ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๓๒๐ - ธรรมชาติที่เปลี่ยนไป



ช่วงนี้เป็นปลายฤดูฝน อากาศเริ่มเย็นลงพอสมควร ทำให้ข้าพเจ้าหวนนึกถึงอากาศหนาวอีกครั้ง ช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่ข้าพเจ้ามีความสุขมากช่วงหนึ่งซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น อาจเป็นเพราะอากาศที่ไม่ร้อนทำให้นอนสบายก็เป็นไปได้

แต่ปลายฤดูฝนของปีนี้ นับว่าเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดก็ว่าได้ ขณะที่เขียนบทความนี้ ที่พักอาศัยก็กำลังจะถูกน้ำท่วมในอีกไม่เกินสองถึงสามวัน ซึ่งก็ยอมรับและทำใจได้ในที่สุด เพราะสิ่งเหล่านี้ มันเป็นธรรมชาติ เป็นภัยพิบัติ แล้วก็มันเป็นเช่นนั้นเอง ไม่ช้าไม่เร็วมันก็ต้องเกิด เพราะมันมีมาแล้วตั่งแต่อดีต มันเป็นวงรอบแห่งการเปลี่ยนแปลง เพียงแต่คนเราไม่มีความเข้าใจธรรมชาติของธรรมชาติ เราเกิดมาในภายหลัง และก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ มากมาย ในพื้นที่ ๆ เคยเป็นที่เก็บน้ำและระบายน้ำเราก็สร้าง ที่อาศัย โรงงาน ถนน ฯ กั้นขวางเอาไว้ มันก็เลยต้องท่วม เราไม่เข้าใจ หรือไม่พยายามที่จะเข้าใจ ก็เลยตีโพยตีพาย เดือนร้อนวุ่นวาย กันไปหมด

น้ำท่วมนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่สิ่งที่ร้ายแรงกว่านั้น คือการที่คนเรา โต้เถียงกัน โยนความผิด ต่อว่ากัน แก่งแย่งอาหาร กักตุนอาหารเกินความจำเป็น ทะเลาะกัน สิ่งเหล่านี้น่ากลัวกว่าภัยธรรมชาติมาก

คนไทยอาจจะโชคดีเกินไปที่มาในดินแดนที่ร่มเย็นไม่ค่อยพบเจอภัยพิบัติร้ายแรง พอเจอเข้าทีก็สบสนวุ่นวายกันไปหมด เพราะเหตุเราขาดภูมิคุ้มกันทางจิตใจอย่างถูกต้อง เรามีพุทธศาสนาที่มีคำสอนที่ดีงามเยอะแยะมากมาย แต่พอเวลาคับขันเรากับไม่นำคำสอนเหล่านั้นมาช่วยเหลือตนเองและกับผู้อื่น เช่น หลัก พรหมวิหาร ๔ [เมตตา - กรุณา - มุทิตา - อุเบกขา] สังคหวัตุ ๔ [ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตา] หลักธรรมหมวดนี้มีความจำเป็นมากมายในช่วงที่เกิดภัยพิบัติ และเราจะสามารถวิกฤติไปด้วยกันด้วยความสามัคคี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และเห็นผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนของตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีแทรกอยู่ในหมวดธรรมที่ข้าพเจ้ายกมาข้างต้น แต่เราขาดการศึกษาและใช้งานมันอย่างถูกวิธีก็เท่านั้นเอง

แต่ก็อย่างว่า ในสังคมนั้นมีคนมากมาย ปะปนกันอยู่การที่จะทำให้สังคมทั้งหมดมีความคิดตรงเสมอกันนั้นนับเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก เพราะแต่ละคนต่างมีความเห็น มีมุมมองในเรื่องนั้น ๆ ต่างกันออกไป

