Bloggang.com : weblog for you and your gang
Amargosa
Amargosa : อมาร์กอซา อาณาจักรที่สร้างจากความฝัน
Oversee ฉบับนี้จะเล่าเรื่องราวที่หลายคนอาจจะทราบแล้ว แต่เชื่อแน่ว่ายังมีอีกหลายคนเช่นกันที่ยังไม่รู้ เป็นเรื่องราวของอาณาจักรที่สร้างจากความฝันของคนที่มีหัวใจอิสระ ยืนหยัดต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตนรัก และจะมีก็เพียงความตายเท่านั้นที่จะมาหยุดเธอได้
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 36 ปีที่แล้ว ที่ เดธ วัลเลย์ จังชั่น (Death Vally Junction)อันเป็นเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา วันหนึ่งในปี 1967 นักเต้นหญิงวัย 43 จากนิวยอร์ก ซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินสายเปิดการแสดงเดี่ยวของเธอมาหยุดรถที่เมืองเดธ วัลเลย์ เนื่องจากยางรถยนต์แบน ระหว่างที่รอสามีของเธอเปลี่ยนยางรถ มาร์ทา เบ็คเค็ต ก็ออกไปเดินเล่นเยี่ยมชมเมือง และแล้วเธอก็ได้เจอหอประชุมที่ถูกทิ้งให้รกร้างไม่มีคนดูแล และข้างในนั้นมีเวทีที่สามารถจัดการแสดงได้
หอประชุมแห่งนี้ที่คนแถวนั้นเรียกว่า Corkhill Hall ตั้งอยู่ในอาคารซึ่งแรกเริ่มเดิมทีเป็นโรงงาน สำนักงาน และบ้านพักคนงานของบริษัท แปซิฟิก บอแร๊กซ์ ก่อนที่จะถูกปล่อยทิ้งร้างรอให้มาร์ทามาพบ ตอนที่ฉันมองเข้าไปทางประตูหลังที่เปิดทิ้งไว้ ฉันเห็นเวทีและอุปกรณ์ต่างๆที่ถูกทิ้งไว้ ฉันรู้สึกเหมือนว่าโรงละครแห่งนี้กระซิบบอกฉันว่า ได้โปรดรับฉันไว้เถิด ดูแลฉันด้วย ฉันจะให้ชีวิตกับเธอ มาร์ทาและสามีเข้าไปคุยกับผู้ดูแลรับผิดชอบหอประชุมและตกลงใจเช่าโรงละครในวันรุ่งขึ้น เธอตั้งชื่อใหม่ให้สถานที่แห่งนี้ว่า อมาร์กอซา โอเปรา เฮ้าส์ (Amargosa Opera House)
การแสดงครั้งแรกของมาร์ทาที่อมาร์กอซามีขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 1968 มีคนดูทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมทั้งสิ้น 12 คน และนับตั้งแต่นั้นมาการแสดงของมาร์ทาก็มีขึ้นไม่เคยเว้นวาย ในทุกคืนวันศุกร์-เสาร์และจันทร์ ในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤษภาคมของทุกปีเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ประตูโรงละครจะเปิดเวลา 19.45 น. และม่านหน้าเวทีจะเปิดขึ้นเพื่อเริ่มการแสดงซึ่งมีทั้งการเต้นการร้องและการแสดงละครที่เวลา 20.15 น. โดยมาร์ทารับหน้าที่ทำทุกอย่างตั้งแต่ ออกแบบเครื่องแต่งกาย ออกแบบฉาก วาดฉาก ออกแบบท่าเต้น นักแสดง ขายตั๋ว จนถึงคนทำความสะอาดโรงละคร
สำหรับประวัติของมาร์ทา เบ็คเค็ต เองนั้น เธอเป็นคนนิวยอร์กโดยกำเนิด ในสมัยที่เธอเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ คุณพ่อของเธอซึ่งเป็นนักหนังสือพิมพ์มักจะได้บัตรชมการแสดงฟรีพาเธอไปดูการแสดงต่างๆทุกสัปดาห์ ทำให้เธอมีความใฝ่ฝันและสนใจที่จะเป็นนักเต้น ต่อมาเมื่อเติบโตขึ้น เธอได้ทำความฝันวัยเยาว์ให้เป็นจริง ได้เป็นนักเต้นและนักแสดงที่มีพรสวรรค์และเป็นที่ยอมรับในความสามารถในนิวยอร์ก
ก่อนหน้าที่จะมาตั้งรกรากที่เมืองเดธ วัลเลย์ เธอเคยร่วมแสดงในละครบรอดเวย์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Showboat A Free Grows in Brooklyn A Wonderful Town และยังเคยเต้นที่ Radio City Music Hall อันเลื่องชื่อของนิวยอร์กด้วย นอกจากอาชีพบนเวทีการแสดงแล้ว เธอยังมีฝีมือในการวาดรูป และได้วาดรูปประกอบในหนังสือหลายเล่ม
