- 11 Août 08 - โลกใครก็โลกใคร

โลกใครก็โลกใคร

La vie des autres.

    ถึงจะมีผมหงอกขาวงอกยาวๆ ออกมาให้เห็นเด่นชัดหลายเส้น ย้ำเตือนว่าฉันเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่เด็กๆอีกต่อไปแล้ว แต่ฉันก็อดตกใจไม่ได้ เวลาเห็นตัวเองกำลังทำสิ่งที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน

     ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่หัวใจเด็กหรอก มันหมายถึงอะไรฉันยังไม่ค่อยรู้เลย ฉันแค่มีโลกส่วนตัวของตัวเอง โลกที่เคยสงบเงียบทำงานตามลำพังที่บ้าน ต่อมามีหวานใจเข้าอยู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ปัจจุบัน โลกของฉันสลับอยู่ระหว่างโลกของตัวเองกับโลกของเราสองคน

    ด้วยความที่ไม่ค่อยได้สมาคมสุงสิงกับใครเท่าไหร่นัก ฉันจึงมีความเชื่อ ความชอบ ความเห็นควรไม่ควรไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านชาวเมือง อย่างไรก็ตาม ฉันก็ไม่เคยดูถูกรสนิยมของใคร ทุกคนมีโลกของตัวเอง ประสบการณ์ของตัวเอง จะเอามาตรฐานใดมาวัดว่าโลกไหนดีกว่า วิถีชีวิตแบบไหนเล่าที่เหนือกว่า

     และเมื่อเราอาศัยเหยียบย่างอยู่บนดาวเคราะห์ดวงเดียวกัน การที่โลกของแต่ละคนจะมาเชื่อมทับซ้อนกันในช่วงเวลาหนึ่งจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อวาน ฉันได้ลิ้มรสประสบการณ์แปลกใหม่จากการปฏิสัมพันธ์โลกของฉันกับโลกของคนอื่น ฉันกับหวานใจเปิดโลกของเราออกเชื่มประสานกับโลกอีกโลกหนึ่ง ด้วยการการออกไปกินข้าวกลางวันกับครอบครัวเพื่อนร่วมงานของหวานใจ

    ครอบครัวนี้เป็นชาวฝรั่งเศสที่ตกลงใจปักหลักตั้งรกราก ยอมต่อสัญญาแบบท้องถิ่น อดสวัสดิการหวือหวาราคาแพงในสัญญาเอ็กซปัต พวกเขามีลูกสาวกำลังแตกเนื้อสาวอายุสิบห้าสิบหกสองคน และลูกชายอายุสิบเอ็ด ฉันได้เห็นวิธีการที่คนในครอบครัวปฏิบัติต่อกัน พ่อกับลูก แม่กับลูก พี่กับน้อง สามีกับภรรยา และวิธีที่คนในครอบครัวปฏิบัติต่อ "แขกผู้ใหญ่" คนนอก

    ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก คือ หวานใจ กับ ฉัน นั่นแหละ

    พอกินอาหารเสร็จเรียบร้อย เราไปดื่มชากาแฟกันที่บ้านของพวกเขา เด็กๆ กลับเข้าสู่โลกของตัวเอง พี่สาวคนโตถลาเข้าไปเล่นเน็ตในห้องทำงานพ่อ ลูกสาวคนกลางขลุกอยู่ในห้องเล่นกับแมว น้องชายคนเล็กเฝ้าหน้าจอเล่นวิดีโอเกม ปล่อยให้ "ผู้ใหญ่" ทั้งสี่ นั่งดื่มชา-กาแฟอยู่ในโลกของผู้ใหญ่หน้าบ้าน คุยสัพเพเหระสารพัดเรื่อง คนฝรั่งเศสสามคนออกความเห็น แนะนำเรื่องโน้นเรื่องนี้ต่างๆ นานา

    ฉันเองในตอนแรกก็นั่งรักษามารยาทอย่างที่ผู้ใหญ่พึงทำกัน ฟังไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยได้พูดอะไรกับเขาหรอก ขี้เกียจพูด และสักพักก็เริ่มขี้เกียจฟัง ตัดสินใจกระโดดกลับเข้าโลกของตัวเอง



    วิ่งตามถ่ายรูปหมากับแมว




>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 11 สิงหาคม 2551    
Last Update : 11 สิงหาคม 2551 13:09:26 น.
Counter : 871 Pageviews.  

