|
๒๘๘ - ความมืดในความสว่าง
แสงสว่างในตอนเช้าปลุกให้ข้าพเจ้าลุกขึ้นจากที่นอนเหมือนทุก ๆ วัน หลังจากลืมตาจากที่นอน ก็มักจะควานหานาฬิกาเพื่อตรวจดูเวลา เหมือนกับว่าหากยังเช้าอยู่ก็อยากจะนอนต่ออีกสัก สิบนาที ซึ่งเป็นเรื่องปกติประจำวัน จะมีวันไหนบ้างนะ ที่ลุกขึ้นโดยที่ไม่งัวเงียกับที่นอน (สงสัยจะโดนถีนมิทธะเข้าสิงอย่างแรง)
ธรรมดาของโลกก็มีช่วงเช้า กลางวัน ตอนเย็นและกลางคืน วนเวียนอยู่อย่างนี้เรื่อยไป ไม่ว่าเราจะเกิดหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ก็ยังมีอยู่ เป็นอยู่อย่างนั้น นี่คงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่สุด ในขณะที่เราอยู่ในโลกที่สว่างในตอนกลางวัน จะมีสักกี่คนที่มองเห็นความมืดมิดในตอนกลางวัน เช่น คนที่ตาบอด หรือผู้พิการทางสายตา หรือ คนที่ไม่อาจจะขึ้นมาอยู่ในที่ที่สว่างได้ทั้งที่อยู่ในตอนกลางวัน คนตาบอดนั้นนับว่าน่าสงสารมาก ข้าพเจ้ามักจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเมื่อเห็นคนตาบอดเดินผ่าน ล่าสุดเห็นชายตาบอดคนหนึ่งยืนตากแดดรอรถเมล์อยู่ ข้าพเจ้าจึงพูดให้เขาขยับมายืนในร่ม แต่เขาก็บอกว่ากลัวขึ้นรถไม่ทัน ข้าพเจ้าจึงอาสาว่าจะคอยส่งขึ้นรถให้ จนกว่ารถเมล์คันที่รอนั้นจะมา เขาจึงค่อยคลายกังวล และเดินมาพักอยู่ในร่ม
หลังจากที่ส่งชายคนนั้นขึ้นรถแล้ว ก็กลับมานั่งคิดว่า เหตุใดในโลกนี้ จึงมีคนแตกต่างกันมากนัก บางคนเกิดมาพิการ ตาบอด หูหนวก บางคนปัญญาอ่อน ฯ ในทางพุทธศาสนาท่านตรัสว่าเป็นเรื่องของกรรม สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของ ๆ ตน กรรมใด ๆ ที่ทำไว้แล้วสัตว์นั้นย่อมเสวยผลแห่งกรรมนั้น ข้าพเจ้าไม่ทราบหรอกว่า ชายคนนั้นเขาทำกรรมอะไรมาในอดีต เพราะชีวิตของแต่ละคนในสังสารวัฏนั้น ต่างทำกรรมดี กรรมชั่วมาด้วยกันทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่ากรรมใดจะส่งก่อนหน้าหลัง
เช่นเดียวกันพุทธศาสนาที่เป็นดังแสงแห่งโลกได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว มีสัตว์หลายจำพวกที่สามารถลืมตา แล้วเห็นแสงแห่งธรรม ส่องเป็นทางช่วยเหลือให้พ้นจากทุกข์ สัตว์บางพวกแม้จะพยายามเท่าไหร่ก็เห็นเป็นเพียงแสงราง ๆ พอคลำทางไปได้ แต่มีสัตว์อีกมากมายหลายจำพวก ที่ไม่อาจจะลืมตาเห็นแสงแห่งธรรมนี้ได้เลย โชคร้ายกว่านั้นมีสัตว์จำพวกหนึ่งที่สามารถลืมตาเห็นแสงสว่างได้ แต่กลับไม่ยอมลืม เพราะคิดว่าตัวเองไม่สามารถลืมตาได้ อีกทั้งก็ไม่รู้จักลืมไปทำไม เพราะเคยชินอยู่กับความมืดไปเสียแล้ว
ทุกวันนี้เราต่างใช้ชีวิตอยู่กับความประมาท สนุกสนานอยู่กับความสุขอันเป็นเครื่องหลอกล่อของวัฏฏะ จมอยู่กับความทุกข์ที่เกิดขึ้นมาจากความไม่รู้ เราอาจจะเข้าวัดทำบุญบ้างก็จริง แต่เคยถามตัวเองบ้างไหมว่า สิ่งที่ได้มากกว่าบุญนั้นมีอีกไหม หรือทำเพียงเพราะทำตามสืบ ๆ กันมา...ไม่อย่างนั้นเราจะกลายเป็นคนมืด ที่อาศัยอยู่ในที่แสงสว่างไปอีกนานแสนนาน
ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //school.obec.go.thมากมาย ครับ
Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2554 |
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2554 8:19:26 น. |
|
12 comments
|
Counter : 665 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:37:12 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:30:46 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:54:47 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:6:10:41 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:53:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:58:02 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:47:53 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:6:21:49 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:38:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:44:26 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:07:53 น. |
|
|
|
| |
|
|
แทนความปรารถนาดีที่มีต่อกันค่ะคุณอัสติสะ