~* SumiTra is a Pali name...it means 'GooD Friend'. *~
คิมหันต์ที่ 3/1

Chapter 3


นานจริงๆ เสียด้วย!


เฟทนั่งทนฟังเรื่องราวของท่านหัวหน้านกเกริ่นตั้งแต่ต้นอย่างอดทนสุดความสามารถอันน้อยนิดที่มี เริ่มต้นขึ้นจาก...


“สมัยข้าเพิ่งเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าเหล่าวิหค ณ เวลานั้น ยังวิหารด้านบนยังคงมีวิหคเพลิงอมตะพำนักอยู่ เป็นเพียงวิหารเล็กๆ และยังเป็นเวลาเดียวกันของข้าและนาง ร่วมรับตำแหน่งอย่างพร้อมเพรียง...นางเป็นผู้ประกอบพิธีให้แก่ข้าหลังจากที่นางเข้ารับตำแหน่งก่อนหน้าเพียงชั่วยาม พิธีนั้นช่างงดงามเหนือคำบรรยาย...”


แล้วชายผู้นั่งฟังก็แทบหลับคาที่เท้าแขนแล้วด้วย...ทว่า คนเล่าดูเหมือนจะไม่ทันสังเกต


“นางผู้นั้นช่างงดงามประดุจเทพธิดาในชุดขาวบริสุทธิ์ ข้าหลงใหลในตัวนางในทันทีที่ได้สบตาสีทองคู่นั้น...นับแต่นั้นเป็นต้นมา ข้าปรารถนาเพียงได้เห็นนางสักช่วงเสี้ยววินาทีทุกๆ วันเพื่อกล่อมจิตใจอันเดียวดายของข้าให้สงบลง ทว่านานวันใจของข้ากลับยิ่งร้อนรุ่มขึ้นทุกที จากเพียงเสี้ยววินาทีกลายเป็นการพูดคุยยาวนาน หัวใจของข้าไม่อาจจะหยุดยั้งความรู้สึกที่มีต่อนางเอาไว้ได้...”


โรมานซ์มากเลยท่าน...เฟทนึกในใจ พลันเจ้าคนที่แอบเบื่อก็ลุกนั่งตั้งใจฟัง แอบลุ้นระทึกว่าเมื่อไหร่จะมีฉากเด็ดออกมา!


“แล้วเราทั้งสองก็กระทำผิดกฎอันไม่อาจจะให้อภัยได้...”


เอาแล้ว! ถึงตรงนี้ไอ้ที่รู้สึกเหมือนจะหลับคาที่ก็ตาตื่นสดชื่นขึ้นมาทันตาเสียอย่างนั้น...


“ข้ากับนางได้ตกหลุมรักซึ่งกันและกัน นั่นผิดกฎอันยิ่งใหญ่ของเผ่าวิหค นักบวชหญิงพรหมจรรย์ห้ามมีความรักจวบจนวันสิ้นชีวิต...ท่านคงทราบดีว่า วิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์เช่นฟีนิกซ์ ที่เมื่อยามสิ้นชีวาก็จะกลายเป็นลูกไฟเผาผลาญกายาแล้วเกิดใหม่อีกครั้งจากเถ้าถ่าน”


เฟทพยักหน้าอย่างรับรู้และเอ่ยตอบรับด้วยน้ำเสียงสงบ “ได้ยินตามตำนานกล่าวไว้เช่นนั้น”


“มันหาได้เป็นตำนานไม่หรอก ท่านเฟท เรื่องเล่าทั้งหลายนั้นเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งสิ้น โดยเฉพาะเรื่องที่ข้าเป็นสาเหตุที่ทำให้นางต้องหายตัวไป...”


ถูกต้องแล้ว ทุกๆตำนานเล่าขานที่เกิดขึ้นในโอราเคลนั้น มักไม่ได้เป็นเพียงแค่ตำนาน! ล้วนแล้วต้องเคยเกิดขึ้นมาก่อน และด้วยข้อความนั้นหัวหน้าเผ่าวิหคได้เงียบไปช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้ไคเมร่าหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น เมื่อเห็นว่า...มันชักจะเงียบนานไปหน่อยแล้ว...


“เกิดอะไรขึ้นกับนางหรือครับ ท่านไควา?”


