Trip: Chumporn by Catamaran

ทริปนี้ใช้บริการน้องนกค่ะ เดินทาง 3 คน จากสนามบินชุมพรเข้าตัวเมือง ได้เพื่อนคุณสามีมารับค่ะ


จุดแรกที่เรามาแวะคือ "เขาดินสอ" นึกว่าจะได้เห็นเหยี่ยว มองยอดเขา เขาว่าต้องตะกายขึ้นไป คงไม่ไหวค่ะ ขออยู่ตรงนี้แล้วกันค่ะ สังขารไม่ให้แล้วค่ะ


ทริปนี้พัก ณ "นานาบุรี" เรทราชการ ห้องละ 800 บาทพร้อมอาหารเช้า ค่ะ





ช่วงทีไประหว่างวันที่ 22 - 25 ตุลาคม 2557 วันที่ 23 และ 24 ไปดำน้ำตามเกาะต่าง ๆ ค่ะ ของบริษัทคาตามารัน วันละ 4 เกาะ ราคาทริปวันละ 1,250 บาทพร้อมอาหารกลางวัน วันที่ 23 ก็ไปกัน 3 คนค่ะ แต่พอวันที่ 24 โดนทิ้งค่ะ คนเดียวก็คนเดียวหวะ


ระยะทางแต่ละเกาะไกลกันพอสมควรค่ะ


เป็นเรือ 2 ชั้นค่ะ ลำใหญ่


อันนี้ชั้น 2 ค่ะ ขึ้นไปถ่ายรูปเฉย ๆ ค่ะ อยู่ข้างล่างดีกว่า



บริการก็โอเคค่ะ วันแรกทำเก่งค่ะ ว่ายน้ำดำดูปะการังเอง โห.. ปวดเมื่อยไปทั้งตัว คิดว่าจะไปต่อวันที่ 2 ไม่ได้ซะแล้ว พอวันที่ 2 ให้น้องลาก ดอกไม้ทะเลที่นี่สวยมากค่ะ เสียดายไม่มีกล้องถ่ายใต้น้ำ ดูภาพบนน้ำแทนแล้วกันนะค่ะ


อันนี้ชื่อ "เกาะทะลุ" ค่ะ เกาะทะลุมีหลายที่ แต่ที่ ๆ เห็นอยู่ที่จังหวัดชุมพรนะค่ะ




ที่เห็นใหญ่ ๆ คล้ายมือนั่นคือ "ฝ่ามือพระพุทธเจ้า" ค่ะ









วันสุดท้าย ฟ้ามาเขียวเลยค่ะ นึกว่าจะเจอฝนขากลับซะแล้ว โชคดีที่ลมแรงพัดขึ้นไปตกหนักบนฝั่งค่ะ



ทะเลชุมพรมีดอกไม้ทะเลแยะมาก ปะการังมีแต่ไม่มาก หากใครไปหลีเป๊ะมาแล้ว คงเทียบกับที่นี่คงเด็ก ๆ ไปเลย แต่ไงก็อยากแนะนำให้เที่ยวเมืองไทย ทะเลชุมพรอยู่ฝั่งอ่าวไทย ไง ๆ คลื่นก็แรงน้อยกว่าทางฝั่งอันดามัน

จังหวัดชุมพรเป็นจังหวัดเงียบค่ะ ผู้คนน่ารักเป็นมิตร ค่าครองชีพไม่แพง อาหารใต้ก็อร่อยค่ะ โดยเฉพาะร้านอาหารเที่ยว ๆ หาดทรายรี และหาดทุ่งวัวแล่นก็ไม่แพง ไม่ต้องไปหลอกค่ะ ร้านแบบชวนไปกินเพราะอร่อย เจอทั้งที่หาดทรายรี ซึ่งเป็นร้านแนะนำ พอไปจริง ๆ ร้านพวกนั้นไม่ต้อนรับลูกค้า เสียอารมณ์เปล่า ๆ และในเมือง โดยเฉพาะร้านเย็นตาโฟในเมือง ที่เปิดขายตอนเที่ยงตรง ร้านนั้นไปแล้วเสียสุขภาพจิตค่ะ เม่านอนไม่หลับ



Create Date : 08 พฤษภาคม 2558
Last Update : 12 พฤษภาคม 2558 13:25:51 น.
Counter : 614 Pageviews.

