~* SumiTra is a Pali name...it means 'GooD Friend'. *~
ปฏิบัติการหักร้างถางรัก (Removable) ..ตอนที่5..

(5)



หน้าที่ของผู้ชายหน้าด้าน...คือ การตื้อ!



อรชาหน้าหงิกในทันทีทันด่วน เมื่อเธอเดินลงมาพร้อมกับเพื่อนร่วมงานทั้งก๊ก เพื่อที่จะได้พบว่า มีใครคนหนึ่งมานั่งรอเธออยู่หน้าที่ทำงาน และทันทีที่อรชาออกมาจากด้านใน เขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้ว ร้องเรียกเธอด้วยเสียงอันดังเสียจนใครก็ตามที่อยู่แถวนั้นหันมองมาที่เธอเป็นตาเดียวกัน!

“ชาจ๋า!!!” พิรัลโบกมือไหวๆ แล้วรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่งยาว สาวเท้าเร่งๆ ตรงรี่เข้ามาหาเธอ และด้วยท่าทางราวกับพบรักแรกของเขานั้นเอง ที่ทำให้อรชาโดนเพื่อนๆ ร่วมงานทั้งก๊กหันมายิ้มกว้างให้อย่างล้อเลียนพร้อมประสานเสียงกันเรียกตามชายหนุ่มที่กำลังเดินมาใส่อรชา

“ชาจ๋า...” ว่าแล้วก็หัวเราะกันคิกคักกรี๊ดกร๊าดระริกระรี้ที่จะมีเรื่องเอาไว้เม้าท์ไว้แซวแม่สาวเก่งคนนี้ที่แสนดีพร้อมของพี่ป้างเสียที...

“ฮั่นแน่...ลืมนัดใครเอาไว้เหรอจ้ะชา...” พี่ป้างเอ่ยแซวพร้อมหลิ่วตาให้รุ่นน้องสาวที่ทำหน้าราวกับเจอกับดักที่ใครก็ตามมาวางดักเอาไว้อย่างโจ่งแจ้งที่สุด “เผลอนัดซ้ำซ้อนแบบนี้ไม่ดีนะจ้ะ...”

“เปล่านะคะพี่ป้าง ชาไม่ได้นัดเขานะ อย่ามองชาอย่างนั้นกันสิคะ!”

“ชา! พี่มารับแล้วจ้ะ...มารออยู่ตั้งนานแน่ะ นึกว่าชากลับไปก่อนเสียแล้ว” พิรัลเอ่ยพร้อมกับยื่นมือไปดึงกระเป๋าและแฟ้มมาถือให้แล้วเข้ามาทำท่าจะโอบไหล่หญิงสาว

“แฟนพี่ชาเหรอคะ?” สุดาเอ่ยถามโพล่งขึ้นมา

“เปล่า! ไม่ใช่นะ!” อรชาปฏิเสธพลางก็เบี่ยงตัวหลบมือของพิรัลที่ยื่นออกมาจะโอบ...

“ใช่ครับ!” อรชาหันขวับไปมองหน้าชาหนุ่มที่ตอบชัดถ้อยชัดคำหนักแน่นอย่างหน้าไม่อาย...

“นี่! คุณพิรัล...เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนะ!” เธอกระแทกเสียงแข็งก่อนคว้ากระเป๋าและแฟ้มงานกลับคืนมา...

“อ้าว....เมื่อวานยังโอเคอยู่เลย ไหงถึงได้เปลี่ยนใจเร็วแบบนี้ล่ะครับ” คำพูดหน้าตายชองชายหนุ่มทำให้อรชาหรี่ตาลงมออย่างที่ใครที่รู้จักเธอดีเห็นแล้วต้องบอกว่า...เป็นเรื่อง...

“นายพิรัล! เดี๋ยวจะโดนมิใช่น้อย ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยนะ! อย่ามาโมเมให้ชาวบ้านเข้าใจผิดเลย พี่ป้างคะเราไปกันเถอะค่ะ” และน้ำเสียงนั้นทำให้พิรัลรู้ดีว่า งานนี้ต้องถอยก่อนแล้ว...

“เอาน่าครับ พี่แค่เป็นห่วง เพราะชาเพิ่งจะหายจากอุบิติเหตุมาสดๆ เท่านั้นเอง ก็เลยมารับ...กลับด้วยกันนะ” พิรัลทำหน้าซื่อ ดูจริงใจแนบเนียนเสียจนทำให้สาวๆ แถวนั้นแทบครางด้วยความใจอ่อน...

