|
๔๔๔ - ดินแดนสีเลือด (ตอนที่ ๑)
ชายนักเดินทางยังคงเดินทางไปเรื่อย ๆ อุปสรรคระหว่างทางหล่อหลอมให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ หลังจากเดินทางผ่านหุบเขาสูงชันเป็นเวลานานหลายเดือน เบื้องหน้าของเขาเป็นที่ราบลุ่มกว้างขวาง เป็นสัญญาณดีสำหรับการมองหาเสบียงอาหารและการได้พบเจอเมืองอื่น ๆ บ้าง
วันนี้ชีวิตของเขากำลังต้องการพักผ่อน เนื่องจากการเดินทางรอนแรมมาอย่างหนักหนา และการถูกจำคุกในครั้งที่ผ่านมาซึ่งกินเวลาเนิ่นนาน ทำให้เขาเรียนรู้ว่าอิสระภาพเป็นสิ่งที่หอมหวานเพียงใด และในอนาคตเขาต้องเดินทางอย่างระวัดระวังมากกว่านี้
หุบเขาเบื้องหลังที่ชายนักเดินทางผ่านมา ตั้งสูงตระหง่านอย่างน่ากลัว ความสูงของหุบเขานับว่ายิ่งน่ากลัวแล้ว แต่จิตใจมนุษย์ผู้ครอบครองดินแดนนั้นน่ากลัวกว่าหลายเท่า เขาตั้งใจว่าวันหนึ่งหากเขามีกำลังมากเพียงพอ เขาจะกลับมาปลดปล่อยมนุษย์ที่ติดกับดักในคุกนั่นให้ได้
หลังจากเพลินกับธรรมชาติรอบตัวได้สักพักใหญ่ เขาก็เหลือบมองไปเห็นบุคคลกลุ่มหนึ่งกำลังตักน้ำอยู่ที่ริมธาร เหตุการณ์ในอดีตทำให้เขาไม่กล้าที่เข้าไปทักทายพูดคุยเหมือนเช่นที่ผ่านมา ได้แต่มองอาการกระทำของคนเหล่านั้นอยู่ห่าง ๆ
แม้ว่าจะอยู่ในระยะไกล แต่เขาก็เห็นความผิดปกติบางอย่างของน้ำในลำธารนั้น เขาเห็นสีน้ำเป็นสีน้ำเงินเข้มปนเขียว ส่งประกายราวกับอัญมณี เมื่อยามที่กระทบแสงแดด เหตุนี้กระมังคนเหล่านั้น จึงใช้เวลาในการตักตวงน้ำอย่างยาวนานกว่าปกติ หรือลำธารแห่งนี้จะไหลผ่านแร่ธาตุบางอย่างทำให้มีสีแตกต่างจากน้ำทั่วไป ด้วยความสงสัยเป็นเหตุทำให้เขาเดินออกไปถามบุคคลผู้ตวงน้ำเหล่านั้น ซึ่งดูท่าทางไม่มีพิษภัยใด ๆ
สวัสดีครับ ผมเป็นนักเดินทาง บังเอิญผ่านมาทางนี้ ไม่ทราบว่าพวกท่านกำลังทำอะไรกันอยู่หรือ... ชายนักเดินทางพูดทักทายก่อน
สวัสดีพ่อหนุ่ม พวกเรากำลังตวงน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำไปทำพิธีบูชาเทวดาในเมือง ชายผู้ที่เป็นหัวหน้าตอบ
บูชาเทวดา...?
พ่อหนุ่มคงมาจากต่างเมือง คงไม่เคยร่วมพิธีบูชาเทวดา ชายผู้นั้นพูดต่อ
ผมไม่เคยได้ยินประเพณีนี้มาก่อน แล้วการบูชาเทวดานั้นเป็นอย่างไร ชายนักเดินทางถาม
ถ้าจะอธิบายคงยืดยาว ข้ามีเวลาไม่มาก นี่ก็จวนจะเสร็จพิธีตวงน้ำแล้ว เชิญพ่อหนุ่มเดินทางไปกับเรา เดี๋ยวข้าจะเดินไปเล่าไปดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลามาก ชายผู้นั้นเชิญชวน
ชายนักเดินทางเห็นว่าไม่น่าจะเกิดโทษใด ๆ จึงตัดสินใจเดินตามขบวนตวงน้ำศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในเมือง อีกอย่างก็เพื่อรู้พิธีประหลาดและหาเสบียงเดินทางด้วย
จากนั้นเขาก็ได้รับรู้เรื่องราวของที่ไปที่มาแห่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ และความเชื่อในเทวดาอารักษ์ที่ปกป้องบ้านเมือง
ในสมัยอดีตที่ผ่านมา บ้านเมืองนี้ถูกปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ที่เป็นธรรม บ้านเมืองจึงเจริญร่มเย็นมาอย่างยาวนาน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปความเจริญก็เสื่อมถอยลง เนื่องจากคณะปกครองคิดแย่งชิงอำนาจของกษัตริย์ โดยการสนับสนุนจากอำนาจไสยศาสตร์ดำของบุรุษลึกลับคนหนึ่ง เมื่ออำนาจกษัตริย์ถูกครอบงำและถูกโค่นล้มได้สำเร็จก็เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ของเมือง ชาวเมืองไม่ได้รับอิสระเสรีอย่างที่ผ่านมา ต้องเสียภาษีมากขึ้น ต้องใช้แรงงานให้กับผู้ปกครองยาวนานมากขึ้น รวมทั้งเริ่มมีโจรซุกซุม เนื่องจากการปกครองที่ไม่เป็นธรรม มีการติดสินบนเจ้าพนักงานของผู้ปกครอง บ้านเมื่องที่เคยเข้มแข็งก็อ่อนแอลง
จากคำบอกเล่าของคนในอดีต แม้ว่าชาวเมืองจะอยู่กันอย่างลำบาก แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีออกจากเมืองได้ ด้วยอำนาจของศาสตร์ดำและเวทมนต์ ทำให้ทุกคนในเวลานั้นตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต่างกับทาสหรือนักโทษ
ด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับในเวลานั้น จึงเกิดกระบวนการต่อต้านอำนาจของผู้ปกครองอย่างลับ ๆ มีการติดต่อให้ผู้มีความสามารถต่างเมืองเข้ามาต่อสู้กับศาสตร์ดำ แต่ก็ไม่สำเร็จ คนที่คิดต่อสู้จะมีจุดจบอย่างโหดร้ายที่สุด เล่ากันว่า เลือดของคนที่คิดขบฎ จะถูกรีดออกจากร่างกายและปล่อยให้ตายอย่างช้า ๆ เลือดที่ไหลออกนั้นมีมากถึงขนาดกลายเป็นลำธารขนาดย่อม ส่งกลิ่นคราวคละคลุ้ง ล่อให้เหล่าอสูรกายผู้กระหายเลือดมาชุมนุมกัน สร้างความสยดสยองให้กับชาวเมืองเวลานั้นเป็นอย่างมาก
อ่านต่อตอนที่ ๒
ขอบคุณรูปภาพจาก https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSW-enwkv3dJeboo1H64bt2jS9mKaBYuf3vGfOPPTdU2-xVHCQN
Create Date : 06 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2556 12:08:53 น. |
|
8 comments
|
Counter : 417 Pageviews. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:48:58 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 6 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:23:02 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:57:53 น. |
|
|
|
โดย: new (newanatta ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:13:46 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 11 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:28:15 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:30:42 น. |
|
|
|
| |
|
|
จะรออ่านต่อตอนสองนะครับ