ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๒๙๒ - ชีวิตในวันนี้



ช่วงนี้ข้าพเจ้าไม่ค่อยได้ up blog สักเท่าใดนัก มันเป็นช่วงที่ห่างเหินมากที่สุดในรอบ สามปี ที่ได้รู้จักกับ blog เป็นต้นมา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสำคัญของการเขียนบทความลดน้อยลง เพียงแต่รู้สึกว่าตัวเองแบ่งเวลาไม่ถูกอย่างแรง มีงานที่ต้องทำแทรกเข้ามาอยู่ตลอด มันเลยดูว่าการเขียนบทความลดน้อยลง หลายต่อหลายครั้ง ที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตัวเองนั้นพลาดพลั้งให้กับกิเลส เพราะการปรุงแต่งทางโลกนั้น มีอิทธิพลต่อเรามากมายมหาศาล ผู้มีอินทรีย์ยังไม่แก่กล้าในสมัยพุทธกาล หากเป็นพระภิกษุพระพุทธเจ้าจะไล่ให้ไปอยู่ป่าอยู่เขาอยู่ในที่สงัด ปราศจากความวุ่นวาย ให้เป็นที่ตั้งแห่งสมาธิเสียก่อน

ทุกครั้งที่เหนื่อยต่อผู้คนทางโลก ข้าพเจ้ามักจะนึกถึงชีวิตของเพศสมณเสมอ มันอาจจะเป็นจุดหมายปลายทางอย่างเดียวของข้าพเจ้า ที่นึกได้ตลอดเวลาในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมจึงต้องนึกถึงพระพุทธเจ้าได้ทุกวี่ทุกวัน ทุกชั่วโมง ธรรมกับกิเลส ตีกันอยู่ในหัวอยู่ตลอดเวลา มันเหมือนมีสงครามที่กำลังต่อสู้กันอยู่ภายใน พลัดกันแพ้ พลัดกันชนะอยู่อย่างนั้น บางครั้งก็รู้สึกเหนื่อย ๆ มาก จึงต้องนั่งสมาธิเพื่อพักจิต พักความคิด จนบางครั้งก็ไม่อยากลุกจากการนั่ง เพราะสมาธิเป็นที่พักที่สบายที่สุด

เมื่อลืมตาขึ้นมาก็มองเห็นความคิดของตัวเองวิ่งพล่านอยู่ตลอดเวลา ข้าพเจ้าไม่กล้าถามคนอื่นว่าเป็นอย่างนี้หรือไม่ แต่สายตาของคนรอบข้างมักจะมองข้าพเจ้าดูแปลกแตกต่างจากคนอื่น ข้าพเจ้าเองก็คิดอย่างนั้น ทุกวันนี้มันเหมือนว่าเราไม่มีส่วนร่วมกับกิจกรรมใด ๆ ในโลกนี้ การเที่ยวสนุกสนาน การดื่มกินของมึนเมา การพูดจาสนุกสนาน ไร้สาระ การเต้นแร้งเต้นกา อย่างที่เคยทำมาแต่ก่อนสูญหายไปหมดสิ้น ทุกวันนี้รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนสวนกระแสโลกไปแล้ว

หลายต่อหลายครั้ง ที่มักจะถูกเพื่อนรอบข้างแซวว่าน่าจะไปบวชเสียให้รู้แล้วรู้รอด หรือไม่ ก็มองว่าเราเป็นพระไปแล้ว แต่ก็เป็นเพียงการพูดเล่นเสียดสีกันตามประสาวัยรุ่น ทั้งที่ความจริงก็อยากเป็นอย่างนั้นจริง ๆ แต่ก็ไม่เคยพูดปริปากให้คนรอบข้างได้ยิน เพราะการใช้ชีวิตในโลกใด ๆ ก็ควรประพฤติตัวให้เหมาะกับภพ หรือสถานภาพของการเป็นอยู่นั้น ๆ เช่น เป็นฆราวาสก็ประพฤติธรรมตามสมควรของฆราวาส เป็นพระก็ต้องประพฤติตามธรรมของเพศสมณะ ไม่ใช่เป็นฆราวาสก็อยากปฎิบัติอย่างพระ เป็นพระก็อยากปฏิบัติอย่างฆราวาส อย่างนี้ไม่ใช่สิ่งที่ถูก