ด้วยจิตใจที่รักอิสระและรักการสร้างสรรค์ผลงานด้วยตัวเอง มาร์ทารู้สึกอึดอัดที่จะต้องเต้นภายใต้การกำกับท่าของนักออกแบบท่าเต้นคนอื่น รวมไปถึงการใส่เสื้อผ้าที่คนอื่นออกแบบ ด้วยเหตุนี้เธอจึงเปิดการแสดงเดี่ยวและเดินสายแสดงไปทั่วประเทศ ก่อนที่จะมาก่อตั้ง อมาร์กอซา โอเปรา เฮ้าส์ที่เมือง เดธ วัลเลย์ เธอกล่าวว่า ฉันรู้สึกดีใจมากๆที่ได้พบสถานที่ที่ฉันสามารถเติมเต็มความฝันของฉันและแบ่งปันความฝันนั้นกับผู้อื่นผ่านการแสดงได้ .ตราบเท่าที่ฉันยังมีกำลังทำอยู่
ในช่วงแรกๆที่โรงละคร อมาร์กอซา ยังไม่มีชื่อเสียงเท่าทุกวันนี้ ส่วนประกอบของโรงละครนั้นส่วนใหญ่มาจากการบริจาค ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ผู้ชม ซึ่งเคยเป็นเก้าอี้สวนสาธารณะ หรือแกรนด์เปียโนซึ่งได้รับบริจาคมาจากสามีภรรยาคู่หนึ่งที่มีโอกาสมาชมการแสดงของเธอในครั้งหนึ่งก่อนหน้านั้น มาร์ทายืนยันที่จะเปิดการแสดงตามกำหนดทุกรอบไปแม้ว่าบางรอบจะไม่มีผู้ชมเลยสักคน และด้วยความรู้สึกที่ว่าการแสดงนั้นอย่างไรก็ควรจะมีผู้ชมจึงจะครบกระบวนความตามหลัก มาร์ทาจึงเกิดความคิดที่จะการวาดรูปคนดูที่ผนังของโรงละคร อย่างน้อยเธอก็จะได้รู้สึกว่ากำลังเต้นและแสดงให้คนบางคนได้ดู เธอลงมือปีนบันไดวาดรูปคนดูในสมัยศตวรรษที่ 16 บนหลังคาและผนังของอมาร์กอซาในส่วนของคนดู มีภาพคนดูทุกชนชั้นตั้งแต่พระราชา พระราชินี เจ้าชาย เจ้าหญิง ขุนนาง พ่อค้า เด็กและผู้ใหญ่ จนถึงหญิงงามเมือง
มาร์ทาค่อยๆวาดคนดูของเธอไปวันละเล็กละน้อย โดยใช้เวลาทั้งหมดในการวาดเสร็จเต็มผนังถึง 4 ปีเต็ม และต่อมาภาพเหล่านี้เองที่เป็นจุดเด่นเป็นที่กล่าวขวัญถึงอีกอย่างหนึ่งของโรงละครแห่งนี้ นอกเหนือไปจากเรื่องราวของนักแสดงผู้ไม่ยอมแพ้ผู้นี้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของใครหลายๆคน รวมทั้งเคนเน็ต เบสต์ นักแสดงละครใบ้ อดีตเด็กชายชาวเมืองเดธ วัลเลย์ซึ่งรู้จักกับมาร์ทาเมื่อเขาอายุได้ 9 ขวบ สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมเรียนรู้จากมาร์ทา คือการรักสิ่งที่คุณทำ
ทุกวันนี้ ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดี อมาร์กอซา โอเปรา เฮ้า ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งชาติ (National Register of History Places) มีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อการจัดการโรงละคร มีผู้ชมหลั่งไหลเข้ามาชมการแสดงของนักแสดงวัย 79 ผู้นี้มากมายจากทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาและจากต่างประเทศ ทั้งที่มาจากปากต่อปาก และจากสื่อมวลชนที่กล่าวขวัญถึงศิลปินผู้นี้อย่างชื่นชม มาร์ทา เบ็คเค็ตได้รับการยกย่องจากหอการค้าแห่งเมืองเดธ วัลเลย์ ให้เป็นบุคคลผู้ทำเกียรติประวัติให้กับเมือง เมื่อเดือนกันยายน 2003
จากความตั้งใจทำในสิ่งที่ตนรักและมุ่งมั่นทำตลอดมาอย่างไม่หยุดยั้ง แม้จะต้องดิ้นรนฝ่าฟันเพียงลำพังนี่เอง ที่ทำให้เกิดหนังสารคดีที่ถ่ายทอดชีวิตของเธอออกมาถึงสองเรื่อง คือเรื่อง Der Mulleimer Gottes ของ Michael Mrakitsch จากประเทศเยอรมัน และ Amargon ของ Todd Robinson ผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนต์สารคดีมือรางวัลแห่งฮอลลีวู๊ด
ท๊อด โรบินสันได้ยินเรื่องราวของมาร์ทาจากน้องสาวของเขาและสนใจที่จะนำมาทำสารคดี เขามาใช้เวลาอยู่กับมาร์ทาถึงหนึ่งปีที่เดธ วัลลย์ และ Amargosa ผลงานภาพยนต์สารคดีของเขาที่ออกมาก็ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ได้รับรางวัลภาพยนต์สารคดียอดเยี่ยมในงานเทศกาลหนังในนานาประเทศถึง 7 เทศกาล และได้รับการเสนอชื่อเข้ารอบสุดท้ายรางวัลออสการ์ครั้งที่ 72 (1999-2000) ในสาขา Best Documentary Feature ในหนังที่มีชื่อเดียวกับโรงละครของเธอคือ Amargosa ท๊อด นำเสนอเรื่องราวชีวิตและความรักในงานแสดงของมาร์ทาโดยมีแก่นของเรื่องคือ การสร้างสรรค์อันปลอดการค้า (Creativity without commerce) มาร์ทากล่าวไว้ในหนังตอนหนึ่งว่า ถ้าคุณสร้างมันขึ้นมา พวกเขา (คนดู) จะมาเอง ( หนังเรื่องนี้กำลังฉายทางทีวีที่ช่อง Sundance Channel )
