~* SumiTra is a Pali name...it means 'GooD Friend'. *~
ปฏิบัติการหักร้างถางรัก (Removable) ..ตอนที่1..

(1)



...ครั้งเดียวก็เกินพอ ไม่เอาอีกแล้วความรัก ทั้งทรมาน ทั้งเกลียด ทั้งรัก...

...ทนไม่ไหวอีกแล้ว ทนไม่ไหวอีกแล้ว...

...เจ็บนี้มันมากเกินไป ความทรมานนี้มันมากเกินกว่าจะรับไหว...

...พอกันที พอกันทีความรัก...

...ต่อแต่นี้ไป...

...ฉันจะไม่รักใครอีกแล้ว!!!...



พิรัลนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างของร้านไอศกรีมอย่างเบื่อหน่าย ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุดและน่าจะมีอะไรต่อมิอะไรให้เขาทำอีกตั้งเยอะตั้งแยะ เขากลับออกจากบ้านมาเพื่อเดินเล่นฆ่าเวลาในห้างสรรพสินค้าตามคำรบเร้าของพิมพ์อร แฟนสาวคนใหม่ที่เขาชักจะเริ่มหน่ายกับพฤติกรรมเอาแต่ใจชอบใช้แต่อารมณ์ของเจ้าหล่อนเต็มที แม้จะคบหาได้เพียงแค่สองเดือนก็ตาม

เวลานี้ เขานึกเปรียบเทียบแม่สาวข้างกายกับอดีตแฟนสาวคนเก่าของเขาที่เลิกกันไปเมื่อหลายเดือนก่อน

...อรชา...

เขากับอรชาคบหากันมาถึงสองปี สำหรับเขาแล้วที่ไม่เคยคิดจะจริงจังกับใคร ก็มีแต่เพียงอรชาคนแรกและคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้เขาพูดออกมาว่ารักเธอสุดหัวใจและสามารถยอมตายแทนเธอได้ แต่สาเหตุที่เขากับเธอเลิกรากันไปนั่นก็เพราะ ความแตกต่างกันของเขากับเธอที่มีมากจนเขาคิดว่ามันเกินว่าจะรับมือไหว...

หลังจากที่เธอเรียนจบและออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว แม่ของอรชาก็ส่งเธอบินไปเรียนต่อเมืองนอกในทันที เขารู้ดีว่านั่นเป็นเพราะ คุณเสาวลักษณ์แม่ของอรชานั้นต้องการจะทดสอบเขาว่าเขาจะมั่นคงกับอรชามากน้อยเพียงไร แต่สำหรับเขานั้นเวลาหนึ่งปีแห่งการรอคอยนั้นเขาทนได้อยู่แล้วถ้าเพื่อคนที่เขารัก ทว่า...

พออรชาเรียนจบกลับมาจากอังกฤษ เธอกับเขาก็ยังคบกันต่อมาได้เพียงสามเดือนเท่านั้น เพราะเขาเองก็เรียนจบแล้วและเริ่มทำงาน และส่วนอรชาเองก็ต้องเข้าทำงานในบริษัทของคุณแม่ของเธอเช่นกัน ซึ่งอรชาเองทุ่มเทให้กับธุรกิจของทางบ้านจนไม่มีเวลาให้กับเขา แม้ว่าเขาจะรู้จักหญิงสาวเป็นอย่างดีแต่กระนั้นเขาก็ยังต้องการที่จะให้เธอสนใจเขาบ้าง เขาเริ่มรู้สึกว่าเธอนั้นเฉยชากับเขาเสียเหลือเกิน และไม่เคยคิดถึงเขาเลยสักนิด ...และสิ่งนี้นั่นเองที่ทำให้เขารู้สึกว่ามันเกินจะทนไหว...

แม้แต่ในวันหยุด...เขาพยายามชวนเธอให้ออกไปเที่ยวเล่นด้วยกัน ช่วงแรกๆ เธอก็ยังยอมออกมา ทานข้าว เดินเล่น และดูหนังด้วยกันดี แต่พอนานเข้าเธอก็บอกกับเขาว่างานยุ่งบ้าง ไม่ว่างบ้าง เหนื่อยและอยากพักผ่อนอยู่บ้านบ้าง...ครั้งล่าสุดเธอบอกว่าถ้าอยากเจอก็มาหาเธอที่บ้านก็ได้...ทั้งๆ ที่เธอเองก็รู้แก่ใจดีว่าเขารู้สึกอึดอัดใจขนาดไหนเวลาที่ต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ตลอดเวลาเช่นนั้น...

มันก็จริงที่ว่าพ่อของเธอไม่ค่อยจะอยู่บ้าน แต่คนที่เป็นปัญหาใหญ่ก็คือ แม่ของเธอ มากกว่า...แม่ของอรชาเป็นคนหัวโบราณซ้ำยังหวงลูกสาวคนเดียวราวกับจงอางหวงไข่ แม้แต่จับมือก็ยังต้องแอบๆ ซ่อนๆ แต่อรชาก็ไม่ยอมที่จะเข้าใจเขาเลยสักนิดเดียว...เขาเองก็มีงานมากมายเหมือนกันยังพยายามที่จะปลีกเวลามาเพื่อพบเธอ แต่เธอกลับไม่เคยยอมสละเวลาของเธอเพื่อเขาบ้าง!!!

ในที่สุดความอดทนของเขาก็มาจนถึงขีดสุด...

วันที่บอกเลิกกับเธอเป็นวันที่ฉีกหัวใจของเขามากที่สุดในชีวิต แต่เธอนั้นเพียงพยักหน้าและพูดเพียงแค่ว่า...