สำนักพิมพ์กำมะหยี่เชิญทุกท่านร่วมงาน "รวมพลคนอ่านและไม่อ่านงานมูราคามิ"

ประกาศ




Photobucket










 

Create Date : 08 สิงหาคม 2551    
Last Update : 8 สิงหาคม 2551 0:13:30 น.
Counter : 887 Pageviews.  

- 05 Aout 08 - แยกทางได้ ก็กลับมาร่วมทางใหม่ได้

แยกทางได้ ก็กลับมาร่วมทางใหม่ได้




    เธอจะทำอะไรก็ทำสักอย่างนึงมาดามมิว

    จะแปลงานต่อ หรือจะเขียนบล้อก หรือจะอัพโหลกรูปขึ้นเวบอัลบั้ม ก็ทำให้เสร็จไป สลับหน้าต่างจึ๊กจั๊ก หยิบแล้วปล่อย แล้วหยิบแล้วปล่อย มันจะไม่เสร็จเลยสักงานนะจ๊ะ



    วันนี้เป็นวันที่ทำงานได้ดีทีเดียว ทางด้านกำมะหยี่ มีการสรุปตัดสินใจ ส่งต่องานในด้านต่างๆ ได้อย่างราบรื่นเสร็จตามกำหนดที่วางไว้ แผนการตลาดสำหรับส่งประมูลลิขสิทธิ์เสร็จเรียบร้อยพร้อมส่ง ฉันส่งหน้าปกและหน้าลิขสิทธิ์ของแพร์ซโพลิสให้เจ้าของลิขสิทธิ์ที่ฝรั่งเศสเรียบร้อยแล้ว ต้องขอบคุณคุณแอน หุ้นส่วนแสนไฮเปอร์ที่ประสานงานทุกอย่างได้เป็นอย่างดี และฝนที่คอยตรวจดูงานอย่างละเอียด

    ส่วนคุณสิบ คุณชายคนเดียวของสนพ. หลังจากมีแง่งอนประกาศกร้าว "แยกทาง" ฉลองวันเกิดตัวเองตามประสาไปเมื่อวานนี้ วันนี้ก็ไฟแรงลุกขึ้นมาประสานเรื่องงานเปิดตัวที่กำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ ๑๘ นี้อย่างแข็งขันน่าชื่นใจ ขอภาวนาให้เป็นเช่นนี้ตลอดไปนะจ๊ะ

    ตอนนี้วิกฤติวันเกิดคลี่คลายแล้ว ฉันเองก็โล่งใจดำเนินกิจการต่อไปเรื่อยๆ พอจบงานนี้แล้วเราจะได้เริ่มลุยงานของคุณสิบที่เขียนเก็บไว้ในสต็อคกัน สัญญา อย่าเพิ่งตัดช่องน้อยหันหลังให้กันเลย อยู่ด้วยกันเรายังทำอะไรๆ ดีด้วยกันได้อีกเยอะ โปรเจคกำมะหยี่มีมากมาย เงินทุนเราไม่ขาด ความสามารถของทีมงานเรามี อยากทำอะไรเราทำได้ทั้งนั้น ไม่มีคำว่าตัน จะไปหาที่ไหนได้อีก

    ฉันเชื่อเสมอว่า ความแตกต่างไม่ใช่อุปสรรคที่จะทำให้เราทำงานร่วมกันไม่ได้ ความแตกต่างสามารถเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกัน ถ้าเราเคารพซึ่งกันและกัน

    การกระทบกระทั่งกันระหว่างคนที่แตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าที่ไหนก็มี ขอให้มีมนุษย์มากกว่าหนึ่งคนเถอะ และอย่าว่าอย่างโน่นอย่างนี้เลย นอกจากความขัดแย้งและสถานการณ์ที่บีบคับภายนอกแล้ว ในตัวมนุษย์หนึ่งคนก็มีความขัดแย้งภายในอีกด้วย ดังนั้นการคาดหวังว่าอะไรต่างๆ จะราบรื่นในชั่วพริบตา ในชั่วการร่วมงานที่ยาวนานไม่ถึงหนึ่งปีด้วยซ้ำ คงเป็นไปได้ยาก

