คิมหันต์ที่ 19/1
Chapter 19 ร่างของผู้ที่กำลังจะถูกริดทอนอำนาจออกไปจากมือตนนั้นกำลังเดินวนไปมาราวเสือติดจั่น ดวงตาคุกรุ่นไปด้วยความร้อนรน ไม่น่าเชื่อเลยว่า แทนที่เขาจะได้นกอมตะกลับมา กลับกลายเป็นว่าได้ตาเฒ่าเจ้าปัญหานี่กลับมาแทน! แผนการทั้งหมดมันกลับผิดพลาดไปเสียหมด ทั้งๆที่ตั้งใจว่าเมื่อได้นกอมตะมาครอง เขาก็จะได้ชีพอมตะมาครอบครองด้วย ที่ไหนได้...ไอ้ไคเมร่าตัวแสบนั่นมันดันพาตาเฒ่าจอมยุ่งกลับมาแทน ทั้งที่อุตส่าห์คิดว่าจะได้หลอกใช้มันฟรีๆ แท้ๆ ทำให้ตอนนี้แผนการที่วางเอาไว้แต่แรกต้องพังคลืนลงมาไม่มีชิ้นดี สภาโอราเคิลต้องการให้เขาคืนตำแหน่งให้กับผู้เฒ่าที่กลับมาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตน! ไควาไม่ลืมช่วงเวลาที่ตนถูกต้อนโดยไอ้สมิงจอมสอดนั่นต้อนเอาเสียจนมุม! ทั้งเจ็บแค้นและอับอาย ทั้งๆ ที่คิดว่า หากเอาภารกิจที่ล้มเหลวของไอ้หนุ่มไคเมร่ากระดูกอ่อนนั่นบังหน้า เพื่อเบี่ยงประเด็นแล้วแท้ๆ แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เมื่อทุกสิ่งพลิกจากความได้เปรียบเป็นเสียเปรียบทันทีที่ เจ้านกแก่ตัวร้ายเดินเข้ามาในสภาฯ! นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเผ่าของเรา อันที่จริง...เมื่อจ้าวเผ่าคนก่อนหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าวผู้ใดเป็นเวลานานเช่นนี้ก็เห็นสมควรอยู่แล้วที่จะต้องมีการแต่งตั้งใหม่ขึ้น! อีกทั้งยังเห็นชัดอยู่แล้วว่า...นอกจากข้าแล้วไม่มีทายาทคนใดเหลืออยู่อีกในสายตระกูล ข้าจึงมีสิทธิในตำแหน่งนี้! ทั้งข้ายังดำรงในตำแหน่งมาช้านานไม่เคยมีผู้ใดคัดค้าน อีกทั้งอดีตจ้าวแห่งเผ่าคนก่อนละทิ้งเผ่าของตนเองไป โดยมิได้บอกกล่าวหรือฝากฝังผู้ใด!! ซึ่งนั่นไม่จริงเลย...มีผู้ยื่นคำร้องแก่สภาฯ เกี่ยวกับการปิดบังความจริงอันมิชอบด้วยเจตนา ข้อกล่าวหาได้บอกว่าท่านได้บิดเบือนคำฝากฝังของจ้าวเผ่าคนก่อนโดยเจตนามิชอบ โดยทำเป็นไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการออกเดินทางท่องโลก เพื่อค้นหาความรู้ตามธรรมเนียมเก่าแก่ของเผ่าที่ผู้เป็นจ้าวต้องพึงปฏิบัติในทุกหนึ่งพันปีนอกจากนั้นแล้ว...