‘ฉันเข้าใจค่ะ ขอบคุณตลอดเวลาที่ผ่านมา แล้วก็...ขอให้คุณมีความสุขมากๆ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ’

เท่านั้น...และจากไป

ไม่มีการถามเซ้าซี้

ไม่มีการอ้อนวอนให้เขาอยู่กับเธอต่อไป

มีเพียงยิ้มนิดๆ ในหน้าให้กับเขาเหมือนที่เขาแสนคุ้นเคยเรื่อยมา

รอยยิ้มที่ตราตรึงอยู่ในความคิดของเขา...

เธอไม่พูดอะไร แต่ดวงตาของเธอพูดกับเขา พูดว่า...

...เธอเสียใจ...

เมื่อเธอจากไป เขาก็ต้องยอมรับกับการตัดสินใจของตนเอง และผลที่เขาต้องได้รับจากการติดสินใจนั้น เมื่อเธอจากไปแล้ว ชีวิตเขายังดำรงอยู่ต่อไป สำหรับคนอย่างเขา เพียงเวลาไม่นานเท่าไรนักก็มีหญิงสาวคนใหม่มาเกี่ยวพันธ์

พิมพ์อร...แพม เธอแทบจะแตกต่างกับอรชาโดยสิ้นเชิง ทั้งการวางตัว การแต่งกาย รสนิยมในเรื่องต่างๆ มารยาท และจริตมารยา ไม่มีอะไรที่คล้ายอรชาที่เรียบร้อย ร่าเริง ยิ้มน้อย และห้าวหาญ แม้แต่น้อย แพม...เป็นแบบอย่างของหญิงสาวสมัยใหม่ที่ ใจกล้า ชอบท้าทาย และเปิดกว้างกับเรื่องทางโลกย์ มีความจัดจ้านและจัดเจนเป็นอิสตรีในทุกสิ่งทุกอย่าง และช่างเรียกร้อง

อรชา...เธอต่างไป จริงอยู่ที่ว่า อรชาไม่ใช่สาวเรียบร้อยเหมือนกับผ้าพับไว้ในหีบอบควันหอมอย่างสาวโบราณ เธอสงวนตัวก็จริง แต่ความคิดของเธอก็ทันสมัยและเป็นปรัชญา เธอมองโลกลึกซึ้ง เธอร่าเริงเมื่ออยู่กับเพื่อนฝูง เธอเป็นธรรมชาติไปทุกสิ่งทุกอย่างทุกอากัปกิริยาและเธอเป็นนักกีฬา เธอเรียบง่ายและตลกขบขัน เธอสนุกสนานกับชีวิตแต่ไม่เคยนอกกติกาและกรอบอันควร กระนั้นเธอก็ยอมให้เขากอดและหอมแก้มบ้างสองสามหน เมื่ออยู่ด้วยกันในที่อันเป็นส่วนตัว มีเพียงครั้งหนึ่ง เมื่อวันเกิดของเขาที่ผ่านมา...เธอยอมให้เขาจูบ...

เขาต้องยอมรับว่าเขาคิดถึงเธอมากจริงๆ

ก่อนหน้าที่จะเจอแพม เขาก็ผ่านผู้หญิงมาถึงสองคน แต่ก็สนุกกันเล่นๆ เพียงสัปดาห์สองสัปดาห์เท่านั้น และแม่สาวสองคนนั่น ก็ไม่ต่างอะไรไปจากแพมเลยสักนิดเดียว...

ช่างเรียกร้อง!

การเรียกร้องไม่เคยมีอยู่ในตัวของอรชาเลย...เธอไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเขา แม้ยามที่เขาเอ่ยถามก็ตาม เธอเพียงยิ้มและพูดว่า...เป็นอย่างที่เขาเป็นดีแล้ว หรือไม่ก็พูดว่า เขาให้อะไรเธอก็ดีใจทั้งนั้น...มีแต่เขาเองที่ต้องคอยถามเธออยู่ตลอดเวลาด้วยความกังวลใจ

เมื่อตอนที่เขาไปงานปาร์ตี้รวมญาติที่เชียงใหม่ เขาเคยถามกับเธอว่าอยากจะได้ของฝากอะไร...เธอเพียงยิ้มแล้วตอบเขาว่า...

‘ของฝากก็คือ ของที่ผู้ให้เห็นแล้วคิดถึงผู้รับ จึงซื้อมาฝากเพื่อแสดงออกถึงความมีน้ำใจ อยากจะซื้ออะไรมาให้ฉัน พี่พีก็ซื้อมาเถอะค่ะ แต่ถ้าไม่มีอะไรที่ทำให้นึกถึงฉันเลยก็อย่าซื้อมาให้สิ้นเปลืองเลยนะคะ’

ตรงกันข้าม เมื่อวันคริสต์มาสหรือปีใหม่เธอกลับคอยถามเขาว่า...

‘อยากได้ของขวัญอะไรเป็นพิเศษไหมคะ?’

ผู้หญิงคนนั้น...ผู้หญิงที่แสนดี...

แต่ว่าตอนนี้...ไม่มีเธออยู่ที่นี่เคียงข้างเขาอีกแล้ว และนั่นเป็นเพราะเขาเลือกเอง!

...เลือกที่จะทิ้งเธอมา...