ปกติแล้วข้าพเจ้ามักจะเป็นคนที่พูดน้อย ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกมากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับไม่พูดเลย จะชอบเป็นฝ่ายที่รับฟัง แล้วนำมาคิดตริตรองมากกว่า บางคนมองว่าข้าพเจ้าโง่ไม่ค่อยรู้อะไรก็มี ซึ่งจริงแล้วก็อยากให้เขามองเราแบบนั้นเหมือนกัน มันจะได้ลดทิฏฐิ อัตตาตัวตนของเราลงไปได้บ้าง การถูกด่า ถูกแซว ถูกดูหมิ่น ถึงแม้จะรู้สึกเศร้าบ้าง แต่ก็รู้สึกยิ้ม ๆ อยู่ในใจ เพราะนี่แหละ ๆ คือโลกธรรม เป็นธรรมที่หมุนโลก ผู้ที่ยังหลงติดอยู่ในโลกธรรมนี้ ก็จะยังคงยึดถือและติดค้างอยู่ในโลก หมุนวนเวียนเกิดเวียนตายต่อไป...อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //www.vcharkarn.comมากมาย ครับ



Create Date : 24 มีนาคม 2554
Last Update : 24 มีนาคม 2554 8:46:28 น. 3 comments
Counter : 527 Pageviews.

 
เป็นธรรมดาอย่าคิดมากนะ ก็เราเป็นแค่"คน" ข้าพเจ้าเ้ข้าใจว่าการจะอยู่บนโลกนี้ยังต้องอยู่ในสังคมที่ทำงานก็ดีเพื่อนก็ดี บ้างทีการเก็บความต้องการของตัวเองใว้กับตัวเอง แล้วใช้ชีวิตตามความเหมาะสม แต่เมี่อมีเวลาก็กลับมาอยู่กับสิ่งที่เป็นตัวตนให้ได้ โดยไม่หลงจะดีกว่านะค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ แอบแวะมาอ่านบ่อยๆ ขอบคุณจากใจจริงนะค่ะฺฺิฺ......


โดย: แม่มณี IP: 182.53.73.115 วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:10:38:11 น.  

 
โดยส่วนตัวคิดว่าการจะปฏิบัติธรรมไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบวช
การบวชในที่ๆมีผู้อยู่ร่วมกันมากหน้าหลายตา อยู่บ้านเราเองดีกว่า
นอกจากไปบวชอยู่ในวัดในชนบทที่ห่างไกลผู้คน

แต่เมื่อเรายังมีภาระที่ยังต้องดูแลพ่อแม่ จุนเจือน้องๆ
การปฏิบัติธรรม ปฏิบัติที่ใจ หลุดพ้นที่ใจ ไม่ใช่อยู่ที่เสื้อผ้าที่สวมใส่

เราสามารถดูที่จิต ที่ใจ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อเราเข้าใจกระบวนการทำงานของความคิด
กิเลสและความคิดจะค่อยๆหลุดไปเหมือนปอกหัวหอม
หลุดไปทีละชั้น ทีละชั้น

อาจจะเป็นการสอนหนังสือให้กับสังฆราช
ก็ขอเข้ามาเป็นกำลังใจให้
ให้ก้าวข้ามไปถึงฝั่งที่ฝัน


โดย: กิเลสอยู่ที่ใจ IP: 118.173.192.237 วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:12:42:52 น.  

 
ขอบคุณ comment จากทั้งสองท่านครับ


โดย: อัสติสะ วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:8:25:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.