พญานกหนุ่มใหญ่ค่อยๆ หลับตาลงราวกับเจ็บปวด พลางก็ทอดถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง สีหน้าแสดงความเหนื่อยล้า สีหน้าของชายผู้มากด้วยวัยอันยืนยาวหม่นหมองราวกับไม่เคยมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้านั้นแม้สักนาทีหรือเสี้ยววินาที


“เป็นเพราะข้า นางได้หายตัวไปจากวิหารอย่างไร้ร่องรอยในคืนหนึ่งอันไร้จันทร์ ว่ากันว่าเทพีแห่งจันทราได้ลักพาตัวนางไป แต่ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก แต่เป็นเพราะข้าเอง ข้าริอาจเอ่ยคำรักกับนาง ทำให้นางต้องระทมทุกข์อย่างแสนสาหัส โศกเศร้าไร้รอยยิ้มบนดวงหน้าอันแสนงามนั้น”


เฟททำหน้าแหยที่สุด ก่อนที่สมองจะสั่งการต่อไปนั้นเอง ความคิดแรกที่เฟทหนุ่มนึกออกก็คือ...


เจ้าพ่อบ้า เอางานหินนี่ไว้ให้สุดท้ายนี่เอง...ฮึ่ม!


“เช่นนั้นท่านปรารถนาให้ข้า ออกตามหานาง?”


“ถูกต้องแล้ว...ข้าปรารถนาจะพบนาง...” หัวหน้าเผ่าวิหคผู้สง่างามเอ่ยด้วยดวงตาฉายซึ่งความหวัง ทว่า คำพูดที่เฟทจะเอ่ยต่อไปทำให้ชายผู้สูงวัยกว่ามากมายนั้นต้องสลดลงพลัน


“เพื่ออะไร? และเพราะอะไรที่ทำให้ท่านตามหานาง...ทั้งๆที่เวลาได้ผ่านมาเนิ่นนานถึงเพียงนี้แล้ว?”


“ขะ...ข้า...” ไควานิ่งอึ้งไปชั่วอึดใจ ก่อนเขาจะถอนหายใจออกมา...อีกครั้ง “นั่นเป็นเพราะเผ่าไม่อาจจะขาดนางได้...”


ไคเมร่าหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นนิดๆ ไม่เชื่อในคำตอบของชายเบื้องหน้าแม้แต่น้อยนิด หากเขาหลบเร้นสีหน้าของตนนั้นเอาไว้ได้แนบเนียน...


“ที่นี่เองสินะ...ซานซาเรีย...”


เสียงทุ้มเคร่งขรึมเอ่ยขึ้นเพียงรำพึง ดวงตาคมหลังผ้าคลุมเก่าคร่ำคร่านั้นเงยขึ้นมองไปยังรูปสลักรูปหญิงสาวกับสุนัขป่าซึ่งประดับเอาไว้อย่างงดงามกลางลานน้ำพุกลางเมือง


วันเวลาที่เลยผ่าน ซานซาเรียแปรเปลี่ยนจากหมู่บ้านเล็กๆ กลายมาเป็นเมืองใหญ่ จนในที่สุดก็กลายเป็นประเทศซานซาลอว์อย่างทุกวันนี้


แม้จะอยู่ใกล้ชายแดนอันมีการรบพุ่งกันบ่อยครั้ง หากผู้คน ณ สถานที่แห่งนี้ก็ยังคับคั่งไม่แปลเปลี่ยน ด้วยมนต์เสน่ห์ของตำนานอันลือลั่น ซานซาลอว์ถูกโจมตีด้วยข้าศึกหลายครั้งจนจำต้องโยกย้ายศูนย์กลางการปกครองให้ห่างออกมาจากอดีตหมู่บ้านซานซาเรียเดิมขึ้นเรื่อยๆ หากสิ่งที่ยังไม่เคยเปลี่ยนไปก็คือรูปสลักจากหินแกรนิตนี้...รูปสลักจากตำนานที่ชาวบ้านสร้างและสืบต่อพร้อมๆ ไปกับเรื่องเล่าขานของพวกตน มีร่องรอยจากสงครามเหลือเอาไว้เป็นประวัติศาสตร์และเสริมสร้างมนต์เสน่ห์ลี้ลับให้กับอาคารทุกหนทุกแห่ง


