คิมหันต์ที่ 20/1
Chapter 20 เดี๋ยวนี้ทุกคืนเฟทจะเข้ามานอนเฝ้าในห้องของหญิงสาว แต่ถึงแม้ว่าจะอยู่ในห้องเดียวกันก็ตาม เฟทก็ยังเว้นระยะห่างไม่ได้ร่วมเตียงกับนางแต่อย่างไร แต่เพราะเป็นเช่นนั้นทำให้หัวใจของฟีต้ารู้สึกหวิวๆ แม้ว่าจะอยู่ภายในห้องเดียวกันและใกล้กันถึงเพียงนี้ กลับให้ความรู้สึกว่าเขาช่างอยู่ไกลเกินเอื้อมเหลือเกิน หญิงสาวคิดถึงเวลาที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันบนดินแดนของมนุษย์ ทั้งคู่นอนด้วยกันเคียงข้างและได้อยู่ในอ้อมกอดของกันและกันตลอดเวลา ฟีต้าคิดถึงความรู้สึกนั้นยามที่ได้แนบหูของตนสดับเสียงหัวใจที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยนและหนักแน่นของเขา ฟ้ามืดแล้ว ดวงดาวก็พราวพร่าง แสงจากจันทร์เสี้ยวยังส่องสาดเข้ามาเป็นเงาบางๆ ต้องดวงหน้าของชายหนุ่มที่หลับคอพับอยู่บนเก้าอี้ห่างจากนางไปเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น ใบหน้าในยามนิทราของเขานั้นช่างแสนสงบ เว้นรอยมุ่นที่หัวคิ้วบางๆ บอกให้นางได้รู้ถึงความที่เขานั้นไม่ยอมปล่อยวางปัญหาแม้ยามหลับ สายลมเย็นโชยอ่อนแสนสบายก็จริง แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้นอนไม่หลับ ใจนางพะวงอยู่แต่กับชายหนุ่มรูปงามของนางนี้ตลอดเวลา นึกอยากให้ดวงตาคู่นั้นลืมตาขึ้นมามองตอบนาง ฟีต้านอนฟังเสียงหัวใจของตนเองเต้นเป็นจังหวะประสานเสียงหายใจสม่ำเสมอของเฟท... ในเวลานี้แม้ทุกสิ่งทุกอย่างจะอยู่ในภาวะสงบ ทุกสรรพสิ่งอยู่ในความเงียบของราตรีก็ตามที แต่ไม่รู้ว่าทำไม ใจนางถึงได้กระวนกระวายนัก หญิงสาวสังหรณ์ถึงบางสิ่งที่นางไม่รู้ว่าคืออะไรนั้นกำลังจะเกิดขึ้น หวังให้ตนเองคิดกังวลไปเองเท่านั้น...เมื่อความคิดเดินมาถึงจุดนั้น ฟีต้าก็ถอนหายใจ นอนไม่หลับเหรอ? เสียงทุ้มๆนั้นทำให้นางสะดุ้ง...เฟทลืมตามองตอบกลับมาที่นาง ทำให้หัวใจของนางเต้นแรงขึ้น ทำให้นางรู้สึกร้อนที่พวงแก้ม อืม... มือบางดึงผ้าห่มคลุมกายของตนขึ้นปิดถึงคอซุกหน้าเข้ากับหมอนแล้วเหลือบตาช้อนขึ้นมองเขาที่นั่งกึ่งพิงกึ่งเอนอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม... ข้าคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น...อันที่จริง คนที่เป็นเป้าหมายของคนร้ายเมื่อคราวก่อนคือท่านผู้เฒ่าร็อคโก้นี่ ไม่ใช่ข้าสักหน่อย...แต่ทำไมข้าถึงต้องถูกคุมตัวด้วยล่ะ...เฟท คำถามก่อให้เกิดความเงียบซึ่งดำเนินไปยาวนาน... ฟีต้า...เจ้าจำความฝันที่เจ้าเล่าให้ข้าฟังวันนั้นได้ไหม? นางพยักหน้า อืม ข้าจำได้...มันน่ากลัว แต่ว่ามันก็เป็นแค่ความฝันเท่านั้น แล้วถ้าข้าบอกเจ้าว่าเจ้าไม่ได้ฝันแต่เจ้าเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงล่ะ...