    แต่เมื่อร่วมงานกันไปเรื่อยๆ เมื่อเราทำความรู้สึกนิสัยของแต่ละคน และพยายามปรับสไตล์การทำงานให้สอดคล้องต่อเนื่องกันแล้ว สิ่งที่เป็นไปได้ยาก จะค่อยๆ เป็นไปได้ และเป็นไปได้ด้วยดีอย่างยิ่งด้วย ... ฉันมั่นใจเช่นนั้นและมั่นใจมากขึ้นทุกทีเมื่อเห็นยามที่เราร่วมมือกันทำงานจริงๆจังๆหลายครั้งหลายหน


    เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ ฉันกับหวานใจไปสปากัน ครั้งนี้อุตส่าห์ให้นวดไทยหวังความตึงที่ไหล่และความตึงเครียดที่สมองจะคลายลงไปกับท่าดัดตัวนานๆ สักอาทิตย์นึงให้ครบรอบ กลับมาเจออีเมลต้นเรื่องปุ๊บ ไอ้ความสบายกายสบายใจจากการนวดตัวนวดหัวหายวับไปกับตา



     พลพรรคที่รัก คราวหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะคะ ขอร้อง .... มาดามเสียดายค่านวด


>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 05 สิงหาคม 2551    
Last Update : 5 สิงหาคม 2551 21:03:02 น.
Counter : 821 Pageviews.  

- 02 Août 08 - ทุกอย่างไปได้สวย และงดงามขึ้นทุกที

ทุกอย่างไปได้สวย และงดงามขึ้นทุกที

Tout va bien... et de mieux en mieux

    นอกจากช่วงไปเที่ยวนอกบ้านติดต่อกันหลายวันแล้ว ฉันไม่เคยเว้นว่างการอัพบล้อกไดอารีนานขนาดนี้เลย

    ปกติ วันเสาร์-อาทิตย์ ฉันจะพยายามไม่เปิดคอมพิวเตอร์ อยากใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆ กับหวานใจให้มากที่สุด วันเสาร์เป็นวันช้อปปิ้งเพราะมีคนขับรถให้ วันอาทิตย์เป็นวันพักผ่อน ออกกำลังกาย ไปสปา ทำอาหารอร่อยๆ อยู่ที่บ้าน เพราะช่วงระหว่างสัปดาห์ฉันใช้คอมพิวเตอร์ทำงานทุกวัน วันละหลายชั่วโมง เปลี่ยนอิริยาบท พักผ่อนสายตาบ้างก็ดี

    แต่วันนี้ไม่ไหวแล้วฮ่ะ จะลงแดงตาย เลยต้องขอต่อเวลาหน้าจอเสียหน่อย บล้อกที่แล้วเขียนวันจันทร์ บล้อกนี้เขียนวันเสาร์ ห่างกัน ๔ วันเชียวนะ แต่ระหว่างนี้ฉันก็พยายามอัพเล็กอัพน้อยที่บ้านเล็ก คือ มัลติพลายและบล้อกกำมะหยี่ เพราะจะไม่ให้เจียดเวลาทำกิจกรรมนี้เลยก็ไม่ไหวนะ

    ตอนนี้ชีวิตใหม่ในอินตะระเดียของฉันเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วค่ะ นอกจากเฟอร์นิเจอร์หลักๆที่ต้องมี เช่น เตียง โต๊ะกินข้าว โต๊ะทำงาน โซฟา เราเริ่มมีของประดับจุกจิกเกๆน้อยๆ ตกแต่งสบายตาสบายใจตามสไตล์เรา บ้านเริ่มเป็นบ้าน เริ่มมีชีวิตชีวา มีวิญญาณ และมีความสะอาดเรียบร้อยด้วยฝีมือของมันจุฬา พอสิ่งแวดล้อมรอบกายน่ารื่นรมย์ ความรู้สึกข้างในจิตใจก็โล่งปลอดโปร่ง มันจุฬาช่างพูดช่างเจรจามีความคิดสร้างสรรค์กระตือรือร้น ช่วยให้ฉันคลายความเครียดได้เยอะเลย



    วันอังคาร หวานใจส่งมันจู คนขับรถมารับฉันกับมันจุฬาไปซื้อต้นไม้มาประดับระเบียงบ้าน ฉันปล่อยให้มันจุฬาจัดการเจรจาต่อรองราคา เห็นลีลาและความเด็ดขาด ถ้าไม่ลดให้ตามที่เธอต่อ เธอจูงมือฉันเดินออก ฉันขำก๊าก คิดถึงคุณนายแม่ขึ้นมาทันที

