ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๓๓๘ - เยื่อใยแห่งตัณหา (ตอนจบ)



ต่อจากตอนที่ ๓

“เป็นเธอจริง ๆ ด้วย ไม่นึกจริง ๆ ว่าเราจะได้พบกันอีก...ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นเธอ...” ชายนักเดินทางพูดด้วยน้ำเสียงอันสั่นคลอ

“ใช่แล้ว...ฉันตายไปแล้ว ฉันจากเธอวันนั้น แล้วก็ไปจุติใหม่ยังภพอันไกลโพ้น เวียนเกิดตายอยู่หลายชาติ เพื่อรอเธออีกครั้ง ไม่นึกว่าวันนี้เราจะได้พบเจอกันอีก ฉันฝันถึงเธอมาหลายต่อหลายคืนติดกัน และแน่ใจว่าจะต้องได้พบเจอเธอ” หญิงสาวพร่ำ ทั้งสองเดินเข้ามาจับมือกัน มองตากันแสดงถึงความอาทรและห่วงหาในอดีต อำนาจแห่งชาติภพฉายภาพแห่งความหลังที่ชัดเจน ชายนักเดินทางรอนแรมเดินทางมาตลอด เขามีชีวิตอยู่นานแสนนานตามภพภูมิที่อาศัย แต่ก็ยังไม่ถึงคราวสิ้นอายุขัย หากแต่หญิงสาวผู้อาภัพได้เวียนตายเกิดมาหลายต่อหลายชาติแล้ว ด้วยจิตใจที่ยังผูกพันถึงคนรักเก่า ทำให้วันนี้สายใยแห่งตัณหาชักจูงคนทั้งสองกลับมาพบกันอีก ในสภาพของต่างคนต่างวัยกันราวกับรุ่นพ่อลูก

ชายนักเดินทางหลับตานึกภาพในอดีต ระลึกถึงความผิดพลาดที่ไม่อาจจะช่วยชีวิตของเธอได้ในคราวนั้น มันเป็นฝันร้ายที่คอยตามหลอกหลอนชีวิตเขา ซึ่งกว่าที่ความรู้สึกนั้นจะจางลงได้ ก็ต้องด้วยกาลเวลาผ่านไปแล้วเนิ่นนาน

“ได้ยินว่าเธอเริ่มเดินทางไปนิพพานอีกครั้งใช่ไหม ” หญิงสาวถามด้วยแววตาเอื้ออาทร

“ถูกต้องแล้ว ตั่งแต่เธอจากไปครั้งก่อน ฉันก็เริ่มเดินทางจนมาถึงที่นี่ ฉันมีเรื่องราวระหว่างการเดินทางมากมายที่จะเล่าให้เธอฟัง ฉันเกือบเอาชีวิตไม่รอดในหลายครั้ง เคยตกเหวและบาดเจ็บอย่างสาหัส เคยตายแล้วฟื้น เคยหลงป่า ถูกไฟป่าล้อมจนหาทางออกไม่ได้ หลงในดินแดนมนุษย์มีปีก พบเจอสัตว์ประหลาด งูยักษ์ ติดวังวนของกาลเวลานับพันปี ” ชายนักเดินทางพูด แต่ดูสายตาของหญิงสาวนั้นเริ่มมีอาการเศร้าสร้อยลง

'“แต่เธอก็ยังมีชีวิตอยู่ ไม่เวียนตายเกิดบ่อย รู้ไหมว่าทุกครั้งที่ความทรงจำเราถูกลบเลือน และถูกฟื้นกลับมาใหม่ พร้อมกับความทรงจำใจอดีต ความรู้สึกโหยหากับอดีตชาติมันเจ็บปวดมากสักเพียงไหน เธอรู้บ้างไหม ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงอันสั่นเคลือ

