื้ออาหารมาทำกินที่บ้านสำหรับสองคนได้ประมาณ 10 มื้อ

     อาจจะกินอาหารที่ร้านอาหารได้ประมาณ 5 มื้อ

     อาจจะซื้อไวน์อย่างดีปานกลางได้ 2 ขวด

     อาจจะจ่ายเงินมัดจำค่าลิขสิทธิ์หนังสือได้สักครึ่งเล่ม


     และที่น่าอัศจรรย์คือ สามารถซื้อ "บทพิสูจน์ความรัก" ได้ 4 บท

     - บทที่ 1 หลังจากพูดคุยกันว่าจะไปเที่ยวบาร์เซโลนากันเมื่อคืนก่อน หวานใจลงมือจองตั๋วเครื่องบินในทันที

     - บทที่ 2 เพื่อยืนยันว่า จะไม่มีการเปลี่ยนใจยกเลิกเที่ยวบินนี้ หวานใจไม่เลือกออปชั่น "ประกันการยกเลิก" ที่เปิดให้สามารถยกเลิกตั๋วที่ซื้อได้

     - บทที่ 3 เมื่อกลับถึงบ้าน และรู้ว่า ฉันไม่ได้ตรวจดูข้อแม้ของวีซ่าของฉันให้ดี ทั้งๆ ที่เขาถามแล้วถามอีก ฉันได้แต่วีซ่าเข้าฝรั่งเศส เข้าประเทศในเขตเช็งเก็น (สมาชิกสหภาพยุโรป)ไม่ได้ หวานใจก็ไม่ได้โวยวาย โมโหโกรธา และบอกว่าไม่ได้เสียดายเงินเท่าไหร่ แต่เสียดายที่เราไม่ได้ไปเที่ยวเสปนด้วยกันมากกว่า ... น่ารักชะมัด

     - บทที่ 4 เมื่อเห็นฉันเสียใจที่ทำให้ต้องเสียเงินซื้อตั๋วเครื่องบินไปฟรีๆ หวานใจก็หาเหตุผลมาปลอบใจว่า ไม่เป็นไร เราได้ตั๋วเครื่องบินไปดูที่พักที่อินเดียฟรีๆ จากบริษัทของเขาในเดือนมิถุนา น่าจะพอชดเชยกันได้



     นอกจากนั้น เงิน 392.34 ยูโรและความงก ยังทำให้ฉันค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เพื่อดูว่าฉันมีสิทธิทำอะไรได้บ้างนอกจากติดแหง็กอยู่ในฝรั่งเศส ค้นไปค้นมา ได้ความรู้ใหม่ที่น่าตกใจไม่น้อยเกี่ยวกับ "บัตรผู้อยู่อาศัย" ที่ฉันถือ "ใบเหลือง" รออยู่

     จากเดิมที่นึกว่าจะได้ช่วงสงกรานต์ 13 เมษานี้ ปรากฎว่าเท่าที่อ่านในบล้อกของคนที่เคยขอบัตรเดียวกัน ฉันอาจจะไม่ได้บัตรจริงในทันที อาจจะต้องมีการยื่นต่อเวลาใบเหลืองไปอีก เพราะจะต้องมีขั้นตอนที่ฉันไม่รู้มาก่อน คือการรอเรียกตรวจร่างกาย การสัมภาษณ์ การอบรมปูพื้นฐานเกี่ยวกับการอยู่ในฝรั่งเศส และการทดสอบทางด้านภาษา ซึ่งเป็นขึ้นตอนใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อปีสองปีก่อน

     สรุปว่าฉันต้องห้อยแขวนกึ่งกลางๆ อย่างนี้ไปอีกประมาณสามสี่เดือน สรุประยะเวลาการขอบัตรนี่ศิริรวมตามเวลาปกติ (ไม่ได้ลัดคิวเร่งด่วน เพราะต้องออกนอกประเทศชั่วคราว อย่างที่ฉันทำ)แล้ว อาจจะต้องรอถึง 8 เดือน ฮ่าๆๆๆ บ้าไปแล้ว ระบบราชการประเทศพัฒนาแล้วนี่ช่างทำงานได้รวดเร็วจนน่าทึ่ง