“พีคะ แพมอยากได้บลัชออนใหม่น่ะ...แพมเห็นเครื่องสำอาง รุ่นใหม่สีส๊วยสวยตอนเดินเล่นรอพีเมื่อกี้ พีซื้อให้แพมนะ” พิมพ์อรเอ่ย ขณะที่ยื่นแขนมาเกาะแขนเขาเอาไว้แล้วแนบตัวลงมา

“นะคะพี...” น้ำเสียงของแพมออดอ้อนอ่อนหวาน เขารู้ดี ผู้หญิงคนนี้ยอมทำได้ทุกอย่างเพียงเพื่อให้เขายอมตามใจหล่อน

น่าเบื่อชะมัด...เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แพมก็อ้อนให้เขาพาออกมาทานข้าวนอกบ้านด้วยกันทั้งๆ ที่เขาเหนื่อยจากที่ทำงานมาซ้ำยังไม่ได้นอนมาตั้งแต่เมื่อวาน เจ้าหล่อนขอให้เขาเลี้ยงหนังเธอกับเพื่อน แล้วยังอ้อนให้เขาซื้อเสื้อผ้าให้เธออีกหลายชุด...จริงอยู่หรอกที่เขามีเงิน...จับจ่ายใช้สอยแค่นี้ไม่ถึงกับทำให้ขนหน้าแข้งของพิรัลร่วงได้แม้แต่น้อย แต่ว่า...การให้เพียงอย่างเดียวมันก็ไม่ใช่ปรัชญาของเขาเหมือนกัน...

“ก็ได้...แต่ว่า...” ชายหนุ่มดึงแขนของตัวเองออกจากการเกาะกุมของหญิงสาวก่อนยกมือเรียกพนักงานให้มาคิดเงินแล้วเอ่ยต่อไปกับเธอว่า “...คืนนี้แพมต้องอยู่เป็นเพื่อนผมนะ...”

ถ้อยความส่อนัยชัดเจน เป็นที่รู้กันดีทั้งเขาและเธอ แฟนสาวยิ้มยั่วยวนแล้วโอบแขนรอบเอวเขาเอาไว้อย่างหลวมๆ เอนกายแนบซบ

“ได้สิคะ พีอยากได้อะไร แพมทำให้ได้หมดทุกอย่างเลย”



ความสัมพันธ์กับแพมเป็นเพียงแค่เกมฆ่าเวลา...

ชายหนุ่มนอนยกมือขึ้นหนุนหัวของตัวเองบนหมอน ขณะที่ฟังเสียงน้ำในห้องน้ำภายในห้องนอนของตนสาดซ่า พิมพ์อรกำลังอาบน้ำอยู่ เมื่อสิ้นเสียงน้ำ ร่างบางในผ้าขนหนูก็เดินออกมาหน้ากระจกแล้วส่องดู

หลังจากที่เธอเดินเก็เสื้อผ้าของตนเองมารวมกันไว้ข้างกระเป๋าถือที่โต๊ะเตี้ยข้างตู้โทรทัศน์ พิมพ์อรก็เดินมาทรุดกายลงข้างเตียงแล้วเอนโอบร่างหนุ่มแน่นของพิรัลเอาไว้แนบชิด ก่อนหอมชายหนุ่มฟอดใหญ่อย่างพอใจ

“วันนี้แพมไม่อยากกลับเลยค่ะ ขอนอนอยู่กับคุณต่อในห้องนี้ด้วยได้ไหมคะ...”

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองไปทางหญิงสาว พิรัลมองหน้าพิมพ์อรอย่างครุ่นคิด ในขณะที่พิมพ์อรเองพยายามยิ้มประจบเอาใจแฟนหนุ่มของตนอย่างน่ารัก

แต่แล้วเมื่อพิมพ์อรสอดมือเข้าไปใต้ผ้าห่ม พิรัลก็สะบัดร่างหนีแล้วลุกขึ้นใช้ผ้าห่มนั่นห่อกายท่อนล่างของตนแล้วเดินอ้อมเตียงของตนไปหยิบกางเกงของเขาเองขึ้นมา

พิรัลหยิบเงินออกจากกระเป๋ามาปึกหนึ่งแล้ววางลงที่โต๊ะข้างเตียงนอนของตน...

“คืนนี้ผมเหนื่อยแล้ว อยากนอนคนเดียว...คุณกลับไปซะเถอะ เงินนั่นเป็นค่าแท็กซี่ แล้วผมก็ไม่ต้องการเห็นหน้าคุณอีกต่อไป ลาก่อนนะแพม หวังว่าหลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จแล้วคุณจะออกไปจากห้องของผมเรียบร้อยแล้วนะ” พิรัลพูดจบแล้วตั้งท่าจะเดินเข้าห้องน้ำไป หากพิมพ์อรกระโดดลุกขึ้นจากเตียงมารวบแขนของเขาเอาไว้ได้ข้างหนึ่งก่อนแล้วกรีดเสียงร้องแหลมแสบแก้วหู

“อะไรกันคะพี! แพมทำอะไรผิด...นี่! นี่พีขอเลิกกับแพมแบบนี้เองเหรอคะ แพมไม่ใช่อีตัวนะ! แพมเป็นแฟนพีนะ! พีจะทิ้งแพมแบบนี้ไม่ได้นะ!”

พิรัลหันมาทางหญิงสาวแล้วดึงมือของเธอออกจากแขนของตัวเองอย่างรุนแรงแล้วผลักเธอให้ถอยไป...