ถ้าข้าจะบอกว่า ความลับของเจ้าไม่เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว และแทนที่จะเป็นผู้เฒ่าที่จะเป็นเป้าหมาย ตอนนี้กลับกลายเป็นเจ้าเสียเองล่ะ เฟทเอ่ย น้ำเสียงเยือกเย็นและสงบ เขาหยุดพูด และให้เวลากับนางได้คิด...แม้เขาไม่อยากจะให้นางกลัวและกังวล จึงไม่ได้บอกทุกสิ่งทั้งหมดในตอนแรกอย่างที่บิดาของเขากำชับ แต่ลึกๆ แล้วเฟทกลับคิดว่า...มันไม่ยุติธรรมกับนางเลย นางควรจะได้รู้ว่าในเวลานี้ได้เกิดและอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตนเอง...ฟีต้าเป็นหญิงสาวที่ฉลาดและหัวไว แม้ว่านางจะยังอ่อนต่อโลกแห่งอำนาจก็ตาม แต่ไม่ช้าไม่นานนางจะต้องเกิดความสงสัยในสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ในเวลานี้เขาเห็นแววกังวลในดวงตาของนางแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เขานึกอยากลุกขึ้นมาเตะตัวเอง แต่แล้วแววกังวลใจนั้นก็มีความเข้าใจเข้ามา ข้าเชื่อเฟท ถ้าฝันนั่นคือความจริง และตัวข้ากำลังตกอยู่ในอันตราย แต่ข้าก็เชื่อว่าเฟทจะปกป้องข้าได้ แต่ว่า...เฟท ข้ารู้สึกอึดอัดมากที่มีคนล้อมหน้าล้อมหลังขยับตัวไปไหนเองไม่ได้อย่างใจคิดเลย ข้าคิดว่าเหมือนแต่ก่อนข้าก็ปลอดภัยดีอยู่แล้ว ไม่อยากให้คนอื่นมาเป็นโล่ให้ข้าแบบนี้เลย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เจ้าปลอดภัย...เราจำเป็นจะต้องให้เจ้ามีผู้คุ้มกัน เฟทอธิบาย แต่คนอื่นจะเป็นอันตราย ข้าไม่อยากให้คนอื่นมาตายเพราะต้องเป็นโล่คุ้มกันให้กับข้า...เหมือนกับที่ข้าไม่ต้องการให้เฟทบาดเจ็บเพื่อปกป้องข้า... ดวงตาของฟีต้าสบนิ่งกับเฟทเนิ่นนาน ดวงตาคู่นั้นแน่วแน่จริงใจ บอกถึงความอันจริงจังจากหัวรู้สึกข้างในของนาง ความจริงจังที่ทำให้เขาต้องยอมแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้ายินดีจะเป็นโล่ให้กับเจ้า หากเจ้ายืนยันเช่นนั้นข้าก็ตกลง...แต่ว่า ข้าคงจะต้องอยู่กับเจ้าตลอดเวลาแทน และจะไม่ยอมให้เจ้าคลาดสายตาไปไหน...เจ้าจะได้ไม่ต้องอึดอัดเพราะมีทหารตามประกบสี่ทิศ แบบนั้นดีไหม? ฟีต้ายิ้มน้อยๆ แล้วพยักหน้า และนั่นทำให้เฟทยิ้มตอบได้... ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็นอนหลับได้แล้ว... น้ำเสียงของเฟทอ่อนโยนลง เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินเข้าไปทรุดกายลงข้างเตียงและก้มลงจุมพิตหน้าผากของหญิงสาวแผ่วเบา ก่อนที่จะกลายเป็นสงสัยเมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาว มีอะไรอีกเหรอ? ข้านอนไม่หลับ...เฟท นางเอ่ย แต่แล้วหัวใจของเฟทก็เกือบหลุดออกมานอกอก เมื่อมองสบตัวตาออดอ้อนน่ารักคู่นั้นพร้อมกับคำเอ่ย ข้าอยากนอนกับเฟท เฟท...