|
๒๘๒ - เลือกที่จะเป็น ในที่ที่จะไป...
ธรรมชาติของสิ่งที่มีชีวิตย่อมแสวงหาอาหาร ที่อยู่อาศัย และความสุขอันเกิดจากรูป รส กลิ่น เสียงและ สัมผัส ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติซึ่งเราไม่อาจจะหนีได้พ้น สิ่งสัมคัญที่สุดไม่ได้หมายความว่าเราเสพสิ่งต่าง ๆ แล้วจะมีความสุขหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าสิ่งเรานั้นมีประโยชน์ต่อชีวิตของเราในปัจจุบัน หรือ อนาคตอย่างไรต่างหาก
บางคนไขว่ขว้าหาความสุขทางกามารมณ์ โดยที่ไม่สนใจความทุกข์ร้อนของผู้อื่น ซึ่งเรื่องส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม ในภายภาคหน้าก็จะนำพาแต่ความเดือดร้อนมาให้ ท่านจึงเปรียบว่าความสุขทางกามคุณนั้นมีสุขน้อย แต่มีโทษมาก คนเราเวลาถูกกามกิเลสเข้าครอบงำ ก็พยายามลืมความทุกข์เบื้องหน้าไปเสีย สนใจแต่เรื่องความสุขอันน้อยนิดที่พึงจะได้ในปัจจุบัน พระพุทธเจ้าท่านจึงได้ตรัสไว้ว่า เพราะความที่ไม่ได้เข้าใจรอบรู้ในอริยสัจทั้ง ๔ คือ ความไม่รู้ทุกข์ ความไม่รู้ในเหตุแห่งทุกข์ ความไม่รู้ในความดับทุกข์ และความไม่รู้ในหนทางแห่งความดับแห่งทุกข์ สัตว์ทั้งหลายจึงได้เวียนเกิดเวียนตาย อยู่ในวัฏฏะสงสารนี้อย่างไม่มีวันจบวันสิ้น และได้ประสบกับเคราะห์กรรม จากการกระทำในความไม่รู้นั้น อย่างยาวนานและแสนสาหัส
เรื่องกรรมนั้นเป็นเรื่องซับซ้อน ลึกลับเกินกว่าวิสัยของคนธรรมดาจะหยั่งรู้ได้ เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ตอบคำถาม หากใครถามเรื่องที่ไปที่มาของกฎแห่งกรรม เช่น กรรมของสัตว์ที่ไปที่มาและจุดสิ้นสุดอย่างไร หากใครฝืนคิดใคร่ครวญหาคำตอบก็จะต้องเสียสติเป็นแน่ เพราะไม่ใช่วิสัยของคนธรรมจะรู้ได้ แต่หากใครอยากรู้ก็ต้องตั้งปรารถนาที่จะได้ สัพพัญญุตญาณ ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเสียก่อน ซึ่งก็ไม่เกินความสามารถของเราที่จะทำได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลาและความอดทนมากมาย เกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ถึงเท่านั้น
พุทธศาสนาจึงแตกต่างจากศาสนาอื่นตรงที่ เราอยากเป็นอะไร ก็จะมีคำตอบมีวิธีให้ และวิธีการที่จะได้มายังซึ่งสิ่ง ๆ นั้น เช่น อยากเกิดเป็นมนุษย์ก็ต้องประพฤติศีล ๕ เป็นปกติ อยากเป็นเทวดาก็ต้องมีคุณธรรมของเทวดา คือ ศีล ๕ ทาน จาคะ ฯ อยากเป็นพรหม ก็ประพฤติตามพรหมวิหาร ๔ อยากไปนิพพานก็ปฏิบัติตามคำสอน มี โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการเป็นต้น อยากเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ทำอกุศลให้มาก ๆ และมีประพฤติ กิน นอน สืบพันธุ์ เป็นนิสัยเป็นนิสัยประจำตัว ให้สร้างนิสัยเอาความลุ่มหลงยินดีในกามคุณที่เป็นอกุศลเข้าไว้ อยากเป็นเปรตก็หมั่นทำอกุศลให้มาก ๆ มีความอยากได้(โลภะ) เป็นนิสัยประจำตัว อยากมีที่ถาวร กินนอนอยู่ในนรก ก็ทำอกุศลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หมั่นสร้างความโกรธให้เยอะ ๆ เพราะพวกนี้ตายไปจะได้มีพื้นที่ในนรกทันที ไม่ต้องให้พยายมราช ตัดสินประเดี๋ยวท่านใจอ่อนไม่ได้เข้านรกกันก็อด หรือใครไม่พอใจสิ่งใด อยากเกิดเป็นพระพุทธเจ้า หรือ พระอรหันตสาวก ในอนาคตกาล ก็มีวิธีอีกเช่นกัน (ไปศึกษาต่อเอาเอง)
นี่จึงเป็นความอัศจรรย์ของพุทธศาสนา ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ปิดกั้นในเรื่องของความรู้ ไม่ใช่ว่าท่านเป็นพระพุทธเจ้า แล้วคนอื่นห้ามเป็น ซึ่งไม่ใช่อย่างนั้น แต่ในทางตรงกันข้าม ท่านกลับแนะนำวิธีต่าง ๆ มากมายที่จะทำให้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์
เพียงแต่สิ่งสำคัญ อยู่ที่เราต่างหากที่จะยอมรับฟังและปฏิบัติตามหรือไม่(ก็เท่านั้น)
ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //tc.mengrai.ac.thซึ่งไม่ค่อยเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง แต่เป็นเรื่องเทวดากับหนอน อ่านแล้วก็ได้แง่คิดที่ดีมาก ลองกด link อ่านดู ครับ
Create Date : 04 มกราคม 2554 |
Last Update : 4 มกราคม 2554 8:54:16 น. |
|
15 comments
|
Counter : 296 Pageviews. |
|
|
|
โดย: จีบนก วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:9:14:40 น. |
|
|
|
โดย: Nissan_n วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:16:30:16 น. |
|
|
|
โดย: nordcapp (nordcapp ) วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:19:03:26 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:6:22:25 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:10:51:26 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:7:06:28 น. |
|
|
|
โดย: Nissan_n วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:10:21:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มกราคม 2554 เวลา:6:07:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:7:30:54 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มกราคม 2554 เวลา:5:52:44 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 9 มกราคม 2554 เวลา:20:45:14 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มกราคม 2554 เวลา:7:21:47 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มกราคม 2554 เวลา:7:38:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:6:35:25 น. |
|
|
|
โดย: ยุพดี (youpade ) วันที่: 24 มกราคม 2554 เวลา:9:58:34 น. |
|
|
|
| |
|
|
หลายครั้งที่คุยหรือพูดถึงหลักความเป็นจริงของชีวิตที่ไปในแนวทางพุทธศาสนากับเพื่อน ทำให้รู้ว่า เออ...เพื่อนเราคนนี้มีบุญที่จะเข้าใจหลักธรรมขนาดไหน บางคนไม่ต้องพูดอะไรมากเก็ตทันที บางทีก็เพิ่งรู้ว่าเพื่อนคนนี้คิดแปลกคิดได้ไงคือมันไม่ใช่ อย่างเช่น เนี่ยเราอยากแก่ตายจะได้ไม่ต้องเกิดใหม่
เลยพูดไปว่าเอามาจากไหนความคิดนี้ คนที่ไม่เวียนว่ายตายเกิดก็ต้องนิพาน คนที่จะนิพานต้องปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปุถุชนทั่วไปอย่างนี้สักหน่อย อย่างพระพุทธเจ้า คิดงี้ได้ไง วิเคาระห์หน่อย