“ขอโทษนะแพม...แต่ผมน่ะ ไม่ได้พิศวาสอะไรคุณหนักหนาหรอกนะ...แล้วผมก็เบื่อพฤติกรรมช่างเรียกช่างร้องของคุณเต็มทีแล้วด้วย เพราะฉะนั้น ผมไม่อยากจะทนรับสภาพการเป็นธนาคารเดินได้ของคุณอีกต่อไป...เราเลิกกันดีกว่า”

“พี!!! พีไม่รักแพมเหรอคะ!” หญิงสาวกรีดร้อง หมายเรียกร้องความสนใจมาที่ตัวแล้วหยิบยกสิ่งที่เธอคิดว่าจะเหนี่ยวรั้งชายหนุ่มเอาไว้กับเธอได้

“รักเหรอ? คุณฟังไม่รู้ภาษารึไง..แพม ที่ผมคบกับคุณ เพราะผมเบื่อเท่านั้นเอง เข้าใจไหม ผมว่าง ผมเหงา ผมอยากได้เพื่อนเที่ยวเพื่อนนอน แล้วคุณก็เสนอตัวมาให้ ผมก็รับเอาไว้เท่านั้นเอง...”

“แต่ๆ...แต่พีมาหาแพม แทนยายน้ำหวาน...พีเลือกแพม เพราะว่ารักแพมไม่ใช่เหรอคะ!” หญิงสาวเอ่ย สีหน้าของเธอซีดเผือดสีลงทุกๆ ขณะเมื่อายหนุ่มผู้หล่อเหลาปานเทพบุตรตรงหน้าเผยธาตุแท้ของตนเองออกมา

“พูดอย่างนั้นไม่ได้หรอกแพม...น้ำหวานเพื่อนคุณน่ะก็เหมือนคุณน่ะแหละ เข้ามาเฟลิตกับผม...ผมเบื่อ แล้วเราก็แยกกัน ผมเบื่อ แล้วคุณก็มาแทนที่น้ำหวาน...ทุกอย่างมันก็เท่านั้นเอง” พิรัลยักไหล่อย่างเซ็งๆ เมื่อหญิงตรงหน้าทำท่าจะเข้าใจอะไรยากกว่าที่เขาคิด “เอาล่ะ ผมเหนื่อยมากพอแล้ว และคุณ...แพม ผมหวังว่าเมื่อผมอาบน้ำเสร็จ ผมจะออกมาไม่เห็นคุณอีกแล้วนะ...ลาก่อน”

เขาหายลับเข้าห้องน้ำไปไม่แยแสต่อเสียงร้องเรียกและเสียงทุกประตูของหญิงสาว...

“ไม่นะ! แพมไม่ไป พีออกมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนคุณจะทิ้งแพมแบบนี้ไม่ได้นะ พี!!!”



แล้วเขาก็กำจัดแพมออกไปได้อย่างง่ายดาย หลังจากขู่ว่าหากหล่อนไม่ออกจากห้องเขาไป เขาจะให้ยามมาลากตัวหล่อนออกไปทั้งผ้าเช็ดตัวนั่น และเชื่อได้เลยว่าเขาทำจริงๆ แน่ และผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ไม่อยากที่จะขายหน้าเพราะเรื่องนี้...นั่นทำให้เขากำจัดแพมไปจากเขาอย่างง่ายดาย

เวลาก็ล่วงเลยมาจากวันนั้นกว่าสัปดาห์แล้ว และเขาก็เบื่อหน่ายการมีคนคอยตามเกี่ยว ตอนนี้จึงขอพักยก และหยุดการคบหากับพวกผู้หญิงเอาไว้สักระยะ เว้นแต่ว่าจะคุยเล่นบ้างในกลุ่มเพื่อนเก่าๆ

สามวันก่อนเขาได้รับโปสการ์ดงานรวมรุ่นที่รุ่นน้องคณะเป็นผู้จัดการให้ เขามองว่าเป็นงานที่พวกเด็กๆอยากเฮอยากสนุกกันก็เท่านั้น เขาไม่นึกอยากจะไปสักนิด เพราะถ้าเขาคิดถึงเพื่อนเมื่อไหร่ก็โทรศัพท์ไปเรียกออกมาสังสรรค์กันได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว

เวลานี้ เขาจึงมานั่งแกร่ว แกว่งขาดื่มเบียร์อยู่ในบาร์แห่งนี้คนเดียว...

ที่นี่เป็นที่ประจำของเขา เขาชอบบรรยากาศของร้าน บรรยากาศในร้านนี้เป็นสิ่งเดียวที่เขาและอรชานั้นชื่นชอบร่วมกัน...เบียร์เย็นๆ ในบาร์บรรยากาศสบายๆ มีสไตล์แบะเปิดเพลงเพราะ..ที่สำคัญคือ ทางร้านจำกัดคนเข้า ทำให้ภายในร้านนั้นไม่แออัดยัดเยียดกันมากนักเหมือนตามบาร์อื่นๆ ในแถบที่เที่ยวยามราตรีของพวกวัยรุ่น แม้จะติดอยู่ที่ว่าราคาเครื่องดื่มของที่นี่สูงกว่าสักหน่อยก็ตาม แต่ก็คุ้มกับความสะดวกสบายนี้

เขานั่งมองคนที่ผลัดเข้าผลัดออกที่นั่ง ร้านนี้มีฟลอร์เต้นรำ และก็มีคนเต้นอยู่ด้วยจริง แต่สำหรับเขาแล้ววันนี้ไม่ได้มาเพราะนึกอยากจะเต้น...