เรื่องการจากไปอย่างมีเงื่อนงำของเหล่าทายาทท่านผู้เฒ่าร็อคโก้ ก็ยังไม่ได้ความกระจ่าง และตราบที่ยังไม่มีการสรุปการสอบสวน การแต่งตั้งจ้าวคนใหม่ก็มิอาจเกิดขึ้นได้ตามบัญญัติของเผ่าวิหค นั่นทำให้การก้าวสู่ตำแหน่งของท่านจึงเกิดขึ้นโดยมิชอบ! เซลดัลกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยใจเย็นขัดกับทีท่าของนกหนุ่มใหญ่ มีคำร้องเรียนเพิ่มเติม ต่อสภาแห่งโอราเคิลไต่สวนในเรื่องนี้ โดยผู้ยื่นคำร้องแจ้งว่า ท่านคือผู้ที่วางแผนลอบสังหารทายาทของผู้เฒ่าร็อคโก้เพื่อขึ้นสู่ตำแหน่ง รวมทั้งยังวางแผนพยายามสังหารท่านผู้เฒ่าอีกด้วย ใครมันบังอาจ! ไควาตบโต๊ะประชุมดังกึกก้อง ดวงตาวาวโรจด้วยเพลิงโทสะแรงร้อน ปึ้ง! ข้าไง! น้ำเสียงอันบ่งถึงความทรงอำนาจในตนของผู้เปล่งรณอันกึกก้องนี้ ทำให้ทุกผู้ทุกตนในห้องประชุมอันกว้างใหญ่นั้นหันมาจับจ้องด้วยความตกใจเป็นตาเดียว ร่างในชุดขาวปลอดสุกสกาวดวงหน้าอันเรียบขรึมทรงภูมิและดวงตาฉายแสงแห่งปัญญาอันเฉียบแหลมและการุณย์ อีกทั้งรอยริ้วอันบ่งบอกถึงวัยวุฒิที่สูงส่ง ทำให้ทุกตนลุกขึ้นยืนต้อนรับการปรากฏกายพร้อมเพรียง! ท่านผู้เฒ่าร็อค เฟค้อมศีรษะเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพต่อผู้สูงวัยกว่านอบน้อมเหมาะสมและเพียงพอ และกล่าวทักทายอย่างชิดเชื้อด้วยน้ำเสียงนอบน้อมเรียบขรึมในที ก่อนที่จะพยักหน้าให้เฟทเข้าไปช่วยร่างเล็กที่ประคองท่านผู้เฒ่าเข้ามาประคองผู้เฒ่าร็อคโก้ หากโดนห้ามไว้ด้วยกันยกมือรวดเร็วบอกถึงความกระฉับกระเฉงของผู้สูงวัยแม้จะย่างเข้าสู่วัยชราแล้วก็ตาม ผู้ร้องเรียนคือข้าเอง... ไควาอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง นึกย้อนไปเมื่อครั้งที่ส่งนักฆ่าเผ่าโครวออกไปตามล่าพวกมันทั้งสองให้ดับดิ้นสิ้นชีพในแดนมนุษย์แล้วแท้ๆ แต่ในเมื่อมันน่าจะตายไปแล้วเหตุใดมันจึงยังมาเสนอหน้าอยู่ตรงนี้ได้อีก! สีหน้าแบบนั้นของไควาทำให้เฟทรู้สึกสะใจนิดๆ ซึ่งสำหรับเขาเองที่อึ้งและทึ่งไม่ได้แตกต่างกันเมื่อได้พบท่านผู้เฒ่าอีกครั้งหากเป็นครั้งแรกบนแผ่นดินโอราเคิลที่ห้องทำงานของบิดาในครานั้น เขาก็เฝ้ารอเวลาที่จะได้เห็นไควาทำหน้าจืดเช่นนี้มาตลอด แต่ทันทีที่ตั้งสติได้ ไควาก็ตีสีหน้าดีใจอย่างสุดซาบซึ้งกับการปรากฏกายของชายตรงหน้า... อา...ท่านตา! ท่านยังมีชีวิตอยู่...ข้าดีใจเหลือเกิน! เฟและเฟทเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกันราวกับเงาสะท้อนในกระจกเว้นเสียก็แต่ว่าไม่ได้หันหน้าเข้าหากันก็เท่านั้น ไควาช่างเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง เมื่อเขาเข้าไปก้มลงจุมพิตแทบเท้าของผู้เป็นตาราวกับว่าเขาตื้นตันใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบญาติผู้พลัดพรากจากไปอีกครั้ง