“นั่นสินะ...เธอต้องเจ็บปวดทุกข์ทนต่อการเกิด และความพลัดพรากมากมายกว่าฉัน ฉันอาจจะแค่เฉียดตาย แต่เธอต้องตายจริง ๆ ฉัน ๆ ๆ ขอโทษที่ทำให้เธอต้องเสียใจ...” ชายนักเดินทางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

“เอาเถอะน่ะ อย่างน้อยวันนี้เราก็ได้พบเจอกัน เธออยู่กับฉันที่นี่ได้ไหม ฉันอยากใช้ชีวิตร่วมกับเธออีกครั้ง แม้ว่าตอนนี้วัยเราจะต่างกันมาก หากพูดดี ๆ พ่อฉันท่านต้องเข้าใจในความรักของเราเป็นแน่... ” หญิงสาวพูด แต่นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ที่ชายนักเดินทางรู้สึกกับคำพูดแบบนี้

“แต่ ๆ ฉัน...”

“เธอไม่อาจจะล้มเลิกการเดินทางใช่ไหม...” หญิงสาวพูดอย่างรู้ทัน ชายนักเดินทางพยักหน้ารับ

“ทำไมกัน ทำไมการเดินทางไปยังดินแดนอันเลื่อนลอยถึงสำคัญกับเธอนัก ฉันรักเธอมาก และรอคอยเธอมาหลายต่อหลายชาติ เพื่อให้เราได้เจอกันวันนี้ แต่เธอก็กำลังจากฉันไปอีกอย่างไม่มีเยื่อใย ทำไมกัน...” หญิงสาวเริ่มอารมณ์เสีย แสดงถึงความเอาแต่ใจออกมาอย่างลืมอาย

“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันรู้เพียงแต่ว่าฉันไม่อาจจะหยุดการเดินทางได้ และไม่อาจจะล้มเลิกได้ด้วย ทำไม ๆ เธอจึงไม่เดินทางไปกับฉันล่ะ เราจะได้ไปที่นั่นด้วยกัน...” ชายนักเดินทางเสนอทางออก

“แต่ฉันไม่ชอบชีวิตการเดินทางเธอก็รู้ดี ชีวิตของคนเราต้องรู้จักการตั้งถิ่นฐาน และใช้ชีวิตทำมาหากิน ดำรงชีพเป็นกลุ่มสังคม ไม่ใช่การเดินทางที่เลื่อนลอยไร้จุดหมายเช่นนี้ ” หญิงสาวพูดประชด เหมือนกับเป็นคำพูดที่รอคอยมานานแสนนาน

“ฉัน ๆ เข้าใจความหมายของเธอดี แต่เธอก็ทราบดีว่าชีวิตของคนเรานั้นไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน เรารักกันเพียงใดเราก็ต้องจากกันอยู่ดี ”

“นี่เธอพูดเหมือนไม่มีเยื่อใยให้กับฉันแล้วใช่ไหม...” หญิงสาวเริ่มเดือดอีก

“ฉันขอโทษเธอจริง ๆ ฉันไม่อาจจะรักเธอเหมือนเป็นคนรักทั่วไปได้อีก ไม่ว่าภพนี้หรือภพไหน ๆ ” คำพูดของชายนักเดินทางนั้นบาดใจหญิงสาวยิ่งนัก มือที่เมื่อสักครู่ที่จับกันแน่น ถูกสะบัดออกจากฝ่ายตรงข้าม น้ำตาของหญิงสาวที่แสดงถึงความผิดหวัง พรั่งไหลออกมาจากเบ้าตา การรอคอยเพื่อหวังคำตอบมานานหลายภพหลายชาติ หมดความหมายไปในพริบตา

ความรักนี่ร้ายกาจยิ่งหนอ มันสร้างให้เรามีความหวังและรอคอย แต่เมื่อทุกอย่างมันไม่สมหวัง มันก็สร้างความทุกข์ที่แสนปวดร้าว การระลึกชาติได้นั้น ไม่เป็นผลดีอย่างใดเลยหากเลือกได้หญิงสาวคงอยากเกิดเป็นคนธรรมดาที่มีความทรงจำในอดีตมารบกวนจะดีกว่า พุทธองค์ตรัสว่า การเกิดบ่อย ๆนั้นย่อมเป็นทุกข์ก็เห็นจะเป็นเรื่องจริงในคราวนี้