เพื่อนๆ ของเขาโทรศัพท์มาชวนเขาไปงาน ชายหนุ่มนั่งมองบัตรเชิญที่อยู่บนโต๊ะแล้วทิ้งมันเอาไว้ที่เดิมตรงนั้นไม่สนใจมันอีก

วันนี้เขาไม่มีอารมณ์จะพบใครทั้งนั้นและทั้งวันด้วย...

แม้จะเป็นวันหยุดที่แสนหาได้ยากของเขา เขาก็ออกไปเดินเที่ยวห้าง ดูสินค้าต่างๆ เครื่องไฟฟ้า เครื่องเสียง แผ่นเสียง เสื้อผ้า โทรศัพท์ หนังสือ เข้าไปดูหนัง แล้วออกมากินข้าว และสุดท้ายก็ไม่ได้ซื้ออะไร เขาออกไปเดินเล่นข้างนอก...แม้ช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นบ้าง แต่ก็ยังมีฝนปรอยๆ ซึ่งนั่นทำให้เขาหลบเข้าไปนั่งดื่มกาแฟในร้านกาแฟข้างทางก่อนกลับห้องชุดของตน ก่อนที่นาทีถัดมาหลังจากที่เขาเหยียบเข้าห้องได้ไม่นาน เขาก็ตัดสินใจออกมาหาเครื่องดื่มกระตุ้นหัวใจ

น่าเบื่อ...ชีวิตของเขา

เขานึกไม่ออกจริงๆ ว่าก่อนหน้านี้เวลาของเขานั้นหมดไปกับอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ คือมันไม่น่าเบื่อเหมือนเช่นวันนี้อย่างที่เป็นอยู่แน่...



เพลงในร้านเริ่มเปลี่ยน ดีเจเปลี่ยน แนวเพลงก็เปลี่ยน จากเพลงเร็วมาเป็นเพลงช้าแล้วผู้คนก็พากันทยอยออกจากฟลอร์เต้นรำไป เหลือแต่เพียงคู่หนุ่มสาวที่กอดกันเต้นรำในจังหวะสโลว์นั้น

เสียงสูงของนักร้องหญิงในเพลงช่างบาดใจ เนื้อเพลงที่ช่างแสนจะหวานซึ้ง โรแมนติก ไพเราะ หวานปนเศร้า ทำให้เขานึกถึง...

ไม่! เขาไม่ต้องการจะนึกถึงอีกครั้ง!

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร...หลายๆ วันมานี้เขาคิดถึงแต่เธอ...

ชา...คนที่เขาคิดว่า ได้ตัดใจลงไปได้เรียบร้อยแล้ว...

ทำไม...ทำไม

เขาไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว...และไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น

ชายหนุ่มกระดกเบียร์ในมือไปแบบรวดเดียวหมด ก่อนจะกวักมือเรียกพนักงานเพื่อสั่งมาเพิ่ม...

เขาไม่เคยเมาอีกเลย หลังครั้งสุดท้ายที่ถูกสาวรุ่นพี่หักอกสมัยเรียนมหาวิทยาลัย...และพอเขาคบกับ...โธ่เว๊ย!!! เขาคิดถึงเธออีกแล้ว!

พิรัลกระดกเบียร์ขึ้นอีก รวดเดียวหมดอย่างครั้งก่อน แต่เมื่อเขาวางแก้วลงบนโต๊ะแล้วเงยหน้าขึ้นมา เพื่อมองความเป็นไปรอบกายอีกครั้ง

แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจ...

มีคนเข้าร้านมาใหม่ พนักงานก็พากลุ่มหญิงสาวสี่คนไปที่โต๊ะตัวหนึ่งซึ่งติดกับฟลอร์เต้นรำ...

ในกลุ่มนั้น...มีผู้หญิงคนนึงที่แต่งกายด้วยเสื้อสายเดี่ยวตัวยาวสีขาวปักเลื่อมอย่างมีสไตล์ กับกางเกงยีนส์พอดีตัวที่ช่วยอวดช่วงขาเพรียวยาวของเจ้าหล่อนให้ดูสะดุดตายิ่งขึ้น เรือนผมยาวสีน้ำตาลเข้มที่เมื่อต้องแสงไฟภายในร้านแล้วเปล่งประกายเป็นสีน้ำตาลอมแดงนั้นปลิวสลวยเหยียดสยายอย่างเป็นธรรมชาติ หาได้ถูกดัดหรือตัดแต่งให้เป็นลอนเกรียวตามแฟชั่นไม่ ที่เรือนคอระหงคล้องด้วยโชกเกอร์เงินอันใหญ่ห้อยบนสายหนังสีดำช่วยขับเน้นให้เห็นถึงความผุดผ่องของผิวกายขาวสะอาดของเธอและลำคอเย้ายวนใจ ซ้ำ...ใบหน้าที่ปรากฏที่เขาจำได้เป็นอย่างดี แม้ในความฝัน!

อรชา!

พิรัลได้แต่จ้อง จ้องแล้วจ้องอีกอย่างพรึงเพริดไปยังเธอที่เขาคิดถึงจนแทบจะเป็นบ้าไปแล้วในช่วงนี้...