     ในช่วงระหว่างนี้ นอกจากจะเข้าประเทศเช็งเก็นไม่ได้แล้ว หากจะเข้าจะออกประเทศต้องขอวีซ่ากลับฝรั่งเศสเพราะใบเหลืองที่ถืออยู่ออกให้เพื่ออยู่รอบัตรจริงเท่านั้น ไม่ได้ให้สิทธิเต็ม

     ได้รับรู้ข้อมูลนี้แล้ว สมองสลับเรื่องให้กังวลในทันที เปลี่ยนจากความงกเงินค่าตั๋วเครื่องบินไปเที่ยว มาเป็น ตกลงฉันจะอยู่ฝรั่งเศสทันรับบัตรบ้านี่หรือเปล่า แล้วถ้านัดตรวจร่างกายนั่นกำหนดวันแล้วไปตรงกับช่วงที่ฉันกลับเมืองไทยและเลยไปดูที่อยู่ที่อินเดียล่ะ แล้วถ้าไม่ได้บัตรนี่ ฉันต้องทำเรื่องขอวีซ่าทุกครั้งที่เข้าประเทศนี้ใช่มั้ย ทำไมมันแสนจะยุ่งยากขนาดนี้วะ ฯลฯ



     ดังนี้เอง

     จึงพอปลอบใจตัวเอง พยายามมองโลกในแง่ดีได้ว่า เงิน 392.34 ยูโรที่เสียไป ไม่ได้เสียไปฟรีๆ เสียทีเดียว จึงช่วยสะกิด เปิดหูเปิดตา ทำให้ฉันตาสว่าง ได้รู้ข้อมูลที่จำเป็นต่ออนาคตและช่วยให้สามารถสับหลีกวางกำหนดการชีวิตในอีกสามสี่เดือนข้างหน้า ไม่ต้องซ้ำรอยเดิมกับเมื่อสองเดือนก่อนตอนที่จะไปแล่นเรือ จอง-จ่ายอะไรหมดแล้ว เพิ่งรู้ว่าจะต้องขอวีซ่ากลับประเทศ ไม่ได้เข้าออกได้ตามใจชอบอย่างที่เคยนึก ลุ้นกำหนดวันออกวีซ่าให้ตรงกับตั๋วเครื่องบินจนแทบขาดใจ ...



     จะว่าไป...ก็นับว่าคุ้มค่าไม่น้อย ... (แต่อย่าเกิดขึ้นอีกบ่อยๆ ก็จะดีมากๆ)


>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 12 มีนาคม 2551    
Last Update : 12 มีนาคม 2551 17:21:35 น.
Counter : 771 Pageviews.  

- 11 MARS 08

ตัวใครตัวมัน


-- Chacun sa vie...---


     ขณะนี้เป็นเวลา 09.19 น. คุณแม่บ้านยังไม่มากดกริ่งเปิดประตูขึ้นตึกเลย จะมาหรือไม่มาก็ไม่บอก มาสายแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แถมทุกครั้งเจ้าหล่อนเลิกตรงเวลาแป๊ะ

     ฉันนั่งพิจารณาพฤติกรรมของตัวเองที่ผ่านมา เวลามีคนเอาเปรียบฉัน ใช้ประโยชน์จากฉันอย่างนี้ ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก เรื่องที่คนทำรู้ตัวและไม่รู้ตัว รู้ตัวและละอาย ไม่รู้ตัวทั้งยังคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนเอาเปรียบและถูกเอาเปรียบ

      ทุกครั้ง ฉันจะเพิกเฉย พยายามไม่ใส่ใจ ให้อภัย ให้โอกาส ถือว่าซื้อบทเรียนให้ตัวเอง อย่างดีที่สุดก็คือพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้วงจรอุบาทวนกลับมาอีก ยืดเวลาที่จะต้องกลับมาปฏิสัมพันธ์กันออกไปให้นานที่สุด ย่นเวลาที่จำเป็นต้องปฏิสัมพันธ์กันให้สั้นที่สุด และพยายามระมัดระวังไม่ลงเรียนชั้นเรียนเดิมอีก


     จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะ เท่าที่ผ่านมา ฉันได้เรียนรู้ว่า ไม่มีใครอยากทำผิดไปจากที่ควรทำหรอก ทุกคนล้วนมีเหตุผลของตัวเอง และรู้อยู่แก่ใจดี ไม่จำเป็นต้องตอกย้ำซ้ำความรู้สึกผิดจิตตกเข้าไปอีก มันไม่มีประโยชน์อะไร บอกแจ้งไปก็ใช่ว่าจะมีการปรับปรุง รังแต่จะทำให้หมองใจ เกิดความเสียหายทางสัมพันธ์ภาพส่วนตัว เลยลามไปถึงเรื่องการงาน (มีคนไม่กี่คนหรอกที่แยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัวได้เด็ดขาด)

     ไม่หรอก อย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้เป็นคนที่แสนจะเข้าใจผู้คนและมีจิตใจเมตตาหรอก ฉันถือคติ "ตัวใครตัวมัน ชีวิตใครดูแลกันเอง" ฉันไม่รักใคร ฉันไม่ผูกวัว ไม่ถือไม้เรียวไล่ปรับพฤติกรรมของใคร เพราะฉันรู้ว่าคนที่ทำผิดกับฉันจะได้บทเรียนที่เจ็บปวดในอนาคต ไม่ช้าก็เร็ว ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถ้าสังคมไม่ลงโทษ ถ้าไม่ไปเจอคนที่ไม่ยอมให้เอาเปรียบและตอกกลับเอาเปรียบคืนอย่างเจ็บปวด จิตสำนึกดีๆที่น่าจะหลงเหลืออยู่บ้างก็จะลงโทษก่นด่าตัวมันเองไปตลอดชีวิต


     ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงสรุปกับตัวเองว่าฉันทำถูกแล้วที่ไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรออกไป ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ากำลังถูกเอาเปรียบ บางครั้งฉันถึงกับทำดีกับคนๆนั้นยิ่งขึ้นไปอีก (ฉันเพิ่งเสนอให้คุณแม่บ้านกินขนมปังกับแอ้ปเปิ้ลรวมถึงกาแฟได้ เพราะสังเกตเห็นว่าเธอไม่ได้กินอาหารเช้ามา และเมื่อครั้งที่แล้วเธอทนหิวไม่ไหว ถึงกับตัดใจขอแอ้ปเปิ้ลในตะกร้ากับฉัน) เพราะการมาเอาเปรียบคนอย่างฉัน จะมีผลดีได้ประโยชน์แค่ระยะสั้น (คดกินไม่นานหรอก โบราณว่าและฉันเห็นด้วย)ไม่ใช่ในระยะยาว คนที่เอาเปรียบฉันไม่อาจนับว่าเป็นคนโชคดี จัดอยู่ในข่ายคนโชคร้าย



     จนถึงน่าสงสาร


>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 11 มีนาคม 2551    
Last Update : 11 มีนาคม 2551 16:36:58 น.
Counter : 795 Pageviews.  

- 10 MARS 08

ควันหลงจากคืน "ควีน"


-- "Killer Queen"...---


สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา วันเสาร์ไปเยี่ยมและกินอาหารกลางวันกับคุณพ่อคุณแม่สามี นอนค้างคืนที่บ้านนอก ตื่นมาวันอาทิตย์ ตอนบ่ายสองแวะกินอาหารที่ร้านอาหารสำหรับสิงห์รถบรรทุกร้านเดิม

ช่วงเย็นๆ กลับเข้ากรุง เลยไปซื้อหนังสือ ดีวีดีและซีดีกันที่ร้านเวอร์จิน บนถนนชองป์ เซลีเซ่ แล้วกลับบ้าน สั่งอาหารเวียดนามมานั่งกิน พร้อมกับดูดีวีดีคอนเสิร์ตและดีวีดีสารคดีสัมภาษณ์เกี่ยวกับวงควีน วงดนตรีโปรดของเราสองคน

วันนี้ ไอกรุ่นๆจากน้ำเสียงของเฟรดดี้ และดนตรีจากสี่หนุ่มยังคงอบอวลอยู่ในหัวใจ เลยนำเพลงแรกของควีนที่ขึ้นอันดับเพลงฮิตอันดับสองของชาร์ทที่อังกฤษในปี 1975 มาฝากกันในวันนี้

เพลงนี้ชื่อ "Killer Queen" จากอัลบั้ม Sheer Heart Attack ที่ออกเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านั้น