“เสียใจด้วยค่ะ ฉันนัดกับพวกพี่ป้างเอาไว้ก่อนแล้วว่าจะไปจัดบูธ แล้วก็ว่าจะออกไปเที่ยวกัน!”

“เที่ยวเหรอ ไม่ได้นะครับ ชาควรต้องกลับไปทานยาแล้วก็พักผ่อนมากๆไม่ใช่เหรอ”

“เออ นั่นสิ!...ชาต้องพักนี่จ๊ะ กลับไปก่อนก็ดีนะ พี่เองก็ลืมไปว่าชาเพิ่งเจออุบัติเหตุ น่าจะพักผ่อนเยอะๆดีกว่าออกไปตระเวนราตรีกับพวกพี่” ปัณรสเอ่ยเห็นด้วยกับน้ำคำเจ้าหนุ่มหน้ามนตรงหน้า ก่อนที่จะเข้ามากระซิบ “จะได้มีเวลาให้เขาง้อด้วยไงจ้ะ” ว่าแล้วก็ขยิบตาให้

“พี่ป้าง...ชาไม่เป็นอะไรจริงๆ นะคะ แล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรกับตาหน้าด้านนี่ด้วย!”

“แล้ววันนี้ชาทานยารึเปล่าครับ ตอนกลางวัน หมอให้ยามาทั้งถุง...” พิรัลแกล้งทำเป็นถามเสียงดังขึ้นมาเพื่อกลบประโยคสุดท้ายของหญิงสาวเอาไว้ อีกทั้งเพื่อที่จะทำให้ดูเหมือนกับว่าเธอนั้นเจ็บป่วยมากจนหมอต้องสั่งยาให้ถุงโต

“อะไรนะ...พี่ไม่เห็นชากินยาอะไรเลยวันนี้!” ป้างร้องขึ้นด้วยท่าทางตกใจจริงจัง

“ก็มันไม่มีนี่คะ...ก็...มีแต่ยา...”

“นี่ชา! เราโตแล้วนะ ต้องดูแลตัวเองสิ หมอสั่งให้กินยาก็ต้องกินยารู้ไหม!” ป้างดุแม่สาวรุ่นน้องราวกับเด็กเกเร...ทำให้อรชาหน้าเหี่ยวทันใด ก่อนหันไปส่งสายตาขุ่นเขียวให้กับเจ้าคนก่อเรื่อง...

ทำให้พิรัลลอบยิ้มออกมาที่มีแนวร่วมรวดเร็วเพียงนี้...ด้วยความได้ใจโดยไม่สนสายตาอาฆาตที่หญิงสาวส่งมาแม้แต่น้อย

“เอาอย่างนี้สิคะ..ถ้าพี่ชาไม่อยากกลับ คุณพีไปด้วยกันกับพวกเราก็ได้นี่คะ” สุดาเอ่ยเสนอแนะขึ้นมา “จะได้ไปดูแลพี่ชาไงคะ” เธอแสร้งเสริมขึ้น หากใจจริงแล้วนึกอยากอยู่ใกล้ๆ หนุ่มรูปหล่อหน้าคมคนนี้ให้นานๆ เสียมากกว่า

“ไม่! ไม่เอา!” ชารีบปฏิเสธขึ้นมาทันที

“นั่นสิครับ ชาควรรีบกลับบ้านเราไปพักผ่อนนะ...” คำว่าบ้านเราทำให้สาวๆ ทั้งกลุ่มตาโต มองหน้ากันพลางลักลอบยิ้มเป็นนัยส่งกันไปมาต่อหน้าอรชา

“งืออออ! บ้านใคร! พูดดีๆ นะ!” อรชาร้องออกมาด้วยความรู้สึกอยากจะร้องไห้เต็มที เพราะพูดอย่างไรอีตาบ้านี้ก็ทำเธอดูแย่ลงทุกที จนเธอต้องแหวลั่นออกมาในที่สุดอีกครั้งและอีกครั้ง

“จุ๊ๆ อย่าเสียงดังสิครับ ดูสิ คนมองกันใหญ่แล้ว...” พิรัลเอ่ยพลางทำเป็นมองซ้ายมองขวา...หน้าหนาแบบนี้กลับทำราวกับอายเสียเต็มประดา...(อ้าว!...คนเขียนว่างี้ได้ไงเนี่ย!)