จัตุรัสแห่งนี้เป็นย่านใจกลางเมืองเก่าที่มีการค้าขายและผู้คนเดินทางป่านหนาแน่นที่สุด มิหนำซ้ำยังเป็นจุดนัดพบยอดนิยมอีกด้วย ร่างสูงในชุดเสื้อคลุมนักเดินทางผิวปากหวือก่อนควักเหรียญสีทองออกมาจากถุงเงินเหน็บสะเอว แล้วจัดการดีดเจ้าเหรียญนั่นลงไปอันเป็นวิธีการขอพรของผู้มีความเชื่อทั้งหลายว่าหากปรารถนาสิ่งใดให้สมหวังต้องประสงค์แล้วต้องให้กระทบโดนตัวจ้าวภูผาสลักหินด้านบนสุดให้จงได้ และเพราะความสูงจึงยากนักที่จะดีดด้วยสองนิ้วให้โดนได้ หากเหรียญนั่นกลับลอยกระทบรูปสลักง่ายดายโดยคนดีดจงใจให้โดนตรงส่วนหัวสุนัขป่าอย่างแม่นยำ


“อวยพรให้ข้าด้วยละกันนะ ท่านพ่อท่านแม่                             


แล้วร่างนั้นก็หมุนตัวลับหายไปท่ามกลางฝูงชนอันคับคั่งนั้นอย่างว่องไว


หอสมุดเก่าแห่งนครซานซาเรีย สถานที่อันโอ่อ่ารโหฐานเป็นอย่างยิ่ง ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานอันรวบรวมสรรพตำราต่างๆ อันทรงคุณค่าของทั่วทั้งทวีปนี้เอาไว้ หอคอยสูงสว่างด้วยแสงที่ลอดผ่านเข้ามาจากผนังซึ่งถูกเจาะช่องเป็นหน้าต่างบานสูงครึ่งวงแบบอาร์คพ็อยเป็นระยะประดับลวดดัดลวดลายอ่อนช้อย เว้นระยะด้วยผนังทึบที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นชั้นหนังสือขนาดใหญ่อัดแน่นไปด้วยหนังสือมากมายเรียงรายหลากสีเวียนขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นวงกลมรอบผนังหมุนขึ้นไปเรื่อยๆจนสามารถมองเห็นเป็นวงก้นหอยราวกับไร้ที่สิ้นสุด


กลิ่นกระดาษเก่าทำให้สถานที่แห่งนี้ขลังยิ่งขึ้น อีกทั้งบรรยากาศทึมๆก็ยังก่อให้เกิดความรู้สึกน่าเกรงขาม และด้วยมนต์ขลังอันเดียวกันนี้ทำให้สถานที่ซึ่งเป็นหอสมุดนั้นเงียบเชียบ และแม้จะมีปราชญ์และผู้แสวงหาความรู้เดินกันไปมาอยู่ลิบๆ ตามเวียนชั้นต่างๆ ก็ตาม อีกทั้งรอกที่เลื่อนขึ้นลงช้าๆ อยู่ตรงกลางของตัวหอคอยที่ใช้สำหรับขึ้นลงสะดวกไม่ต้องเดินเวียนขึ้นไปจนถึงด้านบนสุดซึ่งแม้จะเก่าก็ยังแทบจะไร้เสียง เขาก็ยังสามารถรับรองได้เต็มปากว่า ขอแค่มีเข็มร่วงลงพื้นิดเดียวเท่านั้น เสียงนั่นก็สามารถดังก้องไปทั้งหอสมุดแห่งนี้!


ด้านล่างสุดปลายทางขึ้น คือโต๊ะของบรรณารักษ์ชราและผู้ช่วยของเขาซึ่งเป็นเด็กสาวท่าทางคงแก่เรียนกำลังง่วนอยู่กับหนังสือต่างๆ ของนาง


ร่างสูงเดินตรงไปยังโต๊ะนั้นอย่างไม่รอช้า...


“ข้าต้องการหาหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องเล่าและตำนานโบราณต่างๆ ที่เกิดขึ้นนับถอยหลังไปสักยี่สิบปี...ไม่ทราบว่าข้าจะหามันได้อย่างไร...?” ชายในชุดเสื้อคลุมนักเดินทางพเนจรเอ่ยกับผู้เฒ่าเคาขาวผู้เป็นบรรณารักษ์ของหอสมุดแห่งนี้ ดวงตาสีเทาทรงภูมิชำเลืองขึ้นมองเพียงแวบก็ก้มลงให้ความสนอกสนใจกับตำราเล่มหนาของตนเช่นเดิม ก่อนยื่นมืออันเหี่ยวย่นด้วยวัยอันมากมายไปเคาะกระดิ่งสีทองแวววาวบนโต๊ะตรงหน้าตนส่งเสียงแหลมก้องไปทั้งหอสมุดดังคาด! ทำให้เด็กสาวเงยหน้าขึ้นจากงานของนาง...