    เดี๋ยวอาทิตย์หน้า เรานัดกันว่าจะออกนอกบ้านกันสองวัน ไปเที่ยววัดวันนึง ไปช้อปปิ้งในเมืองวันนึง มีเพื่อนเที่ยวและเป็นนักต่อราคาไปด้วยอย่างนี้ ท่าทางจะสนุกสนาน อาจจะบรรเทาอาการติดบ้านของฉันได้เป็นอย่างดี จะได้ออกไปเปิดหูเปิดตา เผื่อจะเขียนหนังสือสนุกๆ กับเขาได้สักเล่ม



    วันพุธ ไม่มีอะไรมาก มันจูทำอาหารให้กิน ฉันถ่ายรูปเอาไว้เพียบ เดี๋ยวจะค่อยๆ ทยอยเขียนขึ้นบล้อกที่มัลติพลาย ตอนค่ำไปดินเนอร์กับหวานใจที่ลีลาพาลาส โรงแรมไฮโซและสวยงามที่สุดของบังกาลอร์ ร้านอาหารเอเชียชื่อ เซ็น ของที่นั่นจัดเมนูสี่ชาติ คือ จีน ญี่ปุ่น ไทย เกาหลี คืนนั้น เรียกน้ำย่อยด้วยหมี่กรอบกับ ยำวุ้นเส้นที่ฉันย้ำกับบริกรว่าต้องบอกเชฟว่าฉันเป็นคนไทย ฉันอยากได้รสชาติเข้มข้นแซ่บแบบของจริง จานต่อไปเป็นบาบีคิวแบบเกาหลี สั่งแบบเนื้อไม่หมักกับแบบหมักมาลองกินกัน เคียงด้วยกิมจิ ข้าวและซุบ

    ปรากฎว่าเป็นบาบีคิวแบบย่างมาให้เสร็จเรียบร้อยเลย บริกรมายกมาเสิร์ฟให้ถึงจาน หมดสนุกไปเยอะเลย อีกอย่างฉันชอบกินเนื้อแบบย่างไม่สุกมาก ดีที่เนื้อของเขาไม่เหนียว ถึงจะสุกเกินรสนิยมส่วนตัวก็ยังพอกินได้ ไม่งั้นมีเซ็ง

     เท่าที่ไปกินอาหารตามร้านต่างๆ หลายแห่งที่นี่ ฉันสังเกตว่าเขาจะเลี่ยงไม่เขียนคำว่า beef ลงในเมนู แต่จะเขียนว่า tenderloin (เนื้อสันใน) เท็นเดอร์ลอยผัด เท็นเดอร์ลอยย่าง ไม่รู้ว่าที่นี่เข้าใช้แต่เนื้อสันทำอาหารเท่านั้น ไม่ใช้เนื้อส่วนอื่นๆของวัวเลยจริงๆ หรือเป็นแค่การเลี่ยงไม่พูดคำว่าเนื้อ "วัว" ซึ่งเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ยืนเคี้ยวเอื้องตามริมถนนกลางเมืองก็ไม่ทราบได้ ... เดี๋ยวเจอคนอินเดียที่ที่น่าจะพอรู้ที่มาที่ไปแล้ว ฉันจะลองถามประดับความรู้ดู



     วันพฤหัส จำไม่ได้ นึกไม่ออกว่าทำอะไรไปบ้าง นั่งแกะงานแปล ประสานงานกำมะหยี่ และอื่นๆ ที่ไม่ค่อยเร้าใจเท่าไหร่มั๊ง อ้อ... นึกออกแล้ว วันนี้เป็นวันสิ้นเดือน ฉันสวมบทคุณนายนับเงินใส่ซองสีสวยเป็นค่าจ้างให้พนักงานในบ้าน (ฟังแล้วเหมือนมีหลายคน แต่ที่จริงก็มีแม่มันจุฬาคนเดียวนั่นแหละ ส่วนมันจู คนขับรถ หวานใจเป็นคนจัดการ)

     ตอนค่ำอบไก่น้ำผึ้ง+ขิง และผัดถั่วงอกที่เพาะเองในภาชนะที่ออกแบบมาเพื่อการเพาะถั่วโดยเฉพาะเมดอินอินเดีย อร่อยถูกใจ ที่เหลือเก็บไว้เป็นมื้อกลางวันของวันรุ่งขึ้นได้อีกด้วย หวานใจแวะซื้อเครื่องดื่มจากบาร์เล็กๆระหว่างทางกลับบ้าน ได้ไวน์อินเดียมาขวดนึง เบียร์สองขวด สองสามี-ภรรยา นั่งดื่มพร้อมเปิดเวบยูทูบดูวิดีโอต่างๆ ไล่ตั้งแต่เกนสบูร์จจนถึงเซอร์ เอลตัน จอห์น ปิดท้ายตามเสียงเรียกร้องของศรีภรรยาขี้เมา .... ....อยากดูเฟร็ดดี้ อ่าาาาา...