เธอดูดีอย่างที่เขาจำได้ ไม่สิ! ดีกว่า...ถึงเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบบางอย่างที่กำลังเป็นที่นิยมกันก็ตาม แต่ความเป็นคนสูงสง่าโดดเด่นและทรวดทรงสะโอดสะองสมส่วนไปทุกๆ ส่วนสัดของเธอ ทำให้ใครต่อใครต้องหันมองตามเธอจนแทบจะพลิกคว่ำคะมำหงาย

ใบหน้าขาวๆ ถูกแต่งแต้มอย่างที่เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เห็นมาก่อนในชีวิต ดวงตาคู่คมสวยซึ่งแม้ไม่มีอะไรก็ยังบาดใจชายหลายๆ คนนั่น ในเวลานี้ถูกกรีดด้วยเส้นสีดำเน้นกรอบรอบเช่นนี้ ก็ยิ่งขับเน้นความคมคายของดวงตาเธอขึ้นมาอย่างเด่นชัด พวงแก้มที่เขามั่นใจว่ามันต้องเป็นสีชมพูระเรื่อๆ แน่ในแสงขาวกระตุ้นให้ไม่ว่าชายคนใดที่ได้เห็นต้องแอบจินตนาการถึงความนุ่มละมุนของมัน เธอไม่จำเป็นต้องพึ่งบลัชออนหรือรูชอย่างที่แพมชอบใช้เลยสักนิด เขารู้ดี เพราะอรชานั้นมีสีผิวเปี่ยมไปด้วยเลือดฝาดเป็นสีชมพูสวยดุจกุหลาบอยู่แล้ว ริมฝีปากอิ่มที่ถูกเคลือบเอาไว้ให้เงางามเป็นอย่างดีนั่น เขามั่นอีกเช่นกันว่า เธอไม่จำเป็นต้องพึ่งลิปสติกสีอย่างแน่นอน และแค่เพียงได้เห็นกลีบปากนั้นแย้มยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น ก็ทำให้หัวใจของเขาวูบไหวได้แล้ว

เธอไม่เคยชอบแต่งหน้า และจะแต่งเฉพาะในโอกาสสำคัญๆ ที่พิเศษจริงๆ เท่านั้น...เขาจำได้ว่า ตอนที่ทั้งคู่ออกไปทานข้าวด้วยกันในวันเกิดของเขา เธอก็แต่งหน้าเหมือนกัน...แต่แตกต่างไปจากวันนี้โดยสิ้นเชิง...วันนี้เธอดูผิดไปจากทุกครั้งที่เคย ดูหวานซ่อนเปรี้ยวและบาดใจเขาเสียเหลือเกิน

พิรัลยังคงจ้องมองหญิงสาวอยู่เช่นนั้นต่อไปตาไม่กระพริบ และเมื่อเธอลุกขึ้นจากโต๊ะไปเต้นรำกับกลุ่มเพื่อนสาวของเธอ ภาพร่างที่เคลื่อนไหวไปตามจังหวะเพลงนั้นก็ดึงดูดเขาให้เข้าไปหา

ความคิดถึงสั่นคลอนจิตใจของเขาอย่างรุนแรง กรีดแทงหัวใจของเขาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าเพียงแค่ภาพของเธอก็สามารถตบเขาจนสมองชากลายเป็นคนปัญญาอ่อนไปและกลายเป็นทาสมนต์สะกดของเธอ เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเมื่อไรที่เขาได้มายืนอยู่ด้านหลังเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ชา...” เสียงเรียกทุ้มของเขาราวกับการกดปุ่มหยุดของเครื่องเล่นเพลงในตัวหญิงสาว เพราะทันทีที่เขาเอ่ยออกไป ร่างของสตรีตรงหน้าก็หยุดชะงักตัวแข็ง!

เขารอ...รอให้เธอหันมา แต่เธอไม่ยอมหัน เหมือนกับว่ากำลังลังเล เหมือนกับเธอกำลังสับสน!

หรือเธอจะคิดว่าเธอหูฝาดไป?

“ชา...”

เสียงเรียกอีกครั้งของเขาทำให้อรชาหันมาเผชิญหน้ากับเขาในระยะประชิด และดวงตาที่เบิกกว้างของเธอบอกให้เขารู้ว่า...เธอกำลังตกใจ!

ริมฝีปากสวยเม้มแน่น ใบหน้านิ่งตึง! คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากันและดวงตาที่เปลี่ยนจากความตกใจกลายมาเป็นขุ่นเคือง!

เธอผงะถอยห่างจากเขาโดยอัตโนมัติราวกับรังเกียจ!

“คุณพี” เธอเอ่ยเรียกชื่อเขา...ด้วยน้ำเสียงที่เขาไม่คุ้นเคย มันช่างเย็นชา แสนกระด้าง ไร้ความรักเต็มเปี่ยมเหมือนที่เคยมีให้ เหมือนที่เขาเคยได้ยินเสมอๆ ไม่มีรอยยิ้มอ่อนหวาน มีแต่เพียงสีหน้าว่างเปล่าเย็นชา รวมไปทั้งความรู้สึกห่างเหินที่เกิดขึ้น ท่าทางอันเป็นกันเองเหมือนทุกครั้งก็หายไป!

“ดีใจจังเลย ที่ได้พบชา...ที่นี่” เขายื่นมือออกไป อยากที่จะจับมือของหญิงสาวเอาไว้อีกครั้ง ทว่า...

อรชาเบี่ยงตัวหลบมือของเขาไปอย่างเมินเฉย ห่างเหิน และแปลกหน้า...ท่าทางของเธอทำให้เขาสับสน เขาไม่คิดว่าจะได้รับการทักทายจากเธอเช่นนี้

“มาด้วยเหมือนกันเหรอคะ?” เธอถาม ด้วยน้ำเสียงเกือบเป็นปรปักษ์!