“มีอะไรให้ข้ารับใช้คะ?” เด็กสาวที่มีดวงตาสีเทาไม่ต่างกันซึ่งซ่อนอยู่หลังแว่นครึ่งวงกลมกรอบหนาของนางสบตาเขาแล้วเอ่ยถามพลางยิ้มแย้มต้อนรับให้อย่างอบอุ่น


“ข้าต้องการหาตำนาน เรื่องเล่า หรือไม่ก็บันทึกเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นบนพิภพนี้ย้อนหลังไปยี่สิบสามสิบปีถึงสองร้อยปี ไม่รู้ว่าข้าจะพบมันได้อย่างไร?” ชายหนุ่มเอ่ยทวนอีกครั้งอย่างใจเย็น พลางดวงตาสีอำพันก็แอบชำเลืองไปมองผู้เฒ่าด้านหลังที่แอบชำเลืองมองเขาเช่นกัน


“บันทึกต่างๆ ย้อนหลังไปยี่สิบปีจะเริ่มตั้งแต่งชั้นที่สิบสองเป็นต้นไปจนถึงชั้นที่ยี่สิบ ส่วนเรื่องเล่าและตำนาน จะอยู่ด้านบนสุดลงมาจนถึงชั้นที่ร้อยสี่ ท่านสามารถใช้รอกตัวที่สี่นับจากขวาที่อยู่ด้านนั้นเพื่อขึ้นไปยังชั้นที่สิบสองได้ค่ะ และด้วยรอกตัวเดียวกันท่านสามารถขึ้นไปจนถึงชั้นเจ็บสิบสี่เพื่อต่อรอกอีกตัวขึ้นไปยังชั้นที่เก้าสิบแปด แต่หลังจากนั้นท่านต้องเดินต่อขึ้นไปเองค่ะ แต่ท่านไม่ต้องห่วงเพราะยิ่งชั้นสูงบันไดก็จะยิ่งชันและแคบขึ้น เดินไม่กี่ขั้นท่านก็จะถึงชั้นที่ร้อยสี่แล้วล่ะค่ะ” เด็กสาวอธิบายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หากชายหนุ่มกลับชักสีหน้าหนักใจ...


มิน่าเล่า หอสมุดแห่งนี้ถึงได้ไม่เป็นที่นิยม...ดูจากจำนวนคนที่เข้าใช้ก็พอจะเข้าใจอยู่ว่า หากมีใครสักคนที่เพียงอยากได้หนังสือเกี่ยวกับการทำอาหารพื้นเมืองเล่มเดียวคงไม่เลือกมาใช้งานหอสมุดนี้แหงๆ ต้องเป็นหนังสือหายากจริงๆ เท่านั้นและต้องจำเป็นมากๆ จริงๆ จึงยอมลากสังขารเข้ามาใช้งานกันล่ะ!


แล้วชายหนุ่มเอ่ยพึมพำเป็นการขอบใจ ขณะที่เด็กสาวได้บอกข้อมูลเพิ่มเติมแก่เขาเป็นเวลาเปิดปิดสถานที่แห่งนี้...


แต่คนที่ต้องปีนขึ้นไปจนถึงชั้นที่เจ็ดสิบหรือแปดสิบ ก็คงไม่นึกอยากลงมาจนกว่าจะถึงเช้าในวันรุ่งขึ้นหรอก...


รอกที่ว่าเป็นรอกไม้โครงเหล็กดัดซึ่งมีโซ่เป็นรอกให้สาวขึ้นไป...ชายหนุ่มมองอย่างหนักใจ ถึงมันจะดูง่ายและไม่หนักนักในการดึงรอกให้เลื่อนขึ้นไป...แต่จำนวนชั้นที่ต้องขึ้นก็ใช่ว่าจะน้อยๆ เสียที่ไหน เมื่อเขาเงยขึ้นไปเห็นชายอีกคนท่าทางบึกบึนกำลังชักรอกอีกตัวขึ้นไปจนถึงชั้นบน...เฟทกะคะเนในใจว่าน่าจะเป็นประมาณชั้นที่สิบเจ็ดหรือสิบแปดนั่นแหละ...


ชั้นที่เก้าสิบแปดรึ? หากจะต้องชักรอกขึ้นไปถึงขั้นนั้นเขาก็คงจะบ้าเต็มทีแล้วล่ะ...