0 comment
ทริป: เกาตาชัย-สิมิลัน

ทริปวางแผนกันนาน กว่าจะหลอกล่อผู้ร่วมทริปได้ สรุปไปกันแค่ 3 คนค่ะ ด้วยมีข้อจำกัด เพราะรถของน้องที่อยู่ภูเก็ต ไม่สามารถแบกรับน้ำหนักและกระเป๋าได้มากกว่า 3 คน เราบินโดยหางแดงค่ะ ข้อมูลการเดินทางครั้งนี้ ต้องขอบคุณทุกท่านที่มารีวิวไว้ในพันธ์ทิพย์ค่ะ

ด้วยน้องที่อยู่ภูเก็ตเกิดติดงานด่วนไม่สามารถมารับที่สนามบินในวันไปถึงได้ (19-22 พฤศจิกายน 2557) เราจึงต้องหาทางเข้าเมือง และหาที่พักที่สะดวกกับการเดินทางไปและกลับ จึงตัดสินใจเลือกพักที่ "บ้านนายอิน สาขา 2" ได้โทรไปจองกับคุณโป้ง และเข้าไปดูตารางการเดินรถที่เวบของบริษัทภูเก็ตแอร์บัส >> //www.airportbusphuket.com/index-thai.html

วันเดินทางจริง เครื่องบินดีเลย์ไป 10 นาที ทำให้ไปถึงภูเก็ตช้าไป 10 นาที และกว่าจะได้กระเป๋าก็จะเลยเวลารถออก จึงได้โทรออกที่เบอร์ภูเก็ตแอร์บัส ขอให้รอเรา 3 คน อย่าเพิ่งออกรถ พอได้กระเป๋าก็วิ่งกันหน้าเลิศ คนขับกับกระเป๋าใจดีมาก ๆ เลย รอเราสามคน สนนราคาค่ารถเข้าเมือง เรานั่งไปลงสุดสาย ที่ขนส่ง ราคาคนละ 90 บาท ก็ถามคนแถวนั้นว่าที่พักที่เราจองไว้อยู่ตรงไหน เขาก็ชี้ เราสามคนก็ทั้งแบกและลากกระเป๋า แล้วก็เจอที่พัก เรา request ขอพักชั้น 2 จำนวน 2 ห้อง เพราะทราบมาว่าที่นี่ไม่ลิฟท์ พอเข้าห้องก็โอเคค่ะ





วันไปถึงฟ้าฝนไม่เป็นใจเลยค่ะ แถว ๆ ที่พักก็หาของกินยากมาก กว่าจะรู้ว่ามีที่ไหนก็วันกลับ เพื่อนพานั่งรถตระเวนถึงได้ทราบว่าเราพักอยู่กลางเมือง เดินเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาก็จะเจอตลาดโต้รุ่งมารู้วันกลับ อมยิ้ม11  ไว้ไปล้างตาใหม่

ไปถึงเราก็โทรแจ้งบริษัททัวร์ที่เราจองไว้เพื่อไปเที่ยวเกาะตาชัย และสิมิลัน ว่าเราพักที่ไหน เพื่อรถจะได้มารับเราถูก วันแรกคนขับรถตู้โทรมาตั้งแต่ 06.00 น. ดีนะที่เตรียมตัวตื่นกันตั้งแต่ตี 5

เราไปต้องลงเรือที่จังหวัดพังงา เราได้ข้ามสะพานสารสินด้วย ได้เห็นประตูเมืองภูเก็ต เพี้ยนโบ๊ะหน้า แต่โดนน้อง ๆ มันว่า ๆ น่าจะพักพังงา จะได้ไม่ต้องตื่นแต่ดึก เลยบอกว่ามันมีเป้าหมาย เพราะน้องที่อยู่ภูเก็ตจะมารับไปชมเมืองก่อนวันกลับ

