|
๔๔๙ - คำตอบของความจริง?
มีคนมากมายตั้งคำถามต่อความจริงว่า แท้จริงแล้วความจริงมันคืออะไร ศาสนาทุกศาสนาล้วนกล่าวอ้างความจริงในฐานของตัวเอง และชักนำศรัทธาให้คนเชื่อในคำสอนนั้น ๆ มนุษย์ผู้ศรัทธาในความจริงที่ตัวเองได้รับ เคยนำความจริงแท้นั้นมาใช้งานบ้างหรือเปล่า หรือปล่อยให้ความจริงที่ตนเชื่อถืออยู่เหนือสิ่งที่เรียกว่าความตายไปแล้ว และหาประโยชน์ใด ๆ ไม่ได้ตอนที่มีชีวิตอยู่ นอกจากความศรัทธาอันว่างเปล่า
พุทธศาสนานั้นแตกต่างจากศาสนาอื่นตรงที่ไม่ได้นับถือเทพเจ้า หรือกราบไหว้อ้อนวอนขอโดยไร้เหตุผล และสอนความจริงของชีวิตที่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลาและการพิสูจน์ความจริงแท้ ก็ทำได้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องรอภพหน้าหรือชาติหน้าให้เสียเวลา ขึ้นอยู่กำลังใจของผู้ปฏิบัติเองว่าจะมีความเพียรพยายามมากน้อยสักเพียงใด
การบรรลุธรรม อาจจะหมายถึงการเข้าถึงธรรมชาติโดยแท้ของจิตวิญญาณ การรับรู้สภาวะที่พ้นจากการครอบงำของการปรุงแต่งจิตทั้งหลาย เป็นการคลายกลุ่มควันของอวิชชาให้จางหายไป ที่เหลืออยู่ก็คือความรู้แจ้ง ความรู้แจ้งไม่ใช่รู้ทุกอย่าง เพียงแต่เป็นการรู้ในสิ่งที่ชีวิตจำเป็นต้องรู้ และสามารถใช้ความรู้นั้น ๆ ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองได้อย่างสูงสุดเรียกว่า การไม่กลับมาเกิดอีก
คราวนี้พอกล่าวว่า จะไม่ได้กลับมาเกิดอีก คนทั่วไปก็ใจหาย รู้สึกหวิว ๆ เพราะยังไม่อาจจะรับรู้ถึงสภาวะแห่งโลกุตรธรรมได้ว่า สภาวะเช่นนั้นมีอยู่ เป็นอยู่อย่างไร ธรรมชาติของชาติก็คือ การแสวงหาการเกิด มันจะพยายามเรียกหาแดนที่อยู่คือ ภพเสมอ ๆ พอไม่มีภพมารองรับ เพราะจิตมันเคยชินมานานนับไม่ถ้วน มันก็ไม่มีทางออก มันก็ตั้งคำถามและข้อกังขามากมายเกี่ยวกับการมีอยู่ของสภาวะของโลกุตรธรรม แม้ในกาลที่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ ก็ยังมีข้อกังขา และจะยิ่งเลวร้ายเพียงใด หากเกิดนอกยุคสมัยของพระพุทธเจ้า รับรองว่าเราจะจินตนาการไม่ออกถึงความมืดมนโง่เขลาของตัวเองไม่ออกทีเดียว ความมืดบอดโง่เขลานั้นจะเป็นตัวชักพาให้เราทำบาปทำอกุศลได้โดยง่าย และต้องชดใช้กรรมวนเวียนอยู่ในวัฏฏะอย่างยาวนานแสนนาน
หลาย ๆ คนนับถือพุทธศาสนาแต่ก็ไม่เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ทั้งที่ประเด็นเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดเป็นหัวข้อสำคัญ และเป็นสาเหตุสำคัญพระพุทธเจ้าทั้งหลายตรัสสอน เพราะหากเราเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว ก็ไม่จำเป็นต้องมีศาสนา ไม่ต้องมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ไม่ต้องมีศาสนาพุทธ แต่จะอ้างเหตุผลอย่างไร คนไม่เชื่อก็เถียงหัวชนฝาอยู่วันยังค่ำ กล่าวอ้างว่าพิสูจน์ไม่ได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าขำต่อความคิดคนเหล่านั้นมาก ๆ เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นคำสอนที่ท้าทายให้มาพิสูจน์ แต่คนพวกนั้นก็ไม่กล้า เอาเข้าจริงคนเหล่านี้ทนต่อการพิสูจน์ไม่ได้ ตัวเองมีความอดทนต่ำ เจ็บนิดปวดหน่อยก็เลิก สู้กลับไปเถียงข้าง ๆ คู ๆ เอาหัวชนฝาต่อ มันชนจนเลือดไหลเต็มหัว คนพวกนี้ก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะความโง่ดักดานที่สั่งสมมานานหลายภพ มันหนาเกินกว่าคำสอนบาง ๆ จะทะลุไปได้
