|
๑๗๓-ขึ้นมาจากเหว ตอนที่ ๒(จบ)
โชคชะตานั้นลิขิตชีวิตมนุษย์และสัตว์ได้จริง ๆ ...หรือว่าเป็นเพราะการกระทำของมนุษย์และสัตว์เองกัน ที่กำหนดโชคชะตาอีกที บางครั้งการรอคอยนั้นเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวเพราะว่าเวลานั้นช่างยาวนานเหลือเกิน เกินกว่าที่การกระทำของเราจะส่งผลให้เห็นในปัจจุบัน ชีวิตมนุษย์จึงต่างเข้าใจผิด และฝากชีวิตไว้กับการอ้อนวอนร้องขอมากกว่าที่จะดิ้นรนด้วยตัวเอง
“ผมว่าเราอย่ารอเวลาเลยน่ะครับ เราหาทางขึ้นไปข้างบนกันดีกว่า” ชายนักเดินทางออกความเห็น “จะดีเหรอครับ ยังไม่เคยมีใครทำสำเร็จเลยน่ะ” “ต้องมีสิครับ ก็พวกเราไง”
ทั้งสองคนพยายามหาทางปีนป่าย ขึ้นไปตามขอบหินทีละก้อน ๆ และช่วยเหลือกันเมื่อใครคนใดคนหนึ่งเหยียบพลาด และช่วยเหลือกันจนปีนขึ้นมายังปากเหวเบื้องบนได้สำเร็จ
แสงอาทิตย์ตอนบ่ายนี้ช่างน่าดูเสียเหลือเกิน เป็นความอบอุ่นที่ไม่นึกว่าจะได้สัมผัสอีกครั้งหนึ่ง
“ขอบคุณพ่อหนุ่มมาก ๆ เลยน่ะที่ช่วยพาผมขึ้นมา” ชายคนนั้นพูด “จริง ๆ แล้วก็ขอบคุณกันทั้งสองคนน่ะครับ ผมคนเดียวก็ไม่อาจจะปีนขึ้นมาได้เช่นกัน” “ผมสัญญานะครับ ว่าจะไม่ทำชั่วช้าให้พาตัวเองตกลงไปในเหวนี้อีก มันทรมาณเหลือเกินกว่าจะปีนขึ้นมาได้” “ผมก็หวังว่าอย่างนั้นนะครับ แต่มนุษย์เรานี่มักจะมีความประมาทอยู่น่ะครับ มักจะหลงลืมอดีตกันอยู่ง่าย ๆ เมื่อได้รับความสะดวกสบายตามอัตภาพ ก็มักจะลืมเรื่องราวที่ตนเองได้รับทุกข์ทนในอดีต และนึกไม่ออกว่ากรรมอย่างใดที่ส่งผลให้เราต้องตกไปอยู่ในหุบเหวลึก มันคงเป็นอย่างนี้ไม่รู้จบสิ้น ตราบใดที่มนุษญ์ยังประมาทอยู่ครับ” ชายนักเดินทางพูด
“เฮ้อ ๆ พ่อหนุ่มพูดยังกับไม่ใช่คนในโลกนี้อย่างนั้นล่ะ แล้วพ่อหนุ่มจะเดินทางไปไหนต่อ” ชายคนนั้นถาม “ผมจะเดินทางไปยังดินแดนที่ไม่ต้องตกลงในเหวอีกครับ” “มันมีดินแดนอย่างนั้นอยู่ด้วยเหรอ” ชายคนนั้นถามกลับ “มีครับ อาจารย์ผมบอกว่ามี และให้ผมเดินทางไปหามันครับ” ชายนักเดินทางตอบ
“ผมอยากไปด้วยกับคุณจัง แต่ผมยังห่วงลูกเมียผม ไม่รู้ว่าป่านนี้จะอยู่กันอย่างไร เพราะผมก็จากพวกเขามานานแล้วเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้ในอนาคตผมจะเดินทางไปกับคุณนะครับ แต่วันนี้ผมคงต้องเดินทางกับบ้านก่อน โชคดีน่ะครับ” ชายคนนั้นบอกลา แล้วหันหลังเดินจากไป
ในชีวิตของคนเราทุกคนต่างเคยผ่านความทุกข์ยาก ผ่านการปีนป่ายขึ้นมาจากเหวลึกคือ นรก ด้วยกันทั้งสิ้น แต่อนิจจา จะมีสักกี่คนที่รู้สึกสังเวชต่อการปีนป่ายเหล่านี้ แม้รู้ชัดในกรรมใด ๆ ที่จะพาเราตกต่ำ แต่ก็ไม่อาจจะฝืนต่อกิเลสเบื้องต่ำและสลัดความอยากขึ้นพื้นฐานออกไปได้ เพราะไม่ได้เชื่อมั่นในพระนิพพานอันเป็นดินแดนที่พ้นจากการตกลงไปสู่เหวนรกได้ตลอดกาล ถึงแม้เขาจะเคยได้ยินเรื่องเหล่านี้มาตลอดชีวิตแล้วก็ตามที
Create Date : 12 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2552 12:10:48 น. |
|
11 comments
|
Counter : 408 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Yushi วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:40:48 น. |
|
|
|
โดย: พี่ Beee เองจ้า IP: 125.24.176.107 วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:52:18 น. |
|
|
|
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:17:23 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:02:28 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:58:15 น. |
|
|
|
โดย: nesnes วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:01:09 น. |
|
|
|
โดย: Budratsa วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:35:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:42:51 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:51:16 น. |
|
|
|
| |
|
|