Killer Queen เป็นเพลงที่พูดถึงผู้หญิงชั้นสูงที่มีชีวิตหรูหราราวราชินี ชอบออกสังคมงานปาร์ตี้ ใช้ชีวิตเสเพล ที่มีส่อไปถึงการเป็นโสเภณีชั้นสูง

หลายคนในยุคหลังได้ฟังแล้วคิดเลยไปถึงเพศสภาพของเฟรดดี้ (บ้างว่าเป็นเกย์ บ้างว่าเป็นไบ) แล้วนึกว่า Queen ในที่นี้คือเกย์ควีน แต่เมื่อเทียบจากวันที่เพลงนี้ออกวางแผงครั้งแรก กับการเปิดตัวเรื่องรสนิยมทางเพศของเฟรดดี้ ก็จะเห็นว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน

ลองดูเนื้อเพลงกันนะคะ คงจะไม่แปลทั้งหมดแต่จะสรุปคร่าวๆ แต่ละท่อนแทน


She keeps moet et chandon
In her pretty cabinet
let them eat cake she says
Just like marie antoinette
A built-in remedy
For kruschev and kennedy
At anytime an invitation
You cant decline

เริ่มต้นด้วยการบรรยายรสนิยมการดื่มกินของผู้หญิงคนนี้ "moet et chandon" (โมเอต์ เอต์ ช็องดง) เป็นชื่อเชมเปญหรูระดับโลกของฝรั่งเศส ที่เธอเก็บไว้ใน "pretty cabinet" ห้องพักแสนสวย

"let them eat cake" ประโยคเลื่องลือของพระนางมารี-อองตวนเน็ต ที่กล่าวเมื่อมีคนบอกว่าราษฎรไม่มีขนมปังกิน เธอตอบไปว่า งั้นก็ให้กินบริออช (เค้กจืด) แทนสิ

ระหว่างที่หาข้อมูลอยู่ เจอเนื้อเพลงที่เปลี่ยน Just like marie antoinette เป็น Find me on the internet ด้วย ... ก็ขำๆดี

"kruschev and kennedy" เป็นตัวแทนของระดับสังคมที่เธอคบอยู่ ชื่อแรกเป็นผู้นำของสหภาพโซเวียตเก่า ส่วนชื่อหลังคิดว่าน้อยคนจะไม่รู้ว่าหมายถึงตระกูลไหน


Caviar and cigarettes
Well versed in etiquette
Extraordinarily nice

ท่อนนี้พูดถึงกริยามารยาทของเธอว่าสง่า งดงามและเชี่ยวชาญ

--- Chorus ---
Shes a killer queen
Gunpowder, gelatine
Dynamite with a laser beam
Guaranteed to blow your mind
Anytime

ท่อนนี้พูดถึงยาเสพติด "Gunpowder" คือผงยาเสพติด "gelatine" เป็นตัวที่หุ้มห่อผง ส่วนประสิทธิภาพของเธอก็รุนแรงเหมือนยาเสพติดนั่น คือ สามารถระเบิดหัวแบบรับประกันได้

ในท่อนนี้ ท่านนพดลแอบส่งข้อมูลหลังไมค์มาเกี่ยวกับโรงงานทำระเบิด คล้ายจะบอกว่า "แฮ่ม... มันอาจจะไม่ได้โยงยาวไปถึงยาเสพติดอย่างที่ได้ยินได้อ่านมาผิดๆ หรอกนะครับ เพราะในโรงงานทำระเบิดเขาก็ใช้เจลาตินเหมือนกัน"

แหะๆ รับทราบค่ะท่าน ...เป็นอันว่า ในท่อนนี้พูดถึงความประสิทธิภาพความรุนแรงของเธอก็แล้วกันนะคะ จะเปรียบตามตัวอักษรว่าเหมือนดินระเบิด หรือจะตีความลึกลงไปถึงไหนถึงไหนว่ายาเสพติด ก็ได้ ...

(นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่ามั่ว จะมีคนจับได้)



Recommended at the price
Insatiable an appetite
Wanna try?