“เอาล่ะๆ นี่เป็นคำสั่งนะชา...พี่อยากให้เรากลับบ้านไปพักผ่อนเยอะๆ เรื่องเที่ยวน่ะเอาเป็นคราวหน้าก็ได้ให้เราสบายดีก่อน...เท่านี้...ไม่มีแต่อีกต่อไป เข้าใจไหม!” ปัณรสสั่งด้วยสีหน้าจริงจังของพี่สาวใหญ่แห่งกองบรรณาธิการ ทำให้อรชาจำใจต้องหดไม่กล้าขัดอีกต่อไป

“ค่ะ...” อรชารับหงอยๆ ในขณะที่มองคนอื่นๆ เดินหัวเราะคิกคักพลางชำเลืองมองมาที่เธอก่อนออกจากที่ทำงานไปเรียกรถข้างหน้า ปล่อยเธอเอาไว้ให้ต้องเผชิญหน้ากับพิรัลตามรำพัง

อรชาส่งสายตาเขียวให้กับชายหนุ่มที่ทำหน้าระรื่น ก่อนเหวี่ยงกระเป๋าและแฟ้มใส่กลางลำตัวของชายหนุ่มด้วยความโกรธ

“เอ้า! เอาไปสิ อยากถือนักไม่รึไง ไหนล่ะ รถจอดไว้ที่ไหน! จะกลับบ้านแล้ว!” พูดจบหญิงสาวก็กระแทกเท้าเดินนำชายหนุ่มออกจากอาคารสำนักงานไปอย่างรวดเร็ว



พิรัลวางข้าวของของหญิงสาวเอาไว้ให้ห่างจากมือเธอที่สุดที่เบาะด้านหลังที่นั่งคนขับ...และเมื่อทันทีที่มาถึงอพาร์ตเม้นต์ของอรชา ชายหนุ่มก็รีบจับมือของหญิงสาวเอาไว้ก่อนที่เธอจะสลัดหนีเขาไปอีก

“พี่จะขึ้นไปส่ง...” นายตัวดีพูดยิ้มๆ พลางคว้าข้าวของๆเธอมากอดเอาไว้เสียเอง แล้วรีบแล่นลงไปเปิดประตูให้กับหญิงสาว แม้ว่าเธอจะเปิดเองแล้วก็ตาม หากเขาก็ยังทำท่าทำทางจี๋จ๋ากับเธอราวกับคู่ข้าวใหม่ปลามัน...โดยมีข้าวของๆหญิงสาวเป็นดั่งตัวประกัน!

น่าโมโหที่สุด!

อรชานึกในใจแต่ออกมาทางสีหน้า ก่อนที่จะก้าวลงแล้วจ้ำอ้าวราวกับจะเดินหนีไปให้พ้นหน้าชายหนุ่ม แต่ก็หนีไปได้ไม่ไกลเมื่อเขายึดข้าวของของเธอเอาไว้เป็นตัวประกัน!

“ขอกระเป๋าฉันคืนด้วย...จะหยิบกุญแจห้อง” อรชาเอ่ยเสียงเขียวเมื่อสองหนุ่มสาวขึ้นลิฟต์แล้วเดินมาจนถึงห้องของอรชา

“กุญแจอยู่ช่องไหน เดี๋ยวพี่หยิบให้...”

คำพูดที่เขาใช้เรียกตัวเองอย่างสนิทสนมนั่นทำให้อรชาหลับตาลงนับหนึ่งถึงสิบราวกับว่าจะต้องใช้ความอดทนเป็นอันมากในการณ์นี้

“ฉันไม่ชอบให้ใครมาค้นกระเป๋า...ฉัน...จะหยิบเอง เอามา!” พูดไม่พูดเปล่า อรชาคว้ากระเป๋าของตนเองหมับมาจากมือของพิรัลแบบไม่ให้อีกฝ่ายทันได้ตั้งตัว

“แล้วห้ามพูดมากอีก! เอาแฟ้มคืนมาได้แล้ว และจะไปไหนก็รีบๆ ไปซะ! มาทางไหนไสหัวกลับไปทางนั้นโลด!”

“โธ่ ชาใจร้าย พี่อุตส่าห์มาส่ง ใจคอไม่ชวนแฟนเข้าห้องเลยเหรอครับ...เลี้ยงน้ำสักแก้วหรือกาแฟสักถ้วย อะไรอย่างนี้น่ะ” พิรัลพูดจุดประสงค์ของตนเองออกมาในที่สุด

“อย่ามาโมเมอีกนะ! และก็...ไม่! ฉันไม่ได้ขอให้มารับมาส่งสักหน่อยนี่! อยากมาเองก็ไปหากินเอาเองสิ!” อรชาพูดไปก็ไขกุญแจห้องตัวเองไปไม่สนใจตจะหันมาตอบแต่โดยดี...

คนอย่างพิรัลต้องไม่ยอมแพ้แค่นี้...