เกาะตาชัยตอนไป คลื่นหน้าหาดแรงมาก สูงเกือบเมตร เลยไม่ได้ดำน้ำ ทะเลสวย น้ำใส แต่เราชอบดำน้ำตื้นมากกว่า





ทริปนี้แพงพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ทัวร์จัดให้ก็โอเคค่ะ



อันนี้อร่อยโคด ๆ ๆ





วันที่สองเราไปสิมิลัน ที่นี่สำหรับคนที่เคยไปหลีเป๊ะมาแล้วจะรู้สึกผิดหวังอย่างแรง นานาโน เวลาไปก็อย่าไปเทียบกันนะค่ะ ที่ไหนก็ที่นั่นค่ะ


ขอบอกว่าแดดแรงมากค่ะ เรือไม่สามารถจอดติดหาดได้ ต้องเดินเข้าไป แล้วหินใต้น้ำก็คมซะด้วย


อาหารที่นี่เป็นของอุทยานทำค่ะ ที่ตาชัยก็เช่นกัน ดีตรงที่เข้าเต็มอาหารตลอด พอดีเป็นคนชอบกินปลาอยู่แล้ว

วันที่ 22 เพื่อนมารับไปเที่ยว จัดตารางให้ทั้งวัน เข้าใจผิดคิดว่าจะค้างอีกวัน น้องก็เลยพาไปถ่ายรูปเมืองบนเข้ารัง พาไปไหว้พระที่วัดพระนางสร้าง ไปกราบท้าวเทพสตรีและท้าวศรีสุนทร และที่ถูกใจมากสุด ๆ คือไปกราบขอพรพระทองที่วัดพระทอง






เป็นคล้ายศาลค่ะ ขนาดใหญ่ น้องเขาบอกว่าที่เคยเป็นบ้านท่าน และท่านศักดิ์สิทธิ์มาก




Create Date : 08 พฤษภาคม 2558
Last Update : 12 พฤษภาคม 2558 13:26:04 น.
Counter : 718 Pageviews.

0 comment
ริมนทีโฮมสเตย์ @ อุทัยธานี
ทริปนี้เดินทาง 3 คน แวะวัดไปตลอดทางค่ะ ก่อนจะมาจบการเดินทางในวันแรก ณ วัดท่าซุง ไม่ได้ไปวัดท่าซุงซะนานเลยค่ะ สมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านอยู่จะมาเกือบทุกครั้งที่มีงานบุญ




ยังคงสวยงามเหมือนเดิม

ความตั้งใจคือไปกราบขอพร "สมเด็จองค์ปฐม" ค่ะ ไม่ได้แวะวิหารร้อยเมตร เพราะไปถึงช้า วิหารปิดสำหรับผู้ที่จะเข้าไปปฏิบัติสมาธิ


เครื่องสักการะสมเด็จองค์ปฐม



เราพักกันที่ "ริมนทีโฮมสเตย์" ค่ะ พบเจอโดยบังเอิญจากสมาชิกที่มีรีวิวในพันธ์ทิพย์ค่ะ ที่พักอยู่ริมน้ำ บ้านหลังที่เราพัก คืนละ 1,600 บาท มี 5 ที่นอน 2 ห้องน้ำ และ 2 ห้อง..หนัก นอนกันสบายแอร์เย็นฉ่ำ ที่สำคัญเจ้าของเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฯ ซะด้วย ใครสนใจติดต่อได้ที่ พี่เล็ก - 081-888-6792














ตอนเย็น เจ้าของบ้านพานั่งเรือไปตลาดคุ้งสำเภา ฝั่งตรงข้ามค่ะ


ข้าวห่อใบบัว ดูแล้วเหมือนบะจ่าง




มื้อเช้าเป็นข้าวต้มหมูค่ะ อร่อยมาก แบบว่าหากไม่อิ่มมีให้เติม 3 คน ซัดกันหมดหม้อ ท้องกาง


ก่อนกลับเราไปขึ้นเขาสะแกกรัง มีคนถ่ายภาพสวย ๆ มาแยะแล้ว ขอถ่ายมังกรบนเสาแทนแล้วกันค่ะ

ขากลับเราไปแวะเที่ยวอยุธยา ค้าง 1 คืน ก่อนกลับบ้าน ทริปได้ไปกราบหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ขอโชว์ภาพที่วัดธรรมิกราช จังหวัดอยุธยา แทนแล้วกันนะค่ะ








Create Date : 08 พฤษภาคม 2558
Last Update : 12 พฤษภาคม 2558 13:26:18 น.
Counter : 2940 Pageviews.

