ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๒๗๓ - ความเสมอของสุขและทุกข์



ตามปกติของคนทั่วไป ในยามที่มีสุขย่อมไม่ค่อยเข้าหาวัด หรือศึกษาเรื่องธรรมะกันนัก เหตุนั้นเพราะความสุขนั้น บังใจเราเอาไว้ จนกระทั่งวันหนึ่งชีวิตเราได้รับความทุกข์ เราก็จะร้องโหยหาทางออก โดยทางออกหนึ่งในนั้นก็คงเป็นศาสนา หรือบางคนก็เข้าสิ่งศักดิ์ อ้อนวอนร้องขอให้ความทุกข์ของตนเองหรือคนในครอบครัวจางหายโดยพลัน หรือบางคนมีปัญหาชีวิต หากเป็นผู้ชายสิ่งที่คิดได้อย่างหนึ่งก็คือการบวช โดยหวังว่าศาสนาจะเป็นที่พักใจ และช่วยเป็นกรอบกำบัง เพื่อให้ความทุกข์ลดน้อยลง

บางคนมีปัญหาชีวิตในเรื่องการงาน เช่น ทำงานมีอุปสรรค ไม่ราบรื่น เจอปัญหาเรื่องหนี้สิน ก็บ่นว่าคงทำบุญมาน้อย ก็ต้องเสาะแสวงหาที่ทำบุญถวายสังฆทาน โดยมุ่งหวังว่าผลแห่งทานนั้น จะมีผลช่วยบรรเทาทุกข์ในปัจจุบันของตนได้จางหายลงไป

บางคนมีปัญหาเรื่องความรัก ความไม่สมหวัง ก็เฝ้าวิงวอนขอ พระพุทธรูปให้ช่วยเหลือ โดยไม่ได้คิดให้ดีว่า พระพุทธรูปนั้นท่านก็ไม่มีคู่อยู่แล้ว เหตุใดจะมีอำนาจในการแสวงหาจัดคู่ให้ชาวโลกได้สมหวังกันทุกคนได้

ปัญหานั้นจึงมีอยู่เยอะแยะมากมายในโลกปัจจุบัน แม้แต่ตัวเราเองก็มีปัญหา และบางครั้งก็เป็นตัวสะสมปัญหาเสียเอง แต่ที่เลวร้ายที่สุด นอกจากจะมีปัญหาขอตัวเองที่แก้ไขไม่ตกแล้ว ยังจะมีส่วนให้คนที่อยู่รอบข้างเดือดร้อนไปด้วยก็มี

ทางแก้ของปัญหาต่าง ๆ นั้นมีที่ไปที่มาของมัน เพียงแต่เราไม่ได้มีสติหรือปัญญาในการสางปมของปัญหานั้น ๆ เหตุเพราะเรามีพุทธศาสนาที่สามารถแก้ไขปัญหาชีวิตได้ทุกระดับ แต่เราพอใจเพียงเรียนรู้พุทธศาสนาแต่เพียงเปลือกเพียงกระพี้ มีทุกข์ทีไรก็ค่อยแวะเข้าหาวัดหาเจ้ากันสักที พอหมดทุกข์ศาสนาวัดวา ก็อยู่นอกสายตาหมดความหมายไป เรื่องนี้คงยากจะปฏิเสธสำหรับสังคมในปัจจุบัน
แต่อย่างน้อยก็ดีหน่อยที่เราก็ยังมีที่พักใจ ไม่ให้คิดอะไรฟุ้งซ่านจนไป เช่น การหาทางออกโดยการฆ่าตัวตาย

สี่ปีก่อนเคยมีคนถามข้าพเจ้าว่า "หากถูกหวยได้เงินมาหนึ่งล้านบาทจะเอาเงินไปทำอะไรบ้าง "
ข้าพเจ้าตอบว่า "จะนำไปทำบุญสัก สี่แสนบาท "
คนที่ถามก็ดูสีหน้าไม่ชื่อ ปน ๆ กับความแปลกใจ แต่ก็นั่นเอง คนเรามักจะมีความโลภความเห็นแก่ตัว ไม่ยอมแบ่งโชคลาภวาสนาในปัจจุบัน เพื่อสะสมไว้ใช้ต่อไปในอนาคต การทำบุญก็ไม่ต่างอะไรกับกับการฝากเงินในธนาคาร ยิ่งฝากนานดอกเบี้ยก็ยิ่งเยอะเป็นสัดส่วนกัน (ส่วนการทำบาปก็ไม่ต่างกัน )