ทันทีที่เสียงคลิ้ก! ดังขึ้นเบาๆ ชายหนุ่มก็ใช้ไหล่ตนดันอรชาออกไปถือวิสาสะเปิดประตูห้องของหญิงสาว แล้วเชิญตัวเองเข้าไปเองหน้าตาเฉย...ทำให้หญิงสาวถึงกับอ้าปากค้างมองการกระทำราวกับเจ้าของห้องของเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ!

คนบ้า หน้าด้านอะไรแบบนี่!

พิรัลรีบตรงไปยังส่วนที่เป็นห้องครัว แม้จะไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน แต่เขาก็หามันจนเจอ

“ทำอะไรของคุณน่ะ!” เสียงของอรชาดุมาเสียงเขียว

“กินน้ำไง ก็คุณบอกเองว่าให้ผม...หา...กิน...เอง” เขาเน้นย้ำในแต่ละคำ อย่างชัดถ้อย...ชัดคำ “ผมก็เลยมาหากินเองไงครับ ที่รัก”

อรชาทำท่าขนลุก เพราะมันลุกเกรียวขึ้นมาจากแขนถึงต้นคอเลยทีเดียวกับคำเรียกขานหวานจ๋อยนั่น!

“ฉันหมายถึงให้คุณไปหา...ที่อื่น...กินเอาเองต่างหาก! ไม่ใช่ในห้องของฉัน!!!” อรชากระทืบเท้าด้วยความขัดเคืองใจเหมือนกับเด็กๆ อันเป็นท่าทีที่หาได้ยากนักของเธอกับคนที่ไม่สนิทด้วย...แต่นี่...ด้วยความลืมตัว

พิรัลมองท่าทางแบบนั้นของอรชาด้วยดวงตาพราวระยับถูกใจ

“ก็ผมหากินเองแล้วนี่ไง” เขาชูแก้วที่ตนเพิ่งใช้กินน้ำไปหยกๆ ขึ้นชูให้หญิงสาวดูเป็นการยั่วโมโหเจ้าหล่อน...

นั่นยิ่งทำให้อรชาดิ้นหนัก...

“โธ่เว้ย! คนหน้าด้าน! ทำไมเป็นผู้ชายหน้าหนาหน้าตบไม่เจ็บแบบนี้นะ!”

“แบบไหนครับ?” พิรัลทำหน้าซื่อ ราวกับเทพบุตรจากสรวงสวรรค์...

นั่นยิ่งทำให้อรชาหงุดหงิด จนสติแทบขาด! แต่มันช่วยอะไรไม่ได้เลย...อึดใจต่อมาเธอก็นับหนึ่งได้ถึงพันเลยทีเดียว...

สุดท้าย...อรชาก็ยกมือขึ้นทั้งสองข้างกดเข้าที่ขมับของตัวเองแล้วหลับตาแน่นราวกับได้รับความกระทบกระเทือนที่นั่นเป็นอันมาก หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่นก็สะบัดหน้าแรงๆ สองทีหลังจากนั้น แล้วถอนหายใจหนักๆเร็วๆหนหนึ่ง

“เอาล่ะ!” เธอกลับมามีสติอีกครั้ง...

“คุณต้องการอะไรจากฉันอีก...ชัยชนะเหรอ? หรือความความสนใจ? หรือว่าที่ผ่านไปมันยังไม่สาแก่ใจคุณรึไง...คุณแค้นอะไรฉันหนักหนาถึงต้องทำกันแบบนี้ด้วย!” อรชาเอ่ยพูดออกมาทั้งหมดนั่นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และแสดงถึงความมั่นคงในจิตใจของเธอ

ดวงตาที่แข็งกร้าวและจริงจังนั้น ทำให้พิรัลใจแป้วลงไปเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ฉุดรั้งความกล้าได้กล้าเสียกลับมาจากปากเหวแห่งความพ่ายแพ้ได้สำเร็จ

“ไม่ใช่อะไรแบบนั้นหรอก ชา...พี่ก็แค่ อยากได้ชากลับคืนมา...กลับมารักกันอีกครั้งเท่านั้นเอง” พิรัลเอ่ยพลางสบสายตาของหญิงสาวที่เปลี่ยนไปด้วยแรงอารมณ์

“พี่รู้ว่าตัวเองผิดมากที่ทำกับชาแบบนั้น และพี่ไม่ควรร้องขออะไรจากชาอีก...แต่ พี่ก็ขาดชาไม่ได้...”

“ผู้ชายร้อยละร้อยที่พูดคำนี้...โกหกทั้งนั้น!” อรชัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา หาก...