ท่อนนี้ส่อนัยเปรียบเทียบคุณสมบัติของเธอว่าช่างแสนหวาน กินเท่าไหร่ไม่รู้เบื่อ และบอกชัดขึ้นว่าเป็นโสเภณีชั้นสูง ด้วยคำว่า price

To avoid complications
She never kept the same address
In conversation
She spoke just like a baroness
Met a man from china
Went down to geisha minah
Then again incidentally
If youre that way inclined

เป็นวิถีชีวิตของเธอ เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก ไม่ทิ้งร่องรอยให้ติดตาม เวลาพูดจาเหมือนเจ้าขุนมูลนาย พบผู้ชายทั่วโลก

Perfume came naturally from paris
For cars she couldnt care less
Fastidious and precise

สิ่งที่เธอใช้ต้องเป็นของดี น้ำหอมจากปารีส รถที่เธอจะนั่งก็ห้ามกระจอก

--- Chorus ---

Drop of a hat shes as willing as
Playful as a pussy cat
Then momentarily out of action
Temporarily out of gas
To absolutely drive you wild, wild..
Shes all out to get you

ลักษณะนิสัยของเธอ ปราดเปรียวได้ตามใจปรารถนา ขี้เล่น เอาแน่เอานอนไม่ได้ บางครั้งรุนแรง บางครั้งเฉื่อยชา ผลก็คือทำให้คุณผู้ชายแทบคลั่ง


--- Chorus ---

Recommended at the price
Insatiable an appetite
Wanna try?
You wanna try...

อยากลองมั้ยล่ะ
ลองมั้ย




>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 10 มีนาคม 2551    
Last Update : 11 มีนาคม 2551 22:39:02 น.
Counter : 8410 Pageviews.  

- 06 MARS 08

วันเกิดหวานใจ


-- Happy Birthday My Dear...'Zam...---

.

     เช้านี้ อ่อนระโหย ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงกำลังใจและกายลุกขึ้นมาแปลข่าวเลย ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกดังเป็นระยะ แต่ขอผัดผ่อนนอนต่ออีกนิด ต่ออีกนิดนะ ละเลียดวินาทีไปทีละหน่อย จนจิตสำนึกในอาชีพการงานอดรนทนไม่ไหว ลงไม้ลงมือขยับตัวลุกขึ้นไปเปิดวิดีโอข่าวที่อัดไว้ กดปุ่มเปิดคอมน้องป้อม แล้วปลุกจิตใต้สำนึกต่ำช้าให้ตื่นขึ้นมาทำงาน

     เมื่อวานนี้เป็นวันที่ยุ่งวุ่นวายมาก เพราะนอกจากจะเป็นวันครบรอบวันเกิดของหวานใจแล้ว ฉันยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้จักดูกำลังของตัวเองมีนัดไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เอดิธ ฟิอาฟ ที่เขต 11 เป็นข้อมูลเอามาเขียนคอลัมน์ด้วย

     ทั้งๆที่ตอนเช้าโชคดีไม่ต้องแปลข่าวเพราะข่าวไม่น่าสนใจไม่น่าทำเลยได้ไฟเขียวจากบ.ก.ข่าวให้งด ต่อจากนั้น แทนที่จะถือโอกาสนั่งนิ่งๆ วางแผนคิดทำอะไรเป็นพิเศษสำหรับฉลองวันเกิดสามีตอนค่ำ ฉันกลับทำเป็นไฟแรง สวมเสื้อเบอร์ห้านั่งแก้เกลา "เซนต์ ริตา" บนหน้าจอจากที่ปรับแก้บนกระดาษ จนเกือบเที่ยง

     ที่จริง ไอ้ความขยันผิดกาละเทศะแบบนี้ ฉันสังเกตตัวเองมาหลายหนแล้ว สิ่งที่น่าจะต้องทำ ไม่ค่อยอยากทำ ไอ้สิ่งที่ยังไม่ต้องทำก็ได้เนี่ย ชอบกระหือรืออยากจะทำนัก ไม่รู้เป็นไง

     กว่าจะตัดสินใจได้ว่าจะทำอะไรเป็นอาหารค่ำฉลองวันเกิดหวานใจ กว่าจะหาเส้นทางการเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ได้ ก็ปาเข้าไปบ่ายโมงกว่าๆ แต่งตัว หยิบชุดสูทหวานใจลงข้างล่างกะว่าจะไปส่งร้านซักแห้ง ร้านซักแห้งก็ดันปิดกินกลางวัน กว่าจะเปิดก็บ่ายสาม เลยต้องย้อนขึ้นบ้านอีกรอบ เสียเวลา อารมณ์และเรี่ยวแรงไม่น้อย