นอนกับข้านะ ไคเมร่าหนุ่มรู้สึกราวกับหัวใจปลิวหายไป มันวาบหวิวและตื่นเต้นอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน นี่เองอำนาจของมนต์เสน่หาจากรักแท้ เพียงคำพูดง่ายๆก็ทำให้ใจของเขาวูบไหวได้ถึงเพียงนี้ แม้จะรู้ทั้งรู้ว่านางไม่ได้คิดอะไรไปไกลเหมือนที่เขาคิด แต่ว่ามันทำให้เขาคิดนี่! คำชักชวนกลับฟังเหมือนดังเชิญชวน หากเขาตอบรับแล้ว เฟทเองก็ไม่รู้ว่าจะห้ามใจตนได้อย่างไร เมื่ออยู่ในแดนมนุษย์เขาสามารถห้ามใจได้ด้วยต้องคอยระแวดระวังภัยให้กับทั้งสองตลอดเวลา อีกทั้งใจเขาก็พะวงอยู่แต่กับการเดินทางกลับ แต่ในเวลานี้...เขาไม่ต้องพะวงหรือตั้งสมาธิอยู่กับการเดินทางหรือการวางแผนการเดินทาง ไม่มีมนุษย์มากมายรายล้อมหรือต้องระวังไม่ให้ความลับของพวกตนแตก แต่ในเวลานี้...ในเวลาเช่นนี้... ดวงตาของนางนั้นที่มองมาที่เขาทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว ร่างน้อยที่นอนทอดกายอยู่บนเตียงนอน แม้ห่มกายเอาไว้ด้วยผ้า แต่ก็ไม่อาจซ่อนเร้นโครงร่างอรชรของนางได้ ส่วนโค้งที่แสนเย้ายวนใจ ดวงหน้าที่แสนหวาน และดวงตาที่ส่งมา แววตาไหวระริกนั้นทำให้ความเข้มแข็งของเขาแทบหลอมละลาย อยากอยู่กับเฟท เหมือนตอนที่เราเดินทางมาด้วยกัน อยากจะอยู่ใกล้ๆเฟทด้วยกันตลอดเวลา...เหมือนอย่างตอนนั้นอีก มาอยู่ที่นี่...ข้าไม่ค่อยได้พบเฟทเลย ประโยคนั้นทำให้เขาเย็นลงได้ ก่อนจะตัดสินใจนั่งลงข้างๆนาง เอื้อมมือไปจับกับมือบางเอาไว้ส่งผ่านความหนักแน่นลงในแรงบีบหนักๆและความอบอุ่นจากสัมผัสถึงกัน ร้อยยิ้มอ่อนหวานที่มอบความเชื่อมั่นและคำสัญญา นอนเถอะ ข้าสัญญา...เมื่อถึงวันที่ปัญหาทั้งหมดคลี่คลายลง เราจะได้อยู่ด้วยกัน จะต้องรีบแล้ว! ไควานั้นแสนร้อนใจ เมื่อจดหมายเร่งรัดการคืนตำแหน่งให้ตาเฒ่าร็อคโก้มาถึง...อีกทั้งไอ้นักซ่าที่ส่งตัวไปลักพาตัววิหคศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่ส่งข่าวกลับมาเสียที ยิ่งทำให้เขาร้อนรนยิ่งขึ้น... หรือว่าจะไว้ใจมันไม่ได้! บางทีมันอาจจะไม่ได้มีน้ำยาเหมือนชื่อ ยิ่งรอและปล่อยให้เวลาผ่านไป ความหวังในอำนาจของเขาก็ยิ่งน้อยลงไปด้วยเช่นกัน! ไม่ได้การ...นักฆ่าเพียงคนเดียวอาจไม่สามารถต่อกรกับถ้ำไคเมร่าได้...บางทีเขาจะต้องบุกจากหลายทาง เดี๋ยวก่อน! ครั้งก่อนที่เขาได้ส่งนักฆ่าไปลอบสังหารตาเฒ่านั้น อาจจะเป็นเหมือนกับการแหวกหญ้าให้งูตื่นแล้วก็เป็นได้ ไความองจดหมายที่เขาขยุ้มไว้ในมือ... ในเมื่อไม่ได้ด้วยกล มันก็ต้องเอาด้วยเล่ห์! พวกมันอาจจะไม่ได้คิดว่าเขาจะเล่นลูกไม้กับพวกมัน จดหมายเร่งรัดนี่อาจจะเป็นโอกาสของเขาที่พวกมันหยิบยื่นให้อย่างไม่รู้ตัวก็ได้...นกร้ายยิ้มกับตนเอง...เขาจะใช้การคืนตำแหน่งนี่แหละ เป็นโอกาสฆ่าตาเฒ่านั่น! เมื่อเฒ่าร็อคโก้ไม่ได้อยู่ในถ้ำไคเมร่าอีกต่อไป ก็ไม่มีใครจะคุ้มหัวมันได้อีก! ไควาเร่งเดินอ้อมไปดึงกระดาษออกมาสองแผ่นและลงมือเขียนจดหมายสองฉบับ ฉบับหนึ่งลงคั่งประทับตอบกลับจดหมายเร่งรัดของสภา ส่วนอีกฉบับปิดผนึกเอาไว้สอดเข้าใต้ปลอกขาสีดำของเหยี่ยวตัวใหญ่แล้วปล่อยให้มันโบยบินออกไป ในเมื่อนักฆ่าเพียงคนเดียวไม่สามารถนำตัวหญิงสาวในถ้ำไคเมร่ามาได้ เช่นนั้น...