     วันศุกร์ แสนสนุกสนาน เป็นวันนัดประชุมทางไกลของสำนักพิมพ์กำมะหยี่ผ่านอินเตอร์เน็ต เริ่มตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง จบสิ้นตอนห้าโมงเย็น นั่งเฝ้าหน้าจอพิมพ์ปรึกษาเรื่องต่างๆ นานา ตัดสินใจเรื่องแผนการตลาดของแพร์ซโพลิส โหวตปกแพร์ซโพลิส ดีไซน์หัวจดหมาย เรื่องงานเปิดตัว เรื่องหนังสือที่เราจะต้อง "ประมูลลิขสิทธิ์" กำหนดกลยุทธต่างๆ ในการเข้าประมูล และอื่นๆ และอื่นๆ

     ยุ่งจนไม่มีเวลายกกล้องถ่ายรูปแม่มันจุฬาที่วันนี้แต่งชุดสวยมาเต็มที่

     ตกค่ำ หวานใจมารับไปกินมื้อค่ำที่ร้าน The only Place ในเมือง เป็นร้านสเต็กเฮ้าส์แบบเรียบง่าย มันจูหลงทางขับวนเป็นชั่วโมง โทรไปถามทางที่ร้านไม่รู้กี่รอบก็ยังหาไม่เจอ สุดท้ายก็ต้องถามคนแถวนั้น และโชคดีที่เขาบอกทางถูก เนื้อวั.... อะ ขอโทษฮ่ะ เทนเดอร์ลอยของที่นี่นุ่ม ย่างกำลังดีเพราะสั่งเผื่อไว้เนื่องจากรู้แกวกุ๊กอินเดียแล้วว่า ถ้าสั่งมีเดียมจะได้มีเดียม-เวลดัน




    ถ้าอยากได้มีเดียม ต้องสั่งมีเดียมแรร์





>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 02 สิงหาคม 2551    
Last Update : 2 สิงหาคม 2551 13:54:56 น.
Counter : 1360 Pageviews.  

- 29 Juillet 08 - วันจันทร์ อันแตกต่าง

วันจันทร์ อันแตกต่าง

Le lundi n'est plus comme avant.


    วันจันทร์ไม่เคยจะเป็นวันที่แตกต่างไปจากวันทำงานอื่นๆ เท่ากับช่วงนี้เลย

    ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว สมัยยังโสดสนิท เมื่อสามปีก่อน วันไหนๆ แม้แต่เสาร์-อาทิตย์ก็เป็นเหมือนกับวันอื่นๆ พอมีหวานใจเข้ามาในชีวิต วันเสาร์-อาทิตย์ กลายเป็นหยุดเหมือนคนอื่นๆ เขา ตอนแรกๆ ก็ปรับตัว ตัดใจไม่ค่อยได้ แต่หลังๆ เริ่มชินรับได้แล้ว วันจันทร์ถึงศุกร์ก็เริ่มงานแปล งานเขียนของตัวเองไปตามตารางการทำงานที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ

    พอมี สนพ.กำมะหยี่ มีเรื่องกิจการงานภายในให้ต้องดูแล ตัดสินใจ รับ-ส่งคำปรึกษา มีช่วงเตรียมงาน ลงมือทำงาน และเก็บงาน เข้ามาเป็นระลอก วันจันทร์กลายเป็นวันแห่งการเริ่มต้นสัปดาห์การทำงาน ที่มีงานของกำมะหยี่เป็นงานหลักต้องรีบเคลียร์ส่งให้ผู้ร่วมงานคนอื่นๆ รับไปจัดการต่อตามหน้าที่ งานแปลจึงกลายเป็นงานรองที่ฉันจะต้องเฉลี่ยทำให้มากขึ้นเพื่อชดเชยในวันต่อๆไป



