|
๓๒๑ - ความเชื่อและความเห็น
ทุกวันนี้หากมีใครสักคนพูดเรื่องหรือคุยเรื่องศีลธรรมหรือเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ตามที่ฝืนต่อกิเลสหรือความรู้สึกที่ค้านต่อความคิดของตัวเอง เขาจะพยายามฉีกตัวออกห่าง และชวนคุยเรื่องอื่นมากกว่า ซึ่งมองดูก็เป็นเรื่องที่ปกติของคนทั่วไป เพราะส่วนตัวข้าพเจ้าไม่ใช่เป็นคนที่ชอบพูดชอบเถียงมาก หากใครที่ชวนคุยและรู้สึกถูกคอก็จะคุยได้นาน แต่จะหาคนที่คุยเรื่องธรรมได้ถูกใจนั้นแทบยากแสนยาก ที่มีก็ออกแนวอวดอ้างตัวเองมากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าเบื่อหน่ายที่สุด
ส่วนเรื่องของการดื่มกิน เครื่องดื่ม สุรา ปลาปิ้ง แม้ว่าแต่ก่อนจะเคยชอบมากมาย และไม่คิดว่าจะเลิกได้ แต่ก็สามารถที่จะทำได้ มันเป็นความภูมิใจที่แสนจะภูมิใจเลยทีเดียว ซึ่งไม่อาจจะเล่าให้พวกคอสุราแล้วเขาสามารถเข้าใจได้ง่าย ๆ เพราะเขายังมองไม่เห็นความเสื่อมอันเกิดจากสุราได้ น่าแปลกที่เมืองเรานับถือศาสนาพุทธแต่ เรื่องเหล้าสุรากับการรักษาศีลดูน้อยมาก (ข้าพเจ้าอาจจะคิดมากไปเองก็ได้) แต่เท่าที่สัมผัสกับคนที่อยู่รอบข้างมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คนสมัยนี้เริ่มมองศาสนาเปลี่ยนไป ว่าเป็นความเชื่อถืองมงาย ไม่ทันสมัยเหมือนกับวิทยาศาสตร์ ทุกคนมักจะพูดกันติดปากว่า ศาสนาเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ เป็นเรื่องที่แต่งมาลอย ๆ หรือนักเข้าไปใหญ่คิดถึงกับว่าตนเองไม่ต้องนับถือศาสนาก็ได้ ประมาณนั้น
ซึ่งในแท้จริงแล้วพุทธศาสนา หาใช่เป็นศาสน์ที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่ตรงกันข้ามทีเดียว ความรู้ที่พระพุทธเจ้าค้นพบ หรือที่เราเรียกว่าพระธรรมนั้น รอให้เราเข้าไปสำรวจและทันสมัยต่อการพิสูจน์ทุกกาล ทุกสมัย เพียงแต่เรากล้าหรือเปล่าที่จะพิสูจน์เท่านั้นเอง ซึส่วนความคิดประเภทที่มองพุทธศาสนาเป็นเรื่องหลอกลวงนี้มันมีมานานนม ตั่งแต่สมัยพุทธกาลก็มีมาแล้วเยอะแยะ จนมาถึงคนสมัยนี้ก็ยังไม่อาจจะละความคิดเห็นผิดขั้นหยาบนี้ได้ นั่นเพราะเหตุของความเห็นที่เราสั่งสมกันมานานมาก มันเป็นตัวการสำคัญทำให้เรามองสิ่งต่าง ๆ คาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง เพราะขาดความรู้ และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง คำว่าต่อเนื่องนี่ไม่ได้หมายถึงแต่เพียงชาติ แต่หากต้องอบรมการติดต่อมามากมายหลายต่อหลายชาติ ซึ่งหากนำไปพูดกับคนที่ไม่มีความเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด คนพวกนั้นก็จะส่ายหัวไม่ยอมรับอีก มันก็เลยไม่ยอมเข้าไปพิสูจน์กันเสียที เพราะกำลังของศรัทธา ปัญญอ่อนแรงเกินไป คนเหล่านี้หากไม่ได้รับการช่วยเหลือความรวดเร็วไม่ช้าก็ต้องตกเป็นอาหารเต่า อาหารปลาในกาลข้างหน้าอย่างแน่นอน
สำหรับคนที่เริ่มหันมามองพุทธศาสนา และมีความคิดที่ถูกต้องชอบธรรมดีแล้ว และรักในการให้ทาน รักษาศีล ปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าเองก็ขออนุโมทนาด้วย แม้จะไม่ได้รู้จักทุกท่านก็ตามที เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นบุญใหญ่ เป็นสิ่งที่จะติดตัวท่านไป และช่วยเกื้อหนุนให้เรามีอัติภาพมราไม่ต้องตกต่ำในภพเบื้องหน้า