นักฆ่าทั้งโขยงคงต้องสำเร็จสักคนนั่นแหละ...แล้วทีนี้พวกแกจะทำยังไง พวกแกจะปกป้องลูกนกจากฝูงแมวหิวทั้งฝูงได้อย่างไร! ไควาหัวเราะอย่างชอบใจกับความคิดของตนเอง เสียงของเราะที่ดังก้องไปทั่วทั้งห้องอย่างบ้าคลั่งในยามวิกาลอันเงียบสงัดนี้... แม้ว่าคืนนั้นเฟทจะไม่ได้เข้านอนร่วมเตียงตามคำเชิญของหญิงสาวก็ตามที แต่เขาก็กุมมือหญิงสาวอยู่ข้างๆตลอดทั้งคืนจนกระทั่งถึงเช้า เขาก็ตื่นขึ้นมาในอาการเมื่อยขบ ฟีต้ายังคงหลับอยู่ ท้องฟ้าก็ยังไม่สว่างเท่าไรนัก สายลมเย็นๆในยามเช้าก็พัดหอบเอากลิ่นน้ำค้างและความชุ่มชื่นของผืนดินลอยเข้ามาภายในห้อง ทำให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้น นางช่างดูบอบบางเสียเหลือเกิน บอบบางมากเสียจนเขากลัวเหลือเกิน... ฟีต้ามีสายเลือดของนกศักดิ์สิทธิ์อยู่ครึ่งหนึ่ง นางครอบครองสิ่งที่คนหลายคนไขว่คว้า ความเป็นนิรันดร พรจากเทพเจ้าที่เป็นดุจคำสาปของนาง สายเลือดของโอราเคิลที่ทำให้คนในแดนมนุษย์หวาดกลัว รังเกียจ สายเลือดและอำนาจที่ทำให้เผ่าพันธุ์นี้เกือบสิ้นสลายลงไปจากการตามล่าดุจสัตว์ป่าตัวหนึ่ง แม้ว่าพวกเขาจะมีร่างกายเป็นมนุษย์ก็ตาม... ในเวลาที่เขาคิดว่าความโหดร้ายนั้นมีเพียงมนุษย์ผู้โลภโมโทสันเท่านั้นที่ครอบครอง แต่ในยามนี้เขากับได้ประจักษ์ว่าไม่เพียงมนุษย์เท่านั้นที่มีความโลภเช่นนั้น และความเลวร้ายเช่นนั้นไม่ได้เกิดเพียงในแดนของมนุษย์ แม้แต่คนในเผ่าพันธุ์เดียวกันของเขาเองผู้เรียกตนว่าเป็นผู้รักสงบ ก็ยังมีคนโหดร้ายเช่นนั้นอยู่ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเผ่าพันธุ์ไหน ก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย สิ่งที่เขาพบ เป็นสิ่งที่บอกกับเขาว่าสิ่งที่ผู้คนของเขาคิดเกี่ยวกับดินแดนทั้งสองนั้น...มันผิดไป เพราะไม่ว่าดินแดนของเขาหรือของมนุษย์นั้นดำเนินไปไม่แตกต่างกัน ผืนดินและธรรมชาติที่เกิดและดำรงอยู่ในดินแดนทั้งสองนั้นบริสุทธิ์เสมอกัน จิตใจอันดำมืดเกิดขึ้นจากตัวของคนผู้นั้นเองต่างหาก หรือว่าตัวตนของคนจะเป็นเหตุแห่งความชั่วร้ายอย่างนั้นเหรอ? เฟทรู้สึกสับสนจนใจเป็นที่สุด ฮือ...เฟท... เสียงใสๆดังขึ้น และดึงเขาออกมาจากความครุ่นคิด ไคเมร่าหนุ่มจึงหันมายิ้มให้กับนาง ยิ้มให้กับภาพของหญิงสาวที่ยกมือของตนขึ้นขยี้ตาเหมือนเด็กน้อยเพิ่งตื่นนอนและเปิดปากหาวหวอดอย่างน่าเอ็นดู อรุณสวัสดิ์ ชายหนุ่มเอ่ยทักทาย อรุณสวัสดิ์ค่ะ รอยยิ้มแรกรับวันใหม่ที่แสนสดใส ในสายตาของเขาฟีต้าช่างบริสุทธิ์ผุดผ่องโดยแท้ หรือจะเป็นเพราะเช่นนี้ที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากจะทะนุถนอมนางไปแสนนาน... ต้องปกป้องนางไว้ให้ได้!
Free TextEditor
Create Date : 30 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 30 มิถุนายน 2551 17:16:00 น. |
|
0 comments
|
Counter : 226 Pageviews. |
|
|