แสงตะวันค่อยๆ ราและลับไป แทนด้วยแสงจันทร์เดือนเพ็ญในคืนคิมหันต์ร่างสูงที่หลบซ่อนจากสายตาผู้คนแนบเนียนอยู่กับตู้หนังสือก็ค่อยๆ เนิบคลานออกมาอย่างช้าๆ จากใต้ม้ายาวข้างตู้หนังสือใหญ่ที่ถูกจัดเอาไว้สำหรับให้ผู้เข้ามาใช้ห้องสมุดได้ใช้งานเป็นที่นั่งพักอ่านหนังสือชั่วคราว


กว่าที่เขาจะชักรอกตัวเองขึ้นมาจนถึงชั้นที่สิบสองนี้ได้ก็แทบแย่ รอกก็ทั้งเก่าทั้งแก่แถมยังฝืดอีก กว่าจะขึ้นมาถึงชั้นที่ต้องการได้ก็ทำเอาหอบแฮ่ก ขนาดที่เขาออกจะเป็นชายหนุ่มร่างกายแข็งแรงที่ชอบออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้วยังว่าแย่เลย!


มาถึงได้ก็เล่นเอาเกือบหมดแรง จึงถือเป็นโอกาสหาที่หลบนอนสักงีบเพื่อรอเวลาค่ำ


ผู้คนที่ว่าน้อยอยู่แล้ว พอมืดแสงสว่างจากหน้าต่างเริ่มจางไปก็พากันหาที่มุดหัวนอนเพราะถึงจะพยายามอ่านต่ออย่างไร เพียงแสงจากเทียนไขด้ามเล็กที่ต้องแอบๆ ซ่อนๆ จุดก็ไม่เพียงพอจะใช้อ่านให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่ดี เพราะหอสมุดนี่ พอหกโมงปุ๊บแม่เด็กบรรณารักษ์ก็ตะโกนลั่นไล่คนออกหมด คนที่เข้ามาอ่านหนังสือบนชั้นสูงๆ ก็พากันหลบพรึบหลบพรับไปหมดเพราะกว่าจะปีนขึ้นมาถึงชั้นที่ต้องการได้ก็ยากจะแย่ แถมหนังสือที่จะหายังไม่ได้จะให้กลับลงไปแล้วมาใหม่ อีแบบนี้ เอามีดมาไล่แทงกันให้ตายเสียเลยยังดีกว่าฆ่ากันด้วยวิธีทำให้หมดแรงทีละน้อยแบบนั้นเสียอีก! เช่นนั้นเองจึงต้องหันหาอีกทางเลือก เมื่อไม่ยอมลงก็ต้องหามุมหลบหลับนอนมันที่นี่นั่นแหละ! แล้วตื่นขึ้นมาหาต่อเมื่อตอนฟ้าสางตะวันแจ้งแสงส่องฟ้าอีกทีไม่ต้องเสียเวลาปีนขึ้นป่ายลงให้หมดแรงตาย...





Create Date : 30 มิถุนายน 2551
Last Update : 30 มิถุนายน 2551 17:46:53 น. 0 comments
Counter : 209 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ArTimuS
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





PhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucket


นิยายอัพเดท...Photobucket

-ปฏิบัติการหักร้างถางรักPhotobucket
เรื่องราวความรัก แนวโรแมนติกดราม่า ของชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งเลิกลากันไป แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็กลับมาเพื่อขอเคียงคู่เธออีกครั้ง ความรักแสนเศร้าครั้งนี้จะเป็นอย่างไร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนิยายรักพลาดได้นะคะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-คีตคิมหันต์ Photobucket
ภาคต่อจากเรื่องลำนำเหมันต์ เมื่อคุณพ่อคนเก่งลงโทษคุณลูกตัวแสบให้ออกติดตามหาวิหคศักดิ์สิทธิ์จนนำไคเมร่าหนุ่มไปยังโลกมนุษย์จนได้พบกับเด็กสาวผู้อาภัพและเหตุการณ์เหนือความคาดฝัน นิยายแฟนตาซีโรแมนติกที่แฟนนิยายมกราไม่ควรพลาดค่ะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-Love Happening
เรื่องสั้นของสองหนุ่มสาว และความไม่เข้าใจกัน อุปสรรค และมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาล (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)Photobucket

-Pretty Doll
เรื่องสาวผู้น่ารักของเมทสาวกับนายหนุ่มจอมเสเพลที่เก็บเธอมาเลี้ยง เรื่องรักกุ๊กกิ๊กแนวโรแมนซ์แสนฮาเฮ (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)PhotobucketPhotobucket

- Love in Rain
รวมเรื่องสั้นของเจ้าของบ้าน เรื่องราวความรัก และสายฝนอันชุ่มฉ่ำ



Photobucket
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ArTimuS's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.