ก่อนที่จะเข้าบทโอดครวญ โธ่ ท่านตา ทำไมท่านถึงได้ยื่นคำร้องต่อข้าเช่นนี้ ท่านรู้หรือไม่ข้าติดตามหาท่านนานนับร้อยปี แต่ไม่ได้ข่าวคราวของท่านเลย จนข้าอับจนหนทาง พวกที่ปรึกษาก็ไม่อาจจะทนรอท่านตามที่ข้าบอก เฝ้าแต่จะคอยเร่งวันเร่งคืนให้ข้าขึ้นเป็นผู้นำทั้งๆ ที่ข้าไม่ปารถนาเลย... นั่นแสดงว่าอันที่จริงแล้ว เจ้าไม่ได้อยากจะเป็นจ้าวเผ่านกเลยสินะ ไควา ผู้เฒ่าร็อคโก้เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึมดุจเดิม เมื่อเป็นเช่นนั้นเจ้าคงไม่มีปัญหา หากจะคืนตำแหน่งจ้าวเผ่าให้กับข้า! ข้าโดนพวกมันต้อนเสียจนมุม! พวกมันบังคับให้ข้าต้องยอมรับข้อเสนอของมัน เตะข้าออกจากตำแหน่งที่เหมาะสมกับข้าที่สุด! ไม่สิ...ยังไม่ที่สุด ตำแหน่งอันสูงสุดต่างหากที่เหมาะสมคู่ควรของข้า ไม่ใช่ไอ้ไคเมร่าน่ารังเกียจนั่น! ใช่แล้ว...ต้องเป็นข้า... เพราะข้าเกิดขึ้นมาเพื่อยิ่งใหญ่!!! และทางของชายผู้ยิ่งใหญ่นั้นย่อมมีอุปสรรค ใช่...แม้จะต้องเหยียบย่ำไปบนกองกระดูกและซากศพเน่าเปื่อยของพวกมันก็ตาม! ใช่แล้ว...และสิ่งนั่น...จะทำให้รสชาติแห่งชัยชนะหอมหวานยิ่งนัก... เพื่อกันไม่ให้หญิงสาวเบื่อ ซัลฟาจึงวางอุบายเสนอให้หญิงสาวได้รับการศึกษาตามอัธยาศัย... ฟีต้าจึงกระตือรือร้นขึ้นมาทันทีและเลือกที่จะเริ่มจากการพาการเรียนเขียนอ่านภาษา แม้ว่าภาษาที่ใช้ในโอราเคิลจะไม่แตกต่างจากโลกภายนอกก็ตามที แต่ด้วยการใช้ชีวิตอย่างลำบากมานานนับปีของนางทำให้ฟีต้าไม่เคยได้รับการสอนหนังสืออย่างจริงจังเลยสักครั้ง ข้าฝันมานานแล้วว่าอยากจะมีเวลาอ่านหนังสือสักเรื่อง แล้วก็อยากจะลองเขียนจดหมายดูสักครั้ง ตอนที่ทำงานรับซักเสื้อผ้าให้คนในหมู่บ้าน ข้าเห็นพวกสาวๆ ในหมู่บ้านคุยกันสนุกสนานเกี่ยวกับนิยายเล่มใหม่ พระเอกผู้กล้ากับเรื่องราวน่าตื่นเต้นของการผจญภัย ข้าเองก็อยากจะลองอ่านดูสักครั้ง... ด้วยเหตุผลนี้เองที่ซัลฟายอมรับและไม่เซ้าซี้ถามให้มากความ เมื่อสาวน้อยมีประสงค์เช่นนั้นอีกทั้งมิใช่ความประสงค์อันเลวร้ายกลับเป็นประโยชน์ในภายหน้า ก็ใช่ที่ที่จะขัดขวางความก้าวหน้าของนาง ฟีต้าตั้งใจเรียนด้วยความกระตือรือร้น เสพความรู้ที่ได้รับมาอย่างกระหาย...ขณะที่ครูที่เข้ามาสอนก็พลอยปราบปลื้มกับความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของลูกศิษย์ด้วย หลังจากร่ำเรียนเขียนอ่านฟีต้าก็กระตือรือร้นที่จะก้าวไปยังขั้นต่อไป...โดยเลือกที่จะเริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดก่อน ...