0 comment
ไร่บุญรอด, เชียงราย
เป็นทริปที่จองโปรฯ น้องนกไว้ตั้งแต่ต้นธันวาคม 2557 ได้ฤกษ์เดินทางวันที่ 21 - 25 กุมภาพันธ์ 2558 เป็นทริปพักผ่อน ทริปนี้เดินทางไป 2 คน โดยให้น้องสาวใจดีที่เชียงราย ขับรถพาเที่ยว เราตั้งใจจะไปเชียงแสน และเชียงของ ก่อนจะเดินทางออกนอกเมืองเชียงราย เราจึงแวะมาชมความยิ่งใหญ่ของไร่บุญรอดซะหน่อย ตอนไปร้อนมากค่ะ

เราตรงไปไร่บุญรอดก่อนเพื่อไปเช็คเวลารถรางที่พาชมไร่ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ เราไปถึงประมาณบ่ายสองโมง และได้ลงชื่อขึ้นรถรางรอบ 17.00 น. ซึ่งเป็นรอบพิเศษจะมีเฉพาะวันหยุดค่ะ หากใครที่ไปถึงและต้องการจะขึ้นรถรางเลยนะ ระวังจะผิดหวังนะค่ะ เพราะเต็มทุกรอบ จึงควรไปลงชื่อจองรอบขึ้นไว้ก่อน แล้วแวะไปเที่ยววัดร่องขุ่น ชมความงดงามของโบสถ์ และพระพิฆเนศร์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ อลังการมาก ๆ


ถึงแล้วค่ะ ที่นี่มีร้านจำหน่ายสินค้าจากไร่ฯ ด้วยค่ะ ห้องน้ำสะอาด น้ำดื่มสิงห์ที่นี่ราคามาตรฐานค่ะ ไม่แพงเว่อร์เหมือนบางที่


รถรางที่พาชมไร่ฯ ค่ะ

ส่วนมากก็เป็นดอกไม้ค่ะ มีจุดให้แวะลงไปเก็บสตอร์เบอรี่ค่ะ ไม่ได้เก็บฟรีนะค่ะ ชั่งกิโลค่ะ คิดราคาตามกิโล























ที่นี่มีการปลูกพืชต่างประเทศหลายอย่างค่ะ และจะมีการสลับปลูกดอกไม้ตลอดทั้งปี มีการเลี้ยงสัตว์ที่เจออยู่ 3 ชนิด ได้แก่ ม้าลาย ยี่ราฟ และวัววาตูซี





ภาพสุดท้าย คนแยะมาก ถ่ายไปก็มีแต่คน ๆ ๆ และก้อคน มีบางคนถ่ายแบบเห็นแก่ตัวจริง ๆ คิดว่าสิงห์ตัวนี้เป็นของกรุ๊ปเขามั่ง เจอคนแบบนี้ต้องทำใจนะค่ะ เลยถ่ายหน้าสิงห์ดีกว่า อมยิ้ม07



ภาพสุดท้ายค่ะ ลาก่อนนะค่ะ คืนนี้เรานอนเชียงรายค่ะ และไปเดินถนนคนเดินต่อ พรุ่งนี้เราจะไปนอนที่เชียงแสนกันค่ะ



นานาขอบคุณ



Create Date : 08 พฤษภาคม 2558
Last Update : 12 พฤษภาคม 2558 13:26:33 น.
Counter : 675 Pageviews.