ความเชื่อความงมงายในความจริงโดยไร้ปัญญาพิจารณาเหตุผล ซึ่งมีความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นตัวนำ มันมักจะชักพาให้ชีวิตเราดิ่งลงเหวได้โดยไม่ยากเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การทำบุญโดยหวังผลบุญจะช่วยตัวเองให้ร่ำรวยกว่าเดิม หรือพ้นจากสภาวะทุกข์ เป็นสิ่งที่เราพบเจอกันโดยมาก การทำบุญแน่นอนว่าจุดประสงค์โดยแท้คือการชำระความตระหนี่หรือความโลภที่มีอยู่ในจิตใจ แต่ปัญหาอยู่ที่ธรรมชาติมันจะไม่ยอมให้เราชำระความบริสุทธิ์ได้โดยง่าย เมื่อเราทำบุญมากเท่าใด ประโยชน์งอกเงยในผลบุญก็มากเท่าทวีคูณเมื่อผ่านภพนั้น ๆ ไป เมื่อเห็นในผลบุญก็เกิดความอยากมากขึ้นไปอีก เป็นอย่างนี้มากเท่าผลทวี แต่หากบุคคลผู้ทำบุญด้วยปัญญา เขาจะไม่ติดในผลแห่งบุญนั้น เพราะการติดในผลของบุญนั้นไม่ใช่จึงจุดมุ่งหมายของบุญที่มีเป้าหมายของการชำระความบริสุทธิ์ของจิตใจ มันเป็นเพียงกับดักล่อระหว่างภพเท่านั้น ใครหลงใหลได้ปลื้มในผลบุญมากเกินไปก็ติดอยู่ในบุญ จะไม่มีโอกาสหลุดพ้นไปได้
ดังนั้นการแสวงหาคำตอบของความจริง จึงจำเป็นต้องใช้ปัญญาเป็นตัวนำในทุก ๆ เรื่อง ทุก ๆ กระบวนการวิธี และต้องมีมุมมองที่ยาวไกล มองเห็นโลกที่มีที่เป็นอยู่ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งหากเราทำถูกวิธีตามที่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์แนะนำ เราก็อาจจะพบคำตอบของความจริงหนึ่งเดียวในธรรมชาติของจิตวิญญาณนั้น ก็เป็นไปได้ ...
ขอบคุณรูปภาพงาม ๆ จาก ' //www.dhammasatta.org/private_folder/lotus.jpg'
Create Date : 05 กรกฎาคม 2556 |
Last Update : 5 กรกฎาคม 2556 20:54:09 น. |
|
17 comments
|
Counter : 685 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ลุง IP: 223.204.96.251 วันที่: 5 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:28:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กรกฎาคม 2556 เวลา:22:40:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:20:30 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กรกฎาคม 2556 เวลา:10:13:53 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 6 กรกฎาคม 2556 เวลา:22:01:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:35:59 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กรกฎาคม 2556 เวลา:23:21:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:36:14 น. |
|
|
|
โดย: ตาลเหลือง วันที่: 10 กรกฎาคม 2556 เวลา:12:54:33 น. |
|
|
|
โดย: หมอหว่อง (หมอหว่อง ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2556 เวลา:16:18:45 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 15 กรกฎาคม 2556 เวลา:20:45:45 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 16 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:57:45 น. |
|
|
|
โดย: ตาลเหลือง IP: 223.207.50.170 วันที่: 17 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:17:28 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 22 กรกฎาคม 2556 เวลา:20:04:19 น. |
|
|
|
| |
|
|