“อย่าเพิ่งขัดสิ...พี่พูดจริงนะ พี่รักชานะ...”

“เฮอะ ไม่ยักกะรู้...” น้ำเสียงนั้นของหญิงสาวติดจะหยันจนเสียดใจชายหนุ่ม มือหนากำแก้วในมือแน่นจนน่ากลัวว่าจะแหลกคามือ ทำให้เขาต้องหันไปเอามันวางไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะป่นมาคามือจนตัวได้รับบาดเจ็บ

“ชา! อะไรก็ตามที่พี่ผิดไป พี่ก็ขอโทษแล้วไง...จากใจจริงนะ! พี่เองก็ไม่ได้ขออะไรชามากเลยนอกจากโอกาส ไม่ได้ต้องการเอาชนะหรือแก้แค้นอะไรทั้งนั้น...พี่แค่คนโง่ๆ ที่รู้ทั้งรู้ว่ารักชามากที่สุดในโลกก็ยังทำให้เราทั้งคู่ต้องเจ็บ”

“อ๋อเหรอ...ก็ยังมีความฉลาดอยู่บ้างนี่...” อรชากอดอกพลางเอนตัวพิงขอบประตูห้องครัว มองชายหนุ่มด้วยสายตาเย็นชาสีหน้าไร้ความรู้สึกด้วยเก็บซ่อนความเจ็บปวดที่ปวดหนึบนั่นเอาไว้ให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ กระนั้นริมฝีปากของเธอก็ยังสั่นน้อยๆ อยู่ดี

“ชาให้โอกาสเราได้เริ่มต้นใหม่กันอีกครั้งเถอะนะ เป็นเพื่อนก็ได้...แต่พี่ตั้งใจจะเป็นมากกว่านั้น แต่ถ้าชายังไม่พร้อมจะถึงขั้นแฟนพี่ก็ยอม พี่รักชานะ อยากให้เรากลับไปเป็นเหมือนก่อนและเป็นยิ่งไปกว่าเดิม...” ถึงจุดนี้ พิรัลตัดสินใจก้าวเข้าหาหญิงสาวด้วยสีหน้าและแววตาอันจริงจังอย่างยิ่งจนแม้แต่อรชาเองก็เริ่มหวาดหวั่น

หญิงสาวก้าวถอย

หากไม่พ้นมือใหญ่ที่คว้าตัวเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว รั้งเธอเข้าไปสวมกอดเอาไว้อย่างแน่นหนาหนักหน่วง!

“ชา...เราแต่งงานกันเถอะ”

เวลานั้นเองที่ราวอรชารู้สึกราวกับได้ยิน...เสียงของอะไรบางสิ่งแตกกระจาย...นั่นคือ ความอดทนของเธอ!

วินาทีต่อมา มือเรียวก็ผลักร่างสูงนั่นออกไป ก่อนหวดเข้าที่หน้าของชายหนุ่มอย่างแรงจนเกิดเสียงดังก้องไปทั้งห้อง...และนำความเงียบในเวลาต่อมา

อรชาถอยห่างยิ่งขึ้น...

มองชายตรงหน้าด้วยความสับสน ความกังวลใจ และความรู้สึกมากมายหลายสิ่งประดังประเดเข้ามาราวกับห่าฝน!

ริมฝีปากของเธอเผยอ...แล้วปิด...เผยอ...แล้วปิด เหมือนปลาที่ขาดอากาศหายใจเมื่ออยู่บนบก...ราวกับว่าเธอพยายามที่จะพูดอะไรบางอย่าง

ในขณะเดียวกันที่พิรัลมองเธอด้วยสายตามุ่งมั่น...จริงจัง!

จริงเหรอ?

อะไรคือจริง?

เขา? คำพูดของเขา? หรือความเจ็บปวดของฉัน?

อรชาก้าวถอยหลัง...ห่างออกไปอีก และไร้หลัก...

ลำคอเธอแห้งผาก...

รับเหรอ?

ไม่นะ! เธอจะเจ็บอีกครั้ง และอีกครั้งถ้าเธอเชื่อเขา! แต่เธอ...

ยังรักเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ?

“ไม่!!!” หญิงสาวกรีดร้องลั่นก่อนออกวิ่งไปยังห้องนอนของตนเองแล้วปิดกระแทกก่อนลงล็อครวดเร็ว!

“ชา!!!” พิรัลวิ่งตามมานั้น เคาะประตูพลางร้องเรียกคนที่ขังตนเองเอาไว้ในห้องราวกับเทพธิดาแห่งแสงสว่างที่หนีไปหลบซ่อนตนอยู่ในถ้ำ...