“พี่ว่างน่ะ...เลยมานั่งดื่มคนเดียว”

“แต่ฉันมากับเพื่อนค่ะ...ขอโทษด้วยนะคะ แต่ว่า...ฉันต้องไปแล้วล่ะ” เธอบอกปัดตัดการสนทนากับเขาไปอย่างเย็นชา

“เดี๋ยวก่อนสิ! ชา!” เขายื่นมือเข้าไปรั้งแขนเธอเอาไว้ ทว่า...

“กรุณาอย่ามารบกวนเราด้วยค่ะ!” เพื่อนของเธอคนหนึ่งเห็นทั้งสองจึงรีบเข้ามาขวาง เขาจำเพื่อนคนนั้นของเธอได้ ผู้หญิงตัวเล็กๆ เสียงแหลมๆ และหน้าตาเด็กๆ ไว้ผมสั้นบ็อบดวงตาคมโตเหมือนสาวแขก...มาลิดา

เพื่อนสาวร่างเล็กเอื้อมมือเธอมาดึงแขนเพื่อนของเธอไปจากมือของเขา มาลิดาจูงมือ...อดีต...แฟนสาวที่รักของเขาออกไปจากฟลอร์เต้นรำ จ้ำไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ของเธอที่มองมาที่เขาด้วยสายตาเย็นชา...เช่นเดียวกัน

เขารู้จักเพื่อนเธอกลุ่มนั้นเป็นอย่างดี...



“ชา...ตัวเป็นอะไรรึเปล่า อีตานั่นมันทำอะไรเธอรึเปล่า?”

วิชุดาเอ่ยถามเพื่อนสาวรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง ขณะเดียวกันก็ปรายตาไปทางชายหนุ่มซึ่งเดินคอตกกลับไปที่โต๊ะของตัวเองหน้าเศร้า

“ไม่เป็นไรจ้ะวี...ชาสบายดี...”

“พวกเรานี่ นานๆ จะได้ออกมารวมตัวกันสักที ดั๊น...โชคไม่ดีต้องมาเจอไอ้หมอนี่ด้วย! เสียใจจริงๆ ที่พาเธอมาที่นี่นะ...ชา เราไม่น่าเสนอว่าจะมาที่นี่วันนี้เลย” มีนาเอ่ยกับเพื่อนรักด้วยสีหน้ารู้สึกผิด แม้ยามที่มองไปทาง...อดีต...ว่าที่เพื่อนเขยด้วยความเกลียดชังก็ตาม

“ไม่เป็นไรจริงๆ จ้ะ มาร์ช...ถึงเธอไม่ชวนมาที่นี่ฉันก็เสนอให้มาที่นี่เองอยู่ดี”

“โอ๊ย! ทำไมกรุงเทพมันต้องเล็กขนาดนี้ด้วยวะ ที่ไหนก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ ดั๊น...ต้องมาเจอไอ้ผู้ชายเฮ็งซวยที่ไม่อยากเจออยู่คนเดียวเนี๊ยะ! คนกรุงเทพมีตั้งเป็นล้านแท้ๆ!”

อรชาขันคิกกับท่าทีของมาลิดา สาวร่างเล็กแต่ใจไม่เคยเล็กคนนี้ทำให้เธอยิ้มได้เสมอ

“แหม...ก็ที่เที่ยวดีๆ ในกรุงเทพแถวนี้มันก็มีไม่มากนี่ แถม...เขาก็เป็นพวกมีกะตังค์ด้วย”

วิชุดาเบ้ปาก ก่อนเอ่ยด้วยถ้อยคำเสียดสีที่พิรัลไม่มีทางได้แก้ตัว

“เออ นั่นซี่! คิดว่าตัวรูปหล่อ พ่อรวย เรียนสูง มีรถหรูขับก็ทำตัวพองว่าจะต้องมีสาวๆ ให้ความสำคัญสนใจ ไอ้คนหลงตัวเอง ดีแล้วที่ชาเลิกกับไอ้คนเส็งเคร็งนี่เสียได้น่ะ คนอย่างนี้ก็เหมาะกับพวกเดียวกันนั่นแหละ พวกหน้าตาดีแต่สมองกลวงปัญญานิ่มไง!”

“แต่เขาหัวดีนะวี...ตอนเอ็นท์ได้อันดับหนึ่งของสถาปัตยกรรมศาสตร์ด้วยนะ...” อรชาแกล้งเอ่ยขัดเพื่อนสาว ทำให้เธอได้รับค้อนจากเพื่อนเลิฟไปงามๆ ด้ามยักษ์

“เช๊อะ! อย่ามาทำท่าเป็นออกรับแทนหน่อยเลยย่ะ เธอน่ะ...ตอนนี้ก็เกลียดหมอนี่เข้าไส้เลยไม่ใช่รึไงกันยะ...แล้วอยากมาแกล้งทำเป็นปฏิเสธนะ เพราะไส้ของหล่อนมีกี่ขดน่ะ ฉันรู้หมดล่ะย่ะ”

อรชายิ้มแล้วเอื้อมไปหยิบแก้วค็อกเทลของตนมาถือ นิ้วเรียวแตะอยู่ที่ขอบแก้วขณะที่เธอยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนักกับคำพูดของเพื่อนรัก

“อืม...ไม่รู้สินะ ก็...ไม่ได้เกลียดอะไรนี่นา...แต่ก็ไม่ได้รักเหมือนเมื่อก่อนด้วย ฉันถือว่าเองมันเป็นอดีตไปแล้วก็ให้มันแล้วกันไป ไม่รู้จะไปโกรธจะไปเคืองเขาทำไม ในเมื่อฉันทำดีที่สุดให้เขาแล้ว...”