นึกย้อนกลับมาดูตัวเองกันให้มาก ๆ ก่อนที่จะกล่าวโทษต่อคนอื่น ว่าเราเองก็มีส่วนให้ภัยธรรมชาตินั้น เกิดขึ้นและรุนแรงขึ้น จะมีสักกี่คนที่ย้อนนึกขึ้นได้ ว่าสิ่งเหล่านี้ ส่วนหนึ่งเราก็มีส่วนให้มันเป็นไปเช่นนั้น ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งนามสมมติในท้องเรื่องว่า บี และเขาอย่างได้อุปกรณ์ไฮเทค คือ แทบเลตตัวหนึ่ง บีก็เดินไปซื้อที่ร้านค้าไอที และเขาก็ได้มันมาเป็นเจ้าของในที่สุด ในตอนที่ซื้อนั้นเอง เขาก็ทำให้ยอดขายของอุปกรณ์รุ่นนั้นเพิ่มขึ้นมาหนึ่งหน่วย และในช่วงนั้นมีคนอย่างนาย บี สักหนึ่งหมื่นคน ทางโรงงานเห็นว่ามียอดขายอุปกรณ์แทบเลตมีความต้องการสูงมากขึ้น ก็สั่งเพิ่มยอดการผลิต จนกระทั่งเจ้าของโรงงานมีแผนที่จะขยายโรงงาน ซึ่งต้องมีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมากมาย เช่น ต้องถมที่สร้างโรงงาน ต้องสร้างถนนเข้าโรงงาน ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่ม ซึ่งมีผลให้การไฟฟ้าต้องผลิดกระแสไฟฟ้าเพิ่ม โดยการเผาไหม้จากถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมัน เพิ่มเติม ผลที่ได้จากการเผาไหม้คือความร้อน และก๊าซคาร์บอนได้อ๊อกไซด์ ส่งผลให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย



โชคดีที่นาย บี ต้องการเพียงแทบเลตแล้วทำให้โลกมีอุหณภูมิสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยถึงน้อยมาก จนไม่สามารถวัดค่าได้ แต่ทว่าความต้องการของมนุษย์มันยังไม่หมดเท่านั้น มันยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่อำนวยความสะดวกอีกมากมายเช่น เครื่องซักผ้า เตาอบ รถยนต์ ทีวี ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเหตุให้เกิดกิจกรรมที่มีผลให้อุณหภูมิของโลกโดยรวมมันสูงขึ้น ๆ ๆ เมื่อรวมกันหลาย ๆ แห่ง หลาย ๆ โรงงาน หลาย ๆ กิจกรรมบนท้องถนน ซึ่งเป็นตัวปล่อยก๊าซเสียจากการเผาไหม้มากที่สุดแบบหนึ่งด้วยแล้ว

เมื่ออุณหภูมิเฉลี่ยของโลกมีอัตราค่าสูงขึ้น โชคดีนิดหน่อยที่อาจจะสูงไม่มากนัก คือ สัก ๑ – ๒ องศาเซลเซียส ซึ่งตามธรรมชาติแล้ว หากไม่มีกิจกรรมของมนุษย์เป็นตัวกระตุ้นโลกอาจต้องใช้เวลานับพันปีเพื่อที่จะให้อุณหภูมิสูงขึ้นสัก ๑ องศาเซลเซียส

แต่นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเกินไป เพราะใช้เวลาไม่ถึงศตวรรษเท่านั้นเอง ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แม้อาจจะดูเพียงเล็กน้อย แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ เช่น มีผลต่ออัตราการระเหยของน้ำทะเล เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็น ซึ่งกระแสน้ำอุ่นน้ำเย็นและอุณหภูมิในทะเล ณ เวลานั้น เมื่อเกิดความผิดปกติและแตกต่างกันมาก ก็จะเกิดการหวุนเวียนและเคลื่อนที่ของมวลอากาศ เกิดเป็นพายุชนิดต่าง ๆ ขึ้นมาในที่สุด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนแปลงตามกฎทางอุณหพลศาสตร์ ไม่ได้เกิดจากการดลบัลดาลของเทวดาตนใด ๆ แต่เป็นเพียงการปรับดุลทางธรรมชาติธรรมดา และเมื่อเกิดการเปลี่ยนทางสภาพอากาศ พื้นที่บางพื้นที่ที่ไม่เคยมีฝนตก ก็จะตกมากผิดปกติ ส่วนพื้นที่ที่เคยตกบ้าง บางปีก็จะแห้งแล้งผิดปกติ บางพื้นที่ทะเลทรายก็อาจจะมีอากาศหนาวเย็นจนหิมะตก บางพื้นที่ก็อาจจะมีพายุเยอะมากผิดปกติ จนเกิดปัญหาน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ได้ ซึ่งก็กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน



แล้ววันหนึ่งมวลน้ำฝนที่เกิดจากพายุนั้นก็ตก และไหลสะสมมาท่วมบ้านนาย บี ซึ่งไม่เคยท่วมมาก่อน และนาย บี ซึ่งพยายามทำตัวไม่รู้อิโหน่ อิเหน่ ก็ด่าทอ บ่นต่อว่าคนอื่น ๆ ไปหมดโดยเฉพาะรัฐบาลของเขาเอง
จบ -

หลายต่อหลายคนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไกลตัว และยากที่จะยอมรับได้ยาก ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง หรือบางคนยอมรับ แต่ก็ไม่ใส่ใจ หรือให้ความสนใจแต่อย่างใด พยายามเพ่งโทษต่อความผิดพลาดของคนอื่น ๆ อยู่ร่ำไป แต่โทษของตัวเองมองไม่เห็น

จำไว้ว่าเราคือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ธรรมชาติก็เป็นส่วนหนึ่งของเรา เมื่อเราเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตการดำรงอยู่ ธรรมชาติก็ต้องเปลี่ยนแปลงบ้าง เมื่อธรรมชาติเกิดการเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า …มันก็เป็นเช่นนั้นเอง

ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //www.mh.ac.thมากมาย ครับ

ปล หาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจาก //th.wikipedia.org/wiki/ปรากฎการณ์โลกร้อน


Create Date : 27 ตุลาคม 2554
Last Update : 27 ตุลาคม 2554 8:39:39 น. 8 comments
Counter : 754 Pageviews.

 
ความจริงพี่ก๋าคิดว่า
ถ้าเราดูสถิติเก่าๆ
และประวัติศาสตร์
น้ำท่วมหนักแบบนี้
ไม่ใช่เรื่องใหม่
เคยเกิดมาแล้ว
และจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตข้างหน้า

ธรรมชาติกำลังจัดสมดุลให้มนุษย์อีกครั้ง
และอีกครั้ง




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 ตุลาคม 2554 เวลา:9:10:25 น.  

 
เราทำลายธรรมชาติมาเยอะเเล้ว
ถึงเวลาที่ธรรมชาติจะกลับมาทำร้ายเรา


โดย: ยังไงก็น้อง วันที่: 27 ตุลาคม 2554 เวลา:9:56:25 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณอัสติสะ
...
อ่ะ ช่ายเลยธรรมชาติกำลังจัดสมดุลให้มนุษย์อีกครั้งและอีกครั้ง
..
สมดุลในขณะนึงขณะนั้นที่ควรจะเป็น
...
บ้านจะโดนน้ำท่วมเหรอค่ะ คุณอัสติสะ
นุ้ย(นิส) ส่งกำลังใจช่วยนะคะ
เพราะตอนนี้นุ้ยเองก้ออพยบมาอยู่ที่ทำงานแล้วค่ะ
...
มีความสุขมากมากนะคะ



โดย: Nissan_n วันที่: 27 ตุลาคม 2554 เวลา:13:38:30 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 ตุลาคม 2554 เวลา:5:44:18 น.  

 
หมิงหมิงโตเร็ว
จนพี่ก๋าแก่ตามไม่ทันเลยล่ะครับ 5555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 ตุลาคม 2554 เวลา:8:53:20 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 ตุลาคม 2554 เวลา:6:26:58 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 ตุลาคม 2554 เวลา:6:03:00 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 ตุลาคม 2554 เวลา:5:42:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.