“ไปซะ! ออกไปให้พ้นนะ! ฉัน...ฉัน” เธอพูดติดอ่าง พลางสะอื้น...

“ไม่! คุณร้องไห้ใช่ไหม ชา! พี่ไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าชาจะให้คำตอบ...”

“ไม่มีคำตอบ! ไปซะ! ขอให้ชาได้อยู่...คนเดียว...อย่างมยุ่งกับชาอีก...” น้ำเสียงสุดท้ายของหญิงสาวนั้นระโหยนัก ขณะที่ตัวก็รูดลงนั่งกองกับพื้นอย่างหมดแรง

เจ็บเหลือเกิน...เจ็บมากเหลือเกิน...

“ชา...” เสียงของเขาลอดเข้ามา

“ขอร้อง!” เธอร้องขึ้น เสียงดังพอที่เธอจะแน่ใจว่าเขาจะได้ยิน!

เขาเงียบไป พิรัลถอยออกห่างจากประตูห้องของอรชา...ความเงียบครู่ใหญ่ ก่อนที่เสียงของชายหนุ่มนั้น...จะดังตอบกลับมา...

“ครับ...พี่จะรอนะ รอจนกว่าชาจะให้อภัย...” แล้วเสียงเดินของเขาก็ห่างออกไปจากหน้าประตูห้องนอนของเธอ



อรชาใช้เวลาครู่ใหญ่ครุ่นคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น...

การร้องไห้...การโกรธ...การกอด...การขอแต่งงานสายฟ้าแลบ!

และความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงจนแทบหายใจไม่ออก!

ไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอเจ็บปวดใจเท่ากับครั้งนี้เลย ทั้งๆ ที่เป็นคำขอแต่งงานที่เธอเฝ้ารอมานาน ก่อนที่จะเลิกรากันไป!

น้ำตาที่ไหลเป็นสายไม่ยอมหยุด สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรให้ไหลออกมาอีก...

รัก...เพราะรักไม่ใช่เหรอ ที่ทำให้เธอเจ็บเจียนตายได้ขนาดนี้...

ไม่เอาอีกแล้ว...

เข็ดแล้ว...

กลัวแล้ว...

พอแล้ว...

ความคิดนั้นวนเวียนอยู่เพียงเท่านี้...เมื่อเธอนั่งหอบหายใจอยู่หลายเพลา...หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาก่อนสะอื้นครั้งสุดท้ายแล้วลุกขึ้น...

หิวน้ำ...เธอเสียน้ำไปเยอะเหลือเกิน และตอนนี้รู้สึกคอแห้งสุดๆ

อรชาเปิดประตูแล้วเดินออกจากห้อง เพื่อตรงไปยังห้องครัว...หาน้ำดื่ม...

แต่แล้วไม่ทันจะถึงห้องครัวที่ต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่น เธอก็พบว่า ร่างสูงๆ ของพิรัลนอนเหยียดยาวที่เก้าอี้รับแขกของเธอ ท่าทางอ่อนเพลียและแขนข้างหนึ่งก่ายอยู่บนหน้าผาก...

ท่าทางของเขาช่างดูเป็นทุกข์...และเหนื่อยอ่อน...หรือจะเรียกว่าอ่อนล้าดี?

แต่ว่า...มันมีอะไรบางอยางที่เธอไม่เคยเห็นอยู่ที่นั่น...สิ่งที่พิรัลไม่เคยมีมาก่อน...

ความกังวลใจ...ในสีหน้าของเขา

อย่าให้เขาหลอกเธอได้นะ...อย่าให้เขาหลอกได้! เสียงในใจของเธอกรีดร้อง...เธอกำมือของตัวเองเอาไว้แน่น!

เกลียดผู้ชายคนนี้...

คนที่ทำให้เธอต้องพบกับความปวดร้าวเหลือใจ!

ทำไมไม่แก้แค้นล่ะ? ทำไมไม่ฉวยโอกาสนี้แก้แค้น?

หลอกเขา...ทำให้เขาเจ็บปวด! แก้แค้นเขาสิ!

วินาทีนั้นราวกับรอบกายหยุดนิ่ง...นี่มันบ้าชัดๆ! ไม่เอาด้วยหรอก! เธอไม่ได้แค้นเขาเท่านั้น แต่เธอรักเขาด้วย...จิตใจของเธอกำลังทำสงครามกันอยู่ในร่างกายและสมอง!

รัก หรือหลอก!!!

ไม่เอาทั้งนั้นแหละ!