     ระหว่างนั่งรถไฟใต้ดิน เปลี่ยนแผนการ จากไปรับรูปที่พิคโตก่อนแล้วค่อยไปมิวเซ่ เป็นไปมิวเซ่ก่อนแล้วค่อยไปพิคโต เนื่องจากใกล้เวลานัดบ่ายสามโมงเข้ามาทุกที ใช้เวลาอยู่ที่มิวเซ่อยู่ครึ่งชั่วโมง จับรถไฟย้อนไปรับรูปถ่าย ขากลับเดินผ่านร้านขายของมือสอง แวะเข้าไปดู ได้แผ่นเสียงไวนิลเป็นของขวัญวันเกิดหวานใจสี่ห้าแผ่น รวมกับแผ่นเสียงบันทึกคอนเสิร์ตปิอาฟที่คาเนกี้ฮอลล์ เมื่อปี 1957 ซึ่งซื้อมาจากมิวเซ่

     กลับถึงบ้านเกือบห้าโมงเย็น เปิดตำราเตรียมทำอาหาร

     เมนูประจำวันเกิดหวานใจปีนี้คือ

     - หมูอบจูนิเปอร์เบอรี (ลูกไม้ที่ใช้แต่งกลิ่นเหล้าจิน)กับสับปะรด

     - เค้กเค็มใส่ผัก (เอาไว้กินเคียงกับหมูอบ) >>ตามไปดูวิธีการทำ

     - เค้กหวานใส่กล้วยหอม ช็อคโกแล็ต อัลมอนด์



     ผสมแป้งทำเค้กก่อนเป็นอันดับแรก เอาเข้าตู้เย็นเตรียมไว้

     หึหึหึ ทำไปทำมาชักจับไต๋หนังสือตำราเค้กเล่มนี้ได้ ส่วนผสมแป้ง ไข่ ผงฟู นม น้ำมัน ทุกสูตรเหมือนกันหมดทั้งเล่ม ต่างกันก็แค่หวานหรือเค็ม ทำให้เหมือนหลากหลายด้วยของที่ผสมลงไปเป็น ของคาว (ใส้กรอก แฮม ผัก) ผลไม้ (แห้ง สด) หรือผสมกลิ่นรสต่างๆ ถ่ายรูปสวยๆ ประกอบลงไป ... เออนะ เล่นง่ายดี เดี๋ยวทำมั่งซะเลย



     ทุ่มนิดๆ เจ้าของวันเกิดกลับบ้านแต่หัววัน หลังจากแวะไปร้านขายไวน์ซื้อเชมเปญ กับไวน์ปอมเมอโรล กรองครู ของชาโตซ์ที่ติดอันดับว่าเป็นไวน์เกรดดี เห็นหวานใจตื่นเต้น ปลาบปลื้มกับไวน์ขวดนี้มาก ฉันเลยไม่กล้าถามว่าขวดเท่าไหร่ กลัวรู้แล้วจะดื่มไม่ลง

     กว่าจะได้ลงมือกินหมูอบ เวลาก็ล่วงไปเกือบสี่ทุ่ม เนื่องจากเมนูอาหารวันนี้ต้องใช้เตาอบทั้งหมด ทำให้ต้องต่อคิวกันทำ เสียเวลาโดยใช่เหตุ ก็พ่อคุณทูนหัวนั่นแหล่ะ ขอมาว่าอยากกินของอบ ของคาวอยากได้ของอบ ของหวานก็อยากได้เค้กที่ต้องอบ คนลงครัวจะทำยังไงได้ล่ะ ก็ต้องหิ้วท้อง จิบไวน์ขาวรอให้เตาอบอบอาหารให้สุกพลางๆ ก่อนนะจ๊ะ


     อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเรียบร้อย ผ่านไปด้วยดีชื่นมื่น มีการให้ของขวัญ ของฉันเป็นไวนิลมือสองสำหรับวันเกิด หวานใจซื้อเสื้อคลุมใส่หลังอาบน้ำให้ฉัน อ้างว่าเป็นวันครบรอบการรู้จักกันครั้งแรกทางอินเตอร์เน็ตของเราสองคน ส่วนฉัน ฉันให้ความสำคัญกับวันครบรอบที่เราเจอตัวกันวันที่ 1 เมษา มากกว่า เดี๋ยวพอถึงวันนั้นฉันค่อยให้ของขวัญกลับคืนละกัน