0 comment
Koh Rok, Trang
ทริปนี้ จองตั๋วโปรฯ หางแดงไปกับน้องสาว พาน้องสาวขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในชีวิตของเธอ และจองที่พักผ่านอโกด้า พักที่โรงแรมธรรมรินทร์ 3 คืน โดยใช้แต้มที่จะหมดอายุสิ้นเดือนนี้มาเป็นส่วนลด ตกคืนละ 664 บาท





เดิมตั้งใจจะไปแบบ one day trip เกาะรอก และเกาะเหลาเหลียง ติดต่อไปหลายบริษัทฯ ก็เงียบหมดเลย มาเริ่มดำเนินการใหม่หลังจากกลับมาจากทริปเชียงราย วันที่ 26 กุมภาพันธ์ และมาตกลงเลือก "เกาะมุกชาวเลทัวร์" ติดต่อ คุณอนุสรณ์ ตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฎในเวบไซต์ พักที่เกาะรอก 1 คืน ในราคาคนละ 2,500 บาท อาหาร 4 มื้อ โดยโอนเงินค่ามัดจำในวันที่ 1 มีนาคม เลยทำให้ยกเลิกห้องไม่ทัน 1 คืนที่เปิดห้องให้กระเป๋าเดินทางนอนพัก การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง ใช้บริการรถกบของคุณชีพ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ 086 279 8331 เหมือนเดิมค่ะ



การเดินทางเพื่อไปขึ้นเรือที่ "ท่าเรือควนตุ้งกู" คุณอนุสรณ์ ได้ให้เบอร์ติดต่อรถตู้ที่ขนส่ง เพื่อให้ประสานการรับที่หมายเลข 075 214 053 จะมารับหน้าโรงแรมฯ เวลา 07.30 น. ในราคาคนละ 150 บาท ส่วนขากลับจากท่าเรือ จะเป็นรถตู้เช่า หารเฉลี่ยนกันระหว่างผู้ร่วมทริปครังนี้ คนละ 145 บาท



ทริปนี้เป็นการนอนเต็นท์อุทยานฯ เป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร เพราะมันร้อนมาก คราวหน้าคงต้องหาพัดลมใส่ถ่านติดตัวไปสักตัว




สภาพภายในเต็นท์



การเดินทางไปเกาะรอก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง หลับ ๆ ตื่น ๆ หลายรอบ น้ำทะเลใสมาก นอกจากเต็นท์ที่ทางอุทยานจัดไว้ให้ ยังมีบ้านพักหลายหลังสภาพใหม่ ไฟบนเกาะใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ค่ะ จะปิดไฟเวลา 22.30 น. มีน้ำจืดบริการบริการตลอดค่ะ อาหารกลางวันเป็นอาหารกล่อง อาหารเย็นจัดเป็นชุด ไม่ได้เก็บภาพอาหารมาให้ดู มีข้าว ปลาหมึกนึ่ง ผัดปลาหมึกดำ (เขาเอาน้ำหมึกจากปลาหมึกมาผัดค่ะ) ปูนึ่งจานใหญ่ ปลาอินทรีย์ทอด แกงเหลืองสัปปะรด เวลาบ่ายโมง "น้องปลิว" ผู้ดูแลกลุ่มเรา (joy trip) จำนวน 9 คน ค่ะ ไปดำน้ำรอบ ๆ เกาะรอก ได้พบปลาดาวมงกุฏหนาม ปลาไหลมอเลย์ ปลาการ์ตูน (สามารถหาดูจากเวบต่าง ๆ)


หอยมือเสือค่ะ อยู่หน้าหาดเลย หน้าหาดปะการังตื้นมาก เดินถ่ายรูปได้เลยค่ะ ไม่รู้ว่าคราวหน้าถ้าไปจะมีหอยตัวนี้อยู้หรือป่าว ถ้าอุทยานฯ รักษาเขาไว้ได้จนโต จุดตรงนี้จะกลายเป็น Unseen ของเกาะรอกได้เลยนะค่ะ อยากฝากคนที่กำลังจะไปเที่ยวเกาะรอก ชวนกันดูแลนะค่ะ












