ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๓๒๘ - แพมด



จำได้ว่าในสมัยที่ข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ในช่วงฤดูน้ำหลากคือ ประมาณเดือน สิงหาคม – กันยายน ก็จะรู้สึกสนุกแบบเด็ก ๆ เพราะเราจะได้เห็นน้ำในแม่น้ำเยอะมากอย่างผิดปกติ ข้าพเจ้ามักจะตามไปดูน้ำในแม่น้ำกับผู้ปกครอง เห็นสิ่งต่าง ๆ ลอยตามน้ำมา แต่วิถีของคนชนบทก็ยังสามารถที่จะเรียนรู้และอยู่กับน้ำได้ เช่น การหาปลาตอนน้ำหลาก เป็นต้น

ในวันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้ามองดูสายน้ำกับพวกเพื่อนสมัยเด็กนั้น ก็เห็นวัตถุแปลก ๆ เป็นก้อนดำ ๆ ลอยมากับน้ำ ด้วยความเป็นเด็กก็เลยเอาไม้ไปเงี่ย ๆ ดู ซึ่งก็รู้ได้ว่าวัตถุที่ลอยตามน้ำมานั้นไม่ใช่อะไร แต่เป็นฝูงมดดำที่รวมตัวกันลอยเป็นแพเพื่อหนีน้ำ ตามวิสัยของมดย่อมไม่ค่อยชอบกับน้ำอยู่แล้ว อย่างเช่น หากเราเอาน้ำไปเทลงใต้ต้นไม้ที่มีรังมดอยู่ รับรองสักพักพวกมมันคงต้องช่วยกันขนไข่มดออกมากระเจิงอยู่นอกรัง แต่หากถึงขั้นวิกฤตที่มันไม่สามารถที่จะหนีไปได้แล้ว พวกมันก็จะรวมตัวกันต่อเป็นแพ แล้วก็ลอยตามน้ำเพื่ออพยบ ไปหาแหล่งที่อยู่ใหม่ เพราะลำพังหากมดหนีแบบตัวใครตัวมันรับรองว่า จมน้ำตายกันได้หมดแน่

สัตว์เล็กมีกำลังน้อย ยังรู้จักสามัคคีกัน แต่สัตว์ใหญ่กว่าสติปัญญามากกว่า แต่มีความทนงตัวสูง ในยามที่ภัยมา คาดว่าสามารถเดินคนเดียว หนีคนเดียวได้ หรือรอคอยการช่วยเหลือเพียงคณะทำงานเพียงกลุ่มเล็ก ๆ ไม่ช้าบ้านเมือง และสังคมส่วนใหญ่ของเราก็ไปไม่รอด เกิดความระส่ำระส่ายโกลาหล

กลุ่มสังคมก็เหมือนเช่นเดียวกับกลุ่มของมด เรี่ยวแรงของมนุษย์ก็มีอย่างจำกัด แม้จะมีสติปัญญามากกว่าสัตว์อื่น ๆ ก็ตามที แต่หากเรารวมกลุ่มกันช่วยเหลือกัน เราก็จะสามารถรอดจากวิฤติครั้งนี้ไปได้ และร่วมกันสร้างสังคมใหม่ ทรัพย์สินที่สูญเสียไปย่อมหาเอาใหม่ได้ แต่ชีวิตของเราต่างหากที่สำคัญมากว่าสิ่งใด ได้ยินข่าวบางคนเครียดเรื่องน้ำมากถึงกับต้องฆ่าตัวตายก็มี นั่นเป็นการหาทางออกที่ผิดวิธี เพราะความเห็นที่ผิด เสาะหาวิธีพ้นทุกข์แต่เป็นการเพิ่มทุกข์ให้กับคนรอบข้างและตัวเองในภพหน้า