สำหรับคนที่มีความเห็นผิด เชื่อว่าโลกหน้าไม่มี สวรรค์ไม่มี นรกก็ไม่มี เราอาจจะรู้สึกสงสารในการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ของเขาในครั้งนี้ แต่หากคุยด้วยเขาเหล่านั้นอาจจะรู้สึกสงสารพวกปฏิบัติธรรมอย่างเรา ๆ มากกว่าก็ได้ เพราะชีวิตในสายตาพวกเขามีแต่ความจืดชื่นไม่มีชีวิตชีวาอะไร เที่ยวกินอะไรก็ไม่สนุก อะไรประมาณนี้
สิ่งเหล่านี้หาก เจอกับตัวและไม่สามารถสามารถช่วยเหลืออะไรได้ หรือไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของเขาได้ในตอนนี้ ก็จำเป็นต้องวางอุบกขาปล่อยไปก่อน คิดเสียว่านี่คงเป็นกรรมของเขาที่ต้องชดใช้ หากแต่บุคคลนั้น ๆ เป็นญาติมิตรก็คงต้องช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังเสียก่อน หากไม่ไหวจริง ๆ ก็ใช้วางอุเบกขาเสีย ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเสียเวลากับคนเหล่านี้ (ฟังดูใจร้ายนะ) แต่ขึ้นชื่อว่ากรรม และบารมีธรรมแล้วก็ต้องเป็นของใครของมัน ต่อให้พระพุทธเจ้ามาโปรดหากบารมีเดิมไม่มีก็หมดสิทธิ์ ตั้งหน้าตั้งตาเวียนเกิดเวียนตายในสังสารภพต่อไปได้เลย
เคยกล่าวถึงบารมีกันไปบ้างแล้ว ข้าพเจ้าจำได้ว่าเคยเขียนไว้ประมาณ สี่ ห้า บท แต่เป็นเรื่องที่กระจายอยู่เลยไม่รู้ว่าแฝงอยู่ในบทไหน คนที่สนใจธรรมะ แต่เลิกกลางคันเพราะเหตุคิดว่าบารมีของตัวเองไม่ถึง หรือมีไม่พอ ก็อย่าเพิ่งท้อใจ ความจริงแล้วบารมีของคนที่เกิดมาใน ประเทศนี้ และพบพุทธศาสนาต่างก็สั่งสมบารมีกันมาพอสมควรทั้งนั้น ทุกคนสามารถมีสิทธิ์ที่จะบรรลุธรรมเหมือนกันได้หมด หากแต่เรื่องนี้มันไม่ง่ายดายเหมือนกับการปลอกกล้วย เพราะแม้จะมีบารมีเป็นทุนเดิม แต่ในปัจจุบันก็ต้องขวนขวายให้มากขึ้น เพียงคนที่ขาดความพยายามก็จะเสียกำลังใจและท้อใจในที่สุด ซึ่งหากพิจารณาให้ดี หากท่านตายไปก็จะต้องคิดเสียใจในภายหลังอย่างแน่นอน เพราะการจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์พบพุทธศาสนาเป็นเรื่องที่ยากแสนยากยิ่ง พระพุทธเจ้าท่านจึงอุปมาเปรียบเหมือนเต่าตาบอดที่ว่ายอยู่ใต้ทะเลทั้งสี่ ในหนึ่งร้อยปีจะลอยขึ้นมาเหนือน้ำสักครั้งหนึ่ง เป็นการยากหรือง่ายประการใดเล่า ที่เต่าตัวนั้นจะเอาหัวรอดเข้าไปในบ่วงที่ลอยอยู่บนน้ำทะเลซึ่งมีคลื่นซัดโคลงเคลงไปมาได้ ฉันใดก็ฉันนั้นการกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ของวิสัยแห่งคนพาลก็ยากเช่นกัน
ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //www.sangkapan.comมากมาย ครับ
Create Date : 31 ตุลาคม 2554 |
Last Update : 31 ตุลาคม 2554 8:21:23 น. |
|
8 comments
|
Counter : 583 Pageviews. |
|
|
|
โดย: shadee829 วันที่: 31 ตุลาคม 2554 เวลา:12:15:57 น. |
|
|
|
โดย: Nissan_n วันที่: 31 ตุลาคม 2554 เวลา:12:29:48 น. |
|
|
|
โดย: แม่มณี IP: 182.53.64.229 วันที่: 31 ตุลาคม 2554 เวลา:12:47:32 น. |
|
|
|
โดย: อัสติสะ วันที่: 31 ตุลาคม 2554 เวลา:14:50:35 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 พฤศจิกายน 2554 เวลา:6:21:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:33:35 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:51:16 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:15:44 น. |
|
|
|
| |
|
|