|
๐๖๒-แรงดึงดูดของ
เงากิเลส
แรงดึงดูดของโลกนั้น เป็นสิ่งมหัศจรรย์มาก มันทำให้เราได้รู้จักคำว่า กระโดด การตก การลอยตัว ทำให้เราเป็นผู้ที่อยากเอาชนะแรงดึงดูด มนุษย์จึงเิริ่มต้นเรียนรู้ ศึกษาเก็บข้อมูล ดูพฤติกรรม ของสัตว์และธรรมชาติ ข้อมูลที่ได้จากการอบรมเรียนรู้นั่นเอง ทำให้มนุษย์รู้จักคำว่าเทคโนโลยี จนวิวัฒนาการเป็นเครื่องบิน และยานอวกาศในที่สุด ชี้ให้เห็นว่าในเบื้องลึกของมนุษย์เรานั้น มีความดิ้นรนทะเยอนอยากที่จะเอาชนะขนาดไหน
กิเลสและตัณหานั้นก็ไม่ต่างกัน มันเป็นแรงดึงดูดที่มีกำลังมหาศาล มากกว่าแรงดึงดูดของโลกซึ่งเป็นรูปธรรมหลายล้านเท่า หากแต่แรงดึงดูดนี้ ทุก ๆ วันเรามักจะมองไม่เห็นดูไม่ออก มันเหมือนกับเงาที่ติดตามเราทุกที่ ไม่ว่าที่ที่มีแสงน้อย หรือแสงมาก
หากแต่ใครจะมองเห็นหรือสนใจเงาของตัวเอง หรือหากมองออกก็คงมองว่านั่นเป็นธรรมดาของมัน ซึ่งกิเลส เงา และแรงดึงดูด มันก็มีอยู่กับโลก
หากแต่เราเอาทั้งสามสิ่งมาพิจารณาให้ดีจะพบว่า แรงดึงดูดนั้นเป็นรูปธรรม เป็นสิ่งที่สัมผัสได้ เรามองเห็น คนอื่นก็มองเห็น เราพิสูจน์ได้ คนอื่นก็พิสูจน์ได้ ว่าแรงดึงดูดนั้นมีตัวตนจริง ๆ และเราก็สามารถเอาชนะแรงดึงดูด ขึ้นไปลอยเคว้งอยู่ในอวกาศได้ด้วย แต่จำไว้ว่าในอวกาศก็ยังมีแรงดึงดูดที่ท้าทายปัญญาของมนุษย์ อีกนั่นคือหลุมดำ มันมีกำลังมหาศาลแม้แต่แสงสว่างยังไม่อาจวิ่งผ่านมันได้ มันจึงถูกเรียกว่าหลุมดำ
เงา เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครสนใจกัน ทุกคนที่รูปร่าง มีกายที่สัมผัสได้ และมีแสงสว่างที่พอเหมาะ แค่เท่านี้ทุกคนก็จะมีเงากันได้แล้ว เงาจึงไม่ใช่สิ่งที่วิเศษอะไร แม้แต่โลกเราก็ยังมีเงา และมนุษย์เราก็มักจะตื่นเต้นกัน เมื่อเวลามันปรากฏขึ้นบนดวงจันทร์ ซึ่งมันก็ไม่ได้แปลกประหลาดอะไรไปจากเงา ของคนเราเลย มีแต่เราไปให้ค่าให้ราคากับเงาโลกเท่านั้น
แล้วเราจะสามารถเอาชนะเงาของตัวเองได้ไหม ? นั่นอาจจะเป็นคำถามที่ตื้น ๆ ที่สุด และ ปัญญาอ่อนที่สุดก็ได้ คุณอาจจะหัวเราะ และบอกว่าไม่มีทางหรอก ตราบใดที่เรายังมีร่างกาย มีรูปร่างทึบแสง และมีฉากรองรับ เราก็จะมีเงาอยู่ตราบนั้น
มันก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เราพยายามเอาชนะ แรงดึงดูด เอาชนะธรรมชาติหรอก เพราะวัตถุภายนอกที่เราไม่รู้จักในสากลจักรวาลนี้ มีมากมายมหาศาล ต่อให้เราเรียนรู้หมด เราก็ไม่อาจจะเรียกว่าผู้ชนะอยู่ดี เพราะเรายังมีความอยากอยู่นั่นเอง เมื่อได้สิ่งหนึ่งก็อยากจะแสวงหาอีกสิ่งหนึ่ง ไม่มีวันจบสิ้น ไม่ต่างอะไรกับที่เราพยายามจะหาวิธีทำลายเงาของตัวเอง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย
กิเลส เป็นตัณหา ความทะเยอนอยากของมนุษย์ สัตว์ เทวดาทั้งหลาย รวมความถึงสัตว์ที่เกิดอยู่ใน ๓ ภพ มี กามภพ รูปภพ อรูปภพด้วย ซึ่งแบ่งเป็น ๓ ขั้น ตามกำลังของศีล สมาธิ ปัญญา นั่นคือขั้นหยาบ ขั้นละเอียด และละเอียดที่สุด เท่าที่ปัญญาจักษุผู้ใดจะมองเห็น
ผู้ใดที่เห็นกิเลสขั้นละเอียดที่สุด ผู้นั้นจึงเป็นผู้ชนะที่แท้จริง คือชนะทั้งตนเอง เงา แรงดึงดูดของโลก และ ของหลุมดำ เป็นผู้ที่เป็นสุขนิรันดร์ ขาดจากกาลเวลา ไม่ต้องกับมาเกิด ถูกดูดติดอยู่กับโลกใบแคบ ๆ ใบนี้
อีกต่อไป
Create Date : 13 กันยายน 2551 |
Last Update : 13 กันยายน 2551 14:46:45 น. |
|
3 comments
|
Counter : 591 Pageviews. |
|
|
|
โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:20:32:18 น. |
|
|
|
โดย: discipula วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:13:09:29 น. |
|
|
|
โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) วันที่: 22 กันยายน 2551 เวลา:8:10:54 น. |
|
|
|
| |
|
|
แรงดึงดูดเป็นสิ่งที่อยู่ภายนอก แต่กิเลสอยู่ภายใน ในตัวเราเป็นอาสวะกิเลส หมักดองรอแรงกระตุ้น จากภายนอกก็ค่อยๆ ไหลซึมออกมาช้าๆ โดยบางครั้งตัวเราเองก็ยังไม่รู้ตัว ร้ายจริงๆ กิเลส
โลกมนุษย์หล่อเลี้ยงเคลื่อนไหวไปด้วยกิเลส
เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