ชีวิตของมด ปลวกนั้นเป็นสิ่งที่เราน่าศึกษามาเป็นแบบอย่าง หลายคนบอกว่ามันเป็นสัตว์ที่ไม่มีสมอง แต่มันมีชีวิตและการกระทำเดินไปตามสัญชาตญาณ แต่ก็เคยมีข่าวหรืองานวิจัยบางอย่างบอกว่า ในช่วงที่ก่อนจะเกิดภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม หรือแผ่นดินไหว ก็ให้สังเกตุจากสัตว์เหล่านี้ เพราะสัตว์เหล่านี้จะมีสัมผัสพิเศษที่จะรู้ภัยได้ล่วงหน้า เป็นสิ่งที่ธรรมชาติให้มา เพื่อทดแทนมันสมองอันน้อยนิด ในสมัยก่อน ปู่ของข้าพเจ้ามักจะสอนให้สังเกตุมดดำตรงเสาบ้านให้ดี ถ้าพวกมันอพยบเมื่อไหร่ นั่นแหละ อีกไม่เกินสองถึงสามวัน น้ำจะท่วม ซึ่งก็จริงอย่างที่ท่านว่ามา น่าเสียดายที่มนุษย์เราไม่มีสัญชาตญาณในการเตือนภัยเช่นสัตว์จำพวกนี้ แต่ก็อย่างว่ามา เพราะธรรมชาติให้สมองอันใหญ่โตของมนุษย์มาแล้ว จึงไม่มีที่ว่างสำหรับเรดาห์เตือนภัยก็เป็นไปได้


****ส่วนเสริม****
เดี๋ยวอ่านแล้วจะน้อยใจ อยากเกิดเป็นมดจริง ๆ ขึ้นมา จึงขอเสริมว่าการที่เกิดเป็นมนุษย์นับว่าเป็นผู้ที่ได้ฝึกอบรมปัญญา เป็นผู้ที่สามารถฝึกอบรมตนเองได้ได้ ปัญญาที่ถูกฝึกดีแล้วนี่ จะเป็นสัญญาณเตือนภัยและสามารถมองเห็นพิษภัยต่าง ๆ ได้อย่างดี

> ภัยชนิดไหนเล่าจะร้ายแรงที่สุด ?
> คำตอบคือ ภัยจากวัฏฏะ เป็นภัยจากการเวียนเกิด เวียนตาย นั่นแหละน่ากลัวที่สุด เพราะหากเรายังเกิดอยู่เรื่อยไป ชาตินี้ทั้งชาติเราอาจจะพ้นภัยธรรมชาติได้ แต่จะมีผู้ใดรับประกันได้ว่าภัยแบบเดียวกันนี้ ในภพหน้าจะไม่มีอีก

มนุษย์ที่ได้ฝึกแล้ว และมีปัญญาในการเห็นภัยในวัฏฏะ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่น่านับถือ แต่มนุษย์ผู้ที่เห็นภัยแห่งวัฏฏะแล้วยังปรารถนาช่วยสัตว์โลกผู้อื่นให้พ้นภัยไปด้วย ยิ่งน่าเคารพยกย่องเป็นอย่างยิ่ง

เพราะฉนั้นจริง ๆ แล้วธรรมชาติเองก็ไม่ได้โหดร้ายสำหรับมนุษย์ แต่ให้สิ่งที่ประเสริฐกับมนุษย์มาแล้ว เพียงแต่เราต้องรู้จักใช้มันให้เป็นเท่านั้น …



ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //cdn.zmescience.com มากมาย ครับ


Create Date : 20 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2554 15:01:11 น. 2 comments
Counter : 578 Pageviews.

 


โดย: biocellulose วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:28:28 น.  

 
เหยือกน้ำของพี่ก๋ามีมดแดงตกลงไปตายเป็นฝูงๆ

พี่ก๋าเลยเอาชามข้าวใส่น้ำ
แล้ววางเหยือกลงไปอีกที

มดก็ยังปีนลงไปตายในชามทุกวัน

พี่ก๋ายังหาเหตุที่มดปีนลงไปฆ่าตัวตายในชามไม่ไ่ด้เลยครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:46:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.