หากวันหนึ่ง หรือ วันนี้ก็ตาม ถ้าท่านกำลังมีความสุขอยู่ ขอให้ท่านน้อมใจไปมองดูความทุกข์ และสำเนียกตัวเองไว้ว่า วันข้างหน้าเราจะต้องทุกข์ ๆ อย่างนี้เสมอ และ หมั่นเข้าวัดกันในตอนที่มีความสุข เพราะเมื่อเราเข้าวัดในตอนที่มีความสุข จิตใจเราก็จะเบิกบาน กำลังแห่งบุญย่อมสูงกว่าตอนที่มีความทุกข์ แล้วหนีเข้าวัดอย่างแน่นอน

อีกอย่างหนึ่งการสำเนียงระลึกถึงความสุขความทุกข์อยู่เสมอ เป็นการระลึกถึงความไม่เที่ยงของสิ่งทั้งปวง เป็นการฝึกวิปัสสนาไปในตัว เพราะหากวันหนึ่งข้าง เราเกิดมีความทุกข์ใด ๆ ขึ้นมา ไม่ว่าทุกข์นั้นจะร้ายแรงเพียงใด เราก็จะมีภูมิคุ้มกัน พร้อมยิ้มรับกับทุกข์นั้น มีกำลังของสติ ปัญญา ช่วยในการแก้ไขปัญหานั้น ๆ ให้ผ่านไปได้โดยง่าย...ครับ

ขอขอบคุณ รูปภาพที่น่าประทับใจจาก //img294.imageshack.usมากมาย ครับ



Create Date : 30 ตุลาคม 2553
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2553 8:12:46 น. 15 comments
Counter : 389 Pageviews.

 
สวัสดียามเช้าครับ

เขียนได้ดีครับน้องอัส
คนเรามักจะนึกถึงพระ
ก็ตอนทุกข์

ตอนสุขอยู่
ใจก็แพร้วเพริศไปจนลืมนึกถึงอะไร
นอกจากนึกถึงตัวเองนะครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 ตุลาคม 2553 เวลา:5:55:42 น.  

 


หวัดดียามเช้าในวันที่อากาศดีดีค่ะคุณอัส


โดย: มินทิวา วันที่: 31 ตุลาคม 2553 เวลา:6:52:41 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:19:59 น.  

 



หวัดดียามเช้าค่ะคุณอัส
ทานกาแฟด้วยกัน นะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 1 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:17:11 น.  

 
เดี๋ยวพี่ก๋านึกก่อนนะครับ
ว่าหมื่นตามีโบชัวร์ด้วยเหรอ 555

สงสัยหนุ่ยเป็นคนทำครับ
พี่ก๋ายังไม่เคยเห็นเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:46:30 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:42:09 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:34:05 น.  

 
แวะเข้ามาเยี่ยมค่ะ
ชอบศึกษาเรื่องธรรมะค่ะ จะได้รู้จักทั้งสุข และ ทุกข์ รู้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร
เมื่อก่อนอยากพ้นทุกข์โดยอ้อนวอนให้ความมหัศจรรย์เกิดขึ้น
แต่โดนครูบาอาจารย์ท่านว่า เราต้องช่วยตัวเอง ต้องปฏิบัติด้วยตัวเอง ไม่งั้นพระพุทธเจ้าก็เสกให้ทุกคนพ้นทุกข์หมดแล้ว


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 3 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:26:49 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:56:45 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:22:27 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอัส ..

ช่วงนี้มีแต่งานกฐิน..

คุณอัสไปทำบุญที่ไหนมาบ้างค่ะ

เล่าให้ฟังหน่อยซิค่ะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:17:34:43 น.  

 
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ


โดย: Budratsa วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:15:03 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:39:21 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณอัส..

วัดพระราม 9 น่าจะไปทำบุญ

ในวันพฤหัสที่ 18พ.ย.ตอนบ่าย 3โมงนะค่ะ

เพราะมีกฐินพระราชทานในวันนั้น..

อาจจะได้เจอกันนะค่ะ..ฮิๆ





โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:47:02 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:10:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.