ปัจจุบัน ด้วยวัย 79 ปี เธอจึงหนีไม่พ้นอุปสรรคจากสังขารที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา เข่าของเธอเริ่มเสื่อม และหมอแนะนำให้หยุดแสดง "ไม่มีทาง ฉันสร้างชีวิตครึ่งหนึ่งของฉันที่นี่ ฉันไม่ต้องการเห็นมันสูญสลายไป" และหากวันใดวันหนึ่งเธอจากโลกนี้ไป ความหวังสุดท้ายของเธอก็คือ การที่อมาร์กอซาจะกลายเป็น Amargosa Complexe ชุมชนแหล่งรวมสำหรับนักเต้นที่ปลดเกษียณ
มาร์ทาได้กล่าวไว้คราวหนึ่งว่า เมื่อคุณมีเวลาเหลือ จงไปหาสถานที่สักแห่งหนึ่ง สร้างอาณาจักรที่ซึ่งคุณสามารถอยู่รอดกับความฝันของคุณได้ แม้ว่ามันจะอยู่บนยอดเขาหรือกลางทะเลทรายก็ตาม
ฝันของใครก็ของคนนั้น อาณาจักรของใคร คนนั้นต้องสร้างเอง
เรียบเรียงจาก : Le Monde Section The New York Times Page 5, Saunday, january 25, and Minday, January 26, 2004
ข้อมูลเพิ่มเติม: //www.amargosa-opera-house.com , //www.amargosafilm.com, //www.death-valley.us, //www.sundancechannel.com
Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2550 1:48:32 น.
0 comments
Counter : 863 Pageviews.
Share
Tweet
Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [
?
]
ฉั น คื อ ใ ค ร
สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"
จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ
ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง
Group Blog
...
- Je traduis - ผลงานแปล -
----
- Je vis = ชีวิตฉัน
--
- Jecris - Oversee ณ a day
--
- J'ecris - Salade ณ Freeform
--
- J'ecris - "จากยุโรป" ณ มติชนสุดสัปดาห์
--
- J'ecris - Muse'e @ Happening
-
- Je bouge = ฉันไปเที่ยว
---
- A LA RECHERCHE DU TEMPS PERDU
--
- Gamme Magie Editions - สนพ.กำมะหยี่
All Blogs
Plastic road เมื่อบนถนนเต็มไปด้วยพลาสติก
Des nouvelles de Martha – จดหมายจากตัวละครในนิยายส่งถึงบ้านผู้อ่าน
actions against hunger – ปฏิบัติการสังหารความหิว
Auroville – The under construction utopia - เมืองในฝันที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
- The Yes Men ขบวนการหลอกลวงเพื่อสะกิดโลก
Extreme Ironing รีดผ้าท้านรก
Arab Superhero - ซุเปอร์ฮีโร่อาหรับ
Cybercafé Artist - ศิลปินร้านเน็ต
Restos du Coeur โรงอาหารจากธารน้ำใจ
On demand book machine The future of publishing
- Car sharing = world sharing
Matchbox pinhole Camera
Surveillance Camera Players
Slow fish
Da la Rey
Hergé 007
Creative commons
Grigori Perelman
Green Dragon?
The Night of Museums
The Observer ethical awards
Más respeto, que soy tu madre
Artist Pension Trust
Le Canard enchaîné : The Duck of Le Coq
Free Radio : Voice without boss
Ora-ito : Dream designer
Copyleft : some rights reserved
Silly Cyber Indy
Time for Thai pens
Chinese pens out of China
Childrens express
The other voices of America
My path leads to Tibet
Beyond Olympic : Olimpick
Printemps des Poètes
Amargosa
Deaf Party
Friends' blogs
tobetwo99
นางกอแบกเป้
JewNid
แพนด้ามหาภัย
ช้อย
grappa
DesperateMommy
MoneyPenny
Thai Wahine
ปุถุซน
กัมม์
DoRaePEET
Historicus
Tibou
whiteuniform
Webmaster - BlogGang
[Add Mutation's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.