การทำอาหาร... ข้าไม่เห็นความจำเป็นที่ท่านจะต้องเรียนทำอาหารเลยนะคะ ท่านฟีต้า หนนี้ซัลฟากลับค้าน เมื่อนางไม่เห็นความจำเป็นจริงๆในครั้งนี้เลย เพราะอย่างไรก็ตามในวิหารนี้ก็มีคนทำอาหารให้อยู่แล้ว จำเป็นสิ อีกหน่อยข้าจะได้สามารถทำอาหารให้เฟททานได้ ถ้าเกิดว่า วันไหนพวกข้านึกอยากลงไปเที่ยวโลกมนุษย์อีกจะได้มีอาหารอร่อยๆ ไว้ทานไงละจ้ะ...และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ซัลฟาจำใจต้องยอมให้หญิงสาวได้ทำตามใจของนางอีกเช่นกัน ไม่เพียงแค่นั้น ทั้งเรื่องที่นางต้องการที่จะศึกษาวิชาพยาบาลเพิ่มเติมด้วยเหตุผลที่ว่า อยากจะสามารถทำแผลให้กับเฟทได้ด้วยตัวเอง ทั้งๆที่ก็รู้กันอยู่แล้วว่าหญิงสาวสามารถทำเรื่องแค่นี้ได้ เรียนเย็บปักเพราะอยากที่จะเย็บเสื้อสวยๆ ให้เฟทหรือซ่อมแซมเสื้อผ้าให้กับเฟทได้ด้วยตัวของนางเอง ซ้ำยังเสนอตัวลงไปเป็นอาสาสมัครในศูนย์การพยาบาลด้วยอีก เหตุผลน่ะเหรอ...ก็เพราะนางอยากระลึกถึงบิดาที่เคยเป็นหมอในหมู่บ้านมาก่อนน่ะสิ! ทั้งหมดที่ว่ามา...ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ซัลฟาไม่เห็นด้วยแทบจะทั้งสิ้น แต่พระพี่เลี้ยงผู้สมบูรณ์แบบกลับแพ้ทางแม่สาวน้อยอย่างสิ้นท่า! ข้าตัดสินใจแล้วล่ะ...ซัลฟา ข้าอยากจะไปเป็นอาสาสมัครช่วยครูในวิหารล่ะจ้ะ... หญิงสาวเอ่ยอย่างหน้าชื่นตาบานขณะที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ด้วยกันกับฟาฟาและเฟลิอา ข้าคิดว่าจะไปช่วยสักพักและเรียนรู้วิธีการสอนเด็กๆ ข้าอยากจะไปสอนหนังสือพวกเด็กๆ ในวิหารด้วย แต่ข้าไม่เห็นว่าท่านฟีต้าจะต้องไปสอนด้วยตัวเองเลยนี่คะ ข้าว่าท่านน่าจะ... แต่ข้าคิดว่าการที่พวกเด็กๆได้รับการศึกษาอย่างเอาใจใส่จะเป็นการช่วยขัดเกลาพวกเขาซึ่งจะกลายเป็นกำลังสำคัญในอนาคตให้โอราเคิลของเรานี่จ้ะ... แต่ท่านไม่จะเป็นต้องลงมือปฏิบัติเองเลยที่คะ... ซัลฟายังดื้อเถียง แล้วถ้าไม่ลงไปเห็น เราจะรู้ได้ยังไงละจ้ะว่าจริงๆ แล้วเขามีปัญหาอะไรให้เราช่วยน่ะ และด้วยเหตุผลนี้เองทำให้เป็นอีกครั้งที่ซัลฟาไม่สามารถคัดค้านหญิงสาวผู้นี้ได้อีก ท่ามกลางสายตาพราวระริกของฟาฟา สิ่งนี้ยากเกินกว่าจะเชื่อได้ว่า สตรีผู้ตั้งมั่นเสมออย่างซัลฟานั้นจะยอมพ่ายให้กับสาวน้อยหน้าหวานนางนี้ได้... หาดูไม่ได้ง่ายๆ นะ ที่ซัลฟาจะแพ้ทางใครแบบนี้... ฟาฟาเปรยขึ้นขณะที่นั่งมองสาวน้อยผมสีเงินปักผ้าไปตามลวดลายที่ตนวาดขึ้น ต้องยอมรับว่าเด็กคนนี้เรียนรู้ได้รวดเร็วดีจริงๆ... ข้าไม่ได้แพ้ทางเสียหน่อยค่ะ...