ดังที่อรชาได้คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้า วันนี้เขาก็มาหาเธอที่อพาร์ตเม้นต์ แต่ว่ามีอะไรบางสิ่งบางอย่างที่แปลกไป...ซึ่งเธอคิดว่าก็คงจะเป็น...สีหน้าของเขา

เมื่อคืนวานทั้งคู่จากกันไม่ค่อยสวยนัก หลังจากที่เธอเดินออกมาปลุกเขาแล้วบอกให้กลับไปเสียเมื่อคืน เป็นเรื่องธรรมดาที่วันนี้สีหน้าของเขาที่เคยเต็มไปด้วยความมั่นใจจะสลดลงนิดหนึ่ง...

ไม่ใช่เพราะรู้สึกสำนึกหรอก...อรชาคิดในใจ...

เสแสร้งสิไม่ว่า!

สภาพของเธอเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน...อรชาขอบตาคล้ำ เนื่องจากเมื่อคืนเธอนอนไม่หลับทั้งคืน คิดถึงแต่เรื่องของเธอกับเขา...เวลานี้เธอเองก็ยังคิดไม่ตก!

พิรัลเดินเขามา หาหญิงสาวด้วยสีหน้าระคนแปลกใจเล็กน้อยที่เธอยืนมองเขาอยู่เช่นนั้น แทนที่จะทำเป็นเมินเฉยและเดินหนีไปเยี่ยงวันก่อน...ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาก็ไม่แน่ใจตัวเองว่าจะทนรับได้อยู่ไหม? หากเวลานี้อรชากลับยืนนิ่งมองตรงมาที่เขาด้วยสีหน้าราวกับกำลังลังเลใจ

เมื่อเขาเดินมาหยุดตรงหน้าแล้วดึงกระเป๋าถือไปจากมือเธอ เธอก็เงยขึ้นยิ้มให้เขานิดๆ...รอยยิ้มใสๆ แบบที่เขาคิดถึงแทบขาดใจ...หากมันดูเศร้าๆ และมีความลังเลใจในดวงตา

ดวงตาของเธอมันราวกับพูดกับเขา ราวกับจะถามเขาว่า...ควรทำอย่างไรกับเขาดี?

พิรัลพยายามปัดความกังวลใจด้วยพิศการแต่งกายของหญิงสาวในวันนี้ ชุดเสื้อผ้าเสื้อแขนกุดทูโทนสีขาวตัดกับเขียว ปล่อยชายทับเอวกระโปรงแขกยาวกรุยกรายสีขาวเช่นกันปักลายด้วยด้ายหลากสีสัน เข้ากับรองเท้าสานลายเชือกถักของเธอโดยที่ข้อมือมีกำไลเงินส่งเสียงร้องกรุ้งกริ๊งยามที่กระทบกัน เส้นผมที่ปล่อยเป็นอิสระกรอบดวงหน้าสวยไร้การแต่งแต้มให้ดูละมุนละไมสดใสเป็นธรรมชาติ

อรชาหลุบสายตาลงต่ำเล็กน้อยอีกครั้งก่อนบิดปากแล้วชำเลืองขึ้นมองหน้าเขาด้วยท่าทางไม่แน่ใจ ทำให้ชายหนุ่มนึกสงสัยระคนใจเต้นนิดๆ เมื่อท่าทางของเธอต่อเขานั้นแลดูเปราะบางเสียจนน่าใจหาย...

พิรัลภาวนาในใจ...ขอให้เธอยอมรับเขาที...

ให้โอกาสแก่เขาที...

“...” อรชาอ้าปากค้างก่อนหุบลงโดยไร้คำพูดใดๆ หลุบตาลงต่ำลงด้วยความรู้สึกลังเลใจ...เอาเลยสิ...พูดออกไปเลย เสียงเล็กๆในใจเธอร่ำร้อง...ปฏิเสธเขาไปเลย!

ขณะเดียวกัน...ในใจของชายหนุ่มก็ไม่ต้องพูดถ้อยคำที่ต่างกันออกมานัก...

ได้โปรดเถอะ...ขอโอกาสอีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น...

“ชา...”

“ชาไม่รู้จะทำยังไงดี!” หญิงสาวเอ่ยออกมา แต่เมื่อพูดออกไปแล้วเธอก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีก...หญิงสาวนึกตกใจตนเองนักที่ไม่ปฏิเสธเขาออกไป นึกก่นด่าตนเองที่โง่เง่านักที่พูดเช่นนั้นออกไป...แสดงความอ่อนแอของตนเองออกไป!