    ยิ่งตอนนี้ วันจันทร์ยังเป็นวันที่ยุ่งยิ่งขึ้นไปอีก เพราะนอกจากกำมะหยี่แล้ว ฉันยังมีหน้าที่ "มาดาม" เป็นนายหญิงของบ้าน มีบริวารเข้ามาให้ปกครอง ควบคุมการทำงาน เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งบทบาท และเป็นบทบาทใหม่ที่ฉันยังไม่ค่อยคุ้นชิน แต่ก็อยากทำให้ดีที่สุด เพื่อความราบรื่นในชีวิต คนในปกครองคนนั้น คือ มันจุฬาแม่บ้าน หรือที่นี่รู้จักกันในตำแหน่ง เฮาส์คีพเปอร์ ของฉันเอง

    นอกจากฉันต้องดูแลตั้งแต่การสอนงานต่างๆให้ได้ดังใจอย่างที่เล่าให้ฟังไปแล้ว และยังต้องดูเรื่องความรู้สึก เรื่องเงินเดือนค่าตอบแทน การจ่ายโบนัส วันหยุดต่างๆ ด้วย

    ฉันกับหวานใจได้รับการแนะนำมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าอย่าจ่ายเงินเกินราคาตลาด ซึ่งอยู่ที่ประมาณ ๔-๕ พันรูปี แต่เธอขอมา ๗ พัน ด้วยข้ออ้างมากมายสารพัน ฉันกับหวานใจตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่จ่ายเจ็ดพันสำหรับงานทำความสะอาดบ้านและรีดผ้า แต่เมื่อวันศุกร์ เธอออกปากเสนอว่าจะทำอาหารให้ด้วย ซึ่งหน้าที่นี้ถ้าเป็นบ้านอื่น จะต้องจ้างแม่บ้านอีกคนทำ เรื่องหาแม่บ้านมาทำอาหารให้เนี่ย ฉันกับหวานใจไม่เคยคิดถึงมาก่อน เพราะเราสองคนเคยชินกับการทำอาหารเอง และการออกไปกินอาหารตามร้านก็ไม่ได้สิ้นเปลืองอะไรนักหนา


    พอได้รับข้อเสนอทำอาหารจากมันจุฬา ฉันแอบลิงโลดดีใจเพราะจะได้มีคนสอนทำอาหารอินเดียโดยไม่ต้องไปเข้าคอร์สอะไรยุ่งยากอย่างที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะทำ แถมยังไม่ต้องเสียเวลาทำอาหารกลางวันกินเอง เลยแอบล้อบบี้กับหวานใจ

    หวานใจคนเก่งจึงหาทางออกที่สวยงามสำหรับทุกฝ่าย ไม่ให้ใครว่าได้ว่าจ่ายเงินเดือนเกินควร ส่วนมันจุฬาก็ได้เงินเดือนตามที่ต้องการ มีกำลังใจทำงาน โดยเราแจกแจกให้เธอทราบว่า เรายอมจ่ายเจ็ดพัน แต่ถือว่าเป็นเงินสำหรับสองจ๊อบ งานบ้านได้เงินเท่ากับคนอื่นๆ ส่วนอีกสองพันที่เหลือจ่ายสำหรับจ๊อบทำอาหาร

    วันนี้เลยเป็นวันนัดหมายเลทดสอบการทำอาหารของมันจุฬา ฉันเริงร่า ถ่ายรูปเก็บภาพเอาไว้ และคอยสังเกตสังกาจับจุดของอาหารอินเดีย เสริมความรู้งานครัว และได้สัมผัสกับประเทศอินเดียจริงๆ ผ่านการทำอาหาร ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ฉันและหวานใจโปรดปรานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทุกอย่างเลยไปได้ดี ทุกคนสบายใจ



    ผู้ที่สนใจสามารถไปดูขั้นตอนการทำอาหารอินเดียสองจานแรกได้ -- > ที่นี่ค่ะ ค่ะ


ป.ล. ภาพประกอบข้างบนสุด เป็นรูปปั้นทองเหลืองพระพิฆเนศ หรือ ที่นี่เรียกว่า กาเนศ ฉันไปเจอเข้าที่ร้านแห่งหนึ่ง เห็นเป็นปางอ่านหนังสือ เข้ากับกิจการที่ทำอยู่เลยเช่ามา กะว่าจะอัญเชิญไปตั้งที่สำนักงานของสำนักพิมพ์กำมะหยี่



>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2551 1:23:55 น.
Counter : 951 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.