ท่านฟาฟา ข้าก็แค่จำนนต่อเหตุผลอันดีก็เท่านั้น ซัลฟาเอ่ยพลางค้อนมองฟาฟาด้วยสีหน้างอง้ำ ดูน่าขบขันสำหรับฟาฟาผู้ที่รู้จักพระพี่เลี้ยงนานนี้เป็นอย่างดีมาช้านาน ออ...นั่นสินะจ้ะ ซัลฟา รอยยิ้มหยอกล้อของฟาฟาและดวงตาสีนิลพราวระยับนั้นหาได้เป็นไปตามคำกล่าวรับเลยสักนิด ทำให้ได้รับค้อนงามๆ จากอดีตพี่เลี้ยงของตนมาอีกเต็มวง แต่แล้วในขณะที่บรรยากาศชื่นมื่น ดำเนินไปอย่างราบรื่นนั้น เสียงอึกทึกก็ดังขึ้นในเวลาที่ทั้งฟาฟาและซัลฟาผู้ชินกับการต่อสู้นั้นต่างตื่นตัวเต็มที่ ฟีต้าผู้ไม่คุ้นเคยกับการต่อสู้ผวาและตื่นตระหนก มีคนบุกรุกเข้ามา! ประสาทหูที่ไวเป็นพิเศษของซัลฟาทำงานอย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ เมื่อเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาทางนี้ ฟาฟาก็ดึงฟีต้าให้ลุกขึ้นไปหลบอยู่ข้างหลังของตน... ฟาฟาดึงดาบคู่กายของตนออกมาจากผนังซึ่งแขวนประดับเอาไว้ในห้องนั่งเล่นของนางห้องนี้ ในขณะที่ซัลฟาไม่จำเป็นต้องใช้อะไรในการสู้นอกจากสัญชาตญาณของนาง บานประตูถูกผลักเปิดออก ผู้คนมากมายปรากฏกายขึ้น เซลดัล เฟ และเฟทโดยมีหมู่ทหารอีกหกนายตามมาข้างหลัง หากทุกคนในที่นั้นต่างฉงนฉงาย มองหน้ากันอย่างสนเท่ห์ ฟาฟามองหน้าสามีด้วยดวงตาเป็นคำถาม ในขณะที่เซลดัลหันไปรอบตัวก่อนเอ่ยออกกับสตรีทั้งสามนางที่อยู่ในอาการตั้งรับ มีผู้บุกรุกเข้ามาในนี้ เป็นชายชุดดำหลังค่อมร่างแกรนผอม มันเข้ามาลอบทำร้ายผู้เฒ่านก แถมยังสังหารทหารยามของเราไปสองนาย... อะไรนะ! ฟาฟาร้องขึ้น ขณะที่เฟเดินเข้ามาแตะมือลงบนหลังมือที่กุมดาบเอาไว้มั่นของภรรยา ท่านผู้เฒ่าปลอดภัย...เฟทไปพบมันเข้าก่อนที่มันจะทันได้เข้าถึงตัวผู้เฒ่า เราตามมันมาทางนี้...แต่ว่ามันหายตัวไป ดูเหมือนว่ามันจะกลบกลิ่นของตนเองได้ ฟาฟาลดดาบคู่กายลงและเก็บเข้าฝักในเวลาที่ฟังเรื่องราวจากสามี ซัลฟาก็ได้ยินเสียงคนวิ่งมาทางนี้...ทีแรกข้าก็คิดว่าเป็นคนร้าย แต่พอประตูเปิดออก กลับเป็นพวกท่านที่เข้ามา มันหายไปราวกับเงา! เซลดัลกระแทกอุ้งมือลงกับโต๊ะด้วยความขัดเคือง เราไล่ตามมันมาใกล้อีกเพียงนิดเดียวก็จะตะครุบมันได้แล้วแท้ๆ เย็นไว้ก่อน ถ้าเป้าหมายของมันคือท่านผู้เฒ่า...