“ชา...?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันนิดๆ ก่อนตัดสินใจว่าจะรอให้หญิงสาวคิดได้เสียก่อนแม้ว่าคำตอบต่อไปของเธอจะไม่ได้เป็นไปตามที่เขาต้องการหนักหนาก็ตาม เขาถอนหายใจหนัก ก่อนเอมมือไปกุมมือของเธอเข้ามาแนบไว้กับอก “พี่จะให้เกียรติในการตัดสินใจของชาอย่างเต็มที่ ถ้าชาไม่ต้องการเห็นหน้าพี่อีกต่อไปแล้ว และเลือกที่จะไป พี่จะไม่ขัดใจชาเลย”

อรชาใจหวิวขึ้นมาในทันที...

ไม่ได้เห็นอีก? ถ้าไล่ไป เธอก็ไม่ต้องเห็นหน้าเขาอีกแล้ว...เธอจะอยู่ตัวคนเดียวอีกครั้ง...ไม่มีใครอีกครั้งและไม่ต้องเจ็บปวดอีกครั้ง...แต่เขาขอไม่ใช่เหรอ? ขอโอกาสกับเธอ และให้โอกาสเธอที่จะเลือกด้วยไม่ใช่เหรอ?

“อืม...”

เธอไม่ได้พูดอะไรอีก

ดวงตาของพิรัลฉายแววหวัง เขาอยากที่จะดึงร่างของเธอเข้ามากอดกระชับเอาไว้อย่างแนบแน่นให้หายคิดถึง อ้อนวอนเธอ อยากก้มลงจูบเธอแรงๆ ให้สมกับความรู้สึกคิดถึงที่มีต่อเธอ...เขารู้อยู่แล้วว่าอรชาเป็นคนดี แตกต่างจากเขามาก แต่เขาก็ต้องการโอกาสทำดีเพื่อเธอคนนี้ โอกาสที่เธอจะให้เขาได้แสดงให้เธอได้เห็นว่า...เธอสำคัญต่อเขาเพียงใด

ทว่าทั้งหมดนั่นเขาจะต้องยั้งตัวยั้งใจเอาไว้ก่อน ทั้งหมดที่เขาทำได้ในตอนนี้มีเพียงแค่ รวบมือของเธอเอาไว้แน่นด้วยสองมือของเขา...

“พี่จะรอจนกว่าชาจะตัดสินใจ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาของเธอทำให้เขามีความหวัง แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตอบอะไรเลยก็ตาม...






Create Date : 31 พฤษภาคม 2552
Last Update : 31 พฤษภาคม 2552 22:46:41 น. 1 comments
Counter : 399 Pageviews.

 
ขอเชิญร่วมสัมนา “เปิดประตูสู่การเป็นนักเขียนประจำสำนักพิมพ์ ’ษาริน และการเพิ่มมูลค่างานเขียนนิยายรัก”

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
//www.sipprapa.net

ด้วยความขอบคุณ


โดย: sarinpub@yahoo.com IP: 117.47.221.60 วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:11:25:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ArTimuS
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





PhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucket


นิยายอัพเดท...Photobucket

-ปฏิบัติการหักร้างถางรักPhotobucket
เรื่องราวความรัก แนวโรแมนติกดราม่า ของชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งเลิกลากันไป แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็กลับมาเพื่อขอเคียงคู่เธออีกครั้ง ความรักแสนเศร้าครั้งนี้จะเป็นอย่างไร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนิยายรักพลาดได้นะคะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-คีตคิมหันต์ Photobucket
ภาคต่อจากเรื่องลำนำเหมันต์ เมื่อคุณพ่อคนเก่งลงโทษคุณลูกตัวแสบให้ออกติดตามหาวิหคศักดิ์สิทธิ์จนนำไคเมร่าหนุ่มไปยังโลกมนุษย์จนได้พบกับเด็กสาวผู้อาภัพและเหตุการณ์เหนือความคาดฝัน นิยายแฟนตาซีโรแมนติกที่แฟนนิยายมกราไม่ควรพลาดค่ะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-Love Happening
เรื่องสั้นของสองหนุ่มสาว และความไม่เข้าใจกัน อุปสรรค และมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาล (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)Photobucket

-Pretty Doll
เรื่องสาวผู้น่ารักของเมทสาวกับนายหนุ่มจอมเสเพลที่เก็บเธอมาเลี้ยง เรื่องรักกุ๊กกิ๊กแนวโรแมนซ์แสนฮาเฮ (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)PhotobucketPhotobucket

- Love in Rain
รวมเรื่องสั้นของเจ้าของบ้าน เรื่องราวความรัก และสายฝนอันชุ่มฉ่ำ



Photobucket
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ArTimuS's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.