ชายนักเดินทางก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นพูดแรงเกินไป แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะพูดปลอบใจได้ทันเวลา หญิงสาวเดินจากไปแล้ว เธอกำลังเดินไปจากสายตาของเขาไปด้วยน้ำตาของผู้ผิดหวังในความรัก นี่คงเป็นภาพสุดท้ายที่ชายนักเดินทางจะได้พบเห็นเธอ ไม่ว่าในชาตินี้หรือชาติภพต่อ ๆ ไป เยื่อใยแห่งตัณหาของคนทั้งสองต้องขาดสะบั้นลง

น้ำตาของผู้ชายบาง ๆ ไหลออกมาจากตา มันเป็นความรู้สึกที่ยากเกินอธิบาย เขาต้องพูดเพื่อให้เธอตัดใจจากเขา และเขาก็ต้องตัดใจจากเธอ การเดินทางสู่ดินแดนนิพพานแม้ว่าจะเดินทางร่วมกับคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันได้ แต่ก็มีคนอีกมากมายที่คิดต่างกันไป การช่วยเหลือกันแม้เป็นสิ่งดี แต่หากมันเกินที่จะช่วยได้ ไม่อาจจะเหนี่ยวให้เชื่อได้ อธิบายมาแล้วข้ามภพข้ามชาติก็ไม่อาจจะชักนำความเห็นของเธอได้ เขาเองก็ต้องปล่อยไปตามกรรมของสัตว์ แม้ในใจลึก ๆ ก็ยังปรารถนาให้เธอเดินทางไปด้วยกัน แต่นั่นมันเป็นเหตุสุดวิสัยที่เขาจะทำได้อีกต่อไป
-จบ-

เป็นอีกครั้งที่ชายนักเดินทางต้องพบเจออุปสรรคสำคัญระหว่างการเดินทาง ตอนจบไม่ได้สวยหรูเหมือนเช่นนิยายที่เขาแต่งมาเพื่อความบันเทิง ชีวิตเราต่างมีพบ มีจากกันไปเป็นธรรมดา การยึดติดต่ออารมณ์ความห่วงหาอาลัยย่อมเป็นเหตุให้สร้างทุกข์ขึ้นมา ข้าพเจ้าเขียนตอนนี้มาด้วยสื่อเป็นนัยตามนี้ เรื่องราวก็ลุ้นไปด้วยกับผู้อ่านเช่นกันว่าตอนท้ายจะเป็นเช่นไร เพราะไม่ได้วางพล๊อตไว้ล่วงหน้า เรียกว่าเขียนกันไปตามน้ำ ออกมาอย่างไรก็อย่างนั้นไม่นั่งกลับไปแก้สองรอบสามรอบอีกเป็นแน่ แม้ตอนจบจะดูเศร้าไปสักหน่อย และรู้สึกห่อเหี่ยวใจไม่น้อย แต่ถ้าอ่านเรื่องราวการเดินทางของชายนักเดินทางตั่งแต่เริ่มต้นเดินทางก็จะสามารถเข้าใจเหตุผลได้เป็นอย่างดี...

ขอบคุณรูปภาพงาม ๆ จาก //board.goosiam.com มากมายครับ




สารบัญ



Create Date : 20 ธันวาคม 2554
Last Update : 20 ธันวาคม 2554 22:48:41 น. 2 comments
Counter : 460 Pageviews.

 
อรุณสวัสดิ์ครับ


อุปสรรคในจิต
เป็นสิ่งผลักดันให้นักเดินทางยิ่งมุ่งมั่น
ที่จะเดินทางต่อไปนะครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 ธันวาคม 2554 เวลา:6:40:51 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:6:08:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.