มันก็ยังทำงานไม่สำเร็จ จะต้องย้อนกลับมาเอาชีวิตท่านร็อคโก้อีกแน่ เฟเอ่ยอย่างใจเย็น ชายทั้งสองมองหน้ากันอย่างครุ่นคิด บางทีมันอาจจะยังไม่ไปไหนก็ได้... เฟทเปรยขึ้น แล้วทันใดนั้นเอง! กรี๊ดดดดดดด เสียงกรีดร้องดังขึ้น สายตาทุกคู่มองไปทางต้นเสียงที่มา สิ่งที่ปรากฏทำให้เฟทชาไปทั้งร่าง! ฟีต้าถูกร่างผอมเกร็งของชายหลังค่อมจับเอาไว้เป็นประกัน กริชซึ่งมีลักษณะโดดเด่นแปลกตาพาดอยู่บนต้นคอระหง ชายในชุดดำปกปิดหน้าตาไว้เพียงครึ่ง มีเพียงส่วนของดวงตาสีแดงฉานที่เผยให้เห็น ฟีต้า! ไคเมร่าหนุ่มร้องสุดเสียง ในเวลาที่ร่างบางถูกนักฆ่าลากตัวออกไป สัญชาตญาณแห่งการปกป้องของชายหนุ่มพุ่งถึงขีดสุด หากเขาถูกหยุดโดยผู้เป็นบิดา สายตาของเฟจับอยู่ที่มือของคนร้ายซึ่งถือกริชเอาไว้ จ้าวภูผาพยายามคิดหาทางช่วยเหลือตัวประกันอย่างรวดเร็วที่สุด ด้วยไม่ต้องการให้ผู้เป็นลูกทำการอะไรบุ่มบ่ามลงไป ชายในชุดดำลากร่างบางห่างออกไป จนแน่ใจว่าสามารถหนีรอด และในเวลานั้นที่ตัวประกันสาวก็หมดประโยชน์! ปฏิกิริยาของนักฆ่าค่อมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในสิ่งที่มันจะกระทำ! ไม่! เฟทถลันตัวออกไป ด้วยรู้ดีถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น...แต่ช้าไป... กรี๊ดดดด! คมกริชบาดผิว ร่างบางล้มลงในเวลาเดียวกันที่นักฆ่าผู้โหดร้ายติดไฟและมอดไหม้! อ๊ากกกกกกกกกก! ท่ามกลางความตกตลึง เฟทพุ่งเข้าไปกอดร่างบางแล้วดึงออกห่างจากนักฆ่าผู้ลุกไหม้กลายเป็นลูกไฟใหญ่ เฟมองเพลิงที่เผาผลาญแม้แต่ธาตุโลหะก็กลายเป็นจุณไปกับตา ร่างบางตัวสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของเฟท ฟีต้าซุกหน้ากับอกกว้างของคนรักอย่างเสียขวัญโดยไม่รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและสายตาทุกคู่ที่มองมา นกเพลิง...นกอมตะ! ไม่เป็นไรแล้ว ฟีต้า...เจ้าปลอดภัยแล้ว เฟทกอดปลอบพลางกดหน้าซบกลุ่มผมสีเงินนุ่มสลวยเพื่อปลอบใจตนเองบ้าง หัวใจของเฟทชาวาบ ครู่ก่อน เมื่อคิดว่าเหตุการณ์เดิมจะเกิดขึ้นอีก ทั้งๆ ที่เขาได้สัญญาจะปกป้องนางไม่ให้นางต้องตายจากเขาไปอีก...แม้ว่านางจะกลับฟื้นคืนมาได้ก็ตาม... เฟทแตะมือลงบนต้นคอของหญิงสาว ถึงรอยบาดจะจางหายไปแล้วก็ตาม หากความรู้สึกยามที่มันต้องผิวกลับบาดลงในความรู้สึกของเขา อะแฮ่ม... เสียงกระแอมดังขึ้นขัดช่วงเวลาอันแสนโล่งใจของทั้งสอง เฟทเงยขึ้นมองเจ้าของเสียงผู้เป็นบิดาของตนด้วยสีหน้ายิ้มแหย ขอคุยกับพวกเจ้า...เป็นการส่วนตัวหน่อยได้ไหม เฟมองทั้งสองหนุ่มสาวด้วยสีหน้าเครียด ในเวลาเดียวกันกับสายตาที่หลบเร้นวาวโลดด้วยประกายกล้าแข็ง รอยยิ้มกระหยิ่มแย้มอยู่เบื้องหลังความโกลาหลด้วยความรู้สึก...