     นอกจากนั้นก็มีเค้ก มีการเป่าเทียน มีไวน์ มีเชมเปญ มีการตอบอีเมลแรกสุดที่เขาส่งมาบอกวันเกิดของตัวเองเมื่อสามปีก่อนกลับไปยังผู้ส่ง ตามธรรมเนียมที่ฉันคิดขึ้นเอง (และแอบคิดว่าน่ารักดี) มีการพูดคุยกันสารพัดเรื่อง ตั้งแต่เรื่องงาน เรื่องคน เรื่องอดีต เรื่องอนาคตในอินเดีย เรื่องระบบการศึกษาในฝรั่งเศส จนถึงตีสอง ...อันเป็นสาเหตุของอาการโผเผ งอแงไม่อยากตื่นมาทำงานแปลข่าวในเช้าวันนี้


     เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้สอนให้รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้แล้วว่า จะทำอะไรให้ทำทีละอย่าง ฉันปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่า วันเกิดสามีปีหน้าจะตั้งใจทุ่มแรงกายแรงใจเสกสร้างสรรค์ให้อลังการงานสร้างสมกับความรักความเมตตาที่เขามอบให้มากกว่านี้



     จะไม่เอางานส่วนตัวมาแอบสอดแอบแทรกเหมือนปีนี้อีกแล้วจ้ะ... สัญญา


>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 06 มีนาคม 2551    
Last Update : 7 มีนาคม 2551 20:53:21 น.
Counter : 934 Pageviews.  

- 5 MARS 08

เริ่มทำงานอีกเล่ม


-- Le Retour au boulot---


     วันสองวันนี้อากาศที่นี่แย่มาก มีฝนตกปรอยๆ เป็นระยะๆ ลมแรงกรรโชกเป็นช่วงๆ อยู่บ้านทำงานดูจะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องแล้ว

     เช้านี้ตื่นมาหลังสามีอีกตามเคย ช่างเถอะ พอจะปล่อยวางได้แล้ว ช่วงสามสี่วันที่ผ่านมา ยอมรับว่าดื่มหนักไปหน่อย ร่างกายทรุดโทรมตื่นไม่ค่อยไหว วันนี้ว่าจะลดปริมาณการดื่มลง (ลดนะจ๊ะ ไม่ใช่งด)


     เมื่อเช้าคุณแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้านจนเสร็จเรียบร้อยตอนเที่ยง ฟิลูลูโทรมา ชวนออกไปเจอกัน แต่ฉันขอผลัดเป็นวันพรุ่งนี้ อ้างว่าวันนี้มีคนมาทำความสะอาดบ้าน ไม่ใช่ว่าฉันไม่ไว้ใจแม่บ้านหรอก แต่ฉันมีงานแปลโปรแกรมหนังที่ฟ๊าบส่งมาให้แปลเพิ่มเติมในวินาทีสุดท้าย ฉันก็เลยต้องลัดคิวภารกิจต่างๆ แปลให้ก่อน

     เสร็จส่งเรียบร้อยแล้ว สวมหมวกเจ้าสำนักประชุมงานออนไลน์กับผู้ร่วมก่อการสำนักพิมพ์ เรื่อง "เด็กหญิงมุกประดับ" หนังสือเล่มที่สองที่จู่ๆ ก็เกิดมีภาวะฉุกเฉินต้องรีบออกให้ทันงานหนังสือ ต่อด้วยการ์ตูนเขมรแดงที่เจอใบเสนอราคามาสูงมาก คงต้องรอปรับสเปคกันอีกรอบนึงให้ได้ตามงบประมาณที่ตั้งไว้

     ต่อจากนั้น ตั้งใจว่าจะเขียนคอลัมน์ "มิวเซ่" แต่นึกขึ้นได้ว่าน่าจะเขียนถึงพิพิธภัณฑ์เอดิธ ฟิอาฟ ก่อน เพราะตอนนี้หนังเรื่อง "ลาโมม" กำลังมาแรงจากการได้รับรางวัลออสการ์ เจอท่าน บ.ก. วิภว์ ณ แฮพเพนนิ่ง ในเอ็ม เลยเจรจาต่อรองขอเลื่อนกำหนดส่งไปเล็กน้อย แล้วยกหูโทรศัพท์โทรไปที่พิพิธภัณฑ์เพื่อขอนัดเข้าชม ที่นี่เราต้องโทรไปนัดก่อน ไม่ใช่อยากไปก็ไป หวังว่าจะมีไกด์ส่วนตัวคอยอธิบายอะไรต่างๆ อย่างละเอียด และอนุญาตให้ถ่ายรูปได้นะ ไม่งั้นมีเซ็ง ...