“จ้า...แม่นางฟ้านางสวรรค์...อะไรจะแม่พระเทพธิดาได้ขนาดนั้นเนี่ยะ โอ๊ย! หมันไส้ ตอนนี้ฉันแสบตาเพราะความดีงามของเธอมันแยงลูกตาจนตาแทบจะบอดอยู่แล้วนะเนี่ยะ!!!” วิชุดาพูดพลางทำท่าทำทางประกอบไปพลางทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดเมื่อครู่นั้นเบาบางลงไปได้

“ชาคิดแบบนั้นได้ก็ดีแล้วล่ะ...แต่มาร์ชไม่คิดแบบนั้นด้วยหรอกนะจะบอกให้ ให้ตายก็ไม่ยอมญาติดีกับไอ้ผู้ชายที่มันทำเพื่อนเราร้องไห้ได้หรอก!”

อรชามองหน้าเพื่อนแต่ละคนด้วยความรู้สึกเต็มตื้น...

ใช่...เธอจะเรียกร้องอะไรอีก ในเมื่อคนๆ นั้น เลือกที่จะไปจากเธอ

เธอเคยไม่มีเขา ก็อยู่ได้...ตอนนี้ไม่มีเขา เธอก็ต้องอยู่ได้!

ตรงหน้าเธอ ความรักและหวังดีจากเพื่อนๆ ของเธอมากมายถึงเพียงนี้ก็สมควรที่เธอจะพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่แล้ว อีกทั้งเรื่องราวมันก็ผ่านมานานแล้ว

แต่เธอหลอกตัวเองไม่ได้ว่าไม่เคยคิดถึงเขา...แม้จะพยายามมากมายขนาดไหนก็ตาม

เธอมันโง่!

เธอเตือนตนเองว่า ต้องจำเอาไว้...หนึ่งสัปดาห์แห่งความทรมานราวกับตายทั้งเป็น!

ไม่...ไม่มีอีกแล้ว พอกันทีความรักหญิงชาย...นั่นเป็นเรื่องทุเรศและจอมปลอม หลอกลวงที่สุดเท่าที่เธอเกิดมาพบ!

ไม่หรอก...เธอไม่ปฏิเสธเรื่องความรักของพ่อที่มีต่อแม่ของเธอ แต่ว่า...

ผู้ชายสมัยนี้ก็เป็นแบบนี้เหมือนกันหมด! คงหาผู้ชายดีๆ แบบพ่อของเธอไม่ได้อีกแล้วในโลกห่วยๆ ใบนี้!

ใช่แล้ว...

อรชายกแก้วของตนเองขึ้นจิบแล้วหันไปคุยกับเพื่อนๆ ด้วยสีหน้าร่าเริง

“เราอย่าไปสนใจเลย เที่ยวของเราให้สนุกดีว่าใช่ไหมล่ะ! นานๆ จะได้เจอหน้ากันที กว่าฉันจะลากพวกแกมากองรวมกันได้เนี่ยะ! เอ๊า! เรามาดื่มเพื่อมิตรภาพอันแสนอยู่ยั้งยืนยงของพวกเราดีกว่านะ...”

พวกสาวๆ มองหน้ากันยิ้มๆ แล้ว...

“คัมปาย!”



Create Date : 31 พฤษภาคม 2552
Last Update : 31 พฤษภาคม 2552 22:41:55 น. 1 comments
Counter : 188 Pageviews.

 
ขอเชิญร่วมสัมนา “เปิดประตูสู่การเป็นนักเขียนประจำสำนักพิมพ์ ’ษาริน และการเพิ่มมูลค่างานเขียนนิยายรัก”

ดูรายละเอียดได้ที่
//www.sipprapa.net
ด้วยความขอบคุณ


โดย: sarinpub@yahoo.com IP: 117.47.43.199 วันที่: 3 มิถุนายน 2552 เวลา:9:57:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ArTimuS
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





PhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucket


นิยายอัพเดท...Photobucket

-ปฏิบัติการหักร้างถางรักPhotobucket
เรื่องราวความรัก แนวโรแมนติกดราม่า ของชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งเลิกลากันไป แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็กลับมาเพื่อขอเคียงคู่เธออีกครั้ง ความรักแสนเศร้าครั้งนี้จะเป็นอย่างไร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนิยายรักพลาดได้นะคะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-คีตคิมหันต์ Photobucket
ภาคต่อจากเรื่องลำนำเหมันต์ เมื่อคุณพ่อคนเก่งลงโทษคุณลูกตัวแสบให้ออกติดตามหาวิหคศักดิ์สิทธิ์จนนำไคเมร่าหนุ่มไปยังโลกมนุษย์จนได้พบกับเด็กสาวผู้อาภัพและเหตุการณ์เหนือความคาดฝัน นิยายแฟนตาซีโรแมนติกที่แฟนนิยายมกราไม่ควรพลาดค่ะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-Love Happening
เรื่องสั้นของสองหนุ่มสาว และความไม่เข้าใจกัน อุปสรรค และมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาล (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)Photobucket

-Pretty Doll
เรื่องสาวผู้น่ารักของเมทสาวกับนายหนุ่มจอมเสเพลที่เก็บเธอมาเลี้ยง เรื่องรักกุ๊กกิ๊กแนวโรแมนซ์แสนฮาเฮ (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)PhotobucketPhotobucket

- Love in Rain
รวมเรื่องสั้นของเจ้าของบ้าน เรื่องราวความรัก และสายฝนอันชุ่มฉ่ำ



Photobucket
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ArTimuS's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.