สมใจ แม้ว่านักฆ่าที่ส่งไปจะทำงานไม่สำเร็จก็ตาม แต่มันก็ทำหน้าที่ได้อย่างคุ้มค่ากับชีวิตของมัน...เพราะการตายของมันจะนำมาซึ่งชีวิตอมตะที่เขาใฝ่ฝันหา ในเมื่อได้ล่วงรู้แล้วว่า ไคเมร่ากระดูกอ่อนตัวนั้นค้นหาวิหคเพลิงอมตะได้พบ แม้ว่าเด็กสาวนั่นจะไม่ใช่สตรีที่เขาไหว้วานให้ตามหามาก็ตาม แต่มันไม่สำคัญ ในเมื่อนางมีสายเลือดและหัวใจอมตะอยู่ในร่าง! เท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับพิธีกรรมเพื่อยึดครองชีพอมตะ ไควากระหยิ่ม ทว่า...เมื่อคิดว่าในเวลานี้นางอยู่ภายใต้การอารักษ์ของพวกไคเมร่าความปีติก็พลันมลายหายไป...ทำไม...ทำไมทุกครั้งที่เขาจะทำอะไรจะต้องมีไอ้พวกโสโครกเลือดปีศาจไคเมร่าเข้ามาขัดขวางเสียทุกครั้งไป! ไอ้พวกมารผจญตัวแสบ ทั้งเรื่องตำแหน่งหัวหน้าเผ่าที่ได้มาอยู่ในกำมือของเขาก็กำลังจะหลุดลอยเพราะฝีมือของพวกมัน ทั้งนกอมตะก็อยู่ในมือมัน! หากไม่มีไอ้สายเลือดสัตว์ประหลาดอย่างพวกมันมาให้รกหูรกตา เขาก็จะได้ขึ้นเป็นใหญ่ในแผ่นดิน! คอยดูเถอะ... ข้าจะต้องควักหัวใจนั่นมาเป็นของข้าให้จงได้! เคร้ง!!! เสียงโลหะตกเป็นเสียงสะท้อนดังก้องไปทั่วห้อง ชายผู้กำลังครุ่นคิดวางแผนการร้ายอย่างหนัก หันไปตามเสียง ดวงตาของไควาวาววับคมปราบไปทางร่างเล็กๆ ของหญิงรับใช้ผู้โชคร้าย... ขอโทษเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าเพียงแค่นำของว่างมาให้ท่านตามคำสั่งของหัวหน้าแม่บ้าน... ร่างนั้นสั่นเทาขณะเดียวกันก็ก้าวถอยจากร่างสูใหญ่ที่ย่างสามขุมเข้ามาอย่างรวดเร็ว เจ้า...ไม่ควร...เข้ามา... ได้โปรดเถอะเจ้าค่ะ ข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ ข้าไม่ได้ยินไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้นเลยเจ้าค่ะ... หญิงสาวหน้าซีดตัวสั่น ในที่สุดนางก็ล้มลงด้วยความกลัวจนลนลานนั้น โทษเจ้า...ที่อยู่ผิดที่ ผิดทางเองเถอะ!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด! เสียงหวีดร้องดังก้องไปทั้งห้อง พร้อมร่างบางทะลึ่งลุกพรวดขึ้นนั่งบนที่นอนเหงื่อกาฬแตกท่วม ร่างบางสะท้านสั่นราวลูกนกตกน้ำ ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษดวงตาเบิกกว้าง นางเห็น! เห็นเลือดแดงฉานอาบท่วม!
Free TextEditor
Create Date : 30 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 30 มิถุนายน 2551 17:18:26 น. |
|
0 comments
|
Counter : 230 Pageviews. |
|
|