     เสร็จธุระปะปังช่วงเช้า โต๋เต๋ๆ อยู่ในเน็ต รอให้เกิดแรงฮึดภายในใจจนพอที่จะลุกไปนั่งบนโซฟา (เสี่ยงต่อการเอนตัวนอนมาก แต่อยากเปลี่ยนอิริยาบท) เริ่มตรวจแก้ต้นฉบับแปล "เซนต์ริตา แม่พระของผู้สิ้นหวัง"สลับพักด้วยลุกไปต้มมาม่ากินหนึ่งชาม แก้ไขตรวจทานจนจบเรื่องสั้นหนึ่งเรื่อง เป็นอันว่าทำงานประจำวันเสร็จเรียบร้อย

     ฉันตั้งตุ๋นไก่เอาไว้เป็นอาหารค่ำ ตั้งแต่บ่ายสามกว่าๆ ในหม้อตุ๋นแบบแรงดันไอน้ำเสียด้วย ไก่นิ่มยุ่ยอย่างรวดเร็วทันใจ เขาว่าใช้วิธีนี้แล้วพวกวิตามินเกลือแร่ สารอาหารต่างๆ จะอยู่ครบถ้วนกว่าตุ๋นทั่วไป ฉันครีเอทสูตรอาหารใหม่ (หรือเปล่าก็ไม่รู้) ขึ้นมา โดยการทุบข่ากับตะไคร้ลงไป พอสุกแล้วหย่อนใบมะกรูด รสชาติน่าจะออกแบบต้มยำไก่น่ะนะ เดี๋ยวว่าจะลงไปซื้อเห็ดมาใส่ ซื้อผักมาผัด หุงข้าวสวยกินร้อนๆ เป็นอาหารไทยเบาๆ สลับกับมื้ออาหารหนักๆ พาสต้ากับตุ๋นหมูป่าที่กินมาสองมื้อ แค่เห็นก็แทบจะอ้วกแล้ว

     ตอนบ่ายๆ หวานใจโทรมาแจ้งโปรแกรมการเดินทางคร่าวๆ ฉันต้องเลื่อนกำหนดกลับเมืองไทยเดือนพฤษภาคมขึ้นมาสามสี่วัน เพราะจะได้ลงจังหวะที่หวานใจตามไปฉลองวันเกิดของฉันได้สะดวก ถ้าไม่เลื่อน ฉันต้องเดินทางวันเกิดตัวเอง จะให้ฉลองย้อนหลังหรือล่วงหน้าก็ไม่ได้หรอก เสียขลังหมด

     หลังจากนั้นเราจะไปดูที่พักอาศัยบ้านที่จะอยู่หลังต่อไปที่บังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ก่อนจะย้อนกลับเมืองไทย แล้วบินมาฝรั่งเศสพร้อมหลุยส์ลูกสาวคนโตของหวานใจ ลูกเลี้ยงที่ฉันไม่เคยได้เจอมาก่อน ซึ่งจะมาเยี่ยมคุณปู่คุณย่าที่ฝรั่งเศส ... ไม่รู้จะออกหัวออกก้อย ไม่รู้จะเข้ากันได้หรือเปล่า หรือจะหมางเมินกันเหมือนในละครน้ำเน่า เริ่มกลัวไปก่อนอีกแล้ว

     พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของหวานใจ ยังไม่รู้จะทำอะไร หรือซื้ออะไรให้เป็นของขวัญเลย ที่แน่ๆ คือไปรับรูปถ่ายที่ส่งล้างที่พิคโต



     แล้วก็อาจจะลงมือทำเค้กสักก้อนนึง ทำอาหารพิเศษ ในบรรยากาศพิเศษมั้ง ... ว่าแต่ จะทำอะไรดีล่ะ




>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 05 มีนาคม 2551    
Last Update : 5 มีนาคม 2551 1:31:45 น.
Counter : 887 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.