ร่างที่ไร้วิญญาณแล้วค่ะ มีตัวเป็น ๆ วิ่งอยู่บนหาด แต่ถ่ายไม่ทัน วิ่งไวมาก ๆ


เรือหางยาวที่พาเรา






ชอบเกาะนี้ ต้นไม้ต้นใหญ่ ๆ เต็มเกาะ


ภาพบ้านพักเป็นหลังบนเกาะ มีแบบสองชั้นด้วยค่ะ


อาหารเช้าเป็นข้าวต้มปลา พอทานเสร็จเวลา 09.00 น. เราก็ออกเดินทางจากเกาะรอก ขยะที่เราทำไว้บนเกาะ เราต้องขนขึ้นเรือมาทิ้งบนฝั่งนะค่ะ อย่าไปทำเลอะเทอะบนเกาะ เก็บความสวยงามให้คนที่ตามไปทีหลังได้เก็บเกี่ยวนะค่ะ

เราแวะดำน้ำที่เกาะกระดานค่ะ แต่ไปเจอแมงกะพรุน ได้ของฝากกันถ้วนทั่ว ต้องย้ายเกาะไปดำน้ำกันที่เกาะมุกแทน เข้าถ้ำมรกต และดำน้ำดูกัลปังหาที่หน้าถ้ำใหญ่ เกาะมุก ตื่นตาตื่นใจ ปะการังอ่อนสีม่วง สีชมพู และฝูงปลากะตัก

จุดสุดท้ายเรามาเยี่ยมเยียนปลาสิงโตค่ะ ได้เจอปลาปักเป้าตัวใหญ่มากขี้อายแอบอยู่ในโพรง และเจอปลาหมึกกระดางตัวเท่าฝ่ามือ จุดนี้แม้จะมีปลาหลายชนิด แต่ปะการังส่วนใหญ่ก็แหลกราญไปแยะเลย น้ำทะเลใสมองเห็นปลาดาวมงกูฏอยู่บนพื้นใต้น้ำเลยค่ะ

กลับมาถึงที่พักในเมืองก็เกือบ 17.00 น. เข้ามาพักพอเกือบทุ่มก็ออกมาเดินถนนคนเดินสถานีรถไฟตรัง ของหลากหลายค่ะ กินข้าวอาหารใต้อร่อยรอดตายไปอีกมื้อ แล้วก็เข้าพักนอนผึ่งแอร์

เช้าก็เดินไปตลาดสดเทศบาล ซื้อข้าวมาทานที่ห้อง และนัดรถกบของคุณชีพมารับไปส่งสนามบิน ของฝากก็ซื้อจากโรงแรมธรรมรินทร์ เป็นหมูเกาหยก อาหารขึ้นชื่อของจังหวัด แนะนำนะค่ะ ชุดละ 150 บาท เขาฟรีซและแพ็คให้เรียบร้อย

สถานที่อีกทีในเมืองที่อยากแนะนำคือ center point ที่ตรังมีทุกวันค่ะ ตอนเย็น ๆ แถว ๆ อนุสาวรีย์ปลาพะยูน หากพักโรงแรมธรรมรินทร์ คุณออกจากโรงแรม แล้วเลี้ยวขวา ผ่านวงเวียงนาฬิกา เดินข้ามถนน ตรงไปอย่างเดียว

และก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟข้าง ๆ โรงแรมตรัง ชามละ 40 อร่อยค่ะ แนะนำนะค่ะ ตรังไปง่ายค่ะ แพคเก็จทัวร์มีให้เลือกแยะ ทะเลตรังยังสมบูรณ์ คนตรังใจดี และปลอดภัยค่ะ

** อาหารที่ตรัง ในตลาดสดเทศบาล กับข้าวถุงละ 40 บาทค่ะ หมูย่าง โลละ 450 - 490 บาท ขายอย่างต่ำ 100 บาท นะค่ะ ***

มีโอกาสจะกลับไปอีกค่ะ "รักนะ...ตรัง"



Create Date : 08 พฤษภาคม 2558
Last Update : 12 พฤษภาคม 2558 13:26:48 น.
Counter : 1021 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  

arete
Location :
สมุทรสาคร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ความเป็นตัวของตัวเอง เป็นคนที่เรารู้จัก เราไม่จำเป็นต้องเป็นใครที่เราไม่รู้จัก...เพื่อใครบางคน
All Blog